ณ ค่ำคืนแสนหนาวเหน็บในยามราตรีที่มืดมิดภายในเมืองลอนดอนปี1888มีหญิงสาวอยู่ในมุมมืดที่แสงไปไม่สามารถไปถึงได้หญิงสาวที่เพิ่งเลิกงานกำลังจะกลับไปยังที่บ้านเพื่อพบกับครอบครัวแต่ทันใดนั้นเองหญิงสาวได้ยินเสียงคนเดินดังมาจากข้างหลังเธอเธอหันหลังกลับไปมองและพบกับชายหนุ่มแต่งตัวดูดีเขาใส่หมวกทรงสูงและเสื้อผ้ามีราคาเขาเดินเข้ามาใกล้เธอนั้นทำให้เธอเกิดหวาดกลัวขึ้นเธอมองเข้าไปภายในดวงตาที่เย็นชาและเต็มไปความพอใจเธอถามขึ้นด้วยความกลัวว่า "สะ...สวัดดีค่ะ" ชายหนุ่มเดินเข้ามาหาเธอพร้อมถามว่า "ขอโทษนะครับ...คุณพูดกับผมรึป่าว" หญิงสาวถอนหายใจและก็พึงโล่งใจที่ชายหนุ่มดูเป็นมิตรหญิงสาวหันหลังไปพร้อมกับเริ่มออกเดินอีกครั้งแต่ทันใดนั้นเธอเจ็บที่เอวมากๆเธอตกใจและหันหลังกลับไปมองจากชายหนุ่มที่ดูเป็นมิตรใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความพอใจพร้อมกับค่อยๆร้องเพลงกล่อมเด็กขึ้นมาเบาๆเธอพยายามจะร้องขอความช่วยเหลือแต่ชายหนุ่มใช้มือปิดปากเธอเอาไว้และก็ใช้มีดเล็มยาวแทงไปที่กลางอกของเธอและลากเป็นแผลยาวจากไหปลาร้าถึงท้องหญิงสาวค่อยๆล้มลงพร้อมกับร้องไห้ภายในความคิดของเธอคิดถึงครอบครัวและสามีอันเป็นที่รักที่รออยู่ที่บ้านกับลูกน้อยอายุไม่กี่เดือนแต่ในตอนนี้เธอคงไม่มีได้เจอพวกเขาอีกแล้วชายหนุ่มนั่งลงข้างๆเธอพร้อมกัยหญิงสร้อยคอของเธอไปเธอพยายามใช้แรงที่เหลือเพื่อแย่งมันกลับมาแต่แรงที่น้อยนิดของเธอไม่อาจสู้ชายหนุ่มได้เขาเดินจากไปและก็หายไปในมุมมืดของลอนดอนแต่ไม่ทันไรชายหนุ่มที่เปลี่ยนชุดและกำลังจะกลับบ้านก็พบกับชายในชุดสีขาวเขาเดินเข้ามาหาชายหนุ่มพร้อมกับชี้ไปที่สร้อยในกระเป๋าของชายหนุ่มแต่เขาก็ไม่คิดที่จะส่งสร้อยนั้นให้ทั้งสองฝ่ายต่างชักมีดออกมาแต่ไม่ทันได้เริ่มขยับชายหนุ่มก็ถูกแทงที่ท้องจนล้มลงไปนอนกับพื้นเขาค่อยๆพยายามลุกขึ้นแต่ก็ถูกแทงซ้ำจนหมดสภาพและก็มีกลุ่มชายชุดขาวเดินเข้ามาพร้อมกับพูดคุยบางอย่างชายหนุ่มที่กำลังจะตายก็ได้ยินแค่ไม่กี่คำเลยไม่สามารถจับใจความได้แต่เขาได้ยินคำว่าอีเดนเป็นคำสุดท้ายในชีวิตของฆาตกรหนุ่มผู้ที่มีชื่อโด่งดังระดับโลกแจ็คเดอะริปเปอร์

ณ ท้องทะเลอันกว้างใหญ่สายลมพัดแรงมากระทบใบหน้าของชายวัยกลางคนและเขาก็มีชื่อว่ากัปตันเอ็ดเวิร์ด ทีชวันนี้เป็นวันที่22พฤศจิกายน ปี1718 วันนี้ทีชมีแผนกับเพื่อนสมาชิกกลุ่มอินดีสประกอบด้วยกัปตันแคนเวร์และกัปตันเหลา เฟิงจากกองโจรสลัดหวู่ติงมั่นใจจะคว้าชัยเหนือเรือรบของโปรตุเกสแมนโอวอร์และจะได้ขึ้นเป็นเจ้าแห่งคาบสมุทโปรตุเกสแต่เมื่อถึงยามปะทะจริงเรือควีนแอนส์รีเวนจ์ของเอ็ดเวิร์ดและเรือแจ็คดั้มของกัปตันแคเวร์จะไม่สามารถต่อกรกับเรือรบของโปรตุเกสได้ก็ตามแต่ด้วยการร่วมมือของสมาชิกอินดีสช่วยให้เขาสามารถรั้งเวลาไว้ได้นานเกินกว่าที่คาดไว้แต่ด้วยการต่อสู้ที่ดุเดือดเอ็ดเวิร์ดพลาดท่าถูกฟันเข้าที่หลังแต่เขาก็ยังฝืนสู้ต่ไปแม้กัปตันแคนเวร์จะช่วยปกป้องเขาก็ตามแต่ก็ไม่อาจช่วยได้ทันเพราะเอ็ดเวิร์ดเสียสมาธิระหว่างต่อสู้เพราะสร้อยที่รูปแปลกประหลาดเอ็ดเวิร์ดพยายามจะถอดมันออกมาจากศพของผู้บันชาการของโปรตุเกสแต่แล้วด้วยการที่นี่เป็นการรบบนเรือทำให้เขาต้องพลาดระหว่างที่ชื่นชมความงามของสร้อยอยู่เขาถูกทหารชุดขาวของโปรตุเกสยิงกระหน่ำเข้าที่รำตัวจนล้มลงต่อหน้ากัปตันแคนเวร์กัปตันแคนเวร์เห็นท่าไม่ดีถ้าสู้ต่อมีหวังไม่รอดกันหมดแน่พวกเขาจึงสละเรือควีนแอนส์รีเวนจ์เพื่อหนีเอาตัวรอดและในวาระสุดท้ายของกัปตันเอ็ดเวิร์ด ทีช เขาก็ยังกำสร้อยรูปร่างประหลาดไว้แน่นแต่ทหารชุดขาวก็มาพยายามแย่งมันไปจากมือเขาในที่สุดแม้ว่าเขาจะต้องจมลงก้นทะเลไปพร้อมกับเรือขนสินค้าที่เขายึดมาเป็นเรือหลวงของตัวเองเขามองไปเห็นทหารชุดขาวของโปรตุเกสฆ่าและโยนศพทหารโปรตุเกสลงน้ำตามมาก่อนเขาจะสิ้นใจเขาได้ยินภาษาโปรตุเกสเป็นคำสุดท้ายว่า "อีเดน" เอ็ดเวิร์ด ทีชหรือในอีกชื่อแบล็กเบียร์ดโจรสลัดชาวอังกฤษผู้ที่จะเป็นตำนานแห่งทะเลแคริบเบียนและชายฝั่งตะวันออกของอมเริกาเหนือตลาบนานเท่านาน

ในช่วงมหาสงครามอันยาวนานนับปีของเยอรมันกับสัมพันธ์มิตรในวันที่30เมษาคมของปีค.ศ1945มีชายหนุ่มวัยกลางคนชาวออสเตรียที่ได้ชื่อว่าเป็นนายกรัฐมนตรีของชาวเยอรมันและเป็นผู้นำสูงสุดของกองทัพเยอรมันเขาขึ้นชื่อในหลายเรื่องทั้งความฉลาดความโหดความไร้เมตตาและก็ในเรื่องของสิ่งเหนือธรรมชาติเขาส่งลูกน้องออกตามหาสิ่งที่เรียกว่ากุญแจแห่งอีเดนไปทั่วทุกมุมโลกและชื่อของหน่อยที่ออกตามหาก็คือไวท์ฮู้ดมีลักษณะเด่นตรงฮู้ดสีขาวที่ท่านผู้นำสูงสุดตั้งหน่วยนี้ตามสิ่งที่เขาเห็นสมัยยังหนุ่มเรื่องราวนั้นช่างน่าตั้งคำถามว่าทำไมคนเหล่านั้นถึงได้ช่วยเขาให้ขึ้นเป็นผู้นำแห่งกองทัพเยอรมันเขาเลยตั้งใจตามหาสิ่งที่จะช่วยแก้ความสงสัยของเขาได้ก็คือสิ่งที่เขาเห็นในวัยหนุ่มกุญแจแห่งอีเดนเขาเห็นรอยสักของพวกนั้นมีกุญแจอยู่สองสีคือสีแดงและสีขาวและแล้วในที่สุดผู้นำสูงสุดก็สามารถตามหากุญแจหนึ่งในสองดอกมาได้และพอเขาเปิดกล่องที่ดูเก่าๆขึ้นก็พบกับกุญแจสีขาวอยู่ข้างในเขาดีใจและยิ้มออกมาพร้อมกับหยิบสมุดจดขึ้นมาและก็จดบางอย่างลงไปเป็นตัวอักษรA.H.และก็เก็บสมุดพร้อมกับพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า "อีกแค่ดอกเดียวเราก็จะสามารถรู้ถึงที่ตั้งของสิ่งๆนั้นได้แล้วแตาทันใดนั้นเองเหล่าหน่วยไวท์ฮู้ดก็สมองระเบิดกระจายเต็มพื้นทำให้ท่านผู้นำสูงสุดตกใจและก็รีบหยิบปืนขึ้นมาและคนที่เดินออกมาจากมุมมืดก็คือเหล่าชายหญิงที่ใส่ฮู้ดสีขาวนั้นทำให้ท่านผู้นำสูงสุดถึงกับล้มลงและถามว่า "ได้ยังไง" พวกนั้นชี้ไปที่กุญแจท่านผู้นำสูงสุดเลยยกปืนขึ้นมาขู่แต่ก็ไม่อาจสู้จำนวนคนได้เขาจึงยื่นกุญแจให้และก็วางปืนลงพวกนั้นเอากุญแจไปและก็หยิบสมุดจดไปด้วยท่านผู้นำสูงสุดถามด้วยน้ำเสียงร้อนรนว่า "ทำไมถึงทำแบบนี้" พวกนั้นชี้ไปที่ปืนพร้อมกับทำมือเป็นรูปปืนและเล็งที่หัวตัวเองนั้นทำให้ท่านผู้นำสูงสุดรู้ว่าต้องทำอะไรเขาร้องไห้และก็หยิบปืนขึ้นมาจ่อที่หัวตัวเองและก็ลั่นไกตามที่พวกนั้นต้องการจากนั้นพวกนั้นก็หยิบน้ำมันมาเทที่ร่างของเขาและก็จุดไฟเผาศพของเขาจนไหม้เป็นเถ้าถ่านพร้อมกับเดินจากไป

....โปรดติดตามตอนต่อไป....