NovelToon NovelToon

คุณพ่อครัวตกอับกับลูกมือจากต่างโลก

บทนำ: การพบเจอ

...(ร้านเซนโอะ)...

     ขณะที่กลิ่นซุปกิมจิเต้าหูอ่อนยังคงลอยหอมอบอวลอยู่ในอากาศภายในร้านเล็กๆ ที่ไม่มีใครอยู่เลยนอกจากผม — เด็กหนุ่มหัวขาวหงอกที่มักจะโดนแซวว่า "ลุง" บ่อยๆจนชิน ผมยืนรอลูกค้าอย่างตั้งใจจนหลังขดหลังแข็ง

ผมชื่อโซเอนครับ เป็นเหมือนชื่อผวนของ เซนโอะอย่างงั้นแหละ เอาเป็นว่าผมมาอยู่ที่ร้านนี้ได้หลังเรียนจบมหา'ลัยในวัย21ปี ก็มาจากการเรียนเร็วกว่าชาวบ้านเพราะเริ่มเรียนก่อนวัย ผมกลับมารับช่วงร้านอาหารเล็กๆ ของคุณยายที่ป่วยหนัก โดยผมหวังว่าจะสามารถฟื้นฟูมันขึ้นมาได้สักวันแน่ๆ

แต่ความจริงมันไม่ง่ายเลย — ลูกค้ายิ่งน้อยลงทุกวัน นอกจากพนักงานออฟฟิศขาประจำก็แทบจะไม่มีใครมากินแล้ว ไหนจะป้ายร้านที่ก็เริ่มซีด สีทาบนกำแพงหลุดลอกตามกาลเวลา และแม้แต่เสียงหม้อหุงข้าวก็ฟังดูเงียบเหงาเกินไปจนเหมือนผมที่ได้แต่ตั้งตารอความหวังอย่างเหงาๆ รอแฟนเก่ากลับมาหายังไม่เศร้าเท่าลูกค้าไม่มีเลย!

ทันใดนั้น... มันก็มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

เสียง “ตึง!” ดังขึ้นจากหน้าร้าน พร้อมกับร่างของชายแปลกหน้าที่ล้มฟุบลงกับพื้น เสื้อผ้าเหมือนนักผจญภัยที่อย่างกับหลุดมาจากมังงะนิยายแฟนตาซี แถมตัวยังเปรอะเปื้อนด้วยคราบโคลนจนพื้นร้านเละไปหมด แต่ยังไม่ทันได้ด่าสักคำ เสียงท้องร้องก็ดังพอๆ กับเสียงล้มดังขึ้นตามมาไม่ขาดช่วง

..."ข-ขอข้าวได้ไหม… ขอแค่จานเดียว… นะครับ..."...

     ภายใต้ความเงียบยาวนานผมตั้งคำถามกับตัวเองเป็นร้อยคำถามที่ต้องการคำตอบไม่ว่าจะ ไอหมอนี่เป็นใคร? คนจรจัดไม่มีบ้านหรอ? แต่สภาพแบบนี่คงจะใช่เพราะดูแล้วเหมือนกับคนไปขุดขยะมากินและนอนในบ้านลังเปียกๆอย่างนั้นแหละ แถมยังมากล้ามาขอกินข้าวฟรีอีก! ชีวิตนี่มันบ้าอะไรเนี่ย!

แต่จะว่ายังไงคุณยายผมก็เคยบอกว่าให้ข้าวคนจรจัดกินบ้างก็ดีถือเป็นการสร้างมิตรสร้างความน่าเชื่อถือมันก็จริง แต่กลัวคนเหล่านั้นจะติดนิสัยแล้วมาขอกินทุกวันน่ะสิ... แต่ไม่ให้ก็กลัวจะออกข่าวหน้าหนึ่งอีกว่าเกิดเหตุการณ์ปล้นชิงทรัพย์แบบอารมณ์ประมาณว่า — ข่าวสลด! พบหนุ่มเจ้าของร้านเล็กๆ โดนแทงดับกลางร้านเพราะไม่ให้ข้าวคนจรจัด. ถ้าเป็นแบบนั้นผมก็ไม่เอาด้วยหรอก!

      สุดท้ายผมก็ไม่มีทางเลือก ถ้าเขาไม่ทำร้ายผม ก็อดห่วงอดกลัวว่าเขาจะอดตายในร้านผมจนคนอื่นๆคิดว่าเป็นเหตุการณ์ฆาตกรรมอีก ผมถอนหายใจยาวจ้องคนจรจัดตรงหน้าด้วยสายตาแบบที่เขาคงไม่รู้ว่าผมกำลังชั่งใจจะให้อะไรกินดีระหว่างข้าวสวยราดซีอิ๊วกับข้าวเปล่าใส่น้ำเปล่า แต่แบบนั้นคงใจร้ายเกินไปหน่อยเดี๋ยวขาดสารอาหารมาตัวซีดออกนอกร้านทำไง

..."ไปนั่งรอตรงนั้นก่อน"...

ผมพยักพเยิดเขาไปยังโต๊ะไม้ตัวในสุดของร้านที่ดูจะสะอาดที่สุดแล้ว ถ้าไม่นับคราบฝุ่นบางๆ ที่สะสมจากการไร้ลูกค้าหลายวันมานี้จนแทบร้าง แต่ยังดีที่เขาหน้าพยักหน้าและยอมไปตามจริงๆ แต่ติดตรงที่เขาคลานไปที่โต๊ะและไม่ใช่เดินไปนั่งเหมือนคนปกติ ย้ำว่าเขา คลาน ไปนั่งแทน

... "ข-ขอบคุณนะครับ…"...

      โอ้ มาย ก๊อด ทันทีที่ผมเห็นแล้วอยากกรี๊ดใส่เขาจริงๆ! ร้านที่ปกติเละอยู่แล้วเจอโคลนยาวตามทางไปแบบนี่นึกว่าฉากในหนังสยองขวัญที่มีฆาตกรลากศพตามทางงั้นแหละแค่เปลี่ยนเป็นโคลนแทน ผมทำเป็นไม่สนใจและเข้าครัวไปเพื่อจะได้ทำไรให้เขาได้กินพักท้องจะได้หยุดเสียงท้องร้องอย่างกับฟ้าร้องงั้นแหละ

..."จะเอาอะไรให้กิน... ไม่ถามกันหน่อยเหรอครับ…?"...

เขาพึมพำเบาๆ แต่ผมแกล้งไม่ได้ยินเพราะเสียงเขาแหบมากเหมือนไม่ได้ดื่มน้ำมาหลายวันเลย รอดมาได้ไงวะเนี่ย

..."พอดีร้านนี้ไม่ได้เสิร์ฟตามเมนูลูกค้า แต่เสิร์ฟตามใจพ่อครัว ให้ไรไปก็กินๆไปเถอะ"...

 ผมพูดเสียงดังพอให้ได้ยินผ่านบานผ้าม่านที่กั้นตรงประตูครัวเพื่อกันกลิ่นหรือควันออกจากครัว กลัวลูกค้าหนีเพราะคิดว่าร้านไหม้ด้วยแหละ

      ผมเปิดตู้เย็นก็ได้เจอเต้าหู้ กิมจิ กับต้นหอมยังไม่หมดอายุด้วย ดีล่ะ ทำซุปกิมจิเต้าหูอ่อนให้เขาซดดับกระหายก็ดีเพราะจากเสียงแล้วเขาคงไม่ได้กินหรือดื่มอะไรมานานมากแน่ๆ แถมข้าวก็พอมีอยู่ แม้จะไม่หอมใหม่แล้ว แต่ก็ยังพอกินได้ จริงๆอยากแถมเนื้อสัตว์ให้ด้วยนะแต่กังวลว่า...

ถ้าผมแค่ให้ข้าวและเนื้อชิ้นเล็กๆพออาหารครบหมู่กับหมอนี่กินครั้งเดียวแล้วมันจะติดลมไหมวะ? หรือพรุ่งนี้มันจะพาเพื่อนจรจัดอีกสามสี่คนมานั่งรอหน้าร้าน แล้วถ้าไม่ให้เพื่อนมันกิน ผมจะโดนพวกมันบุกร้านมั้ย เดี๋ยวได้ออกข่าวอีกทีแน่เลย แต่จะว่าไปแต่ถ้าเขาหิวจริงๆ ก็แค่ให้กินสักมื้อ จะเป็นไรไปเนอะ

แต่พอผมเงยหน้าขึ้นไปเห็นเจ้าหมอนั่นนั่งหลังตรงเหมือนนักเรียนเกาหลีที่รออาหารฟรี มันก็น่าขำจนต้องถอนหายใจอีกรอบอยู่นะ บางทีพอมองจริงๆ เขาดูไม่เหมือนคนเกาหลีสักนิดไหนจะเบียวใส่ คอนแทคเลนส์สองสีอีก สงสัยคอสเพลย์เข้าเส้นโดนแม่ไล่ออกจากบ้านมาหางานทำมั้งเนี่ย

      ยังไงซะเอาเป็นว่า ชั่งมันเถอะ พอเขากินเสร็จแล้วค่อยเก็บเงินยังไงดูแล้วก็ไม่เหมือนคนจรจัดสักทีเดียวนี่หน่า ไหนจะมีแหวนแปลกๆกับเสื้อผ้าหนังและเกราะเหล็กอย่างกับนักรบนักผจญภัยแบบนี้ เขาก็คงมีเงินติดบ้างแหละหน่า?

.......

.......

.......

...— SOEN —...

...จบบทนำ...

...ขอบคุณที่รับอ่านและติดตามรอนะครับ เหล่าผู้อ่านที่น่ารักทุกคน! เรื่องนี้ผมพึ่งคิดๆก็แต่งเลย บางจุดอาจจะเปลี่ยนเล็กน้อยถ้าย้อนมาอ่านซ้ำ...

...และมีภาพเจนAI เพื่อบรรยาภาพเสริมด้วย ถึงเป็นภาพAI ก็ไม่อนุญาตให้นำไปใช้ต่อ เว้นแต่ตั้งโปรไฟล์แอคเคาท์ที่ไม่ใช่ตัวละครในนิยาย อันนี้ผมอนุญาตครับ!...

บทที่1: ซุปถ้วยแรก

     จากนั้นไม่นาน หลังจากที่ผมได้เข้าครัวไปนานเพราะมัวแต่คิดเกี่ยวกับ มันควรเติมพริกอีกนิดไหมนะ... หรือจะใส่เต้าเจี้ยวเพิ่มดี...? ผมก็เผลอยืนจ้องหม้อต้มน้ำซุปอยู่เป็นสิบนาที โดยที่มือก็คนไปเรื่อยด้วยความเคยชิน จนกลิ่นเผ็ดร้อนของกิมจิเริ่มลอยขึ้นมาจนแสบจมูกถึงได้รู้สึกตัวว่า— โอ๊ย ร้อนจะตายอยู่แล้ว! รีบๆทำดีกว่า!

..."ซุปกิมจิเต้าหู้อ่อน… มาแล้วครับ"...

ผมพูดพลางวางถ้วยน้ำซุปร้อนๆหอมอบอวลและเผ็ดไว้ตรงหน้าหมอนั่นอย่างเบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่ผมจะถอดผ้ากันเปื้อนมาพัดไอร้อนออกจากหน้าตัวเองหลังจากเข้าครัวไปนานเพราะมัวแต่ย้ำคิดย้ำทำเรื่องเมนู

ดูเหมือนเขาเงยหน้าขึ้นมาช้าๆ ก่อนจะยิ้มบางๆ อย่างสุภาพ (แต่ดันดูเจ้าเล่ห์ยังไงไม่รู้) แล้วพูดเสียงเรียบที่แหบแห้งสงสัยหิวมาก

..."ขอบคุณมากครับ… คุณพ่อครัว"...

อะไรมันเนี่ย ยังจะเรียกสุภาพอีกนะ! ทั้งที่บุกร้านคนอื่นมาทำตัวน่าสงสารและขอข้าวกินฟรีแถมทำร้านเละไปหมด ผมพยายามไม่หงุดหงิดใส่ลูกค้าที่อาจจ่ายเงินก็ได้ในอนาคต(มั้ง?) แล้วเดินกลับไปหลังเคาน์เตอร์ ปล่อยให้เขานั่งมองซุปที่ผมทำให้เขา

     เขาเอียงหน้ามองอาหารในถ้วยราวกับไม่เคยเห็นของแบบนี้มาก่อน กลิ่นเครื่องเทศคงแปลกใหม่สำหรับหมอนี่อยู่ไม่น้อย มือที่ใส่ถุงหนังแตะช้อนอย่างระมัดระวังก่อนจะค่อยๆ ตักข้าวคำแรกเข้าปากไป แล้วดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้นมาทันที แปลกใจอะไรของเขา? กลัวจะวิ่งไปอ้วกอะสิ

..."…อืม…รสชาติแบบนี้นี่เอง… อบอุ่นจังนะ"...

แล้วคือ ท่าทางเขาเหมือนพระเอกอนิเมะชิมของอร่อยแล้วน้ำตาจะไหลนั่นแหละ เล่นเอาผมที่แอบมองอยู่หลังเคาน์เตอร์ต้องกลั้นขำจนไหล่กระตุกเบาๆ ผมไอ กลบเกลือนเล็กน้อย ปล่อยให้เขาได้ทานอาหารฝีมือผมไปหน่อยคิด เงินทีหลังแล้วกันนะ

หลายนาทีผ่านไป

หลังจากหมดคำสุดท้ายในถ้วยซุป ใบหน้าคล้ายอดีตคนจรจัดเร่ร่อนตรงหน้าผมก็เปลี่ยนจากตะลึงมาเป็นพึงพอใจเต็มรูปแบบ เขาวางช้อนลงอย่างนุ่มนวลราวกับเพิ่งผ่านพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์อะไรซักอย่างมา ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วเดินออกจากหลังเคาน์เตอร์

..."เอ่อ งั้น ค่าอาหารทั้งหมดก็ สามพันวอนนะครับ ของฟรีไม่มีในโลก"...

      เขายื่นมือเข้าไปในกระเป๋าหนังข้างตัว แล้วคุ้ยอยู่นานพอให้ผมเริ่มมีลางสังหรณ์แปลกๆ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมา ยิ้มบางอย่างสุภาพ (อีกแล้ว) พร้อมกับวางเหรียญอะไรบางอย่างลงบนโต๊ะเบาๆ แกร๊ก

..."ผมไม่มีเงินวอน… ไม่รู้ด้วยคืออะไร แต่ผมมีอันนี้แทน"...

ผมหรี่ตาแล้วหยิบมันขึ้นมาดู มันคือเหรียญทองขนาดใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย แกะลายประหลาดที่ไม่คุ้นตา เหมือนอะไรซักอย่างระหว่างตราราชวงศ์กับโลโก้เกม RPG

..."ไม่รับครับ รับแต่เงินสดกับเงินโอน ไม่มีเงินก็ต้องหาวิธีจ่ายมาครับ!"...

.......

.......

.......

...— LAWRENCE —...

...จบบทที่1...

...ตอนจบใส่แถบภาพคั่นแนวนอนเป็นประจำ (หมุนเวียนเป็นโซเอน, ลอว์เรนซ์, อาหาร, โลโก้ร้าน ฯลฯ) เพื่อคั่นให้รู้ว่าจบบทแล้วแทนที่จะเป็น . . . เฉยๆแทน...

บทที่ 2: รับสมัคร (?)

เขาแสดงสีหน้าตกใจเล็กน้อยขณะที่ผมยืนกอดอกมองเขาที่ค้นตัวใหญ่พยายามหาค่าเงินวอนในตัวเองอย่างทุลักทุเล จริงๆให้กินฟรีก็ได้แหละแต่อยากกวนเล็กน้อยคราวหน้าจะได้ไม่กล้าชวนเพื่อนมากินด้วยถ้าไม่มีเงินจ่าย

เขาค้นของจนตัวเกร็ง พลางหยิบกระเป๋าหนังขึ้นมาคว่ำแล้วคว่ำอีกจนเหรียญแปลก ๆ สองสามเหรียญกลิ้งออกมา รวมถึงอะไรที่เหมือนเขี้ยวมังกรแห้ง ๆ กับเศษใบไม้แปลก ๆ ที่ผมไม่รู้ว่าใช้ทำอะไรได้บ้าง สารเสพติดป่ะวะ? ใบท่อมหรอ? แจ้งจับเลยดีมั้ยวะ

..."คือผม...มีแต่อุปกรณ์เดินทางครับ ยังไม่มีเงินแบบที่คุณใช้กัน"...

ผมย่นคิ้ว ใจนึงก็อยากด่า อีกใจก็อยากถามว่าเขาเป็นนักเดินทางจากโลกไหนกันแน่ถึงได้มีของพวกนี้ติดตัวมาแทนธนบัตรหรือบัตรเครดิตได้ละเนี่ย หรือจริงๆแล้วตั้งใจมาหลอกกินฟรี?

..."ก็ถ้าจะมาเล่นเกมแฟนตาซี ก็กลับไปโลกของนายเลยไป๊!"...

แม้ผมจะเอาแต่บ่นงึมงำ ทั้งที่รู้ว่าหมอนี่ไม่เข้าใจคำประชดประชันผมเท่าไหร่เขานิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอียงหน้าเล็กน้อยอย่างครุ่นคิด แล้วพูดด้วยเสียงจริงจังจนผมเผลอหยุดขยับ

..."ถ้าไม่มีเงินวอน ผมขอชดใช้ด้วยแรงงานแทนได้ไหมครับ? …ผมสามารถล่าสัตว์ มีความรู้เรื่องพืชในป่า และเคยช่วยดูแลครัวสนามรบ"...

ครัวสนามรบ? พูดเหมือนจะเป็นเชฟ Michelin แห่งสงครามเลยนะคุณ! ผมยืนงงไปสามวินาที ก่อนจะถอนหายใจเสียงดังให้เขาได้ยิน สงสัยจะเบียวเข้าเส้นแล้วจริงๆไอหมอนี่ เปลี่ยนจากให้ทำงานเป็นแจ้งความแทนดีมั้ยนะ ไหนจะใบไม้แปลกๆอีก สารเสพติดชัวงี้ แต่ยังไงก็เถอะ

..."ถ้าจะขนาดนั้นละก็ ไปล้างจานให้หมดทั้งกะได้มั้ยล่ะ? แล้วก็ทำความสะอาดพื้นที่เปื้อนโคลนตอนที่นายคลานเข้ามาด้วย..."...

..."พอดีตอนนายคลานเข้ามาเหมือนหมาหลงซอยน่ะ"...

..."ได้ครับ! แค่แป๊ปเดียวทุกอย่างจะสะอาดหมดแน่นอนครับ"...

ดูเหมือนเขาจะตอบทันควัน ดวงตาเปล่งประกายราวกับแค่ได้แลกของกินด้วยงานบ้านก็เป็นดีลที่ดีที่สุดในชีวิตอย่างงั้นแหละ ผมยกมือกุมขมับตัวเอง แล้วหยิบผ้ากันเปื้อนอีกผืนยื่นให้เขาแบบจำนน พร้อมกับชุดพนักงานเพราะชุดเขาเละมากลัวทำงานไปจะเละกว่าเดิม

..."ใส่ชุดและผ้ากันเปื้อนด้วย แล้วอย่าทำจานแตกล่ะ ไม่งั้นจะคิดเพิ่มเป็นสองเท่านะ"...

..."รับทราบครับ… คุณพ่อครัว แต่ผมขอค่าแรงเล็กน้อยเป็นข้าวอีกจานด้วยนะครับ"...

แล้วเขาก็ยิ้มสุภาพแบบเดิมอีกก่อนจะวิ่งเข้าครัวไปเพื่อล้างจาน ผมล่ะอยากเอาชามไปครอบหัวเขาจริง ๆ มาขอกินฟรีไม่มีเงินจ่ายแล้วยังจะมาขอเพิ่มอีกจานอีก! กล้าเกินไปแล้วไอลูกหมาเอ๊ย!

.......

.......

.......

...CHAPTER #2...

...จบบทที่2...

...ตอนสั้นลงเพื่อให้ง่ายต่อการอ่านนะครับ จะตกตอนละ 2000-4000 คำ เพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องและไม่ลายตา (ลดมาครึ่ง)...

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!