พริษฐ์ นอนหอบเหนื่อยอยู่ข้าง ๆกับหญิงสาว ภายในห้องของอินทิราเธอเองที่เป็นคนลากเขาเข้ามาถึงแม้ว่า พริษฐ์ จะรู้สึกผิดแต่เพราะเขาชอบเธอมาก จนไม่อาจหักห้ามใจไว้ได้ เขาคิดเข้าข้างตัวเองอยู่ซ้ำๆว่าเขาไม่ได้ผิดอะไร อินทิราแค่ต้องการความช่วยเหลือ เขาซุกกายเข้าไปภายใต้ผ้าห่มพื้นหนากอดร่างบางไว้แนบอกแล้วหลับไป ส่วนตัวเขาเองนั้นคิดไว้แล้วว่าเมื่ออินทิราตื่นขึ้นมาเขาจะ บอกความจริงกับเธอว่า เขาแอบชอบเธอมาตั้งนานแล้ว และเขาจะรับผิดชอบทุกอย่าง
ทว่า “กรี๊ด…!...นี่คุณให้คนชั่วแกข่มขืนฉัน”
“คุณจำไม่ได้หรือเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น?”
“จะจำได้ยังไง แกมอมยาฉันใช่ไหม ฉันอยู่กับพี่ปรานรุ่นพี่ที่ฝากงานให้ แล้วฉันไม่อยู่กับแกได้อย่างไร แกไอ้คนโรคจิต”
อินทิราทั้งทุบตีจิกทึ้ง ไม่ยอมฟังอะไรทั้งสิ้นจนเริ่มหมดแรงเหนื่อยหอบ เธอจึงนึกขึ้นได้ว่าร่างกายของเธอไม่มีเสื้อผ้าเลยสักชิ้น ดวงตากลมโตของเขาเบิกกว้างเมื่อเห็นเรือนร่างของเธอชัดๆอีกครั้ง อินทิราปาหมอนใส่เขาอีกครั้ง พร้อมกับเสื้อผ้าของเขา พริษฐ์ รีบหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่อย่างร้อนรน อินทิราไม่ได้มองหน้าของเขาให้ชัดเจน เพราะมัวแต่ตบตีต่อยเขามีอะไรในมือก็ปาใส่เขาจนต้องหลบหนีเอาตัวรอด พริษฐ์ ยังไม่ทันจะอธิบายกับ อินทิรา ให้เธอได้เข้าใจเลย เธอไม่ฟังทุกอย่างที่เขากำลังจะพูด พริษฐ์ ยังคงเข้าหน้า อินทิราไม่ติด เพราะเธอกำลังเข้าใจเขาผิดอยู่ อินทิราไม่รู้ว่า บ้านของพริษฐ์ อยู่ใกล้กับบ้านของเธอแค่กำแพงกั้น พริษฐ์ ตั้งใจจะบอกเธอหลังจากที่เขาคุยเรื่องความเสียหายที่เธอได้สูญเสียให้กับเขาเมื่อคืนนี้ แต่อินทิรามไม่รับฟังท่าเดียว และเขาเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเช่นกัน ในเมื่อไม่สามารถคุยกันต่อหน้าได้ พริษฐ์ จึงส่งข้อความผ่าน แอพหาคู่ที่เขาและอินทิราคุยกันอยู่ทุกวันมันคือ แมชชิ่ง เป็นแอพหาคู่ที่กำลังเป็นที่นิยม
“คุณ ฟังผมอธิบายก่อนนะ เมื่อคืนผมกำลังจะกลับบ้านเพราะผมเมามากแต่อยู่ ๆคุณก็เปิดประตูรถเข้ามา แล้วก็ให้ผมช่วย ผมก็ไม่รู้ว่าคุณให้ช่วยอะไร แต่ดูจากอาการแล้วคุณถูกใครบางคน มอมยา เมื่อคืนคุณไปกับใครคนนั้นแหละที่น่าสงสัย”
“ไม่จริงพี่ปราณเป็นคนดี ภาพความทรงจำสุดท้ายของชั้นก็คือ พี่ปราณบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำ ชั้นก็สั่งน้ำผลไม้มาดื่มเท่านั้น เมื่อดื่มไปประมาณครึ่งแก้วก็เริ่มมีอาการแปลกๆ แต่ความทรงจำของชั้น เหมือนมันติดๆดับๆ จำได้บ้างไม่ได้บ้าง คล้ายๆกับฝัน แก ไอ้คนสวยโอกาส ทำไมไม่พาชั้นไปหาหมอ”
“ผมก็เมาไง ผมขอโทษผมจะรับผิดชอบ”
“โดยการแต่งงานอย่างกับในหนัง ในซีรีย์อย่างนั้นน่ะเหรอ ไม่ ชั้นไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณ ที่ชั้นคุยกับคุณเพราะอยากมีเพื่อน ไม่ได้อยากมีผัว”
“ถ้าอย่างนั้น ก็แล้วแต่เลยนะ คุณอยากเสียให้ผมฟรีๆก็เชิญ”
“ช่างเถอะถือซะว่าเป็นคราวซวยของชั้นก็แล้วกัน แล้วไม่ต้องติดต่อมาอีกชั้นจะไม่คุยกับคุณอีกแล้ว”
พริษฐ์ ไม่คิดว่ามันจะลงเอยแบบนี้ เพราะในระหว่างที่เขาคุยกับเธอใน แมชชิ่ง อินทิราก็คุยกับเขาดีอยู่ไม่น้อย ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจรู้สึกผิดหวังเพื่อทุกอย่างมันกลับตาลปัดแบบนี้เขาก็คงพูดอะไรไม่ได้
อินธิรานึกย้อนไปในวันวานเมื่อไม่กี่วันมานี้จุดเริ่มต้นมันมาจาก การที่เธอถูกเขาบอกเลิกและทิ้งไปอย่างไม่ใยดี ชุติมัน ชายคนรักของอินทิรา ได้สร้างบาดแผล ให้กับเธอในวันนั้น
“ผมไม่ได้รักคุณแล้วนะทิรา ปล่อยผมไปเถอะเรายังไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
“แต่คุณจูบทิราแล้วนะคุณจะไม่รับผิดชอบเหรอ?”
“โอ๊ย…นี่มันสมัยไหนกันแล้วแค่จูบไม่ทำให้เสียหายหรอก ถ้าเป็นแบบนั้นคนทั้งโลกไม่ต้องแต่งงานกันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้วเหรอ สมัยนี้เอากันยังไม่เห็นต้องแต่งงานกันเลย อย่ามายุ่งกับผมอีกเพราะคุณมันจืดชืดน่าเบื่อ จะเก็บไว้ให้ใคร ไอ้ความบริสุทธิ์ของคุณน่ะ โทษใครไม่ได้ต้องโทษตัวเองเล่นตัวดีนัก”
“ก็ได้ค่ะทิรายอมแล้วก็ได้ขอเพียงแต่คุณอย่าทิ้งทิราไป”
“มันสายไปแล้ว เพราะผมมีคนใหม่ที่ดีกว่าคุณ ลาก่อน”
อินทิรา ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าผู้หญิงคนใหม่ของเขาคือใคร เธอจึงสะกดรอยตาม ชุติมันไปทุกที่ จึงได้รู้ว่าผู้หญิงคนใหม่ของเขาคือผู้บริหารระดับสูงของบริษัทที่เขาและอินทิราทำงานอยู่ด้วยกัน ปรากฏตัวของอินทิรา ที่คอยสะกดรอยตาม ชุติมัน นั้นทำให้ผู้หญิงคนใหม่ของเขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงใช้อำนาจของตัวเองที่มีอยู่บีบบังคับให้อินทิรา ลาออกจากงาน
ความเจ็บปวดจากการถูกคนที่รักและไว้ใจหักหลังมันสามารถทำให้ผู้หญิงที่ไม่เคยคิดแม้แต่จะแตะต้องเครื่องดื่มมึนเมา ต้องมีสภาพเมามายไม่ได้สติถึงเพียงนี้ เอมมิกาเพื่อนรักของอินทิรานั่งมองเพื่อนสนิทนั่งฟูมฟายกระดกน้ำเมาสีฟ้ารสหวานปนขม เธอกระดกไปกี่แก้วอินทิราไม่อาจจะจดจำสิ่งเล็ก ๆ พวกนี้ สิ่งเดียวที่ยังคงวนเวียนหลอกหลอนเธออยู่ตลอดเวลาหลังจากที่เขาบอกกับเธอเพียงแค่ประโยคสั้น ๆว่า “เราเลิกกันเถอะ” มันเป็นประโยคเดียวสั้นๆที่เธอไม่ลืมมันไปสักที เมื่ออินทิราคิดได้ว่าถ้าเธอเมาแล้วหลับไปเสียคงลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเธอได้บ้าง ขอเพียงให้เธอลืมเขาช่วงที่เธอรักก็ยังดี แต่การดื่มเพื่อให้ลืมความรักที่เจ็บปวด มันกลับกลายเป็นว่ายิ่งเพิ่มความทรมาน มากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเมื่อเธอตื่นขึ้นมาในตอนเช้า บ้านที่เธอเคยนอนประจำ มันเคว้งคว้างหมุนติ้ว จนทำให้เธอกระอักกระอ่วนอยากจะอาเจียนออกมาเสียให้ได้ มันคืออาการแฮงค์ ของคนที่ไม่เคยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เสียงอาเจียนที่อยู่ภายในห้องนอนของอินทิรา ทำให้เอมิกาที่อยู่ในห้องครัวชั้นล่างแหงนขึ้นไปมองพร้อมกับส่ายหัว สักพักใหญ่ อินทิราก็เดินลงมาด้วยอาการที่ โรยราไร้เรี่ยวแรง
“เข็ดหรือยัง? บอกแล้วว่าอย่ากินเยอะก็ไม่เชื่อคนอื่นเขาจะทำร้ายเราอย่างไรมันก็เรื่องของเขา แต่เราเองไม่สมควรซ้ำเติมร่างกายของเราด้วยการนำสิ่งที่ไม่ดีเข้ามาในร่างกาย”
“สาธุ…ทำอย่างกับว่าเมื่อคืนแกไม่ได้กิน”
“ก็ชั้น มันระดับเทพแล้ว ทั้งกินทั้งอาบก็ยังไม่เป็นอะไร ส่วนแก เคยเป็นคนดี อย่างไรก็ให้เป็นเหมือนเดิมเถอะ อย่าประชดชีวิตเพราะคนที่มันไม่เห็นค่า บางทีอาจจะมีใครที่แอบดูเราและเห็นค่าของเราอยู่”
“ชั้นว่า แค่แอบชอบน่าจะพอรับได้แต่ถ้าแอบดูมันน่ากลัวเกินไปเหมือนพวกสต๊อกเกอร์ยังไงก็ไม่รู้”
ในขณะที่สองสาวกำลังนั่งกินข้าวต้มกันอยู่ที่โต๊ะอาหาร มีใครคนหนึ่งแอบส่องดูเธออยู่จริงๆโดยที่ไม่รู้ตัว พริษฐ์ หนุ่มมาดเซอร์ข้างบ้านเขาเป็นนักดนตรี ไว้ผมยาวหนวดเครารุงรัง เพื่อนเก่าสมัยมัธยมหลายคนจำเขาไม่ได้เพราะใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยขนเคราที่ปกคลุมใบหน้า ไม่ต่างจากพี่เจ๋งบิ๊กแอส พริษฐ์ แอบส่องไอจีและเฟซบุกของ อินทิรา จึงรู้ว่าเธอโสดแล้ว เขายิ้มออกมายังมีความสุข ขณะนี้เสน่ห์ของเขาเพียงอย่างเดียวที่มีก็คือเสียงร้องเพลงที่ทรงพลัง และการเล่นดนตรีที่ไพเราะ เขามีอาชีพเป็นนักดนตรีในผับ อินทิราไม่เคยได้เจอกับเขา แต่พริษฐ์ นั้นแอบชอบอินทิราตั้งแต่เธอพึ่งย้ายเข้ามาบ้านข้าง ๆ ใหม่ ๆ เขาได้แต่เฝ้ามองดูเธออยู่ห่าง ๆ เพราะอินทิรามีแฟนอยู่แล้ว
เพราะงานมันหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร อีกทั้งประวัติของอินทิราก็ถูกฝ่ายบุคคลได้ระบุซึ่งสาเหตุการถูกเชิญให้ออกด้วยเหตุผลว่า เธอมีพฤติกรรมคุกคามเพื่อนร่วมงาน จึงไม่มีบริษัทไหนก็รับเธอเข้าทำงานเลย ในระหว่างที่ไปสัมภาษณ์งานที่นั่นที่นี่จนทั่วกรุงเทพฯ ในหลายวันมานี้ ที่เราไม่รู้ว่ามีใครคนหนึ่งกำลังสะกดรอยตามเธอไปทั่ว ถึงเธอจะไม่เห็นตัวของคนคนนั้น แต่เธอรู้สึกได้ เพราะเสียงฝีเท้า ที่เธอได้สัมผัส แต่ในทุกครั้งที่เธอได้ยินแล้วหันกลับไปดู กลับเจอแต่ความว่างเปล่า บางครั้งอินทิราคิดว่าตัวเองหูฝาดไป และในครั้งนี้ก็เช่นกันขณะที่เธอกำลังเดินเข้าตรอกซอยเล็กๆ เพื่อที่จะเดินรับไปยังถนนใหญ่ ตามที่อยู่ ของบริษัทที่เธอกำลังจะไปสัมภาษณ์งาน เสี่ยงนั้นเริ่มเข้ามาใกล้ ใกล้เข้ามาอีก เป็นแบบนี้ทุกครั้ง มันไม่ใช่ครั้งสองครั้งแต่มันทุกครั้งที่เธอเดินอยู่เพียงคนเดียวตามลำพัง อินทิราคิดว่าถ้าเธอหันกลับไปจะเจออะไรหรือเปล่า แต่ในตรอกนี้ ไม่มีทางที่จะหลบหลีกไปไหนได้ อินทิราตัดสินใจหันหลังกลับไปดู
“พี่ปรานนะเอง ทิราตกใจหมดเลยเดินตามมาทำไมคะ?”
“กำลังหางานอยู่เหรอ ได้งานหรือยังล่ะ?”
“ยังเลยค่ะพี่ปราณ เพราะผู้หญิงคนใหม่ของ ชุติมัน ทำให้ไม่มีบริษัทไหนรับ ทิราเข้าทำงานเลยค่ะ”
“เอาเถอะๆ อย่าไปสนใจกับคนนั้นเลยถ้าที่เรายังหางานไม่ได้ พอดีพี่สาวของพี่กำลังจะเปิดร้านกาแฟ ลองไปสมัครดูสิ เห็นว่ารับอยู่หลายตำแหน่ง นี่เป็นนามบัตรของพี่สาวของพี่ แล้วไม่ต้องบอกเราว่าพี่แนะนำมา เพราะพี่กับพี่สาวไม่ถูกกัน อย่าลืมนะห้ามบอกว่าพี่เป็นคนแนะนำมา”
“ขอบคุณค่ะพี่ พี่ปราณคือพระมาโปรดทิราเลยค่ะ”
ปราณเดินไปส่งอินทิราที่ตรงถนนใหญ่แล้วก็ปลีกตัวออกไปจากอินทิราพร้อมกับโบกมือลา รอยยิ้มที่มีไมตรีจิตของเขา ทำให้อินทิรามีกำลังใจขึ้นมาบ้าง ปราณคือรุ่นพี่ที่ทำงานเขาคอยช่วยเหลืออินทิราทุกเรื่อง ตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้ามาทำงานในบริษัทนั้น เขาเป็นผู้ชายที่ดูอบอุ่น และเป็นที่รักของพนักงานในบริษัททุกคน อินทิรายิ้มตอบรับรอยยิ้มที่เป็นมิตรของปราณก่อนที่จะโบกมือเรียกรถแท็กซี่รีบตรงไปยังร้านกาแฟตามที่อยู่ในนามบัตร
คาเฟ่ใจกลางกรุงขนาดใหญ่ที่กำลังตกแต่งอย่างสวยงามมีทั้งอาหารคาวหวานและกาแฟเครื่องดื่มอีกหลายร้อยชนิด อีกไม่กี่เปอร์เซ็นต์ก็น่าจะเสร็จพร้อมเปิดให้บริการ อินทิราหัวใจฟูขึ้นมาทันที เธอตรงไปเปิดประตู เสียงดังกรุ๊งกริ๊งจากกระดิ่งที่แขวนไว้ มันกระทบกันจนเกิดเสียงที่ไพเราะออกมา เสียงทักทายของผู้หญิง หน้าตาดีดูมีอายุมากกว่าอินทิราสักประมาณ 3-4 ปีได้ แต่เธอกำลังตั้งครรภ์อยู่ ท้องใหญ่ดูเหมือนกำลังใกล้จะคลอดอยู่อีกไม่กี่เดือนนี้
“สวัสดีค่ะ ร้านเรายังไม่ได้เปิดให้บริการนะคะ”
“สวัสดีค่ะทิรามาสมัครงานค่ะ มีตำแหน่งอะไรว่างอยู่คะในตอนนี้ ทิราสามารถทำได้ทุกอย่าง”
เพราะเกรงว่าตัวเองจะไม่ได้งานนี้เธอจึงโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อให้ผู้หญิงที่อยู่เบื้องหน้าและกำลังยิ้มให้เธออยู่นั้นเห็นใจ อินทิรามั่นใจว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเธอนั้นคือเจ้าของร้านแน่นอน เพราะคงไม่มีใครจ้างผู้หญิงท้องแก่ขนาดนี้มาเดินทำงานเก็บกวาดและจัดของอยู่ในร้านเป็นแน่
“อันที่จริงแล้วก็ต้องการอยู่หลายตำแหน่ง แต่คงต้องดูความสามารถของคุณทิราก่อนว่าเคยผ่านงานอะไรมาบ้าง”
“ที่เราเคยทำงานที่บริษัทในตำแหน่งหน้าที่ฝ่ายการบัญชีค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็มีอยู่ สองตำแหน่งให้คุณธิราเลือกนั่นก็คือ ฝ่ายบัญชีและ แคชเชียร์”
“ทิราขอลงตำแหน่งแคชเชียร์ก็แล้วกันค่ะเพราะ ทิราเบื่อการทำบัญชี ที่อยู่แต่ในออฟฟิศไม่ค่อยได้เจอหน้าใคร อยู่หน้าร้านคอยคิดเงินให้ลูกค้า ทิราชอบกลิ่นกาแฟจะได้นั่งดมทุกวันทั้งวันสดชื่นดี ขอโทษนะคะไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไร?”
“ชื่อปริมค่ะ ที่เป็นเจ้าของร้าน”
“เออเจ้าของร้านทำไมถึงมาทำงานเองล่ะคะไม่มีฝ่ายบุคคลคอยรับสมัครพนักงาน”
“ร้านพี่เป็นแค่ร้านเล็กๆ ตำแหน่งหน้าที่มีไม่เยอะสิ่งไหนทำเองได้ก็จะทำด้วยตัวเอง แต่สิ่งไหนที่ทำเองไม่ได้อย่างเช่น แม่ครัว บาร์ริสต้า แล้วก็พนักงานบัญชีพี่จำเป็นต้องจ้าง”
“ร้านของพี่ไม่เล็กนะคะใหญ่เลยทีเดียวลูกค้าคงเยอะน่าดู”
“อันนี้พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะยังไม่ได้เปิดแต่ก็ขอให้เยอะเหมือนที่น้องว่าก็แล้วกัน เราจะได้อยู่ได้ อีก สามวันร้านก็จะเปิดแล้วทิราสะดวกหรือเปล่า?”
“สะดวกค่ะ”
เอมมิกานั่งเสมอมองหาเพื่อน อยู่ในบ้านวันนี้เป็นวันหยุดของเธอ แต่เมื่อเธอตั้งใจจะ มาให้กำลังใจอินทิรา และมาอยู่เป็นเพื่อน แต่เอมมิกาก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเพื่อนเธอ เธอจึงหยิบกุญแจบ้านตรงที่ซ่อนประจำ มีเพียงเธอและอินทิราเท่านั้นที่รู้ที่ซ่อนกุญแจ เอมมิกาเริ่มเข้าครัว เพราะเริ่มเย็นแล้วพระอาทิตย์กำลังเคลื่อนคล้อย ต่ำ ลง และใกล้จะตกดินอีกในไม่ช้า อินทิราเปิดประตูเข้ามาภายในบ้านของเธอ ได้กลิ่นหอมของอาหารตลบอบอวนไปทั่วบ้าน เสียงท้องโครกครากเพราะความหิว
“ได้งานแล้วเหรอกลับเสียค่ำเชียว รีบมากินข้าวเร็วฉันรู้ว่าแกหิว”
“ขอบใจนะ ที่แกไม่เคยทิ้งฉันเลย แกสบายใจได้แล้วเพราะฉันได้งานแล้วไม่ต้องห่วง ต่อไปนี้ ฉันจะมีเพียงแค่แกคนเดียว เราจะมีชีวิตที่ดี ดีให้คนที่มันทิ้งเราอิจฉา”
“แล้วแกก็ต้องหาผู้ชายที่ดีกว่าให้มันอิจฉาด้วยฉันจะหาให้ นี่เอาโทรศัพท์มา”
“เอาไปทำไมอ่ะ”
“ก็แอพหาคู่ไง แมชชิ่ง อ่ะรู้จักไหมเราจะดูผู้ชายดี ๆในนี้เยอะแยะมากมาย เอาไว้คุยเวลาที่เหงา”
“ไม่ฉันไม่ชอบคุยกับผู้ชายเวิ่นเว้อ ไร้สาระผู้ชายส่วนใหญ่ที่เข้าไปหาคู่ในแอปมีเพียงอย่างเดียวที่มันต้องการก็คือความสุขจากเรือนร่างของผู้หญิง”
“อย่าคิดอะไรที่มันเป็นลบให้มันมากนักใช้ชีวิตให้มีความสุขสิ คุยแก้เหงา ไม่ชอบก็ไม่ต้องนัดเจอแค่นั้นเองแค่เพื่อน เพราะว่าฉันเป็นห่วงแก พรุ่งนี้ฉันต้องไปทำงานต่างจังหวัดหลายวันเลยเชียวแหละ ฉันเป็นห่วงแก”
“ก็ได้ ก็ดีคุยแก้เหงาก็ได้”
อินทิราไม่อยากจะขัดความปรารถนาดีของเพื่อนจึงยอมตกลงไปอย่างเสียมิได้เพื่อความสบายใจของ เอมิกา
อินทิราเบื่อที่จะขัดใจเพื่อนเธอวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะปล่อยให้เอมิกาทำอะไรตามใจของเธอ แต่ อินทิราไม่คิดที่จะเล่นแมชชิ่ง แอพลวงโลกนี้อย่างแน่นอน อินทิราขอตัวไปอาบน้ำเพราะวันนี้เธอเดินทางไปสัมภาษณ์งานพี่สมัครไว้ในเว็บไซต์ทั้งวัน จนเนื้อตัวเหนียวเหนอะ พริษฐ์ รอเวลาที่อินทิรากลับมานานหลายชั่วโมง เมื่อเขาซูมกล้องส่องทางไกลที่กำลังแอบส่องดูหญิงสาวที่เขาแอบชอบอยู่ห่างๆ เขาก็เห็นว่าอินทิรากำลังเข้าไปเล่นแอพหาคู่ที่เขาเองก็รู้จักดีจำคำแนะนำของภาดาเพื่อนเพียงคนเดียวของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาแล้วโหลดดูบ้าง เผื่อบางทีเขาอาจจะได้คุยกับอินทิราอย่างจริงจังในแอพหาคู่นั้นก็ได้
“อินทิรา ทำไมเธอนี่ซื่อจริงๆ ใครเขาใช้ชื่อจริงกันเล่าแต่ก็ดีเราจะได้ค้นหาได้ง่ายๆ”
“เฮ้ย ๆ ทิรามีคนมาขอแมชกับแกแล้ว แต่ว่าไม่หล่อว่ะทรงโจรอย่างไรไม่รู้”
ทางด้านพริษฐ์
“แมชเลยสิ อย่าปฎิเสธผมเลยนะขอร้อง”
ทางด้านอินทิรา
“แมชไปเลย มีตั้งหลายคน คนทรงโจรปัดตกออกไปเลยดูน่ากลัว”
“ไม่ฉันจะคุยกับคนนี้ถึง หน้าตาเขาจะทรงโจรแต่แววตาของเขาดูจริงจัง”
“อี๋…นี่มันโจรชัดๆ ฉันไม่ไว้ใจเลยดูน่ากลัวพิลึก”
“บางทีสภาพแบบนี้อาจจะเป็นจิตรกรชื่อดังก้องโลกก็ได้”
“คิก ๆ ๆ แกเองยังใช้คำว่าสภาพ แล้วยังจะคุยกับเขาเนี่ยนะ”
อินทิราไม่ได้คิดจะคุยกับผู้ชายคนนั้นอยู่แล้วตั้งแต่แรกแต่ที่กดยอมรับเพราะไม่อยากให้เพื่อนงมงายกับแอฟหลอกลวงพวกนี้ เพื่อทำให้เพื่อนสบายใจ ผู้ชายหน้าตาดีในแอฟหาคู่ มีพวกต้มตุ๋นหลอกลวงเข้ามาหาผลประโยชน์อยู่บ่อย ๆ มิจฉาชีพก็แฝงตัวเข้ามามากมาย
“กุก ๆ กัก ๆ”
สองสาวเพื่อนซี้ตกใจเสียงกุกๆกักๆที่อยู่ข้างบ้าน ทั้งสองคนคว้าไม้ตียุงคนละหนึ่งอันไว้ป้องกันตัว แต่เมื่อส่อง ดูที่หน้าต่างก็ไม่เห็นมีใคร มีเพียงเพื่อนข้างบ้านที่กำลังสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่ พร้อมกับสะพายกระเป๋ากีตาร์แล้วขับออกไป อินทิราและเอมิกาไม่เห็นว่าเขามีหน้าตาเป็นอย่างไรเพราะเขาสวมหมวกกันน็อกอยู่
“แกมีหนุ่มอยู่ข้างบ้านก็ไม่บอกทำความรู้จักเลยสิ”
“ฉันไม่เคยเห็นหน้าเขาไม่เคยเห็นเขาออกไปไหนเลยนี่แหละคือเวลาที่เขาต้องออกไปทุกวันคงเป็นนักดนตรีตามผับนั่นแหละอย่าไปสนใจเลยพวกนี้เจ้าชู้จะตาย ฉันไม่อยากยุ่งด้วย”
“ผู้ชายจะอาชีพไหนถ้ามันมีสันดานเจ้าชู้อย่างไรมันก็เจ้าชู้ ดูอย่างไอ้”
“ชุติมัน…ใช่สิดูอย่างไอ้เลวนั่นคิดว่าเป็นคนดี”
“ฉันขอโทษ”
ความมืดภายนอกปกคลุมไปทั่ว ๆรอบบ้านของอินทิรา แต่ในวันนี้เอมิกามานอนเป็นเพื่อนเธอ และกำลังยึดโทรศัพท์เธอเอาไปเล่น คุยกับผู้ชายในแอพอย่างสนุกสนาน
“คุณเป็นศิลปินใช่ไหมคะ?”
“ใช่ครับผมเป็นนักร้องนักดนตรี”
เอมิกาเผลอหัวเราะคิกคักเมื่อได้รับคำตอบจากชายผมยาวหน้าเคราคนนั้นว่าเขาเป็นนักดนตรีและนักร้อง บุคลิกและท่าทางของเขาช่างไม่เหมือนนักดนตรีเอาเสียเลย
“ทิราคู่แมชของแกบอกว่าเป็นนักดนตรีเป็นนักร้องฉันว่ามันโกหกชัวร์”
“เอมแล้วแกไปคุยกับเขาทำไม แล้วถ้าเขาทักมาหาฉันทุกวันฉันจะทำยังไงล่ะ ฉันคุยไม่เป็น”
“ก็คุยไปดิแก้เหงาไอ้บ้านี่มันไม่รู้จักบ้านของเธอหรอกน่า”
“เออจริงดิ ก็ดีเหมือนกันคุยกับคนอื่นบ้างก็ดีทุกวันนี้นอกจากแก่ฉันก็ไม่รู้ว่าจะคุยกับใครได้อีก ถ้าไม่มีแกฉันคง”
“ไม่ต้องกลัวหรอกฉันจะอยู่กับแกตลอดไป”
สองสาวเพื่อนรักจับมือกันหวานซึ้งแต่เอ็งไม่กล้าจะต้องไปทำงานต่างจังหวัดกับพนักงานในบริษัทหลายวันแล้ว และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เอมิกาเป็นห่วงเพื่อนกลัวว่าเพื่อนของเธอจะเครียดกลัวว่าเพื่อนจะเหงา จึงได้ขยันขยอให้เล่นแอพแมชชิ่งเพื่อแก้เหงาเวลาที่เธอไม่อยู่ 8:00 น เช้าของวันใหม่ เอมิกาเก็บของกำลังเดินทางออกจากบ้านของ อินทิรา อีกสาม วันกว่าจะได้เริ่มงานเธอจะอยู่ว่างๆ ที่บ้านสิ่งที่เอมิกาคิดไว้มันเป็นจริง อินทิราซึ่งเคยว่างงานยาวนานเช่นนี้เป็นครั้งแรก เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูลังเลว่าจะทักไปดีหรือว่าจะรอให้เขาทักมา เธอเริ่มอยากมีเพื่อนคุย หลังจากที่สัมผัสได้ว่า การอยู่คนเดียวนั้นมันเงียบเหงาเพียงใด เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูหลายครั้งแล้วก็วางมันลงหลายครั้ง พฤติกรรมเช่นนั้น มีใครบางคนแอบดูอยู่
“ติ๊ง” เสียงข้อความในแอปดังขึ้นสิ่งที่เธอไม่เคยสนใจมันกลับทำให้เธอหัวใจเต้นแรง ตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ข้อความที่เขาส่งมาเธอเปิดมันอ่าน เป็นเพียงข้อความธรรมดาๆที่ไม่ได้มีอะไรหวือหวาแต่มันก็สามารถทำให้เธอรู้สึกคลายความเหงาได้มากเลยทีเดียว
“ทำอะไรอยู่ครับ?”
“ทำไมเวลาทักทายต้องถามว่าทำอะไรอยู่ เออทิราก็อยากจะบอกว่าจะถามเพื่อ ก็กำลังเล่นโทรศัพท์อยู่น่ะสิ”
“เปล่าครับที่ถามแบบนั้นเพราะเกรงว่าคุณจะไม่ว่างคุย”
“อ๋อ มีมารยาทนั่นเอง เออคุณผมยาวมีชื่ออย่างอื่นนอกจากชื่อผมยาวหรือเปล่าคะ?”
“ชื่อในโปรไฟล์ คือใช้ผมยาว แต่จริงๆแล้วผมชื่อ พริษฐ์”
“ชื่อเพราะดีค่ะไม่ค่อยรับกับใบหน้าสักเท่าไหร่”
“ตรงดีนะครับ ผมรู้ตัวว่าผมไม่หล่อ”
“คุณเป็นนักร้องจริง ๆหรอคะ?”
“จริงครับผมจะส่งคลิปให้ดูก็ได้”
แล้วเขาก็ทำตามที่พูดจริงๆเขาส่งคลิปในขณะที่ขึ้นไปร้องเพลงอยู่บนเวทีให้อินทิราดู เมื่อเปิดดูอินทิราจึงได้รู้ว่านอกจากเขาจะร้องเพลงได้ไพเราะแล้วเขายังเล่นกีต้าร์ได้อีกด้วย ภาพนิ่งที่อยู่ในโปรไฟล์กับภาพเคลื่อนไหวขณะที่เขาร้องและเล่นดนตรีมันช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเขาดูมีเสน่ห์ หญิงสาวและชายหนุ่ม สนทนาผ่านสื่อโซเชียลจนลืมเวลา พริษฐ์ ขอตัว ไปทำงาน เพราะขณะนี้ แสงตะวันได้รับขอบฟ้าไปแล้ว มันเป็นเวลาของเขาที่จะออกไปทำงาน ในเวลานี้เหมือนเดิมทุกวัน
“นี่ฉันจะมาหลงคารมนักร้องไม่ได้นะไอ้พวกนี้แหละตัวดีเจ้าชู้ แต่คุยแก้เหงาคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง”
อินทิรารู้สึกว่าเธอกำลังจะเสพติดกัน ใช้โซเชียลมากเกินไป ซึ่งมันไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเธอ “สวบ ๆ ๆ” เสียงฝีเท้าเหยียบย่างบนพื้นหญ้าหน้าบ้าน หรือข้างบ้าน อินทิราไม่รู้ต้นเสียงที่ชัดเจน เธอเงี่ยหูฟังเงียบๆ เพื่อต้องการได้ยินเสียงในตำแหน่งที่ชัดขึ้น ในเวลาที่เธออยู่ตามลำพังเธอจะได้ยินเสียงแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อแง้มหน้าต่างดูก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!