ณ ท้องทุ่งหญ้าสเตปป์สีเขียวขจีที่กว้างใหญ่ไพศาล ตัดกับท้องฟ้าสีครามแลเห็นแนวทะเลทรายอยู่ลิบ ๆ ก่อนกำเนิดและก่อตั้งประเทศมองโกล นั้นได้มีชนเผ่าน้อยใหญ่ อาศัยอยู่ในบริเวณทุ่งหญ้า และดำรงชีวิตโดยการ เลี้ยง แพะ ม้า วัว เพื่อเป็นอาหาร สภาพอากาศที่คาดเดาอะไรไม่ได้ ในดินแดนนี้ทำให้มนุษย์และสัตว์ มีความอึดทน กว่ามนุษย์ธรรมดา ๆ ทั่ว ๆไป หลายเท่านัก เพราะเมื่อถึง ฤดูร้อน ก็ร้อนจนผิวไหม้เกรียมประหนึ่งถูกเปลวไฟแผดเผา เมื่อถึงคราที่อากาศหนาวก็หนาวเสียจนหิมะตกปกคลุมไปทั่ว ในยามนั้นทั้งคนและสัตว์ต่างทนทุกข์ทรมาน แหล่งน้ำก็ไม่เหลือพอที่จะประทังชีวิตได้ ต้องตักหิมะที่อยู่ยอดไม้นำไปต้ม เพื่อเป็นน้ำดื่ม
ย้อนเวลาไปในช่วงของการล่าอาณานิคม ช่วงปี ค.ศ.1155 ไม่มีพระมหากษัตริย์ในดินแดนแห่งนั้น มีชนเผ่ากลุ่มน้อยใหญ่ปกครองกันเอง แต่ละเผ่าจะมี ข่าน เป็นชื่อเรียกตำแหน่งของผู้นำเผ่า การไล่ล่าฉุดภรรยาของผู้อื่นมาเป็นของตนรวมทั้งทรัพย์สินเงินทองของมีค่า และ ยึดครองดินแดนเพื่อรวบรวมประชากรให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทหารฝ่ายตรงข้ามจะถูกสังหาร เหลือไว้แต่ ชาวบ้าน เพื่อเก็บไว้ขายเป็นทาส มันคือวัฒนธรรมในยุคนั้น ผู้ใดมีอำนาจและกำลังที่มากกว่าก็จะเป็นผู้ชนะ ดังเช่น ชนเผ่า คียาร์ด ในขณะนี้ที่กำลังบุกเข้ามายัง ดินแดนของเผ่า ไตเซชาน จนกระทั่งชนเผ่า ไตเซชานที่รักสงบไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้ใด แต่ทว่า ข่านของชนเผ่าคียาร์ด ที่มีนามว่า กันตุลกา บังเอิญพบกับหญิงสาวที่เคยเป็นสตรีที่เขาหมายปอง แต่ทว่า หัวหน้าเผ่า ไตเซชานได้มาขอนางไปแต่ง ตัดหน้าเขา เสียก่อน กันตุลกา จึงเกิดความแค้น เมื่อเขาได้รับตำแหน่ง ข่าน เขาจึงตามหาจนเจอ และได้เข้าโจมตี จนราบ
เด็กน้อย วัยเพียงหกขวบความสูงของเขายังไม่ทันได้พ้นล้อเกวียนเสียด้วย ซ้ำ มารดาขอองเขาซึ่งเป็นภรรยาของหัวหน้าเผ่า ไตเซชาน ได้จับบุตรชายมัดไว้ใต้กระโจมในมุมมืดใช้ผ้ามัดปากไว้ไม่ให้ส่งเสียงเพื่อปกป้อง บุตรชายเป็นครั้งสุดท้าย ใต้กระโจมนั้น บาตู เห็นการกระทำอันป่าเถื่อนทุกอย่างของ กันตุลกา จากร่องแผ่นไม้ โลหิตของบิดาไหลหยดลงบนร่างเล็ก ๆของเขา เด็กน้อยพยายามชะเง้อมองหามารดา และพยายามส่งเสียงแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เขาเหลือบไปเห็นมารดา ที่ถูกกระทำย่ำยีจาก กันตุลกา ต่อหน้าต่อตาของเขา บาตู ดิ้นสุดแรงเพื่อที่จะหลุดดพ้นจากพันธนาการแต่ทว่าเรี่ยวแรงของเด็กน้อยไม่สามารถทำได้น้ำตาที่หลั่งไหล ด้วยความเจ็บปวด และเคียดแค้น
“ข้าจะพาเจ้ากลับไปด้วย เจ้าจะมีชีวิตที่ดี และจะได้เป็นภรรยาเอกอีกคนของข้า ข้ารักเจ้ามานานแล้ว เจ้าคงไม่รู้ตัวว่าข้ารอวันนี้มานานเท่าใดแล้ว”
“เจ้าคนถ่อย เจ้าคิดว่าจะเอาตำแหน่งและทรัพย์สินของจ้าที่มี มาต่อรองกับข้าได้อย่างนั้นรึ? ความรักที่ข้ามีต่อสวามีของข้า เจ้าไม่มีวันที่จะได้ไปทั้งตัว และหัวใจของข้า ตายเสียเถิด”
มารดาของบาตูหยิบกริช ที่อยู่ในกระโจมโถมเข้าใส่หวังจะจ้วงแทงไม่ยั้งเพื่อเป็นการแก้แค้น แต่พละกำลังพียงน้อยนิดของสตรีมีหรือจะสู้ พละกำลังของบุรุษได้ กันตุลกาจับมือเล็ก ๆของนางบิดข้อมือจน กริช หล่นลงพื้น กันตุลกา โมโหมาก โกรธที่ไม่สามารถได้ครอบครองหัวใจของสตรีที่เป็นรักแรกของเขา
“ได้ถ้าเยี่ยงนั้นอย่าหาว่าข้าไร้ความปราณีก็แล้วกัน”
“ปล่อยข้า ไอ้คนโฉดชั่ว ข้าขอสาปแช่งให้ เผ่าของเจ้าล่มสลาย และตัวเจ้าจะมิได้ตายดี ต้องทนทุกข์ทรมาน ไม่...!...”
กันตุลกา กระทำย่ำยีซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเวลาผ่านไปเนิ่นนาน ในขณะที่เขากำลังเตรียมตัวเพื่อที่จะเดินทางกลับไปยังเผ่าของเขา และตั้งใจจะพา มารดาของ บาตูไปด้วย แต่แล้ว สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
“ฉึก...!...”
“เจ้า....!...”
โลหิตสีแดงสด ๆ พุ่งไหลออกมาจากลำคอของหญิงสาว มันไหลหยดลงมาจนทำให้ บาตูที่ร้องไห้จนสลบไปฟื้นขึ้นมา เห็น ร่างของมารดาที่นอนจมกองเลือดอยู่ สายตาที่มองลอดผ่านร่องไม้เล็ก ๆ น้ำตาไหล หยดลงพื้น นางเห็นบุตรชายเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะสิ้นใจตายอยู่ตรงนั้น ภาพที่บาตูเห็นนั้น เขาเข้าใจว่า มารดาถูก กันตุลกา สังหาร จนเสียชีวิต ส่วนกันตุลกานั้นเขาก็รู้สึกเสียใจมากเช่นกัน เขาไม่นึกว่านางจะใจเด็ดถึงเพียงนี้
“ทำไมเจ้าไม่เลือกข้า...ทำไม...?”
กันตุลกา เผ่าคียาร์ด ไปกันหมดแล้ว แหลือเพียงผืนแผ่นดินที่มีแต่ ร่างไร้วิญญาณเต็มไปหมด จาร์บูฮาร์ พี่ชาย และโจชิน้องชายของบาตู ที่กำลังเดินตามหาและตะโกนเรียก น้องชาย ที่หายตัวไปของเขา
“บาตู...บาตู ๆ ๆ ๆ”
“ฮือ ๆ ๆ ๆ ๆ ท่านพี่จาร์บูฮาร์ ข้าจะหาแม่”
โจชิ น้องชายคนเล็กมีอายุได้สามขวบ ที่ร้องไห้หาแต่ผู้เป็นมารดา เขายังเล็กเกินกว่าที่จะเผชิญความยากลำบากนี้ได้ จาร์บูฮาร์ พี่ชายคนโต เขามีอายุ สิบปี และแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องน้องทั้งสองได้แต่ทว่า เขายังหาตัวน้องชายคนรองไม่เจอ ในขณะที่เขากำลังจะลากร่างของบิดาและมารดาออกไปฝัง เขาก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างใต้กระโจมที่เขายืนอยู่........................................
“ตึก ๆ ๆ ๆ”
เสียงเหมือนมีอะไรบางอย่างกระแทกกระทั้นอยู่ภายใต้กระโจมที่เขาเหยียบอยู่ จาร์บูฮาร์ ก้มลงไปดูจึงได้รู้ว่า บาตู นั้นถูกมัดอยู่ เขารีบมุดข้าไปเพื่อแก้มัดให้น้องชาย ทั้งสามพี่น้องคนกอดกันร่ำไห้ ด้วยความดีใจ บาตูคิดว่า จาร์บูฮาร์อาจจะตายไปแล้ว ทั้งสองพี่น้องช่วยกันขุดดหลุมฝังศพผู้เป็นมารดา และบิดาของเขา ทำป้ายชื่อ และสัญลักษณ์ไว้เพื่อในสักวันหนึ่งเขาจะกลับมา และแก้แค้น โจชิ น้องสุดท้อง ไม่เข้าใจสิ่งที่พี่ชายทั้งสองกำลังทำอยู่เขาได้แต่ยืนมอง
“พวกเราอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว พี่จะพาไปหาท่านลุง บาร์ฮาน ที่เผ่า หนจิรา ท่านลุงจะช่วยพวกเราได้”
“ข้าจะหาท่านพ่อ ท่านแม่อยู่ไหน”
“ชูววว...โจชิอย่าร้องสิ เดี่ยวพวกเราจะไม่ปลอดภัยบางทีพวกนั้นอาจยังอยู่ที่นี่”
“ฮึก ๆ ๆ ๆเมื่อไรท่านแม่จะมารับ”
“เงียบก่อนสิ พี่จะพาเจ้าไปหาท่านแม่”
จาร์บูฮาร์ จำเป็นต้องโกหกเพื่อไม่ให้โจชิร้องออกมา การเดินทางที่ยากลำบาก ของเด็กทั้งสามคน ทั้งหิว และเหน็ดเหนื่อย ทั้งอากาศที่หนาวเย็นเนื่องด้วยว่าหิมะได้ตกลงมาอย่างไม่หยุดดหย่อนจนพื้นที่ทุ่งหญ้า กลายเป็นสีขาวโพลนมองไม่เห็นแม้แต่เส้นขอบฟ้า สามพี่น้อง เดินสะเปะสะปะไปเรื่อยเปื่อยโดยไม่รู้ทิศทาง เพราะมองไปทางใดก็เป็นสีขาวไปหมด ความหนาวเหน็บทำให้เด็กชายทั้งสามเดินต่อไปไม่ไหว จาร์บูฮาร์ พยายามหาที่หลบซ่อน และหาไออุ่น จากสิ่งรอบ ๆ แถวนั้น แต่ก็ไม่มีสิ่งใดเลย
“บาตูกอดโจชิให้แน่น ๆ แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อที่เจ้าทั้งสองจะได้ไม่หนาวเหน็บ ข้าจะไปหาอะไรมาให้กิน”
จาร์บูฮาร์เดินไปรอบ ๆ เขาเกลี่ย ๆ หิมะออกเป็นวงกว้าง ๆ เพื่อที่จะหาไม้แห้ง ๆมาก่อไฟ เหมือนที่บิดาของเขาเคยสอน ขณะที่จาร์บูร์ฮาร์กำลังใช้ไม้เกลี่ยหาบางอย่างที่พออจะประทังชีวิตได้ เขาได้เจอดาบเก่า ๆ เล่มหนึ่ง เมื่อเขาชักมันออกจากฝัก ก็ได้เห็นว่าดาบเล่มนี้ ยังใช้ได้ดี มีความคมมันวาวเขาฉีกชายเสื้อเพื่อเป็นสายผูกดาบแล้วก็สะพายมันไว้ที่หลัง
“เจอแล้ว อาหาร....”
“ยี๊....ซากสัตว์มันตายไปแล้ว”
แต่มันยังไม่เน่านะเพราะว่ามันอยู่ใต้หิมะอย่างไรล่ะ ข้าจะก่อไฟ บาตูเจ้าใช้หินสองก้อนนี้ทุบกันให้เกิดประกายไฟนะให้ประกายไฟโดนกับเศษไม้แห้งที่ข้าวางไว้ตรงนั้น เดี๋ยวข้าจะใช้ดาบเล่มนี้ชำแหละเจ้านี่มาย่างให้เจ้ากิน”
บาตูทำตามที่พี่ชายบอกทุกอย่าง จนเกิดประกายไฟ และสามารถจุดไฟให้ติดได้ บาตู รู้สึกตื่นเต้นที่เขาเคยจุดไฟเป็นครั้งแรก
“เจ้าเก่งมาก บาตูน้องพี่ ข้าจะเผามันทั้งหมดเพื่อเก็บไว้กินกลางทางเพราะไม่รู้ว่าจะบังเอิญโชคดีอย่างวันนี้อีกหรือเปล่า เพราะเราต้องเดินทางอีกยาวไกลนัก”
หลังจากที่ได้กินอาหารจนอิ่มแล้วทั้งสามก็นอนกอดกันอยู่ข้าง ๆกองไฟ จบหลับไป ทั้งสามตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อพายุ หิมะโหมกระหน่ำจนไฟมอดดับลง หิมะในยามนี่สูงท่วมหัวของโจชิแล้ว ไม่มี จาร์บูฮาร์มองไม่เห็นหนทางที่จะเอาตัวรอดจากวิกฤตครั้งนี้ไปได้เลย หรือว่าเขาจะพาน้องชายทั้งสองมาหนาวตายกลางทางเช่นนี้ จาร์บูฮาร์ได้แต่สวดมนต์ภาวนาตามที่มารดาของเขาเคยสอน หากจากภัยธรรมชาติให้สวดมนต์ขอความช่วยเหลือจาก เทพเจ้าเท็นกี (ดิน ฟ้า อากาศ)
“เทพเจ้าเท็นกีได้โปรเมตตาข้าน้อยด้วยเถิด ช่วยให้พวกเรารอจากความเหน็บหนาวในครั้งนี้ไปให้ได้ด้วย”
จาร์บูฮาร์สวดมนต์ภาวนา จนกระทั้งเขาหลับไปในออมกอดของกันและกันสามคนพี่น้อง แสงแดดอุ่น ๆ สาดส่องมาแตะสัมผัสใบหน้าของเด็กน้อยทั้งสาม ทำให้พวกเขาตานขึ้นมาพื้นที่เขานอนอยู่เฉอะแฉะไปด้วย หิมะที่ละลายกลายเป็นน้ำ มีบางพื้นที่ ที่ยังมีหิมะจับตัวเป็นก้อนยังละลายไม่หมดไปเสียทีเดียว แต่ก็ยังดีที่ได้รับความอบอุ่นจากแสงแดด เมื่อ มีแสงแดด จาร์บูฮาร์ก็มองเห็นเส้นขอบฟ้าและทิศทางที่จะพา น้อง ๆ ไปหา บาร์ฮาน สหายรักของ บิดาของขาทั้งสามการเดินทางได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง เสบียงจากซากสัตว์ตัวนั้นมีมากพอที่จะประทังชีวิตของเด็กทั้งสามไป ได้ ทั้งสามคนเด็กน้อยล้มลุกคลุกคลานเดินทางมาจนกระทั้ง เห็นเขตแดนของชนเผ่า หนจิราอยู่เบื้องหน้า แต่ทว่า เด็กทั้งสามบังเอิญได้เจอกับ กันตุลกา จาร์บูฮาร์ พาน้องทั้งสามวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตเพื่อเอาตัวรอดจาก...กันตุลกา...........
จาร์บูฮาร์แบกโจชิไว้บนหลังอีกมือก็จับแขน บาตู วิ่งหนีอย่างไม่คิดดชีวิต กันตุลกา และทหารคนสนิทขอองเขา จำได้ว่า จาร์บูฮาร์นั้นเป็นบุตรชายของ หัวหน้าเผ่า ไตเซชาน กันตุลกา ไม่มีทางที่จะปล่อยให้เด็กทั้งสามรอไปได้แน่ เพราะสักวันเมื่อเด็กน้อยทั้งสามโตขึ้นอาจจะเป็นภัยกับเขาได้ มันจำเป็นที่เขาจะต้องสังหารเด็ก ในขณะที่เด็กทั้งสามวิ่งหนีอยู่นั้น กันตุลกา ก็หันปลายธนูชี้ไปยังเด็กทั้งสาม
“ฉุบ....!....โอ๊ย....ท่านพี่”
บาตูถูกยิง แขนของเขาหลุดดออกจากมือของจาร์บูฮาร์ กันตุลกา เข้ามาประชิดตัวบาตูแล้วจับเขาไว้ได้ จาร์บูฮาร์วางโจชิลงชักดาบออกมาหมายจะแลกด้วยชีวิตเพื่อช่วยน้องชายของเขาให้รอดจากเงื้อมือของ กันตุลกา ถึงเขาจะฝึกดาบและการต่อสู้มาบ้างจากบิดาของเขาแต่ทว่า เขาเพิ่งมีอายุแค่สิบขวบปี ไม่สามารถต่อกรกับทหารที่ผ่านสมรภูมิรบมานับครั้งไม่ถ้วน จาร์บูฮาร์ถูกฟันที่หัวไหล่ สายตาที่เขามองกันตุลกา มีแต่ความเคียดแค้น ก่อนที่จะลดสายตา มองลงพื้น น้ำตาของเด็กน้อยไหลอาบแก้มเพราะคิดว่าเขาคงไม่รอดแน่แล้ว เขาไม่ได้ห่วงตัวเองแต่เขาห่วงน้องชายของเขาทั้งสอง
“ข้าขออะไรท่านสักอย่างจะได้หรือไม่...?...ปล่อยน้องชายทั้งสองของข้าไปเถิด สังหารข้าแต่เพียงผู้เดียวเถอะนะขอรับ”
“เจ้าคิดว่าสถานการณ์เยี่ยงนี้เจ้าสามารถเรียกร้องหรือต่ออรองกระไรได้อีกรึ ? แต่ถ้าเจ้าไม่อยากเห็นเวลาที่ข้าสังหารน้องของเจ้า ข้าจะสังหารเจ้าก่อนจะได้ไม่ต้องเห็น”
ทหารคนสนิทของ กันตุลกา เงื้อดาบหมายจะฟันเด็กน้อยเพียงแค่ดดาบเดียว เขาจะได้ไม่ทรมาน
“ฉุบ....”
ธนูปริศนาพุ่งตรงมาหาคนที่กำลังจะลงดาบ ทะลุข้อมือของเขาจนดาบหล่น แล้วก็มีทหารกลุ่มใหญ่ เข้ามาช่วย กันตุลกา เห็นท่าจะไม่ไหว เพราะเขากับทหารคนสนิท มากันแค่สี่คนเท่านั้น กันตุลกาควบม้าหนีไปพร้อมกับจับ บาตูไปด้วย เขาไม่สามารถปล่อยเด็กคนนี้ไปได้เพราะสายตาของ บาตูนั้นมีความอัมหิตแฝงอยู่ มากกว่าจาร์บูฮาร์ผู้เป็นพี่ชายเสียอีก เขาจะต้องสังหารบาตูทิ้งเสีย จาร์บูฮาร์และโจชิได้รับความช่วยเหลือจากทหารกลุ่มนั้น จาร์บูฮาร์พยายามวิ่งตาม กันตุลกาเพื่อไปช่วยบาตู แต่เขาถูกจับตัวไว้
“อย่าตามไปเลยเจ้าช่วยกระไรไม่ได้หรอกไม่ต้องกังวลพวกมันยังไม่สังหารน้องชายของเจ้าแน่ เพราะเจ้าเด็กนั้น มีความสูงยังไม่พ้นวงล้อเกวียน ตามธรรมเนียม ห้ามทำเด็ดขาดมิเช่นนั้น เทพเจ้าเท็นกีจะพิโรธ”
จาร์บูฮาร์ถูกนำตัวไปที่ชนเผ่า หนจิรา โดยมี บาร์ฮานเป็นข่าน และเขาผู้นี้นี่เองเป็นสหายของบิดาที่จาร์บูฮาร์กำลังตามหาอยู่
“เจ้า...!...ทำไมสภาพของเจ้าเป็นเยี่ยงนี้”
“เด็กสองคนนี้ถูกไล่ล่าจากเผ่า คียาร์ด ขอรับท่านข่าน มีเด็กอีกคนถูกจับตัวไปได้”
“ท่านลุงได้โปรดช่วย บาตูของพวกเราด้วยนะขอรับ ตอนนี้ ไตเซชานหมดสิ้นแล้ว บิดาและมารดาของข้า ตายหมดเพราะพวกมัน”
“ก็ได้ข้าจะลองไปเจรจากับพวกนั้นดูแค่เด็กคนเดียวมันจะจับตัวไปทำไม...?”
ทางด้านบาตูที่ถูกจับตัวมา เขาทั้งบาดเจ็บและหิวโหย บาตูถูกคุมขังไว้เพราะ เขายังเด็กเกินไปที่จะถูกสังหารได้ กันตุลกา ไม่กล้าลองดีกับเทพเจ้าเท็นกี เขาจึงขังบาตูแล้วปล่อยให้อดตายไปเอง แผล ที่เริ่มจะติดเชื้อ ทำให้เขาป่วย ในขณะที่บาตู นอนหิวโดดหยและเจ็บปวอยู่นั้นก็มีสตรีนางหนึ่งนำยามาทาแผลให้เขา และป้อนอาหารกับยาให้เขากิน อยู่อย่างนั้นทุกวัน ๆ จนเขาหายดดี กันตุลกา คิดดว่าบาตูคงตายไปแล้วเขาเข้ามาดู แต่กลับเห็นเด็กน้อย ไม่เป็นอะไรเลยซ้ำแผลก็ยังหายดี แล้วก็ยังมีร่องรอยการช่วยเหลือ ทหารที่เฝ้าอยู่ด้านหน้า ก็ปฎิเสธไม่รู้ไม่เห็นอะไร และให้เหตุผลกับข่านของตนเองว่า
“เจ้าเด็กคนนี้มันแข็งแรงนักขอรับ มันอาจจะหายด้วยตัวของมันเองก็ได้หรือไม่ก็อาจจะมีเทพเจ้าคุ้มครองมันอยู่”
“ข้าไม่สนเทพเจ้าอะไรทั้งนั้นแล้ว ในวันพรุ่งข้าจะสังหารมัน ถ้าไม่ติดว่าวันนี้เป็นวันไหวเทพเจ้าข้าจะสังหารมันเสียวันนี้เลย”
เด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังแอบดู กันตุลกา ผู้เป็นพ่อกล่าวเช่นนั้นก็นึกตกใจ และวิ่งหนีหายไปก่อนที่ บิดาของนางจะเดินออกมาจากที่คุมขัง
ในวันรุ่งขึ้นเด็กน้อยถูกพันธนาการด้วยโซ่ที่มือทั้งสองติดไว้กับคอเพื่อไม่ให้เขาหนีไปได้ ถึงจะผิดกฎแต่ กันตุลกา จำเป็นต้องทำเพื่อตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เพราะเขาไม่ไว้ใจเด็กน้อยผู้นี้ ที่มีแววตาของความแค้นและอัมหิตแฝงอยู่ในแววตา
“ปล่อยเขาไปเถิด เด็กน้อยตัวเท่านี้ทำอะไรพวกเรามิได้หรอก ประเดี๋ยวเทพเจ้าจะพิโรธ” กันตุลกา ไม่ฟังคำทัดทานของประชาชนในชนเผ่าของเขาที่รู้สึกสงสารเด็กน้อย ที่นั่งอยู่ลานกว้างกลางแดดจ้า ร้อนเสียจนผิวไหม้ เพชฌฆาตถือดาบออกมา หวังว่าจะสังหารเด็กน้อยเพียงแค่ดาบเดียวเพื่อที่เขาจะได้ไม่ทรมาน มันคือความปราณีที่เขามีให้ได้เพียงเท่านี้ เพราะไม่มีใครกล้าขัด ผู้เป็น ข่านของชนเผ่าได้ ในขณะที่เพชฌฆาตกำลังเงื้อดาบ
“เปรี้ยง...!.
เรื่องนี้มีฉากรักฉ่ำ ๆ แต่อาจจะอยู่ช่วงตอนที่ 5 ตอนแรกๆจะเล่าถึงความเป็นมาเป็นไปของพระเอกที่มีความแค้นต่อพ่อของนางเอกก่อนค่ะ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!