"โรสทรีต เบอร์เรล เจ้ามีความผิดโทษฐานคิดร้ายต่อพระชายาเอลิซ่า"
หญิงสาวผู้เป็นบุตรตรีของดยุคเบอร์เรลอย่างข้าต้องมานั่งคุกเข่าต่อหน้านังสามัญชนที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างนั้นหรือ?
ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย
"โทษของเจ้า คือการโดนตัดหัว!!!"
สิ้นเสียงขององค์รัชทายาททหารทั้งหลายโดยรอบก็เข้ามาลากตัวของเธอออกไป เธอเพียงทำได้แต่ขัดขืนและมองไปยังนังหญิงแพศยาที่กำลังยิ้มลับหลังและมาทางเธอ
"ฉันไม่ผิด! ข้าไม่ได้ทำ... ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นข้าโดนใส่ร้าย!"
เหมือนคำพูดคนอย่างเธอจะไม่มีเหตุผลเสียเท่าไหร่ที่องค์รัชทายาทจะต้องฟัง เขาหันหน้าหนีและกอดปลอบประโลมเอลิซ่า
เมื่อเหล่าทหารนำตัวเธอมายังคุกใต้ดินที่บรรยากาศและกลิ่นมันชวนอ้วกแล้วพวกมันก็พากันกลับไป เหลือเพียงแต่ทหารเฝ้ายามเพียงเท่านั้น
"ท่านทำอย่างนี้กับข้าได้อย่างไรกัน เฮลิกซ์"
ตัวข้าทั้งพยายามเรียนมารยาทที่เพียบพร้อมทั้งยังต้องมานั่งทนทุกข์ทรมานที่ต้องอดอาหารเพื่อให้หุ่นของตัวเองดูดีอยู่ตลอด
"เลดี้ผู้เพียบพร้อม... อนาคตจักรพรรดินี เฮอะ! หน้าตลกสิ้นดี!!!"
ตอนนี้เธอทั้งแค้นและเจ็บซ้ำน้ำใจที่คนรักของเธอนั้นหักหลังกันได้ลงคอ
เธออยากจะฆ่าพวกมันให้หมด ตอนนี้มันมีแต่ความเคียดแค้นและอยากจะเอาคืน
และเธอยังได้รู้อีกว่าเจ้าพวกนั้นยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ตระกูลของเธอต้องพังพินาศและต้องโดนถอนออกจากบรรดาศักดิ์ เพราะถูกใส่ร้ายว่าเป็นกบฏ
ท่านพ่อของเธอนั้นต้องไปใช้แรงงานเป็นทาสที่เหมือง เสี่ยงอันตรายในทุกๆวัน ส่วนท่านแม่ก็โดนขายเอาไปเป็นทาสที่ตลาดมืดไม่รู้ว่าตอนนี้ท่านจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร
ส่วนพี่น้องคนอื่นๆ แม้แต่ญาติพี่น้องตัวของเธอเองก็ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร ก็ขอเพียงภาวนาว่าจะปลอดภัยกันดี
และแล้วเวลาของเธอก็มาถึง
"ฆ่ามันซะ!"
"ตัดหัวมันเลย!"
"กล้าดียังไงที่ทำกับพระชายาแบบนั้น!"
เสียงด่าทอตะโกนออกมาจากประชาชนผู้โกรธเคือง พร้อมทั้งขว้างปาหินผักผลไม้ที่เน่าเสียมาที่เธอ
โรสทรีตเธอได้แต่กัดฟันเอาไว้
ตัวของเธอโดนกดบังคับให้นั่งคุกเข่าก้มตัวลงไปที่เครื่องประหาร เธอเองก็ไม่อยากนึกว่านี่จะเป็นเวลาตายของตัวเองจริงๆ
"มีอะไรจะสั่งเสียหรือไม่ โรสทรีต"
เธอจ้องมองไปที่เฮลิกซ์ด้วยสายตาที่แดงก่ำจากการร้องให้ แต่ว่า
เธอไม่อยากจะอ่อนแอให้กับผู้ใดได้เห็น ไม่อยากจะให้พวกมันได้เยาะเย้ยตัวของเธอไปมากกว่านี้อีกแล้ว
"สั่งเสีย?"
เสียงถอนหายใจพ่นออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย
"ฉัน... ฉันสาบานแม้ว่าข้าจะตายไป แต่ข้าขอสาปแช่งให้พวกเจ้าทุกคนที่ทำร้ายข้าครอบครัวข้ามันพังพินาศและจะได้ไม่ตายดี!!!"
เมื่อสิ้นเสียงของโรสทรีตองค์รัชทายาทถึงกับมีสีหน้าไม่สู้ดี และสั่งให้เพชรฆาตดำเนินการต่อ
และเมื่อนั้นก็สิ้นตระกูลของเบอร์เรล
โรสทรีต เบอร์เรล สมาชิกตระกูลคนสุดท้าย
‘ตื่นขึ้นมาสิ ลูกหลานของข้า’
ใครกัน?
"เฮือก!"
ร่างของโรสทรีตสะดุ้งเฮือกอย่างตื่นตกใจ ก่อนที่มือบางของเธอจะจับที่ลำคอของตัวเองทันที
แต่เมื่อได้สัมผัสเธอก็พบว่าคอของเธอนั้นยังติดอยู่กับบ่าอยู่ นั่นเลยทำให้ตัวเธอนั้นสงสัย
"ทำไม... เรายังไม่ตายกันนะ?"
โรสทรีตหันมองไปรอบตัวของเธอ พอมองสำรวจไปรอบๆ ก็ได้พบว่าตอนนี้ตัวเธออยู่ในห้องของตัวเธอเอง ซึ่งมันไม่ควรจะเป็นแบบนั้นเลย
เพราะตระกูลเบอร์เรลนั้นล้มสลาย คฤหาสน์เลยถูกยึดเป็นสมบัติของราชวงศ์
เธอได้แต่สงสัยใครรู้ ว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันเป็นความฝันหรืออาจจะเป็นเพราะว่าตัวเธอได้ตายลงและอาจจะได้เป็นวิญญาณที่ต้องสิงสถิตอยู่ที่คฤหาสน์ของตนที่เคยผูกพัน
"อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณหนู เช้านี้อากาศดีนะคะ"
แต่จู่ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องและยกเตรียมกระมังน้ำเอาไว้ให้กับเธอเพื่อล้างหน้า
แต่พอโรสทรีตจ้องมองดูดีๆแล้ว กับพบว่านั้นคือเมสัน เมสันเป็นเมดส่วนตัวของโรสทรีตเธอกับเมสันสนิทสนมกันตั้งแต่ยังเด็กเพราะพวกเราอายุไล่เลี่ยกัน
"เมสัน... เหรอ?"
เธอพูดออกไปด้วยความประหลาดใจ ไม่ใช่ว่าเมสันลาออกหลังจากที่ตระกูลของเธอล้มสลายไปแล้วหรอกเหรอ แล้วทำไมเมสันยังอยู่ที่นี่ล่ะ?
"คุณหนูคะ เป็นอะไรหรือเปล่า หรือว่าคุณหนูไม่สบาย?"เมสันเอ่ยถามอย่างร้อนรนใจ
แล้วปกติเมสันจะเรียกตัวของเธอว่าท่านหญิงด้วยแต่ก็จะมีแค่ช่วงที่เราเด็กๆ ที่เมสันเรียกเราว่าคุณหนูตอนตัวของเธออายุ12ปี
แต่พอตัวเธออายุเกินไปกว่านั้นเมสันก็เปลี่ยนศัพท์นาม
หรือว่า...
โรสทรีตรีบวิ่งไปทางกระจกทันทีเมื่อคิดอะไรบางอย่างได้ เธอหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้นตะลึงกับสิ่งที่มหัศจรรย์นี้
ถึงแม้โลกใบนี้จะมีเวทมนตร์ก็ตามที แต่ว่าการได้ย้อนเวลามามันก็น่าเหลือเชื่อไปหน่อยไม่ใช่เหรอ
แล้วตอนนี้เธอก็อยู่ได้12ปี และอีกไม่นานก็จะเป็นวันเกิดของเธอ ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นเองก็จะเป็นการจับเธอหมั้นหมายกับองค์รัชทายาท
โรสทรีตใช้มือเล็กๆ ของเธอคํ้ายันกับโต๊ะเครื่องแป้งเอาไว้ พลางใช้ความคิดเพื่อจะหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ ที่จะตามมา
และแผนการแก้แค้นของเธอต่อจากนี้
"คุณหนูไม่เป็นอะไรใช่ไหมค่ะ?"
เมสันเธอเห็นท่าทีของคุณหนูผู้ที่เธอนั้นรับใช้อยู่เกิดการกระวนกระวายใจขึ้นมา คุณหนูของเธออาจจะปวดหรืออาจจะไม่พอใจอะไรบางอย่างก็เป็นได้
"ไม่หรอก... ไม่มีอะไร เมสันเตรียมชุดให้ฉันที่สิ ได้เวลาทานมื้อเช้าแล้ว ถ้าไปสายเดี๋ยวท่านพ่อจะดุเอาเสียเปล่า"
โรสทรีตยิ้มออกมาด้วยอารมณ์สมสุข เพราะว่าได้ยืนยันแล้วว่าตนเองได้ย้อนเวลากลับมาในอดีตจริงๆ
แล้วต่อจากนี้ไปเธอก็จะเริ่มจัดการกับพวกที่มันทรยศหักหลังตระกูลของเธอทีละคนและจะให้พวกมันได้ทรมานไปเรื่อยๆ ไม่ยอมให้พวกมันเหล่านั้นได้ตายง่ายๆหรอก
และแผนการของเธอก็จะเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ด้วย
ส่วนคนผู้แรกที่จะได้รับการลิ้มรสความแค้นของเธอก็คือ
ทางญาติห่างๆ ของท่านแม่อย่างไรเล่า
แกรนเซียร์ แฮมเธอร์ หญิงหม้ายเพราะเสียสามีและลูกไปท่านแม่ของเธอเห็นแล้วสงสารจับใจเลยรับมาอยู่ด้วยกันที่อาณาเขตของท่านพ่อ
แกรนเซียร์เป็นคนที่มาคอยทำให้ความสัมพันธ์ของท่านพ่อและท่านแม่ต้องระหองระแหงกันอยู่บ่อยครั้งเพราะคอยเป่าหูท่านแม่อยู่ตลอดเวลา
ไม่พอยังจะอ่อยท่านพ่อของเธอและยังลามไปถึงพี่ชายของเธออีกด้วย ซึ่งพวกท่านก็ไม่หลงกลและยังถอยห่างจากแกรนเซียร์อีกด้วย
เมื่อตอนนั้นเธอยังไม่ประสีประสาอะไรเลยไม่รู้เรื่องแต่ตอนนี้เธอเข้าใจหมดทุกอย่างแล้วว่าแกรนเซียร์ต้องการอะไร
เพราะฉะนั้นเธอเลยต้องขัดขวาง ต้องทำทุกวิธีทางเพื่อที่จะไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปให้ได้
โรสทรีตเดินเข้าไปยังห้องอาหารด้วยกิริยาท่าทางนิ่งสงบและมั่นคง และหันไปมองทางแกรนเซียร์ด้วยสายตาประเมิน
เธอย่อตัวและทักทายทุกคนด้วยรอยยิ้มอันสดใส
"ขอโทษที่ทำให้รอนานนะคะ พอดีว่าหนูตื่นสายนิดหน่อย"
เธอเดินไปทางเก้าอี้ระหว่างพี่ชายคนโตอย่างโนอาห์และพี่ชายคนรองอย่างโจชัว พี่ชายทั้งอสงต่างพากันยิ้มให้เธอก่อนจะเอ่ยทักทายกัน
"โรสทำไมวันนี้ตื่นสายล่ะ ไม่สบายหรือเปล่า?"
โนอาห์ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเขานั้นรักและหวงแหนน้องสาวคนนี้เป็นอย่างมาก
และก็ไม่ต้องอะไรกับพี่คนรองอย่างโจชัวที่ใช้หลังมือสัมผัสกับบริเวณหน้าผากของเธอพร้อมกับจับใบหน้าของเธอหันซ้ายทีขวาที
"อืมม~ ไม่เป็นอะไรแน่ใช่ไหม?"
โรสทรีตยิ้มให้และตอบกลับไป
"หนูไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ แค่รู้สึกเพลียๆเท่านั้นเอง"
"หนูโรสไม่เป็นอะไรแล้ว ถ้าอย่างนั้นเราเริ่มทานกันเลยไหมคะ"เป็นแกรนเซียร์ที่เอ่ยขัดกานสนทนาระหว่างครอบครัวอย่างไร้มารยาท
และเป็นไปอย่างตามที่โรสทรีตเธอคาดเอาไว้แกรนเซียร์ที่ชอบทำตัวเหมือนกับตนเองเป็นดัชเชส นั้นมันน่ารำคาญตาของเธอเสียจริง
"อ่า.. นั่นสินะ ตอนนี้ก็สายมากแล้วล่ะ"ดัชเชสอย่างมากาเร็ตเอ่ยออกมาเพราะไม่อยากจะทำให้บรรยากาศโดยรอบมันน่าอึดอัดใจไปมากกว่านี้
และแล้วมื้ออาหารยามเช้าก็เริ่มขึ้น แกรนเซียร์ที่นั่งทานอาหารเช้าอย่างเสียงดัง
เสียงช่อนกระทบกับจานบ้างแหละหรือจะเป็นการกินที่มูมมามบ้างแหละ
มันเลยทำให้ท่านพ่อและคนอื่นๆ เริ่มแสดงสีหน้าออกมาอย่างชัดเจน ไม่เว้นแม้แต่ข้ารับใช้ที่ยืนอยู่ข้างหลังก็ตาม
"ฉันขอตัวก่อน"ดยุคเบอร์เรลเช็ดปากและยืนตัวตรงก่อนจะเดินออกไปจากห้องอาหาร
"ผมก็ด้วย"
"ผมอิ่มแล้วครับ"
ทั้งพี่ชายทั้งสองของโรสทรีเองก็เอือมระอาต่อพฤติกรรมเหล่านี้ของผู้เป็นญาติด้วยเช่นกัน
ไม่มีความเกรงใจไม่มีแม้แต่มารยาทเป็นถึงอดีตเคาน์เตส
และแล้วก็จบลงด้วยความอึดอัดอย่างเช่นเดิม ท่านแม่ได้แต่กุมขมับทำอะไรไม่ถูกกลัวลูกกับสามีจะโกรธเธอ
และเป็นทางโรสทรีตเองที่เข้าไปปลอบใจ
"ไม่เป็นไรนะคะท่านแม่ ท่านพ่อกับพี่ๆไม่ได้โกรธหรือเคืองอะไรท่านแม่หรอกค่ะ"
เธอพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่ดูใสซื่อบริสุทธิ์และหันไปมองทางแกรนเซียร์ก่อนจะยิ้มออกมา
"ท่านน้าคะ หนูอยากจะใช้เวลากับท่านน้าน่ะค่ะ"
แกรนเซียร์มองมาทางโรสทรีตด้วยสายตาที่ได้ไม่ค่อยจะสบอารมณ์เสียเท่าไหร่แต่ก็ต้องแสร้งทำเป็นยิ้มและเล่นไปตามนํ้า
'เอาเถอะ ยังไงซะถ้าฉันจัดการแม่กับลูกสาวมันได้ล่ะก็ ต่อไปฉันก็คงจะได้เป็นดัชเชสแห่งเบอร์เรลแทน' แกรนเซียร์นึกในใจ
"อ่า นั่นสินะ แมรี่แอนด์ก็ไปด้วยกันสิ"แกรนเซียร์พูดโน้มน้าวให้สองแม่ลูกไปปิกนิกกันที่ทางสวนหลังคฤหาสน์ตระกูลเบอร์เรล
โรสทรีตเธอยอมรับเลยว่าแกรนเซียร์นั้นเป็นคนช่างสังเกตแต่ก็นะ
ท่านน้าของเธอคนนี้ไม่ค่อยจะฉลาดและมีสมองเสียเท่าไหร่
"ได้สิ นานแล้วเหมือนกันนะที่เราไม่ได้ไปปิกนิกด้วยกันน่ะแกรนเซียร์"ดัชเชสผู้แสนดีส่งยิ้มที่แสนอ่อนโยนให้
"ถ้าอย่างนั้นกำหนดการก็เป็นอีก2วันนะ ฉันรอแทบไม่ไหวเลยที่จะได้ใช้เวลาแสนวิเศษกับพวกเธอแบบสาวๆ"เมื่อว่าจบแกรนเซียร์ก็หันหลังและเดินจากไป พลางยิ้มลับหลังสองแม่ลูกและคิดเกี่ยวกับแผนการต่างๆนาๆ
ส่วนทางโรสทรีตนั้นมีเหรอจะยอมให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นซํ้าซ้อน ถึงในชีวิตก่อนหน้านั้นเธอกับแม่จะไม่ได้ตายแต่ท่านแม่ก็เสียขวัญเป็นอย่างมาก
และมีหรือที่ผู้หญิงร้ายกาจอย่างแกรนเซียร์จะใช้วิธีดาดดื่นแบบนี้
เพราะฉะนั้นโรสทรีตเลยเตรียมแผนการที่จะกำจัดแกรนเซียร์ให้ออกจากตระกูลและไม่มีหน้าเข้าสังคมชนชั้นสูงได้อีกต่อไป
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!