NovelToon NovelToon

จันทราในหยาดเลือด( นิดหน่อย)

บทที่ 1 – คำสาปแห่งคืนเพ็ญ

...เสียงลมหนาวพัดผ่านป่าไม้แถบชายแดนทางเหนือของอาณาจักรเอลาริน่า ใบไม้ร่วงหล่นระยิบระยับใต้แสงจันทร์เต็มดวง แสงจันทรานั้นช่างอ่อนโยน ทว่าเยือกเย็น ราวกับจับจ้องมองชะตาชีวิตของหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่บนหน้าผา—คนที่ใครๆ ต่างกล่าวขานว่า “แม่มดแห่งจันทรา”...

...ลูเซีย มีผมสีขาวยาวสลวยและนัยน์ตาสีฟ้าที่เรืองแสงในยามค่ำคืน ชาวบ้านหวาดกลัวเธอ บางคนพูดว่าเธอคือผู้สาปหมู่บ้านเมื่อยี่สิบปีก่อน บ้างก็ว่าความงดงามของเธอคือกับดักของปีศาจ แต่ความจริงก็คือ ลูเซียไม่ใช่ปีศาจ… เธอเป็นเพียงหญิงสาวผู้มีเวทมนตร์ และมีชีวิตอยู่กับคำสาปที่เธอไม่ได้เลือก...

...ในคืนหนึ่งของฤดูใบไม้ร่วง ขณะที่เธอกำลังเก็บสมุนไพรในป่า เสียงพุ่มไม้สั่นไหวก็ดังขึ้นอย่างผิดปกติ เธอหันไป—และเห็นร่างหนึ่งล้มลงใต้ต้นโอ๊กใหญ่ เลือดไหลรินเป็นทาง...

...“เจ้าบาดเจ็บ?” ลูเซียรีบวิ่งเข้าไปหา แต่หยุดชะงักเมื่อได้เห็นนัยน์ตาสีแดงเข้ม… แวมไพร์...

...“อย่าเข้าใกล้…” เสียงของเขาแหบพร่า ราวกับต่อสู้กับบางสิ่งในตัวเอง “ข้า… ไม่อาจควบคุมตนได้…”...

...แต่แทนที่จะหนี ลูเซียกลับคุกเข่าลงข้างเขา ใช้มือแตะหน้าผากของชายหนุ่มอย่างแผ่วเบา เวทมนตร์แห่งการเยียวยาไหลซึมจากมือเธอเข้าไปในร่างกายของเขา...

...“เจ้าช่วยข้า… ทั้งที่รู้ว่าข้าเป็นใคร?” เขาถามเสียงแผ่ว ริมฝีปากซีดจางแต่ดวงตายังจ้องเธอไม่ลดละ...

...“ข้ารู้” ลูเซียตอบเบา ๆ แต่มั่นคง “แต่ข้าเห็นคนเจ็บ ต่อให้เป็นแวมไพร์ก็ไม่ควรปล่อยให้ตาย”...

...เขาเงียบไป ราวกับคำพูดของเธอจุดไฟเล็ก ๆ ในใจที่เคยมืดมิดมานาน...

...“ข้า… ชื่อเอรัน” เขากล่าวหลังจากนิ่งไปพักใหญ่ “และข้าเป็นแวมไพร์ที่ไม่เคยเชื่อว่ามนุษย์จะเมตตาได้... จนกระทั่งเจ้า”...

...ลูเซียหลุบตาลงเล็กน้อย มือของเธอยังแตะหน้าอกเขา รู้สึกถึงหัวใจที่เต้นช้าลงอย่างสงบ...

...“แล้วข้าจะเรียกเจ้าว่าอะไรดี แม่มดผู้เมตตา?”...

...เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขาอีกครั้ง แววตานั้นเต็มไปด้วยความลึกลับและเศร้าสร้อย...

...“ลูเซีย… แม่มดที่ถูกสาปให้ไม่อาจรักใครได้”...

บทที่ 2 – เงาอดีตในสายหมอก

...ภายในกระท่อมไม้กลางป่าที่ลูเซียใช้หลบซ่อนตัวมานานหลายปี แสงเทียนสั่นไหวอ่อนโยนบนผนังไม้เก่า ๆ กลิ่นสมุนไพรแห้งและกลีบลาเวนเดอร์อบอวลในอากาศ ลูเซียยืนพิงขอบหน้าต่าง มองออกไปยังแสงจันทร์นอกม่านหมอก...

...บนเตียงไม้ยาว เอรันยังคงหลับใหล การฟื้นตัวของแวมไพร์อาจเร็วกว่ามนุษย์นัก แต่รอยแผลที่ถูกอาวุธเงินแทงทะลุหัวไหล่ทำให้แม้แต่เผ่าพันธุ์อมตะก็ยังต้องพักฟื้น...

...“แวมไพร์…” ลูเซียพึมพำกับตัวเอง...

...ไม่ใช่เพียงเพราะความกลัวหรือความระแวง แต่เพราะอดีตของเธอเองก็ผูกพันกับเผ่าพันธุ์นี้ในแบบที่เจ็บปวดนัก… ครั้งหนึ่งในวัยเด็ก หมู่บ้านของเธอถูกกองทัพเงามืดบุกเข้ามา และในคืนนั้น—เธอเสียทั้งพ่อและแม่ไปให้กับเลือดและเขี้ยว...

...เธอรอดเพราะพลังเวทมนตร์ที่ปะทุขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทว่า…ในสายตาชาวบ้าน เธอกลับกลายเป็น “แม่มดปีศาจ” และตั้งแต่นั้นมา เธอก็ไม่เคยเชื่อใจสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าปีศาจอีกเลย...

...แล้วเหตุใดกัน… เธอถึงช่วยเขา?...

...เสียงขยับตัวเบา ๆ ทำให้เธอหลุดจากภวังค์ เอรันลืมตาช้า ๆ แววตาสีแดงเพลิงนั้นไม่ได้มีเพียงความหิวโหยอีกต่อไป แต่มีแววสงสัย… และบางอย่างที่เธอไม่เข้าใจ...

...“เจ้ามองข้าแบบนั้นทำไม?” ลูเซียถาม...

...“ข้าแค่ไม่เข้าใจ ว่าเจ้าจะเสี่ยงช่วยข้าทำไม ทั้งที่เผ่าพันธุ์ของข้าเคยทำลายทุกอย่างที่เจ้าเคยรัก”...

...ลูเซียนิ่งไปพักใหญ่ ก่อนจะพูดเบา ๆ ราวกับเสียงสายลม...

...“เพราะบางที… ข้าก็หวังว่า แวมไพร์ทุกตนจะไม่เหมือนพวกมันในวันนั้น”...

...เอรันยิ้มเจื่อน ๆ แวบหนึ่งในดวงตาเขาฉายแววเศร้าสร้อยอย่างที่ลูเซียไม่เคยคาดคิด เขาหลุบตาลงเหมือนกำลังหลบซ่อนบางอย่าง...

...“ไม่ใช่แวมไพร์ทุกตนหรอก ที่เลือกราชาเงามืด… ข้าก็เคยต่อต้าน”...

...คำพูดนั้นทำให้ลูเซียชะงัก “ต่อต้าน?”...

...“ข้าเคย… เป็นทหารของเผ่าเลือดบริสุทธิ์ ที่สาบานจะไม่แตะต้องเลือดมนุษย์ แต่เพราะข้าขัดคำสั่ง ข้าจึงถูกเนรเทศ ทิ้งไว้ในโลกที่พวกเจ้ากลัวเรา… และพวกข้าเองก็เกลียดเจ้าพอ ๆ กัน”...

...ลูเซียเงียบ เสียงลมหายใจของทั้งสองคนดังเพียงเบา ๆ...

...เขาต่อต้าน… ถูกเนรเทศ… และบาดเจ็บจากอาวุธเงิน ไม่ใช่เพราะเขาโจมตีใคร แต่เพราะเขา… ถูกล่า?...

...“แล้วใครทำให้เจ้าเจ็บ?” เธอถาม...

...เอรันเงยหน้าขึ้น ดวงตาเขาสะท้อนแสงเทียนเหมือนเปลวเพลิงกลางความมืด...

...“นักล่าเวทมนตร์… พวกเขาไม่แยกแม่มดจากปีศาจ… และก็ไม่แยกแวมไพร์จากสัตว์เดรัจฉาน”...

...ความเจ็บแค้นในน้ำเสียงเขาทำให้ลูเซียรู้สึกบางอย่างในใจสั่นไหว… เธอเองก็เกือบถูกเผาทั้งเป็นจากคนกลุ่มนั้นในอดีต เพราะเพียงแค่ “แตกต่าง”...

...“เจ้ารู้ไหม” เอรันพูดต่อ “ข้าช่วยเด็กมนุษย์คนหนึ่งจากกับดักในป่า แล้วคืนนี้… ข้าถูกล่าแทนของขวัญที่ข้าไม่ต้องการ”...

...เขาพูดติดตลก แต่รอยยิ้มกลับแฝงความขมขื่น...

...ลูเซียเดินเข้ามาใกล้กว่าเดิม ก่อนจะวางมือบนไหล่เขาเบา ๆ...

...“พวกเขาไม่รู้ว่าเจ้าคือใคร… และข้าเอง ก็เคยถูกเกลียด โดยไม่เคยมีใครถามข้าสักคำ”...

...ดวงตาของเอรันสบกับเธออีกครั้ง รอบนี้ไม่มีคำพูดใด ๆ เพียงความเงียบที่เชื่อมโยงความเจ็บในอดีตของทั้งสองคนเข้าไว้ด้วยกัน...

...“เจ้ากลัวข้าไหม?” เขาถามเบา ๆ...

...“กลัว” เธอยิ้มบาง ๆ “แต่กลัวใจตัวเองมากกว่า… ที่ไม่อาจห้ามไม่ให้เชื่อว่า เจ้ายังดีได้”...

บทที่ 3 – เลือดต้องห้าม

...เสียงฝีเท้าม้ากระทบพื้นเปียกชื้นของป่าหลังฝนหนักเมื่อกลางคืน สะท้อนก้องเบา ๆ ท่ามกลางม่านหมอกที่ยังไม่จางหาย กลิ่นเหล็กและควันไฟลอยเข้ามาก่อนที่ลูเซียจะรู้ตัวว่า… พวกมันมาแล้ว...

...นักล่าเวทมนตร์...

...เธอยืนอยู่ริมหน้าต่าง มือหนึ่งกำด้ามไม้เท้าเวทมนตร์แน่น ขณะที่อีกมือเอื้อมไปรั้งม่านออกอย่างระแวดระวัง เบื้องล่างเนินเขา ไม่ต่ำกว่าสิบชีวิตในชุดเกราะหนังดำ บางคนมีตราสัญลักษณ์รูปกงล้อไฟที่หน้าอก พวกนั้นคือหน่วยพิเศษ—นักล่าที่ถูกฝึกมาเพื่อล่าแม่มดและปีศาจโดยเฉพาะ...

...บนเตียง เอรันลืมตาขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงฝีเท้า สีหน้าของเขานิ่งเย็นแต่ดวงตาวาววับด้วยความตื่นตัว...

...“พวกมันตามกลิ่นข้ามา…” เขากระซิบ...

...“เจ้าอยู่นิ่ง ๆ” ลูเซียหันมา ดวงตาเธอเต็มไปด้วยประกายเวท “ข้ายังซ่อนไอเวทของเจ้าไว้ได้อยู่ แต่ไม่นาน”...

...“เจ้าจะสู้หรือหนี?” เอรันถาม...

...“ข้าไม่หนี” น้ำเสียงของเธอหนักแน่น “นี่คือบ้านของข้า และข้า… จะไม่ยอมให้ใครพรากมันไปอีก”...

...เอรันมองเธอ ราวกับเห็นภาพใครบางคนซ้อนทับอยู่ในร่างของเธอ—แม่มดผู้นั้น... หญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเคยช่วยเขาจากโซ่ตรวนในคุกใต้ดินของราชาเลือด เขาไม่เคยลืมแววตาเด็ดเดี่ยวแบบนี้ และครั้งนี้… เขาจะไม่ปล่อยให้เธอต้องสู้เพียงลำพัง...

...---...

...เสียงประตูไม้ถูกทุบอย่างแรงจนแผ่นไม้สั่นสะเทือน...

...“เราได้กลิ่นเลือดปีศาจในที่นี่ เปิดประตูซะ แม่มด!” เสียงตะโกนดังขึ้น...

...ลูเซียหลับตา สูดลมหายใจเฮือกใหญ่ พลังเวทสีเงินจาง ๆ ลอยขึ้นจากฝ่ามือ เมื่อเธอเปิดประตูออก กลุ่มนักล่าก็ชักอาวุธพร้อมเพรียง...

...“ไม่มีใครต้อนรับพวกเจ้าที่นี่” เธอกล่าว...

...ชายผู้สวมเกราะดำย่างเท้าก้าวออกมา เขาสูงและมีใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผลเก่า หนึ่งในนั้นลากผ่านตาขวาที่ปิดสนิท เขาแสยะยิ้มเย็น...

...“แม่มดลูเซีย... เจ้าหายตัวไปตั้งแต่ครั้งไฟลุกเผาหมู่บ้าน แต่เจ้าคงจำข้าไม่ได้” เขาขยับหมวกเหล็กขึ้น “ข้าคือน้องชายของผู้หญิงที่ตายเพราะคำสาปเจ้าวันนั้น!”...

...หัวใจลูเซียกระตุกวูบ… เธอจำไม่ได้จริง ๆ แต่ดวงตาของชายผู้นี้เต็มไปด้วยความแค้นรุนแรงอย่างไม่ต้องอธิบาย...

...“ข้ารักษาเธอ... ข้าพยายามจะช่วย แต่เวทข้าไม่พอ...” ลูเซียพึมพำ...

...“โกหก! พวกเจ้าทุกคนเป็นอสูร—ทั้งแม่มด ทั้งแวมไพร์!” เขาชี้ดาบไปยังห้องด้านใน...

...ในวินาทีนั้นเอง เอรันเดินออกมาอย่างเงียบเชียบ แสงจันทร์สะท้อนแววตาสีเลือดของเขา...

...เสียงร้องตะโกนดังขึ้นทันที “มันอยู่ที่นี่จริง ๆ!”...

...อาวุธเงินนับสิบพุ่งเข้าใส่ ลูเซียยกไม้เท้าขึ้น ปล่อยม่านเวทสีเงินพุ่งขึ้นเหมือนโล่ระหว่างพวกเขากับเหล่านักล่า พลังเวทกระแทกเข้ากับพลังสวรรค์ของอาวุธศักดิ์สิทธิ์จนเกิดประกายไฟกลางอากาศ...

...เอรันยืนอยู่ข้างเธอ ไม่พูดอะไร เขาเพียงจ้องหน้าชายผู้นำกลุ่มนั้น แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก...

...“มนุษย์... พวกเจ้าพูดถึงความยุติธรรมแต่ล่าเราเหมือนสัตว์ ข้าช่วยมนุษย์ แต่ถูกแทงหลัง ข้า... จะไม่หลบอีกแล้ว”...

...ทันใดนั้น ลำแสงสีดำแดงพุ่งจากฝ่ามือของเขา กระแทกใส่พื้นเบื้องหน้าเหล่านักล่าจนดินสั่นสะเทือน...

...ลูเซียเบิกตากว้าง “นั่นคือเวทต้องห้าม… เจ้าใช้มันไม่ได้!”...

...“ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าตายเพราะข้า…” เอรันพูดเบา ๆ “แม้ต้องแลกกับการกลายเป็นปีศาจจริง ๆ”...

...---...

...สงครามระหว่างเวทและเลือดเริ่มต้นขึ้นท่ามกลางสายหมอกที่หนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ลูเซียรู้… นี่คือทางแยกที่อาจเปลี่ยนทุกอย่าง...

...ความเข้าใจผิดระหว่างเผ่าพันธุ์ไม่ใช่เรื่องง่ายจะลบ แต่ท่ามกลางความเกลียดชัง—ก็มีหัวใจหนึ่งที่ยังพยายามปกป้องอีกหัวใจหนึ่ง...

...และบางครั้ง… ความรู้สึกแบบนั้นเอง อาจเปลี่ยนสิ่งที่ควรเป็นไปไม่ได้ ให้กลายเป็นจริงได้...

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!