— โลกที่อาเรียอยู่ —
ณ ปลายสุดของจักรวาลอันไร้ที่สิ้นสุด มีอาณาจักรที่มนุษย์ไม่อาจเอื้อมถึง สวรรค์แห่งดวงดารา ดินแดนอันลี้ลับที่ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังม่านแห่งแสงสว่าง ดวงดารานับล้านเปล่งประกายสุกสว่าง ล่องลอยอยู่เหนือสรรพสิ่ง เส้นทางแห่งโชคชะตาของทุกชีวิตถูกกำหนดขึ้นจากที่นี่
ที่ใจกลางของอาณาจักรอันเร้นลับนี้ คือ หอคอยแห่งฟากฟ้า สถานที่ที่เทพธิดาแห่งดวงดาวเฝ้ามองโลกเบื้องล่าง นางคือ อาเรีย เทพธิดาผู้ได้รับพรจากแสงแห่งดวงดาว เส้นผมสีเงินของนางเปล่งประกายราวกับเส้นไหมที่ทอขึ้นจากแสงจันทร์ ดวงตาสีน้ำเงินลึกล้ำราวกับห้วงจักรวาล และอาภรณ์สีขาวฟ้าของนางแต่งแต้มไปด้วยละอองดวงดาวที่ส่องประกาย
หน้าที่ของอาเรีย คือการเฝ้ามองโลกมนุษย์และโปรยประกายแห่งโชคชะตา นางสามารถรับรู้ถึงเสียงกระซิบของผู้คนบนโลก ไม่ว่าจะเป็นเสียงคำอธิษฐานของเด็กน้อยที่หวังให้พรุ่งนี้ดีกว่าวันนี้ เสียงสะอื้นของหญิงสาวที่ต้องพลัดพรากจากคนรัก หรือแม้แต่เสียงของชายผู้หนึ่งที่เฝ้ามองท้องฟ้าโดยไร้ซึ่งความหวัง
อาเรียแตกต่างจากเทพองค์อื่น นางมิใช่เทพที่เพียงเฝ้าดูโดยไร้อารมณ์ นางรู้สึกถึงความเศร้า ความสุข ความหวัง และความสิ้นหวังของมนุษย์ นางรู้ดีว่าเหล่ามนุษย์นั้นเปราะบาง แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขางดงาม
คืนแล้วคืนเล่า นางเฝ้ามองโลกมนุษย์จากเบื้องบน ทอดสายตามองเมืองที่เต็มไปด้วยแสงไฟ เสียงหัวเราะ เสียงร้องไห้ และชีวิตที่ดำเนินไปโดยไม่เคยหยุดนิ่ง นางเคยสงสัย...
"หากดวงดาวสามารถลงไปอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้ โลกจะเป็นเช่นไร?"
เหล่าเทพองค์อื่นกล่าวว่า นางกำลังหมกมุ่นกับโลกมนุษย์มากเกินไป เทพและมนุษย์นั้นเป็นดั่งเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบกัน แต่ทุกครั้งที่อาเรียเห็นมนุษย์เฝ้ามองท้องฟ้า ทุกครั้งที่นางได้ยินเสียงคำอธิษฐาน นางกลับรู้สึกว่าหัวใจของนางถูกดึงดูดเข้าไปใกล้พวกเขามากขึ้น... มากขึ้น...
---
คืนหนึ่ง ดวงดาวเปล่งประกายผิดปกติ
ค่ำคืนนี้... ไม่เหมือนคืนอื่นๆ บนสวรรค์ ทุกสิ่งเงียบสงัด ลมไม่พัดผ่าน และเหล่าดวงดาวดูราวกับกำลังเต้นรำอย่างผิดจังหวะ
อาเรียยืนอยู่บนแท่นสูงสุดของหอคอยแห่งฟากฟ้า นางเงยหน้ามองขึ้นไปยังท้องฟ้า อากาศรอบตัวเริ่มเย็นเยียบผิดปกติ
“ทำไมคืนนี้... ดวงดาวถึงส่องสว่างเช่นนี้?”
ทันใดนั้น—เสียงกระซิบอันแผ่วเบาดังก้องขึ้นในจิตใจของนาง
"ถึงเวลาแล้ว..."
"ถึงเวลาที่เจ้าจะต้องเลือกเส้นทางของตนเอง..."
อาเรียเบิกตากว้าง ก่อนที่ทุกสิ่งรอบตัวจะเปลี่ยนไป ลมแรงพัดโหมกระหน่ำ ม่านแสงบนสวรรค์ฉีกขาดออก และแรงดึงดูดบางอย่างก็พุ่งเข้าหานาง
"อะไรกัน—!?"
แรงมหาศาลกระชากร่างของอาเรียให้หลุดจากพื้น เทพธิดาผู้สูงส่งร่วงหล่นลงจากบัลลังก์แห่งดวงดาว ร่างของนางกลายเป็นละอองแสงระยิบระยับ และถูกดูดลงไปยังโลกมนุษย์
---
กลางท้องฟ้ายามค่ำคืน...
แสงดาวหนึ่งร่วงหล่นจากฟากฟ้า ทิ้งประกายสีเงินเป็นทางยาวไปทั่วท้องฟ้า ดวงดาวนั้น... สว่างกว่าดาวตกใดๆ ที่เคยมีมาก่อน
มนุษย์มากมายเฝ้ามองขึ้นไป บางคนอธิษฐาน บางคนตกตะลึงกับความงดงามของมัน
แต่มีเพียงคนเดียวที่ไม่อธิษฐาน ไม่แสดงความตื่นเต้น—
ชายหนุ่มผู้หนึ่ง ยืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟของเมืองใหญ่ เขาเงยหน้าขึ้นมองแสงดาวนั้นด้วยสายตาเรียบเฉย
"หืม... ดาวตกงั้นเหรอ?"
เขาไม่รู้เลยว่า... ดาวตกที่เขาเห็นในคืนนี้ จะเปลี่ยนโชคชะตาของเขาไปตลอดกาล
---
และนี่คือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง...
"ตูม!!!"
เสียงกระแทกดังสนั่นกลางป่าลึก ผืนดินสะเทือนเลื่อนลั่น นกที่เกาะอยู่บนกิ่งไม้พากันบินหนีไปด้วยความแตกตื่น ท่ามกลางกลุ่มควันและละอองแสงที่ลอยอ้อยอิ่งในอากาศ มีร่างหนึ่งนอนอยู่กลางแอ่งดินที่พังทลาย
ร่างของหญิงสาวในอาภรณ์สีขาวฟ้า เส้นผมยาวสีเงินเรืองรองเปล่งประกายราวกับหมู่ดาว สะท้อนแสงจันทร์ที่ส่องลงมาจากเบื้องบน
อาเรียลืมตาขึ้น ดวงตาสีฟ้าของนางสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนจะรู้สึกถึงความหนักอึ้งของร่างกาย ความรู้สึกนี้... ไม่เหมือนบนสวรรค์
"ที่นี่... โลกมนุษย์งั้นเหรอ?"
ลมเย็นพัดผ่านพงหญ้าเสียงซ่าๆ อาเรียยันตัวขึ้นจากพื้นอย่างเชื่องช้า ดวงดาวบนอาภรณ์ของนางยังคงเปล่งประกายระยิบระยับ แต่พลังของนาง... อ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด
"ข้า... ถูกส่งมาที่นี่จริงๆ สินะ"
แม้นางจะยังไม่เข้าใจเหตุผล แต่สิ่งเดียวที่แน่นอนในตอนนี้คือ—นางตกลงมายังโลกมนุษย์แล้ว และไม่อาจย้อนกลับไปได้
---
อีกด้านหนึ่งของเมือง...
กลางคืนอันเงียบสงบถูกแทรกด้วยเสียงฝีเท้าบนถนนหิน ชายหนุ่มร่างสูงในชุดเสื้อคลุมสีดำเดินทอดน่องอย่างไร้จุดหมาย ท่ามกลางแสงไฟจากโคมถนนที่ส่องแสงริบหรี่ สายลมเย็นพัดโชย ทำให้เส้นผมสีดำของเขาปลิวไหว
"ดาวตกงั้นเหรอ?"
เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ภาพของแสงสีเงินที่ลากยาวไปทั่วฟ้าสะท้อนในดวงตาของเขา ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย
"ก็คงแค่ปรากฏการณ์ธรรมชาติ..."
เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะหมุนตัวกลับเพื่อเดินไปยังอพาร์ตเมนต์ที่อยู่ไม่ไกล
ชายหนุ่มผู้นี้คือ คิริว นักเขียนหนุ่มผู้ใช้ชีวิตโดดเดี่ยว แม้เขาจะเคยมีชื่อเสียงจากผลงานวรรณกรรมที่งดงาม แต่เวลานี้แรงบันดาลใจของเขาได้เหือดหายไปนานแล้ว
"เรื่องปาฏิหาริย์อะไรนั่น... ไม่มีจริงหรอก"
เขาคิดเช่นนั้นมาโดยตลอด
---
กลางป่าลึก
อาเรียพยายามก้าวเดินไปข้างหน้า ร่างกายของนางเบากว่ามนุษย์ทั่วไปเล็กน้อย แต่ตอนนี้ขาของนางกลับรู้สึกหนักผิดปกติ สายตากวาดมองไปรอบๆ
"โลกมนุษย์... ดูใกล้ชิดกว่าที่ข้าคิด"
บนสวรรค์ นางเคยเห็นโลกใบนี้จากที่สูงเสมอ แต่ตอนนี้ เมื่อได้สัมผัสพื้นดินจริงๆ ทุกสิ่งกลับดูแตกต่าง
"แล้วข้าควรทำอย่างไรต่อไป?"
เสียงของสัตว์ป่าดังขึ้นไม่ไกลจากที่นางยืนอยู่ ลมพัดยอดไม้สั่นไหวเป็นจังหวะ นางไม่รู้จักโลกมนุษย์ดีพอ และตอนนี้ก็ไม่มีพลังมากพอจะเรียกคืนพลังแห่งดวงดาว
ทันใดนั้น—
เสียงฝีเท้าของใครบางคนดังขึ้น!
อาเรียสะดุ้ง เงยหน้าขึ้นมองไปยังทิศทางของเสียง ก่อนจะเห็นเงาของชายหนุ่มคนหนึ่งเดินตรงมา
"มนุษย์?"
---
คิริวหยุดเดินทันทีเมื่อเห็นเงาของใครบางคนยืนอยู่กลางป่า
"ใครน่ะ?"
เสียงของเขาทุ้มต่ำและเต็มไปด้วยความระแวดระวัง แสงจันทร์ส่องให้เห็นร่างของหญิงสาวในชุดสีขาวฟ้า เส้นผมสีเงินยาวปลิวไหวตามสายลม ดวงตาสีฟ้าของนางเป็นประกายระยิบระยับอย่างประหลาด
"...สวย"
เขาเผลอคิดขึ้นมาในเสี้ยววินาที แต่ก็รีบสะบัดความคิดนั้นทิ้งไป
"เธอเป็นใคร?"
หญิงสาวตรงหน้ามองเขาด้วยสายตาสงบนิ่ง ก่อนจะเอียงศีรษะเล็กน้อย ราวกับกำลังประมวลผลคำถาม
"ข้า..." นางเอ่ยเสียงเบา "ข้าคือ... อาเรีย"
คิริวมองนางด้วยความสงสัย
"แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่? กลางป่ามืดๆ แบบนี้..."
อาเรียนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบอย่างจริงจัง
"ข้าตกลงมาจากฟากฟ้า"
"...หะ?"
"ข้าคือเทพธิดาแห่งดวงดาว ถูกส่งมายังโลกมนุษย์"
คิริวขมวดคิ้ว มือข้างหนึ่งยกขึ้นกอดอก
"คนบ้าเร่ร่อนงั้นเหรอ?"
เขากวาดตามองนางอีกครั้ง อาภรณ์สีขาวฟ้าที่นางสวมดูหรูหราเกินกว่าที่ใครจะหาได้ง่ายๆ บนโลกนี้ ผมสีเงินก็ดูเหมือนจะเปล่งประกายเล็กน้อย และดวงตาสีฟ้านั่น...
ไม่ว่าเขาจะจินตนาการอย่างไร มันก็ดูไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไปเลย
"...เธอพูดจริง?"
อาเรียพยักหน้า ดวงตาของนางสะท้อนแสงจันทร์อย่างสวยงาม
"แล้วเธอจะให้ฉันเชื่อยังไง?"
"ข้าจะพิสูจน์ให้ดู"
พูดจบ อาเรียก็ยกมือขึ้น ละอองแสงสีเงินค่อยๆ ก่อตัวขึ้นรอบปลายนิ้วของนาง แสงเหล่านั้นลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนจะกลายเป็นดาวเล็กๆ ที่เปล่งประกายกลางอากาศ
คิริวเบิกตากว้าง
"นี่มัน..."
นี่ไม่ใช่ภาพลวงตา ไม่ใช่กลลวง และไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์สามารถทำได้
"เห็นหรือยัง?" อาเรียเอียงศีรษะ "ข้าพูดจริง"
คิริวเงียบไปอึดใจใหญ่ เขาไม่ได้เป็นคนเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติได้ง่ายๆ แต่สิ่งที่เห็นกับตาตอนนี้... มันทำให้เขาสงสัย
เขาเม้มปากแน่น ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมา
"...เฮ้อ ให้ตายสิ"
เขาไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร หรือมาจากที่ไหน แต่ตอนนี้... เขาคงต้องพาหญิงสาวแปลกหน้าคนนี้ไปจากป่าก่อน
"เอาเถอะ ฉันไม่มีเวลามาถามอะไรตอนนี้หรอก"
คิริวยื่นมือไปหาอาเรีย
"มานี่ ฉันจะพาเธอออกจากป่า"
อาเรียกระพริบตา ก่อนจะมองมือของเขา เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ วางมือลงบนฝ่ามือของเขา
แสงดาวยังคงระยิบระยับอยู่รอบตัวเธอ...
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของโชคชะตาที่ไม่อาจหวนกลับ...
กลางดึกในเมืองเงียบสงบ คิริวเดินกลับมาที่อพาร์ตเมนต์ของเขาพร้อมกับ หญิงสาวแปลกหน้า ที่อ้างตัวว่าเป็น เทพธิดาแห่งดวงดาว
— "ฉันพาเธอมาที่นี่เพราะช่วยไม่ได้ แต่แค่คืนนี้เท่านั้น"
เขาเตือนตัวเองแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมา
คิริวเป็นคนไม่ชอบความวุ่นวาย และไม่เคยคิดจะยุ่งเกี่ยวกับใคร นับตั้งแต่ที่เขาใช้ชีวิตโดดเดี่ยวมาหลายปี เขาเคยช่วยแมวจรจัด แต่ไม่เคยช่วย ผู้หญิงแปลกหน้าในป่าลึก แบบนี้มาก่อน
และเธอ... ก็ดูไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไปเลยสักนิด
---
ภายในอพาร์ตเมนต์ของคิริว
คิริวอาศัยอยู่ในห้องเล็กๆ ขนาดพอดีตัว มีโต๊ะทำงานที่วางกองหนังสือและต้นฉบับที่ยังไม่เสร็จ ฝุ่นจับเล็กน้อย บ่งบอกว่าเจ้าของแทบไม่ได้แตะมันมานานแล้ว
อาเรียเดินเข้ามาในห้อง ดวงตาสีฟ้าของเธอกวาดมองไปรอบๆ อย่างสนอกสนใจ
"มนุษย์ใช้ชีวิตกันแบบนี้เองหรือ..."
เธอเดินเข้าไปใกล้หน้าต่าง ยกมือขึ้นสัมผัสกระจก มองออกไปยังเมืองที่เต็มไปด้วยแสงไฟ
"โลกของมนุษย์... สวยกว่าที่คิด"
"เธอจะนอนตรงไหนก็เลือกเอา แต่ช่วยอย่าทำอะไรแปลกๆ" คิริวพูดเสียงห้วน พลางเดินไปหยิบผ้าห่มมาวางบนโซฟา
อาเรียหันกลับมาแล้วกะพริบตา "เจ้าจะให้ข้านอนที่นี่หรือ?"
"แล้วเธอจะไปไหนได้อีกล่ะ?"
อาเรียนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเผยรอยยิ้มบางๆ "ขอบใจเจ้ามาก"
เธอเดินไปนั่งบนโซฟา ท่าทางผ่อนคลายราวกับที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง
คิริวขมวดคิ้ว มองเธอด้วยความรู้สึกแปลกๆ
"ทำไมเธอดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย?"
— ผู้หญิงคนนี้น่าสงสัยเกินไป
---
กลางดึก คิริวนอนไม่หลับ
เขาพลิกตัวไปมา ก่อนจะเหลือบมองไปที่โซฟา หญิงสาวคนนั้นยังคงนั่งอยู่ที่เดิม แสงจันทร์ส่องกระทบใบหน้าของเธอ ทำให้เธอดูราวกับเป็นภาพวาดจากเทพนิยาย
คิริวลอบถอนหายใจ
"ฉันคงฝันไปจริงๆ"
เขาคิดแบบนั้น ก่อนจะหลับตาลง พยายามไม่นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้
---
เช้าวันรุ่งขึ้น
แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่าง คิริวลุกขึ้นมาขยี้ตา พลางบิดขี้เกียจ
— เมื่อคืนเป็นแค่ความฝันหรือเปล่า?
แต่เมื่อเขาหันไปมองโซฟา หญิงสาวคนนั้นก็ยังอยู่ที่เดิม กำลังจ้องมาที่เขาด้วยดวงตาสีฟ้าเป็นประกาย
คิริวสะดุ้งเล็กน้อย "เธอยังอยู่ที่นี่จริงๆ เหรอ?"
"แน่นอน ข้าไม่มีที่ไป" อาเรียตอบกลับอย่างไร้เดียงสา
"..."
คิริวถอนหายใจหนักๆ เขายังคิดไม่ออกว่าควรจะจัดการเรื่องนี้ยังไงดี
"เธอจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ตลอดไปนะ"
"ข้าจะอยู่จนกว่าจะหาทางกลับไปได้"
"แล้วมันต้องใช้เวลานานแค่ไหน?"
อาเรียเงียบไป ก่อนจะพูดเบาๆ "ข้าเองก็ไม่รู้..."
คิริวพ่นลมหายใจแรงกว่าเดิม "ให้ตายสิ!"
— นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!
เขาไม่อยากมีปัญหา แต่ตอนนี้ปัญหา เดินเข้ามาในบ้านของเขาเอง
---
อาเรียสำรวจโลกของมนุษย์
หลังจากเถียงกันเล็กน้อย คิริวก็ตัดสินใจออกไปข้างนอกเพราะมีงานต้องทำ อาเรียตื่นเต้นกับทุกสิ่งรอบตัว เธอมองถนน มองตึก มองร้านค้าอย่างสนอกสนใจ
"เจ้าบอกว่าโลกมนุษย์ไม่มีปาฏิหาริย์ แต่ดูสิ ทุกอย่างมีชีวิตชีวา"
คิริวถอนหายใจ "นั่นไม่เรียกว่าปาฏิหาริย์ มันคือความเป็นจริง"
อาเรียหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันไปสนใจเด็กน้อยที่กำลังเล่นฟองสบู่ข้างทาง ดวงตาของเธอเปล่งประกายเมื่อเห็นฟองสบู่ลอยขึ้นไปบนฟ้า
"สวยจัง"
คิริวเหลือบมองเธอเล็กน้อย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงตื่นเต้นกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
---
ขณะที่ทั้งสองเดินอยู่ จู่ๆ อาเรียก็รู้สึกว่าพลังของเธอกำลังลดลง ดวงตาของเธอพร่าเลือน ขาเริ่มอ่อนแรง
"พลังของข้ากำลัง... หายไป?"
เธอหยุดเดินกะทันหัน
"เป็นอะไรไป?" คิริวหันมามองด้วยความเป็นห่วง
อาเรียเม้มปากแน่น ก่อนจะยิ้มกลบเกลื่อน "ข้าแค่เหนื่อยนิดหน่อย"
แต่คิริวสังเกตเห็นว่าใบหน้าของเธอซีดลงเล็กน้อย
เขาขมวดคิ้ว "เธอไม่ไหวก็บอกมาเถอะ"
อาเรียลังเล ก่อนจะพยักหน้า "ข้าคงต้องพักสักหน่อย..."
คิริวพยักหน้าก่อนจะพาเธอไปนั่งที่ม้านั่งในสวนใกล้ๆ
---
"ดูเหมือนเธอจะอยู่ในโลกนี้ได้นานไม่มากนัก"
"ข้าก็พอจะเดาได้"
อาเรียมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลง เธอเริ่มเข้าใจแล้วว่าร่างกายของเธอกำลัง อ่อนแอลง เมื่ออยู่ในโลกมนุษย์นานเกินไป
คิริวถอนหายใจ "เธอต้องหาทางกลับไปให้เร็วที่สุด"
"ข้า... คงต้องหาทางให้ได้เร็วๆ นี้"
แต่ในใจลึกๆ อาเรียรู้ดีว่า—
"ข้าไม่อยากกลับไป..."
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!