บทที่ 1 - ตีสองเป็นมนุษย์ดวงซวย
ผมผู้โชคร้าย
อีกไม่กี่นาทีหลังจากนี้ ผมก็จะได้เป็นเจ้าบ่าวแต่งงานกับหญิงสาวผู้เป็นสุดที่รักแล้ว
แต่ความตายก็ไม่เคยรอใคร
เอี๊ยดดดด!
รถบรรทุกขนาดใหญ่เบรคกระทันหัน เสียงดังสนั่นหวั่นไหว รอยล้อลากเป็นทางยาว บ่งบอกถึงการเบรคครั้งใหญ่ แต่เหมือนการเบรคครั้งนี้จะไม่ช่วยอะไรเลย เพราะร่างของชายหนุ่มอายุยี่สิบต้น ๆ ในชุดเจ้าบ่าวสีขาว ถูกชนกระเด็นไปไกลหลายสิบเมตร
ห่างออกไปอีกฟากของถนน มีหญิงสาวในชุดกระโปรงลูกไม้ยาวสีขาวยืนอยู่ เธอมองเห็นทุกอย่าง และยังคงช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะส่งเสียงกรีดร้อง น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้างก่อนจะทรุดลงพื้นและสลบไปในที่สุด
.
.
.
.
สิบนาทีก่อนหน้า
"อ๊ะ สอง เราลืมมือถือไว้ฝั่งนู้นน่ะ ขอไปหยิบก่อนนะ" หญิงสาวในชุดแต่งงานสีขาวพูดบอกแฟนหนุ่มที่ไม่อีกกี่ชั่วโมงก็จะกลายเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายและประเพณี ตรงม้านั่งฝั่งตรงข้ามมีมือถือที่เธอว่าวางอยู่
"ไม่ต้องเมล์ เดี๋ยวเราไปเอามาให้เอง" ผมว่า ก่อนจะดึงเมล์กลับมายืนที่เดิม วันนี้เธออยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาว กระโปรงลูกยาวทำให้เธอเดินไม่ค่อยถนัด ผมเลยอาสาเอาให้เอง
อีกอย่างวันนี้เธอสวยที่สุด จะให้เดินไปเดินมาก็ยังไงอยู่
"เดินระวังรถนะ ข้ามถนนมันอันตราย แถวนี้รถบรรทุกขับเร็วจริง ๆ " อย่างที่เมล์ว่า ทางนี้เป็นทางส่งของ บางทีทางโล่งรถบรรทุกเลยขับกันไม่เกรงใจใคร แถมอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นบ่อยตรงโค้งตรงนี้
"ครับ เมล์เข้าไปรอในงานก่อนเลยก็ได้นะ"
"ไม่เป็นไร เมล์รอนี่ดีกว่า"
"โอเค งั้น ‘รอ’ สองแปปนึงนะ"
ผมพูดออกไปโดยไม่คิดอะไร แต่ใครจะไปรู้ว่านั่นจะเป็นประโยคสุดท้ายที่ผมจะได้พูดกับเมล์
หญิงสาวพยักหน้าให้เป็นเชิงตอบรับ ในใจสั่นไหวแปลก ๆ แต่ก็ยิ้มให้กับอีกคน
วันนี้เป็นวันแต่งงานของเรา ขออย่าให้เกิดเรื่องไม่ดีเลยนะ..
..หญิงสาวคิดในใจ
แต่ไม่ทันที่คำขอจะส่งไปถึงสวรรค์ รถบรรทุกขนาดใหญ่ก็ประสานงานเข้ากับร่างของชายหนุ่มเข้าอย่างจัง จนร่างนั้นกระเด็นออกไปไกล
ร่างของชายหนุ่มนั้นอาบไปด้วยโลหิตสีแดงสด ทำให้ชุดแต่งงานสีขาวอาบย้อมไปด้วยเลือด ทุกเหตุการณ์สะท้อนอยู่ในดวงตาของเมล์ ความตกใจและตื่นตระหนกแล่นลิ้วเข้าสู่ในอกจนหัวใจดวงน้อยๆ แทบหยุดเต้น
เธอยังช็อคกับภาพตรงหน้าและร้องไห้อยู่ตรงนั้นจนหมดสติไป
/
"ตื่นได้แล้ว"
เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางความมืด ผมพยุงร่างแสนระบมของตัวเองขึ้นช้า ๆ แต่ดูเหมือนจะขึ้นมาแค่วิญญาณ เพราะร่างของผมยังคงแน่นิ่งอยู่ในหลุมศพ
อ่า ทำไมแม่กับพ่อถึงไม่เผาผมนะ
แล้วนั่น ใครวะ?
คงไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ เพราะไม่มีมนุษย์ที่ไหนถือเคียวเดินไปเดินมาในสุสานร้างแบบนี้หรอกนอกเสียจากว่า คนตรงหร้าไม่ใช่คน..
"ยะ ยมทูตหรอ!"
"อืม" เอ่ยตอบเสียงราบเรียบ
แบบนี้ก็แปลว่าผมตายอย่างสมบูรณ์แล้วงั้นสินะ .. ตอนแรกก็คิดว่าวิญญาณอาจจะแค่ออกจากร่าง แล้วสามารถกลับเข้าไปใหม่เหมือนในละครที่เคยดู
ในใจผมวูบโหวงและหน่วงไปหมด
"งั้นคุณก็ต้องพาผมไปลงนรกใช่มั้ย.." ไม่แน่ว่าอาจจะต้องลงกระทะทองด้วย ข้อหานินทาครูเวลาเรียน โดยเฉพาะอาจารย์สมศักดิ์จอมโหดนี่ด้วย ผมนินทากับเพื่อนไม่เว้นแต่ละวัน
ชั่วชีวิตทำบาปมาก็เยอะ คงไม่ได้ขึ้นสวรรค์แล้วแน่ ๆ แหละ
"ต้องสำเร็จโทษก่อน ตามมา"
แล้วผมก็เดินตามเขามาอย่างว่าง่าย คือยังไงอะ ผมก็ตายไปแล้วถึงจะมีห่วงมากมายก็เถอะ แต่ถึงผมฝืนอยู่ไปก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นมา สู้ไปเกิดไม่ดีกว่าหรอ
เดินไปสักพักผมถึงสังเกตได้ว่าที่ที่ผมอยู่ไม่ใช่หลุมศพ แต่เป็นหน้าผาที่มีหมอกสีขาวปกคลุมทั่ว ความเย็นโดยรอบทำผมสั่นเล็กน้อย
ตรงหน้ามีวงล้อขนาดใหญ่และผู้ชายในชุดสีดำสองคนยืนขนาบ อะไร วงล้อมหาสนุกเหรอ?
"นั่นคือ'วงล้อโชคชะตา' " อะ อ้าว "น้อยคนนักที่จะมีโอกาสได้หมุน และหนึ่งในผู้โชคดีมีชื่อเจ้า"
ห้ะ อะไรยังไงนะ
"ในยมโลกมีคนบาปมากมายยั้วเยี้ยเต็มไปหมด ท่านท้าวยมราชจึงตรัสสั่งให้สร้างสิ่งนี้ขึ้นมา เพื่อช่วยให้ผู้ที่มีบาปและบุญเท่ากันสามารถมีชีวิตใหม่"
"คือผมไม่เข้าใจ.."
"เฮ้อ เจ้าไม่อยากตายใช่มั้ยล่ะ"
"ครับ"
"วงล้อนี้จะทำให้เจ้ามีชีวิตอีกครั้ง"
"จะ จริงหรอครับ! " ผมถามเสียงดัง ปกปิดความดีใจไม่มิด
"อืม งั้นจงหมุนซะ"
ผมมองวงล้อมหึมาตรงหน้า ไล่อ่านทีละตัวอักษรก็ต้องขมวดคิ้วเป็นปม ทำไมมีแต่ชื่อสัตว์
"หากชักช้าข้าจะไม่ให้เจ้า.."
แกร๊ก ๆ ๆ
นาทีที่ได้ยินคำว่าไม่ มือไม่รักดีก็หมุนวงล้อนั่นเองตามอัตโนมัติ เข็มสีเงินหยุดอยู่ตรงแถมสีทอง ที่มีคำว่า 'แมว' เขียนอยู่
อ่า อย่าบอกนะ ..
"อะแฮ่ม ท่านท้าวท่านทรงนิยมชมชอบของคิ้วทึ เลยมีแต่สัตว์คิ้วท์ ๆ ที่อยู่บนนั้น และเจ้าได้แรร์"
"..." เป็นใบ้ชั่วขณะ
"เอาล่ะ ไป ๆ ไปเกิดได้แล้ว อ้อ อย่าลืมนะว่าจงท่องคำขอของตนเองใว้ในใจให้มั่น แล้วสิ่งนั้นจักเป็นจริง แต่ขอได้ข้อเดียวนะ"
ผลัวะ!
จ๊ากกกกกกก!
ผมตกใจร้องจ๊ากเมื่ออยู่ดี ๆ พี่ยมก็ถีบผมลงหน้าผา ย้ำนะครับ ว่าถีบ! โอ้เเม่เจ้าว้อย ผมจะตายอีกรอบเหรอเนี่ย!
เพิ่งตายมาหยก ๆ เองนะไอ้ตีส๊อง!
Tbc.
#แมวผมชื่อตีสอง
ฝากติดตามด้วยนะคะ มิ้วๆ (●´∀`●)
บทที่ 2 ตีสองเป็นแมวจริงๆไม่ใช่ของจีนแดง
"แง๊ว"
ผมชะงักกึก หยุดการกระทำโดยสัญชาตญาณของตัวเองหลังตื่นนอน ชักมือ(ขาหน้า)ที่กำลังยืดออกกลับมาที่เดิม พยายามไม่ส่ายหางฟู ๆ ด้านหลัง ซึ่งควบคุมยากมาก ๆ
แต่แม่ง เสียงผมกลายเป็นเสียงแมวไปแล้วอะ (ಥ_ಥ)
ฮือ เสียงเท่ๆ ของสอง
"เมี๊ยว" ผมยกมือซึ่งตอนนี้กล่ยเป็นขาหน้าขึ้นปิดปากในแบบที่แมวไม่ทำ
ผมสะบัดหัวเรียกสติ พยายามนึกถึงตอนเป็นคนจะได้ไม่ถูกจิตวิญญาณแมวเข้าครอบงำ
หายใจเข้า..ตีสองเป็นคน
หายใจออก..ไม่ใช่แมว
"หืม ตื่นแล้วหรอ" น้ำเสียงงัวเงียดังใกล้หู ผมสะดุ้งสุดตัว "ตัวเล็กของเฮียเพลิง"
ผมพยายามหันหาเจ้าของเสียงแต่หาไม่เจอ หมุนสามร้อยแปดสิบองศาก็ไม่เจอ!
ระ หรือว่าจะเป็นผี
แม่! สองโดนผีอำ
"ฟ่อ.." แยกเขี้ยวขู่ไว้ก่อนเพื่อป้องกันตัว นี่ถ้ามีพระอยู่ใกล้ๆ ผมคงยกขึ้นมากอดไว้แนบอก
คราวนี้เสียงทุ้มต่ำหัวเราะในลำคอ มือหนาสองข้างยกขึ้นมาลูบเบาๆ บนหัวผม ไล่ลงหลังจนขนลุกซู่
"หาเฮียอยู่หรอ"
"..!"
ใบหน้าคมคายฉายชัดอยู่เต็มสองตา เพราะเจ้าของเสียงอุ้มผมขึ้นแล้วหันมาทางเขา ถึงว่าทำไมมองไม่เห็นแต่ได้ยินเสียงชัดแจ๋ว
เพราะผมนอนเอาไข่พาดหน้าเขาอยู่ไง!
ตุบ!
เพราะความตกใจหรืออะไรไม่รู้ ผมถึงตัดสินใจกระโดดออกจากการจับกุมและหล่นตุบลงบนเตียงนุ่ม ๆ ..ถุ้ย! เตียงพ่อมึงแข็งขนาดนี้หรอ! ปูนชัด ๆ!
"อ่า ตัวเล็กของเฮียซนอีกแล้ว" ว่าพลางจับผมเข้าไปกอด ปลอบประโลม และหอมเสียงดังฟอด ผมพยายามขัดขืน กางกงเล็บเตรียมฟาดไอ้หน้าหล่อแต่โดนตะคลุมมือเอาไว้ก่อน
ผมมองคนที่เอาเปรียบสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆ อย่างผมด้วยความคับแค้นใจ อย่าให้ถึงตาไอ้สองละกัน!
แล้วนั่นอะไรอีก จับผมไปลูบ ๆ คลำ ๆ ไม่พอ ยังเอาเสื้อผ้าสีชมพูหวานแหวนมาใส่ให้อีก!
บัดซบ! นี่มันรู้มั้ยว่าผมเป็นตัวผู้?
ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของผมโดนขยี้ป่นปี้ไม่เหลือซาก ..
"แง๊ว.." ผมทิ้งตัวลงตรงมุมห้อง มีซาวด์เอฟเฟ็กต์เป็นก้อนเมฆสีดำก้อนใหญ่เหนือหัวพร้อมด้วยสายฝนและสายฟ้าที่ฟาดลงมากลางใจดวงน้อยๆ ..
"ตัวเล็กของเฮียเป็นอะไรไป" ผมตวัดตามองอย่างเดือดดาล
นี่เอ็งยังไม่รู้ตัวอีกหรอว่าทำอะไรลงไป!
"ฟ่อ!"
"อ่อ สงสัยจะหิว"
"..."
หิวพ่อง!
(ต่อ)
เอ่อ ถ้าผมไม่กินจะดูน่าสงสัยมั้ยอะ
คือแบบ อาหารแมวมันก็น่ากินนะ หอมฉุยเลยแหละ ตะ ตะ แต่ ศักดิ์ศรีความเป็นคนของผมล่ะ! จะโดนย่ำยีเหมือศักดิ์ศรีลูกผู้ชายไม่ได้นะ!
ไม่ได้ เด็ด ขาด!
โครกกกก
"..." แมวที่ทนงในศักดิ์ศรี
"..?" มนุษย์โรคจิตที่กำลังเก็บภาพแมวกิน เพื่อสะสมลงคอลเลคชัน "หิวก็กินสิครับ ตัวเล็กของเฮียไม่อ้วนหรอก"
"เมี๊ยว!" ตูไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้นว้อย!
"แต่ถึงตัวเล็กของเฮียเพลิงจะอ้วน เฮียก็จะรักตัวเล็กจนหมดหัวใจเหมือนเดิม"
หมับ
คือมึงพูดเฉย ๆ ก็ได้ไง ไม่ต้องคว้ากูไปกอดไปหอมก็ได้มั้ย!
มันรู้สึกแปลกๆ!
"..."
และทั้งหมดก็จบลงที่ผมทนความหิวไม่ไหวเลยสวาปามอาหารแมวหมดเกลี้ยงชาม(แถมขอเพิ่มอีกถ้วย) และเจ้าของผู้เป็นทาสแมวก็ได้รูปแมวกินอาหารลงคอลเลคชันสมใจ
นาทีนั้นผมหิวจนแสบท้อง แถมอาหารตรงหน้าก็ยั่วยวน ผมจึงโยนศักดิ์ศรีที่คารพรักทิ้ง!
เพราะศักดิ์ศรีมันแดกไม่ได้!
แต่อาหารแมวมันแดกได้!
และท้ายที่สุดก็ต้องมานั่งจุมปุก ไว้อาลัยให้กับศักดิ์ศรีและอารมณ์ชั่ววูบของตัวเอง ..
อาเมน ;-;
หลังจากนอนอืดอยู่พักใหญ่ เจ้าของที่ชื่อเฮียอะไรสักอย่างที่ผมก็ลืมไปแล้วก็พาผมมาเดินที่สวนสาธารณะ ก่อนที่เจ้าตัวจะล่ามผมไว้ใกล้ ๆ และเข้าไปซื้อของในซุปเปอร์มาเก็ต
เออ ก็เข้าใจแหละว่าจะมาซื้อของ
แต่พาตูมาทั้งที่รู้ว่าเขาห้ามเอาสัตว์เข้าเพื่อ?
ว้อท!?
ผมนั่งบนพื้นอย่างหัวเสีย ถ้าใครขโมยผมไปคงไม่มีใครรู้หรอก เจ้าของสะเพร่าซะขนาดนี้ ได้แต่นึกสงสัยว่าแม่งมันเจ้าของผมจริงปะเนี่ย
ไม่ได้ไปขโมยแมวใครมาเลี้ยงหรอกใช่มั้ย?
กึก
"หืม แมวใครเนี่ย น่ารักจังเลย"
หญิงสาวคนหนึ่งในชุดสีชมพูหย่อนตัวลงในระดับเดียวกับผม มือเรียวลูบหัวของผมสองสามทีก่อนจะยกมือถือขึ้นมาถ่าย
เดี๋ยว มือถือคุ้น ๆ นะ นาฬิกาที่ใส่เองก็ด้วย
"ดีนดูสิ แมวแบบนี้แหละที่เมล์อยากเลี้ยง"
โอเค ชัดเจนเลย
มือถือคือของเมล์ ส่วนผู้ชายข้าง ๆ คือดีน
..น้องชายแท้ ๆ ของผมเอง
ผมนิ่งอึ้ง มองชุดสีเดียวกันบนตัวของดีน และมองต่ำลงไปที่มือที่ยังคงกุมกันไว้แน่น
.. อ่า ความสัมพันธ์ของพวกเขา ผมขอไม่เดาดีกว่า
เพื่อความสบายใจของตัวเอง
"อืม เอาสิ เดี๋ยวดีนซื้อให้ แต่เมล์ชอบหมาไม่ใช่หรอ?"
นาทีนั้นผมถึงเอะใจอะไรขึ้นมา ถ้าจำไมผิด เมล์ชอบหมามากโดยเฉพาะหมาที่ตัวเล็กๆ ขนฟูๆ ก่อนจะแต่งงานเราสองคนก็คิดเรื่องที่จะเลี้ยงหมาด้วยกันสักตัวหนึ่ง แต่ไหงถึงกลายมาเป็นแบบนี้
หรือผมเข้าใจอะไรผิดไป?
"อ่อ เมล์หมายถึงสองเขาชอบน่ะ..เมล์ชอบแมว" เมล์ยิ้มฝืด ดีนเองก็มีสีหน้าไม่พอใจเมื่อจู่ๆ เมล์ก็พูดถึงคนที่ตายไปแล้ว
"ไปเถอะ ดีนหิวแล้ว ส่วนเรื่องแมว ไว้ดีนจะซื้อให้วันครบรอบโอเคมั้ย?"
แล้วร่างสองร่างก็เดินห่างออกไปจนสุดสายตา แต่รอยยิ้มของเมล์และดีนยังคงฉายชัดในหัวผม
/
"เมล์รู้ว่าสองชอบหมา เดี๋ยวแต่งงานกันแล้ว เราค่อยซื้อน้องมาเลี้ยงกันนะ"
"เราจะเลี้ยงมันไปด้วยกัน เมล์เป็นแม่ สองเป็นพ่อ"
"อื๊อ!.."
โธ่เว้ย!
ทำไมวะ ทำไมเรื่องถึงมาจบแบบนี้
ผมได้แต่สงสัย
ว่าทำไม ..
[เพลิงกัลป์'s]
ผมรีบเดินออกจากซุปเปอร์มาเก็ตด้วยความเร็วเต็มฝีเท้า
เผลอทิ้งตัวเล็กไว้ตั้งนาน คงจะเหงาแย่
"ตัวเล็ก เฮียกลับมาแล้ว"
"..." ยังนิ่ง ไม่ขานรับ
"เฮียซื้อขนมแมวเลียแบบที่ตัวเล็กชอบมาด้วย ซองสีชมพูไง"
"..." ไม่สนใจ
"เรากลับบ้านกันดีกว่า" ผมเดินไปดึงเชือกที่คล้องอยู่ออก แต่ตัวเล็กก็ยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม พอจะอุ้มก็แยกเขี้ยวขู่
หรือตัวเล็กจะโกรธที่โดนทิ้งให้อยู่คนเดียส?
แต่ปกติผมก็ผูกตัวเล็กไว้นี่เวลามาเดินเล่นตลอดเลยนะ ตัวเล็กก็ไม่เห็นมีท่าทีแบบนี้
หรือจะหิว? ข้อนี้ดูเป็นไปได้มากกว่า
ชึบ
ผมอุ้มตัวเล็กเข้าอ้อมกอด ตัวเล็กขู่ตอนแรกแต่สักพักก็นิ่งไป ถ้าผมมองไม่ผิดเหมือนร่างเล็กสีขาวของผมจะสั่นเล็กน้อย
พอพลิกเจ้าตัวให้หันหน้ามามอง ถึงได้รู้ชัดเลยว่า เจ้าก้อนขนขาวในอกของผมกำลังร้องไห้
ผมตกใจตาโต ลนลานไปหมด ผมเคยเห็นแมวร้องไห้แค่ในเน็ต ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในชีวิตจริงเลยไม่ทันตั้งตัว
ได้แต่กระชับอ้อมแขนโอบกอดร่างปุกปุยไว้
และสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทิ้งตัวเล็กอีกเด็ดขาด ถ้าซุปเปอร์ ฯ นี้ไม่ให้เอาสัตว์เข้า ผมก็จะซื้อมันให้ตัวเล็กและเปลี่ยนกฎเอง!
/
[ตีสอง's]
ผมตื่นมาทั้งที่ยังอยู่บนตักอุ่น ๆ ไม่รู้เผลอหลับไปตอนไหน รู้เพียงว่าตอนนี้ผมเหนื่อยมาก ๆ
อยากได้นมอุ่น ๆ สักแก้ว กับฤดูหนาวและเตาผิงไฟในอิตาลี่
ไม่อยากอยู่ไทยเลย เพราะมันร้อน! สาบานซิว่านี่มันเดือนธันวาคม ทำไมมันอบอ้าวขนาดนี้ แล้วขนนี่จะยาวอะไรนักหนา มันร้อนนะรู้มั้ย!
เหมือนผมจะฮึดฮัดแรงไป ผู้ชายตัวสูงที่กำลังนั่งอ่านเอกสารจึงก้มมามอง
แล้วคือจะทำงานทั้งที่มีแมวนอนอยู่บนตักเนี่ยนะ? ถามจริง
"ตัวเล็กร้อนหรอ เหงื่อเต็มเชียว" มือหนาลูบตรงอุ้งเท้าผมก่อนจะผละออก
ติ้ด
เสียงเครื่องปรับอากาศ และกลิ่นแอร์เปิดใหม่ทำให้ผมคลายอารมณ์มาคุในใจขึ้นมาหน่อย
ถ้าถามว่าทำไมถึงไม่คิดถึงเรื่องสองคนนั้นต่อน่ะหรอ ก็พราะผมตายแล้วน่ะสิ
จะให้ไปบอกดีนกับเมล์ว่าผมเกิดใหม่เป็นแมวทั้งที่ตัวเองก็พูดไม่ได้งั้นเหรอ? เหอ ๆ ถึงพูดได้ใครจะเชื่อ
แน่นอนทุกอย่างยังคงตกค้างในใจผม แต่ทำอย่างไรได้ ผมไม่ใช่คน ผมตายไปจากพวกเขาอย่างสมบูรณ์ หรทอต่อให้เป็นคน ผมก็ไม่ใช่ตีสองของพวกเขาอีกต่อไปแล้ว
เฮ้อ ถ้าผมเป็นคนได้อีกครั้งก็คงดีสิ
ไม่ว่าจะแค่ชั่วโมง หรือหนึ่งนาที
ผมจะได้ใช้มันถามเรื่องที่ค้างคาออกไป
"อยากเป็นคน นั่นคือคำขอของเจ้าหรอเจ้าขนแุกปุย?"
เสียงหนึ่งดังขึ้นในหัว
มันก้องกังวาลและน่าสะพรึง
"..."
"ว่าอย่างไร"
'ครับ ผมอยากเป็นคน...' ผมตอบรับในใจ..
"งั้นข้ามีคำถามให้เจ้าเลือก หนึ่งตาย สองเกิดใหม่ สามชั่วครั้งชั่วคราว"
'ห้ะ คะ คือ มัน..'
"ข้าให้เวลาเจ้าสามวิ"
ฟัคคคค!
ผมยังไม่เข้าใจคำถามเลย แต่ใครมันอยากจะตายฟะ!
''หนึ่ง..."
แล้วเกิดใหม่นี่ยังไง ผมจะได้เกิดเป็นคนมั้ย.. ยังจำเรื่องพวกนี้ได้อยู่หรือเปล่า
"สอง.."
'ผมเลือกข้อสามครับ!'
"โอ้ โอเค แปลกใจนิดหน่อยแต่ก็น่าสนุกดี หึๆ"
แงงงงงงงงง ชั่วครั้งชั่วคราวมันคืออัลไล แล้วคุณเป็นใคร๊! มาอยู่ในหัวสองได้ยังไงงงงงง
สองงงไปหมดแล้ว!
Tbc.
อ่านกันเยอะๆน้า อ้อนแหละ (๑´• .̫ •ू`๑)
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!