ภายในห้องนอนบนคอนโดหรูที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายมีเพียงเฟอร์นิเจอร์ไม่กี่ชิ้น ประกอบกับแสงไฟที่ค่อนข้างสลัวเลือนรางทำให้พอมองเห็นร่างสองร่างกำลังพัวพันกันอย่างไม่มีใครยอมใครอยู่บนเตียงกว้าง
~อืมม์ อ่า~
"ช้า ๆ หน่อย ผมจะ...ไม่ไหวแล้ว" เสียงแหบแห้งบอกกล่าวออกไปแทบไม่เป็นคำ
"เด็กดี ผมขอโทษนะ" ชายหนุ่มร่างหนากำยำเอ่ยขอโทษอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อยแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
'ขอโทษเพื่ออะไร ในเมื่อคุณใส่แรงมาไม่ยั้งแบบนี้' สมองที่ว่างเปล่าทำให้คนใต้ร่างไม่อาจตอบโต้คำใดได้อีก ทำได้เพียงคอยรับแรงกระแทกที่ถูกส่งเข้ามาไม่หยุดหลายต่อหลายนาที
ปั๊ก ๆ ๆ
“ดี ดีมาก” เสียงทุ้มเข้มเปร่งออกมาอย่างถูกใจกับความรู้สึกนี้
“...!?” ดีอะไรของอัลฟ่าคนนี้กัน
“ดีจริง ๆ ที่ผมได้เจอคุณ” ห๊ะ!
“อ่า แฮ่ก ๆ” เสียงครวญครางตามด้วยเสียงหอบเหนื่อยของเบต้าคนงามดังขึ้นไม่หยุด เพราะตอนนี้ร่างกายกำลังสั่นคลอนจากการกระทำที่ดุดันเร้าร้อนของคนด้านบน
ชายหนุ่มด้านบนผู้ส่งความดุดันเข้าไปนั่น ยามนี้แผ่นหลังตามรอยสักของรูปมังกรลำตัวสีแดงก่ำใบหน้าดุร้ายกำลังชื้นไปด้วยหยาดเหงื่อที่ไหลซึมลงมาไม่หยุดทำให้เกิดภาพที่แสนน่าหลงใหล เพราะมันกำลังปะปนไปกับรอยเล็บจากร่อยรอยขีดข่วนของคนที่หาที่ยืดเหนี่ยวในตอนที่แทบทานทนแรงอารมณ์ก่อนหน้านี้เอาไว้ไม่ไหว
ชายหนุ่มร่างกำยำผู้ที่ใกล้ถึงเป้าหมายจากเสียงครวญครางและแรงบีบรัดของคนใต้ร่าง ทำให้ส่วนนั้นขยายใหญ่ขึ้นมาอย่างกะทันหัน จนคนที่กำลังสติหลุดลอยไปแทบจะได้สติกลับมาในทันที
และตอนนี้หนุ่มเบต้าจึงได้จ้องไปยังดวงตาแดงก่ำของคนที่กำลังก้มลงมองมาทำให้สบตากันเข้าพอดี ทำให้อดเบิกตากว้างขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะทักท้วงออกมา
“เดี๋ยว คุณ..”
“ครับ ผมน๊อต” ชายหนุ่มตอบอย่างประหลาดใจตัวเองเช่นกันที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น
“แต่..ผมเป็นเบต้าน่ะ คุณจะน๊อตได้ไง”
ใบหน้าสวยของหนุ่มเบต้าสับสนเป็นอย่างมาก นี้มันหมายความว่าอะไร เขาเป็นเบต้าชัด ๆ ส่วนคน ๆ นี้เขารู้เพียงว่าอีกฝ่ายเป็นอัลฟ่าแต่การที่มาน๊อตใส่เบต้าแบบนี้มันประหลาดเกินไปแล้ว
อึก เจ็บ!
“คุณ ผมเจ็บ” เสียงแหบแห้งเอื้อนเอ่ยขึ้นอย่างทรมาน
“อดทนหน่อยครับ ผมเองก็ไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครมาก่อน ทนหน่อยน่ะ” หนุ่มอัลฟ่าทิ้งตัวลงมาบนร่างของเบต้าใต้ร่างแผ่วเบาพร้อมทั้งหยุดเคลื่อนไหวทุกอย่างก่อนหน้านี้ไปจนหมด ก่อนจะนำมือไปลูบบนแผ่นหลังให้เพื่อปลอบโยน
เขาเองก็สับสนเหมือนกันทั้ง ๆ ที่รู้ว่าคนคนนี้เป็นเบต้าถึงได้ตอบรับการมีอะไรกันใครครั้งนี้อย่างเต็มใจ เพราะปกติเขาก็มีอะไรกับเบต้าบ้างโอเมก้าบ้างและป้องกันทุกครั้ง แต่กลับไม่เคยน๊อตใส่ใครแบบนี้มาก่อนเลย
เบต้าใต้ร่างเบ้หน้าอย่างเจ็บปวดทรมาน เพราะส่วนนั้นขยายใหญ่จนแน่นไปหมดแถมนี้ยังเป็นครั้งแรกที่เขามีอะไรกับอัลฟ่าด้วย
อย่างนี้เขาจะตายไหมเนี่ย?
“ฟู่ หายใจเข้าลึก ๆ นั่นแหละ เดี๋ยวอีกสักพักมันก็คลายแล้ว”
เขาเองก็ทั้งเจ็บทั้งเสียวไม่แพ้กัน คนคนนี้เป็นคู่นอนที่เขายอมรับว่าเป็นการกินแบบเต็มอิ่มในหลาย ๆ ความหมายในรอบหลายปีมานี้
"คุณ...ผมจะตายไหม?" เบต้าหนุ่มถามขึ้นด้วยความกลัว
"ไม่หรอก หายใจตามที่ผมบอกน่ะ นั่นแหละเด็กดี" ชายหนุ่มเองก็พยายามปลอบอย่างเต็มที่เช่นกัน
เบต้าหน้าสวยหายใจเข้า-ออกตามคนบนตัวที่กระซิบปลอบ แต่ในใจกลับคิดว่ามันไม่น่าจะได้ผลเท่าไหร่นัก เพราะตรงส่วนที่ทั้งสองยังเชื่อมกันอยู่นั้นมันเต้นตุบ ๆ และร้อนผ่าวไม่หยุดเลย
“ไม่เห็นได้ผลเลย” น้ำตาเม็ดโตไหลลงมาทันทีที่จบประโยค ทำให้คนทำผิดโดยไม่รู้ตัวลนลานทำอะไรไม่ถูกอีกครั้ง ได้แต่กล่าวปลอบซ้ำไปซ้ำมาอยู่ประโยคเดิม
“ชู่! อย่าร้องผมขอโทษ”
“ฮึก..ฮึก”
แล้วทำไมเขาต้องมาร้องไห้ต่อหน้าคนคนนี้ด้วย ไม่เข้าใจเลย
หลังจากนั้นยี่สิบนาทีส่วนที่ขยายใหญ่โตของอัลฟ่าด้านบนเริ่มลดขนาดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่แล้วในตอนนั้นเองน้ำเชื้อจำนวนมากมายของอัลฟ่าด้านบนกลับอัดฉีดปล่อยเข้าไปในร่างกายของเบต้าที่พึ่งเคยอะไรกับคนอื่นครั้งแรกต้องรู้สึกอุ่นวาบภายในท้องอย่างไม่ทันตั้งตัว
“คุณ..เปี๊ยะ!” ด้วยความตกใจมือเรียวสวยจึงตีไปที่แขนหนาอย่างเต็มแรง
“ฉิบ ผมลืมไปว่าไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย” คนที่เพิ่งรู้สึกว่าว่าทำอะไรลงไป มารู้ตัวตอนนี้ก็ไม่ทันเสียแล้วเพราะน้ำเชื้อทุกหยาดหยดถูกปล่อยเข้าไปในนั้นหมดแล้ว จึงทำได้เพียงแช่ส่วนนั้นเอาไว้อีกครู่หนึ่งก่อนจะค่อย ๆ ดึงออกมา
“คนบ้า อึดอัดไปหมด”
เบต้าผู้ถูกกระทำบ่นพึมพำก่อนจะดันคนด้านบนออกไป แล้วเอียงตัวหันข้างหลบหน้าคนที่มองมาอย่างทำตัวไม่ถูก
"ผมจะรับผิดชอบคุณเอง"
"ไม่เอา" เบต้าคนสวยเริ่มงอแงจากความทรมานอีกครั้ง
ชายหนุ่มมองร่างกายของคนตัวขาวที่เต็มไปด้วยร่องรอยของเขาด้วยสายตาประหลาดใจ เพราะแทบทุกสัดส่วนของร่างกายของคนคนนี้เขาได้สัมผัสแล้วยังประทับตาลงไปด้วย หลงเหลือเพียงที่เดียวเท่านั้นที่ไม่ได้ทำคือบริเวณหลังคอที่มักเป็นส่วนอ่อนไหวของเหล่าโอเมก้า
โชคดีที่คนคนนี้เป็นเบต้า เขาจึงทำเพียงปัดป่ายบริเวณนั้นไปมาแถมบางครั้งยังเผลอจูบลงไปอีกด้วย ซึ่งมันไม่ควรเป็นเช่นนี้ ก่อนจะสังเกตเห็นว่าคนที่นอนหันไปอีกด้านหลับพริ้มลงไปแล้ว
“เฮ้อ! เผลอทำอะไรลงไปเนี่ย”
ร่างหนาลุกขึ้นนั่งก่อนจะเสยผมอย่างสับสนกับตัวเอง นั่งคิดอะไรอยู่นานจนสังเกตเห็นว่าคนด้านข้างได้ได้ห่มผ้าจนเห็นว่าส่วนนั้นมีน้ำเชื้อของเขาไหลออกมาไม่หยุด
ชายหนุ่มจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงที่พึ่งผ่านสมรภูมิรักมาไม่นาน ก่อนจะเดินอ้อมเพื่อมาหาคนที่หลับใหลเหมือนเด็กน้อยแล้วจัดการยกร่างขึ้นอุ้มตรงไปยังห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปสามสิบนาที
หลังจากจัดการอาบน้ำให้ทั้งตนเองและคนในอ้อมแขนจนเสร็จแล้ว รวมถึงคราบน้ำเชื้อภายในบริเวณรูรักของคนที่ยังคงนอนหลับแม้แต่ยามที่ถูกอาบน้ำให้
ชายหนุ่มก้มมองเรือนร่างขาวเนียนของเบต้าที่ตนไม่รู้ชื่อเพราะเขาเองก็ไม่ได้แนะนำตัวกับอีกฝ่ายเช่นกัน เมื่อมองจนพอใจแล้วจึงค่อยวางคนลงบนเตียงแผ่วเบาแล้วหยิบเสื้อที่ถอดทิ้งไปมาใส่ให้คนตัวขาว ส่วนตนเองเลือกหยิบกางเกงตัวเดิมมาใส่เพียงอย่างเดียวแล้วล้มตัวลงนอนไปด้านข้าง
เมื่อทำทุกอย่างเสร็จหมดแล้วชายหนุ่มจึงได้เดินกลับไปที่เตียงเพื่อนอนลงอีกครั้งเพราะตอนนี้เป็นเวลาตีสามกว่าแล้ว พรุ่งนี้ยังมีงานสำคัญรอเขาอยู่
แสงอาทิตย์ส่องมากระทบบนเตียงจากการที่ผ้าม่านไม่สนิทกำลังส่องลงมาบนเตียงที่แสนยุ่งเหยิง
“อึดอัด มีอะไรรัดตรงเอวเนี่ย? แต่อืมอุ่นดีแหะ”
ปากบางพึมพำขณะที่ขยับตัวไปมาตามที่พูดแต่กลับไม่ได้ปัดออกไป ซ้ำยังซุกเข้าหาความอุ่นร้อนที่คิดว่าเป็นแสงอาทิตย์ส่องลงมาเสียด้วย
เจ้าของความอุ่นร้อนลืมตาขึ้นมาในตอนที่คนบ่นว่าอึดอัดจึงได้คลายมือที่เผลอกอดเอาไว้ทั้งคืนออกมา ก่อนมือหนาจะคว้าหยิบมือถือที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะข้างเตียงขึ้นมาดูเวลา
“เจ็ดโมง”
“...”
“คุณตื่นได้แล้ว”
“...”
“เจ้าแมวน้อยตื่นได้แล้วครับ”ด้วยความอยากแกล้งอัลฟ่าหนุ่มจึงได้ก้มลงกระซิบที่ข้างหูแผ่วเบา ทำให้คนที่รำคาญใช้มือปัด ๆ ออกไป
“จะนอน”
“เฮ้อ ปล่อยให้นอนไปก่อนแล้วกัน น่าจะเหนื่อยจากเมื่อคืน”
พูดถึงเรื่องเมื่อคืนก็อดที่จะหูแดงขึ้นมาไม่ได้ ไม่คิดว่าอัลฟ่าแท้อย่างเขาจะเผลอน๊อตใส่เบต้าได้
จากนั้นชายหนุ่มจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเข้าบริษัท เพราะตอนห้าโมงเช้าเขามีประชุมกับเหล่าผู้บริหารคนอื่น ๆ หลังจากที่ชายหนุ่มเห็นว่าคนบนเตียงยังไม่คิดจะตื่นขึ้นมาจึงตัดสินใจเขียนโน้ตสั้น ๆ แล้วจากไปตอนแปดโมง
ดวงตาเรียวยาวหลังเปลือกตาลืมขึ้นอย่างช้า ๆ คงเพราะแสงแดดตอนเก้าโมงเช้าส่องมากระทบทำให้คนที่หลับไหลตื่นขึ้นมาในที่สุด
"กี่โมงแล้วเนี่ย"
ดวงตาที่หันไปหาแสงอาทิตย์หยีลงอย่างรวดเร็วด้วยความไวแสง ก่อนที่ร่างกายจะพลิกไปอีกด้านด้วยความเร็วจนลืมไปว่าร่างกายพึ่งผ่านศึกมาเมื่อคืน
"โอ้ย! เจ็บ ๆ "
ลัดฟ้าอุทานออกมาด้วยความเจ็บก่อนจะลืมตาพรึ่บขึ้นมา เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนทำอะไรลงไป
"โอ้ย! ไม่น่ารีบลุกเลย" ด้วยความรีบร้อนจากการลุกนั่งทำให้ตรงส่วนนั้นที่ถูกใช้งานอย่างหนักระบมจนแทบเรียกได้ว่าปวดร้าวถึงกระดูก
"ทำตัวเองแท้ ๆ ไอฟ้าเอ้ย แล้วที่นี่ที่ไหนเนี่ย? "
หันมองรอบห้องอย่างสับสน แต่เมื่อเรียบเรียงทุกอย่างได้แล้วจึงค่อยลุกขึ้นนั่งอย่างช้า ๆ
"ว่าแต่ผู้ชายคนนั้นไปไหนแล้วน่ะ"
มองซ้ายมองขวาเผื่อว่าคนจะยังอยู่ แต่เมื่อลองตะโกนออกไปกลับไม่มีเสียตอบรับกลับมาจึงมั่นใจว่าคนไม่อยู่แล้ว
"ฮ่า ๆ นี่เราโดนฟันแล้วทิ้งหรือเนี่ย? "
แม้จะพอทำใจไว้แล้วเพราะนี่คงเป็นวันไนท์ของเขากับผู้ชายคนนั่นที่เขาไม่รู้แม้กระทั่งชื่อ
เมื่อร่างกายรู้สึกผ่อนคลายมากแล้ว จึงตัดสินใจค่อย ๆ ลุกขึ้นเพื่อไปอาบน้ำจะได้กลับไปนอนต่อที่คอนโด เพราะขืนยังอยู่ที่นี่ต่อกลัวว่าจะมองหน้าผู้ชายคนนั่นไม่ได้
"ฮู่ เมื่อคืนนึกว่าจะตายซะแล้ว"
กว่าจเดินมาถึงห้องน้ำก็ใช้เวลาไปเกือบสิบนาที เพราะตรงส่วนนั้นแสบเกินที่จะรับไหวบางทีดอกเบญจมาศของเขาคงบวมไปหมดแล้ว ครั้งหน้าจะไม่ทำอีกแล้ว พอแล้ว ยิ่งส่วนนั้นของผู้ชายคนนั้นเมื่อคืนไม่รู้ว่าเข้าไปได้ยังไงดีที่ไม่ฉีกจนเลือดออก ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสารตัวเอง
ฮือ~สบายจัง
นั่งแช่น้ำอุ่นพร้อมทั้งนวดบนกลีบปากทางเข้าด้านหลังไปมาถึงได้รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นคนอาบน้ำรวมถึงนำน้ำเชื้อออกให้จนหมด
เพราะต้องการให้ส่วนนั่นรู้สึกผ่อนคลายจึงได้ลองนำนิ้วเข้าไปสอดเพื่อนวดตรงส่วนนั่นด้านหลังอย่างช้า ๆ เผื่อว่าจะรู้สึกดีขึ้น แต่พอนวดไปได้สักพักกลับเกิดอารมณ์ขึ้นมาจนน้องชายตื่นขึ้น ทำให้เผลอใช้เวลาอยู่ในนั้นเป็นชั่วโมงจนตอนนี้ท้องไส้หิวไปหมดแล้ว
โชคดีที่ไม่มีใครอยู่ที่นี่ ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว เพราะแค่ถูกจับกินครั้งเดียวจะทำให้เกิดอารมณ์อีกครั้งเพียงแค่ใช้นิ้วตัวเอง
'บ้าไปแล้ว ไอ้ฟ้า'
"นี่อะไร? โน๊ต" เพราะระหว่างที่กำลังจะเดินไปหาอะไรกินในตู้เย็นภายในห้องของคนอื่นเพื่อรองท้องก่อนออกไป จึงได้เหลือบไปเห็นกระดาษโน๊ตแผ่นเล็ก ๆ ข้างมือถือจึงได้หยิบขึ้นมาอ่าน
'ผมขอโทษเรื่องเมื่อคืนที่ทำคุณรุนแรงไป ส่วนเมื่อเช้านี้ก็ต้องออกมาก่อนอีกจึงยังไม่ได้ขอโทษคุณ นี่เบอร์ผม 09x-xxxxxxx ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลืออะไร ติดต่อผมมาเบอร์นี้ จาก กิตติกร'
"กิตติกร แล้วไงผมไม่โทษคุณหรอก เพราะมันก็เป็นความผิดผมส่วนหนึ่งด้วยที่เมาจนทำเรื่องพวกนี้อย่างเต็มใจ แต่ผมหวังว่าเราจะไม่ได้พบกันอีกนะ"
หลังจากที่อ่านจบแล้วจึงวางกลับไปที่เดิม แม้จะรู้สึกแสบตรงส่วนนั้นแต่เพราะดีขึ้นมากแล้วจึงเดินไปที่เป้าหมายเดิมอย่างตู้เย็น
"มีอะไรกินบ้างน่ะ แอปเปิ้ล แซนวิช เอาแอปเปิ้ลแล้วกัน" เมื่อได้ของที่ต้องการแล้วจึงเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่ดูเหมือนจะเป็นคนที่นอนด้วยเมื่อคืนนำมาพับวางเอาไว้ให้ที่ข้างเตียง
"เป็นอัลฟ่าที่ดีนะเนี่ย แต่เสียใจด้วยผมคงจะไม่มาพบคุณอีกแล้ว คุณกิตติกร"
หน้าคอนโดสูงสามสิบชั้น
ลัดฟ้าหันกลับไปมองคอนโดตรงหน้าอีกครั้งด้วยความอึ้ง ตอนที่ขึ้นไปเมื่อคืนไม่ค่อยได้สตินักแต่ยังพอจำได้ว่าค่อนข้างหรูหรา แต่แบบนี้เรียกว่าคอนโดระดับสูงแล้ว ก่อนจะเดินหันหลังกลับไปเพื่อเดินไปขึ้นรถแท็กซี่กลับคอนโดตัวเองที่อยู่ห่างออกไปไกลพอสมควร
ตุบ
หลังจากกลับมาถึงคอนโดตัวเองแล้วจึงได้ล้มตัวลงนอนอย่างโหยหา แต่ถึงอย่างนั้นด้วยความเจ็บจุดนั้นกลับแล่นขึ้นมาเล่นงานอีกแล้ว เพราะเผลอทิ้งตัวแรงอย่างลืมตัว
"เจ็บ ซี๊ด! ลืมซื้อยามาด้วยเลย"
หลังจากที่ความเจ็บหายไป จึงได้หยิบมือถือขึ้นมาอ่านนิยายอย่างเรื่อยเปื่อย เพราะวันนี้เขาไม่งาน จึงว่างอย่างที่เห็นอยู่ตอนนี้
"ว่า.."เสียงเนือยถูกกรอกลงไปทันทีที่เพื่อนชาวแก๊งโทรหา ก็เพื่อนที่ชักชวนเขาไปเที่ยวผับระดับสูงเมื่อวานด้วยกันนั่นแหละ
"เมื่อวานมึงกลับตอนไหน ทำไมไม่บอกพวกเรา" ปลายสายแทบจะแรปออกมาทันทีที่เขาตอบรับสาย
"โทษที พอดีเมาจนเผลอเรียกแท็กซี่กลับมาก่อน"
"แน่ใจน่ะ ว่าไม่ได้ไปโผล่ที่ไหน? "
"ไอ้ลัดฟ้า ว่าแต่พรุ่งนี้ว่างไหมไปสนามแข่งรถกัน"
"ไม่ไป..เดี๋ยวไปก็ได้ กี่โมง"
"ตอนเย็น สักประมาณห้าโมงแล้วกัน"
"ได้ แค่นี้นะจะนอน"
"เออ อย่าลืมนะเพื่อน"
"..." มือเรียวกดวางสายทันที
หวังว่าพรุ่งนี้จะกลับมาเดินปกติได้เหมือนเดิมนะ
"โอ้ย! ลืมตัวอีกแล้ว"
คนทางนี้กำลังโอดโอยทุกครั้งที่ขยับตัว ก่อนจะนอนเปิดทีวีดูซีรีย์จนเผลอหลับไป
บริษัทเทคโนโลยีกิตติพัฒน์
ทางด้านกิตติกรที่ตอนนี้กำลังนั่งประชุมอยู่ด้วยใบหน้านิ่งขรึม แต่ภาพในสมองตอนนี้กำลังแตกภาพร่างกายขาวผ่องที่บิดเร้าร่างกายอยู่ใต้ร่างเขาอย่างเร่งเร้าให้เขารีบใส่ส่วนนั่นเข้าไปหลายต่อหลายครั้งตลอดทั้งคืน
ด้วยใบหน้าที่นิ่งขรึมเช่นนี้ทำให้เหล่าคณะกรรมการท่านอื่นไม่อาจจับสังเกตเห็นถึงความผิดปกติจากเดิมของชายหนุ่มที่มีอนาคตไกลได้เลย ทำให้ทุกคนต่างต้องตั้งใจฟังหัวหน้าแผนกอื่น ๆ พูดถึงเรื่องต่าง ๆ กันต่อไปจนจบ
ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนหัวโต๊ะผสานมือเข้าด้วยกัน ก่อนจะหรี่ดวงตามองไปยังทุกคนว่ายังมีเรื่องที่ต้องพูดหรือพิจารณาอีกหรือไม่
“ยังมีเรื่องอะไรอีกหรือเปล่า” น้ำเสียงนิ่งขรึมมาพร้อมกับฟีโรโมนอัลฟ่าแท้ที่ทำให้ทุกคนต้องหวาดกลัว
“ค่ะ ท่านประธาน พอดีช่วงนี้ทางเราต้องการช่างภาพเพื่อมาถ่ายงานเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ค่ะ ไม่ทราบว่าท่านต้องการช่างภาพคนไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าค่ะ” หัวหน้าฝ่ายการตลาดเบต้าสาววัยสามสิบเสนอเรื่องเร่งด่วนออกไปทันทีที่มีโอกาส
“อืม ถ้าอย่างนั้นคุณรตารบกวนรบรวมผลงานของช่างภาพเหล่านั้นมาให้ผมพรุ่งนี้ที่ห้องที”
“ได้ค่ะ ท่านประธาน ดิฉันจะเร่งไปจัดการให้เรียบร้อย”รตาพยักหน้าเข้าใจ
“มีเรื่องอะไรอีกไหมครับ?” กิตติกรหันไปมองทุกคนอย่างช้า ๆ
“...” ทุกคนต่างเก็บเงียบไม่ส่งเสียงอะไรออกมาอีก
“ถ้าหากไม่มีแล้ว เลิกประชุมได้” คำพูดนี้คล้ายกับเสียงสวรรค์สำหรับทุกคนในห้องนี้
“ขอตัวก่อนครับ/ค่ะ ท่านประธาน”
หลังจากที่ทุกคนออกไปกันหมดแล้ว ชายหนุ่มจึงได้หยิบมือถือขึ้นมามองว่ามีสายเข้ามาบ้างหรือไม่ กลับพบว่าไม่มีเบอร์แปลกโทรเข้ามาสักสาย
“จะตื่นหรือยังน่า” กิตติกรพึมพำขึ้นมาเสียงเบาแต่คนที่เดินเข้ามากลับได้ยินอย่างชัดเจน
“ใครเหรอครับ ท่านประธาน”
ตึง! ด้วยความที่รีบลุกขึ้นยืนกะทันหัน ทำให้ชายหนุ่มเผลอทำเก้าอี้ที่นั่งอยู่ล้มลงไปอย่างแรง ทำให้คนที่เพิ่งกลับเข้ามาอีกครั้งรีบเดินไปยกเก้าอี้ขึ้นให้
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ท่านประธาน” เรขาหนุ่มแว่นอย่างอากรรีบเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นห่วง
“เปล่า งานวันนี้ยังมีอะไรต้องทำอีกหรือเปล่า” กิตติกรทำทีจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที แล้วถามออกไปอย่างไม่มีพิรุธ
“ท่านประธานมีธุระหรือครับ” อากรก้มมองมือถือครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้าว่าไม่มีแล้ว
“อืม พอดีเก็บแมวมาได้ จะกลับไปดูที่ห้องเสียหน่อย” ชายหนุ่มตอบอย่างอารมณ์ดี
“แมว? ท่านประธานจะเลี้ยงแมวเหรอครับ ให้ผมช่วยหาข้อมูลไหมครับ”เราขาหนุ่มรีบเสนอตัวช่วยทันที เรื่องข้อมูลเขาไม่เป็นสองรองใครในบริษัทนี้แน่นอน
“ไม่ต้องหรอก ถ้าอย่างนั้นฉันกลับเลยแล้วกัน ฝากที่เหลือด้วยน่ะ”
“ได้ครับ ท่านประธาน”
“อย่างท่านประธานเนี่ยน่ะจะเลี้ยงแมว” เรขาหนุ่มพึมพำอย่างสงสัย แต่เพราะเป็นเรื่องของเจ้านายคนเป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์อย่างเขาไม่ควรเข้าไปก้าวก่าย
หลังจากที่เดินออกมาชายหนุ่มเผลอถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่ได้เผลอพิรุธออกไป ไม่อย่างนั้นเรื่องที่ตนเองพาคนไปที่ห้องคงได้ถึงหูคนเป็นแม่แน่
มือถือในมือสั่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ชายหนุ่มระงับดีใจไม่ได้จนแทบจะมีรอยยิ้ม เพราะเผลอคิดว่าคนที่เขารอสายอยู่จะโทรมาแต่พอเห็นชื่อบนหน้าจอก็แอบรู้สึกผิดหวังไม่ได้
“ครับ คุณแม่” น้ำเสียงทุ้มอ่อนโยนตอบกลับอย่างสุภาพ
“เย็นนี้กลับบ้านไหมลูก คุณแม่จะได้เตรียมอาหารเอาไว้รอ”
“ยังครับ เดี๋ยวผมจะกลับไปเย็นพรุ่งนี้แทน”
“ได้ค่ะ คุณแม่จะรอน่ะ รักษาสุขภาพด้วยน่ะลูก”
“ครับ สวัสดีครับ”
หลังจากที่วางสายไปแล้ว จึงตัดสินใจเดินไปที่ลิฟต์เพื่องไปยังชั้นที่จอดรถเพื่อกลับไปยังคอนโด
แต่เมื่อมาถึงที่ห้องกลับต้องรู้สึกผิดหวัง คนที่ใช้เวลากับเขาทั้งคืนจากไปแล้ว และน่าจะจากไปตั้งแต่ก่อนเที่ยงแล้วด้วย
คนที่ถูกคิดถึงตอนนี้กำลังจามออกมาไม่หยุด ส่วนมือกำลังเลือกซีรี่ย์ที่จะดูต่อจากเรื่องที่พึ่งจะดูจบไป
“ฮัดชิ้ว! ใครบ่นหากันนะ’’
“ช่างเถอะ เรื่องนี้มาแล้วดูน่าสนุกดี ดูเรื่องนี่ดีกว่า”
ลัดฟ้าทิ้งเรื่องอื่นเอาไว้ด้านหลังก่อนตอนนี้ซีรีย์ตรงหน้าดูน่าสนใจมากว่าเรื่องอื่นเสียอีก
ก๊อก ก๊อก
"ขออนุญาตค่ะ ท่านประธาน" เสียงขออนุญาตจากนอกห้องดังเข้ามาด้านใน
กิตติกรที่ตอนนี้กำลังก้มหน้าเซ็นเอกสารอยู่ต่องเงยหน้าขึ้นตอบรับอนุญาตออกไปทันที
"เข้ามาได้เลยครับ" น้ำเสียงทุ้มเคร่งขรึมเอ่ยอนุญาตแผ่วเบา
"ท่านประธานค่ะ ดิฉันเอารายชื่อรวมถึงข้อมูลอื่นของช่างภาพมาให้ค่ะ" รตาหญิงสาววัยสามสิบที่เป็นหัวหน้าแผนกการตลาด เธอนำเอกสารรายชื่อช่างภาพที่ไปหาข้อมูลเพื่อนำมาให้ชายหนุ่มได้พิจารณา
"ขอบคุณครับ" ชายหนุ่มเอ่ยขอบคุณขณะก้มอ่านเอกสารอยู่
“เอ่อ...” รตารู้สึกลังเลใจว่าจะแนะนำเรื่องช่างภาพที่เธอรู้จักไปดีไหม
"มีอะไรหรือเปล่าครับ" กิตติกรเห็นว่าหญิงสาวยังมีบางอย่างที่ต้องการพูดอยู่ จึงถามออกไปเป็นเชิงอนุญาต
"ค่ะ คือดิฉันต้องแนะนำคนหนึ่งในข้อมูลที่นำมาให้เป็นการส่วนตัวค่ะ พอดีว่าเขาเป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยค่ะ" รตาเองครั้งนี้ค่อนข้างที่จะเกรงกลัวว่าท่านประธานจะหาว่าเธอช่วยคนรู้จัก แต่เพราะรุ่นน้องคนนี้ฝีมือดีมาก จึงต้องการเสนอชื่อของรุ่นน้องคนนี้ให้ท่านประธานพิจารณา เพราะงานถ่ายภาพโปรโมทสินค้าตัวใหม่นี้สำคัญมาก
"ใครครับ เผื่อผมจะได้พิจารณา" ดวงตาคู่คมหยุดจ้องมองอย่างสงสัย ก่อนจะก้มมองรายชื่อสี่ห้าคนที่หญิงสาวรวบรวมข้อมูลมาให้
"ค่ะ เขาชื่อลัดฟ้าค่ะ ถึงแม้ว่าเขาจะทำงานเป็นช่างภาพฟรีแลนซ์แต่ฝีมือเขาเก่งมากเลยนะคะ แถมยังเคยได้รางวัลระดับนานาชาติมาแล้วด้วย" รตานำเสนอรุ่นน้องให้ชายหนุ่มเต็มที่
"เดี๋ยวผมขออ่านข้อมูลที่คุณเอามาก่อน แล้วจะแจ้งให้คุณทราบอีกทีนะครับ"
"ได้ค่ะ ท่านประธาน ถ้างั้นดิฉันขอตัวก่อนนะคะ" หญิงสาวดีใจอย่างน้อยชายหนุ่มก็ไม่ได้ว่าอะไรที่เธอเสนอรุ่นน้องออกไปเช่นนี้ ก่อนจะขอตัวกลับไปทำงานที่แผนกการตลาดต่อ
"ครับ"
พรึ่บ
หน้าแรกที่เปิดขึ้นมากลับเป็นใบหน้าดูดีของคนที่หนีเขากลับไปเมื่อวานอย่างเห็นได้ชัด
“เป็นเขา" กิตติกรพึมพำขึ้นมาด้วยดวงตาเป็นประกาย
"ชื่อลัดฟ้าและเป็นช่างภาพฟรีแลนซ์สินะ”
“มีเรื่องที่ทำให้เราต้องได้เจอกันแล้วอีกแล้ว คุณลัดฟ้า” ยิ่งเห็นคนคนนี้ในสมองของชายหนุ่มกลับเต็มไปด้วยเรื่องลามกในค่ำคืนที่ผ่านมา
ชายหนุ่มเผลอยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์อยู่คนเดียวภายในห้องประธานบนชั้นสิบห้าของตึกเทคโนโลยีกิตติพัฒน์
“เอ่อ..ท่านประธานครับ ทำไมคุณยิ้มน่ากลัวแบบนั้นล่ะครับ” เลขาหนุ่มแว่นใช้นิ้วมือดันแว่นตาที่ตกลงมานำมันกลับขึ้นไปที่เดิม ก่อนจะรู้สึกว่าขนบนแขนกำลังลุกขึ้นมาทันทีที่เข้ามาเห็น
“อะแฮ่ม คุณเข้ามาตั้งแต่ตอนไหน”
กิตติกรหุบรอยยิ้มลงทันทีเมื่อได้ยินเสียงเลขาหนุ่ม จากการถูกถามออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งทื่อแบบนั้น
“อ่อ เมื่อสักครู่ครับ พอดีผมเอาเอกสารงบประมาณมาให้ท่านประธานได้เซ็น”เลขาหนุ่มแว่นพยักหน้าก่อนจะเดินเอาเอกสารมาวางให้บนโต๊ะอย่างรวดเร็ว
“งั้นวางไว้บนโต๊ะก่อน เดี๋ยวเซ็นแล้วผมจะโทรออกไปบอก”
“ครับท่านประธาน ผมขอตัวก่อนน่ะครับ”
เมื่อคนที่เข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียงออกไปแล้ว ชายหนุ่มจึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่ถูกจับได้ว่าคิดเรื่องลามก
วัดแห่งหนึ่งแถบชานเมือง
วันนี้คุณหญิงแสงดาวผู้เป็นแม่ของประธานบริษัทเทคโนโลยีกิตติพัฒน์กับคุณหญิงแก้วตา ทั้งสองคบเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว จึงได้ชักชวนกันมาทำบุญที่วัด
วันนี้คุณหญิงแสงดาวชักชวนคุณหญิงแก้วตาออกมาทำบุญที่วัดให้สามีเป็นเพื่อน รวมถึงนำวันเดือนปีเกิดของลูกชายติดตัวมาด้วยให้พระท่านดูดวงให้
เผื่อว่าเนื้อคู่ของเขามาแล้ว
"หลวงพ่อเจ้าค่ะ ลูกชายขอดิฉันจะได้แต่งงานเมื่อไหร่หรือคะ” คุณหญิงแสงดาวมองอย่างมีความหวังที่ลูกชายจะได้เป็นฝั่งเป็นฝา
“โอ้ ดูเหมือนจะเร็ว ๆ นี้นะโยม และเขายังเพิ่งได้เจอเนื้อคู่เมื่อไม่นานมานี้อีกด้วยนะ” หลวงพ่อที่ตรวจดวงชะตาและเนื้อคู่จากกระดาษที่โยมแสงดาวนำมา
“จริงเหรอค่ะ / คุณหญิงดีใจด้วยนะ” หญิงวัยกลางคนทั้งสองยิ้มให้กันอย่างดีใจ
“อืม แต่ถ้าพลาดคนนี้ไปแล้ว เขาอาจจะอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิต” เมื่อจบประโยคนี้คุณหญิงแสงดาวจึงใบหน้าสลดลง ทำให้คุณหญิงแก้วตาที่อยู่ด้านข้างค่อยตบตักเธอเบา ๆ เพื่อให้กำลังใจ
“หลวงพ่อค่ะ แล้วดิฉันต้องทำยังไงคะ ถึงจะได้ลูกสะใภ้มาเร็ว ๆ” เธอไม่ยอมแพ้เด็ดขาด ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใครเธอจะเอามาเป็นลูกสะใภ้ของเธอให้ได้
“ไม่ต้องรีบร้อนโยม เดี๋ยวลูกชายของโยมจะพาเขาไปหาโยมเร็ว ๆ นี้เอง” หลวงพ่อที่นั่งอยู่กล่าวปลอบใจแก่โยมแสงดาวที่มาทำบุญทุกสัปดาห์ให้สามีไม่เคยขาด
“ขอบคุณมากค่ะ เท่านี้ดิฉันก็คงสบายใจได้แล้ว”
“ไม่เป็นไรหรอกโยม อาตมาเพียงหวังว่าลูกชายของโยมที่เป็นคนดีย่อมได้เนื้อคู่ดีเช่นกัน”
“ค่ะ อย่างนั้นดิฉันกับเพื่อนคงต้องขอตัวลากลับก่อนนะคะ”
“เดินทางปลอดภัยนะโยม”
“ลาค่ะ หลวงพ่อ/ลาเช่นกันค่ะ”
หญิงวัยกลางคนทั้งสองที่ยังคงสวมสะพรั่งกราบลาหลวงพ่อที่พวกเธอมาทำบุญทุกสัปดาห์อย่างช้า ๆ ก่อนจะชักชวนกันกลับไปพูดคุยกันต่อที่บ้าน
บ้านตระกูลกิตติพัฒน์
เมื่อทั้งสองกลับมาถึงบ้านจึงได้ชักชวนกันเดินไปนั่งเล่น
“เธอว่าเขาจะเจอกันแล้วจริงไหม”
“เราก็ไม่ทราบ คุณหญิงคงได้แต่รอแล้วล่ะ”
“อืม เย็นนี้ลูกชายฉันจะกลับมานอนที่บ้าน เดี๋ยวต้องลองถามดูแล้ว”
“ตามสบายจ้ะ จริงสิฉันนี้ขี้หลงขี้ลืมจริง ๆ วันนี้สามีชวนไปดินเนอร์ด้วย ฉันคงต้องรีบกลับแล้ว”
“กลับเถอะ แค่เธอยอมไปทำบุญกับฉันทุกสัปดาห์ฉันเองก็เกรงใจน่ะ”
“ไม่เป็นไร ก็เราเป็นเพื่อนนี่คุณหญิง”
“อืม ขอบใจนะ อย่างนั้นพุธหน้าเจอกันนะ”
“จ้า ๆ ฉันกลับก่อนนะ”
“เดินทางปลอดภัยจ้ะ”
คุณหญิงแสงดาวมองส่งเพื่อนสมัยเรียนมาด้วยกันอย่างคุณหญิงแก้วตาด้วยสายตาเอ็นดู เพราะเธอรูปร่างค่อนข้างเล็กและยังคงอ่อนเยาว์ ทำให้สามีคอยเป็นห่วงอยู่เสมอ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!