...ก า ร อ่ า น คื อ ร า ก ฐ า น ที่ สำ คัญ...
...โลกใบหนึ่งล่มสลายลง โลกใบใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้น...
...และผมก็เป็นนักอ่านเพียงหนึ่งเดียวที่รู้ฉากจบของโลกใบนี้...
...- sing N song...
...คำนำสำนักพิมพ์...
ถ้าเปรียบนิยายเรื่องหนึ่งเป็นโลกใบหนึ่ง พระเจ้าผู้สร้างโลกนั้นก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากผู้เขียน ส่วนตัวละครในเรื่องก็คือมนุษย์บนโลก สิ่งที่ตังละครต้องเผชิญจึงเทียบได้กับบททดสอบที่พระเจ้าประทานลงมา โลกจะสวยงามหรือโหดร้ายคงขึ้นกับว่าพระเจ้าของโลกใบนั้นเป็นคนแบบไหน
‘คิมดกจา’ อาจไม่ใช่ไม่ใช่พระเจ้าของโลกที่ชื่อว่า ‘สามวิธีการเอาชีวิตรอดในโลกที่ล่มสลาย’ เพราะเขาเป็นแค่นักอ่าน ไม่ใช่ผู้เขียน แต่เอาเข้าจริงจังเขาก็ไม่ต่างอะไรอะไรจากพระเจ้า ในเมื่อนอกจากตัวผู้เขียนแล้ว เขารู้จักนิยายเรื่องนี้ทะลุปรุโปร่งที่สุด ก็เขาเป็นนักอ่านเพียงหนึ่งเดียวที่รู้ฉากจบของมันนี่นะ
มุมมองนักอ่านพระเจ้า (Omniscient Reader's Viewpoint) คือนิยายแฟนตาซีจากประเทศเกาหลีที่นักอ่านชาวไทยเรียกร้องให้มีการซื้อลิขสิทธิ์มาแปลมากที่สุด
ความโด่งดังของนิยายเรื่องนี้การันตีด้วยการครองซาร์ตอันดับหนึ่งติดต่อกันหลายเดือนในแพลตฟอร์มนิยายต่างๆ ของเกาหลี สำนักพิมพ์เลวอนของเราจึงมีความยินดีและภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการพา‘คิมดกจา’กับผองเพื่อนมาทำความรู้จักกับชาวไทย หวังว่าทุกคนจะให้การตอบรับอย่างดีและสนุกไปกับการอ่าน
.
.
.
.
.
「มีอยู่สามวิธีด้วยกันในการเอาชีวิตรอดในโลกที่ล่มสลาย ตอนนี้มีหลายเรื่องที่ลืมไปบ้างแล้ว แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่มั่นใจได้ นั่นคือความจริงที่ว่าคุณที่กำลังอ่านข้อความนี้อยู่ในตอนนี้จะมีชีวิตรอดต่อไป
- สามวิธีการเอาชีวิตรอดในโลกที่ล่มสลาย จบบริบูรณ์」
ผมขยับเลื่อนหน้าจอแพลตฟอร์มนิยายบนเว็บในสมาร์ตโฟนเครื่องเก่าเลื่อนสกรอลบาร์ลงแล้วก็ไถกลับขึ้นไปใหม่ ทำแบบนั้นซ้ำ ๆ อยู่หลายครั้ง
“เอาจริงดิ นี่คือจบแล้วเรอะ”
ไม่ว่าจะมองดูกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง มันก็ยังขึ้นว่าจบบริบูรณ์เหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน
นิยายเรื่องนี้จบลงแล้ว
「สามวิธีการเอาตัวรอดในโลกที่ล่มสลาย」
ผู้แต่ง : tls123
รวม 3‚149 ตอน
「สามวิธีการเอาขีวิตรอดในโลกที่ล่มสลาย」
นิยายแฟนตาซีเรื่องยาวที่มีจำนวนตอนสามพันหนึ่งร้อยสี่สิบเก้าตอน จะเรียกย่อๆว่า‘สามวิธีรอด’ก็ได้
ผมอ่านนิยายเรื่องนี้มาตลอดตั้งแต่ตอนอยู่มัธยมต้นปีสามทั้งตอนที่โดนพวกอันธพาลหมายหัวจนกลายเป็นคนไม่มีใครคบ มั้งตอนที่สอบเข้าได้ห่วยแตกจนต้องเรียนมหาวิทยาลัยชั้นสามแถบชนบทก็ด้วย
ตอนที่ระบบสุ่มบัดซบนั่นมันเพี้ยนจนทำให้โดนส่งไปเป็นทหารประจำการอยู่แนวหน้านั้นก็เหมือนกัน
แม้แต่ตอนที่ย้ายงานมาเรื่อย จนสุดท้ายได้งานสัญญาจ้างในบริษัทลูกของเครือบริษัทยักษ์ใหญ่ก็ด้วย...ให้ตาย เอาเป็นว่าเลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะ จะยังไงก็ช่าง
[คำกล่าวจากนักเขียน : ขอบคุณที่อ่าน‘สามวิธีรอด’มาจนถึงตอนนี้ แล้วพบกันในบทส่งท้ายนะ!]
“อา...ยังเหลือบทส่งท้ายอยู่นี่เอง ถ้าอย่างนั้นตอนหน้าก็เป็นตอนจบของจริงแล้วน่ะสิ”
ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นตอนปลายจนกลายมาเป็นผู้ใหญ่ การเดินทางอันแสนยาวไกลเป็นเวลากว่าสิบปี ความรู้สึกของผมผสมปนเปกันมั่วไปหมดระหว่างติดใจที่หดหู่จากการที่โลกใบหนึ่งจบลงไป กับความปลื้มปริ่มที่ในที่สุดก็จะได้เห็นจุดสิ้นสุดของโลกใบนั้น
ผมเปิดกล่องคอมเมนต์ของตอนสุดท้ายขึ้น ก่อนจะพิมพ์ประโยคที่พิมพ์ ๆ ลบ ๆ อยู่หลายครั้งลงไป
-คิมดกจา : คุณนักเขียนครับ ที่ผ่านมาขอบคุณมากจริง ๆ นะครับผมจะรอติดตามบทส่งท้ายนะครับ
ที่จริงผมมีคำพูดมากมายที่อยากจะบอกออกไป...‘มันเป็นประโยคที่มาจากใจจริงของผม เรียกว่าสามวิธีรอดเป็นนิยายแห่งชีวิตของผมก็ได้’บ้างละ‘ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องฮิตที่ได้รับความนิยมอะไร แต่สำหรับผมแล้วมันเป็นนิยายที่ยอดนิยมที่สุด’บ้างละ แต่ก็ไม่อาจพิมพ์ลงไปได้ง่ายๆ
-จำนวนผู้เข้าชมเฉลี่ย 1.9 คนต่อตอน
-จำนวนคอมเมนต์เฉลี่ย 1.08 คอมเมนต์
นั่นเป็นค่าความนิยมของ‘สามวิธีรอด’
ถึงแม้ว่าจำนวนคนเข้าอ่านของตอนที่ 1 จะมียอดเยอะประมาณหนึ่งพันสองร้อยคน แต่พอผ่านตอนที่ 10 ไปจำนวนก็หล่นวูบลงมาเหลือแค่หนึ่งร้อยยี่สิบ พอผ่านตอนที่ 50 ก็ลดลงเหลือสิบสอง แล้วตั้งแต่ตอนที่ 100 เป็นต้นไปก็เหลือแค่หนึ่งคนมาโดยตลอด
จำนวนผู้เข้าชม‘1’ บางตอนก็มีหมายเลข‘2’แทรกมาบ้าง แต่มีโอกาสสูงมากที่จะมีใครกดเข้ามาผิดมากกว่า
ผมจ้องมองหมายเลข‘1’จำนวนนับไม่ถ้วนบนรายชื่อตอน พลางรู้สึกประทับใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ขอบคุณนะ
สร้างสรรค์ผลงานนิยายจำนวนสามพันกว่าตอนทั้ง ๆ ที่มีคนเข้ามาอ่านแค่หนึ่งคน แถมยังใช้เวลากว่าสิบปี มันเหมือนกับว่าเรื่องนี้เขียนขึ้นมาเพื่อผมคนเดียวเลยไม่ใช่หรือไง
-แนะนำนิยายสนุกๆ
ผมคลิกลงบน [บอร์ดแนะนำ] แล้วเริ่มเคาะแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดอย่างไม่ติดอะไรมาก
อุตส่าห์เขียนนิยายให้อ่านจนจบฟรี ๆ แบบนี้ แค่กระทู้แนะนำกระทู้เดียวผมก็ต้องเขียนให้สักหน่อย
พอกดปุ่มโพสต์ ไม่นานก็มีความคิดเห็นตอบกลับมาทันที
-นี่เป็นแอนตี้รูปแบบใหม่หรือเปล่า ฉันลองค้นไอดีของคนคนนี้ดูแล้วเขาแนะนำแต่นิยายเรื่องเดียวนี่มาตั้งหลายครั้งแล้วนะ
-น่าจะรู้ไม่ใช่หรือครับว่าเจ้าตัวไม่ควรเป็นคนมาแนะนำเองน่ะ คุณนักเขียนทำแบบนี้ไม่ดีนะครับ
นั่นทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่า ที่จริงแล้วเมื่อหลายเดือนก่อนผมเคยเขียนกระทู้แนะนำแบบนี้ไปแล้ว
เพียงพริบตาเดียวกระทู้ของผมก็ท่วมท้นไปด้วยคอมเมนต์หลายสิบจากพวกนักสืบอินเทอร์เน็ตที่หาว่า‘เรียกร้องความสนใจ’บ้าง ‘โง่เง่า’บ้าง ผมอายจนหน้าร้อนไปหมด
ผมรีบกดลบกระทู้ด้วยครับรวดเร็ว แต่พอมันเป็นกระทู้ที่ถูกแจ้งแบนไปแล้ว เลยมีข้อความเด้งเตือนขึ้นมาว่าไม่สามารถลบกระทู้ได้
“ให้ตายเถอะ...”
ความคิดที่ว่ากระทู้แนะนำที่ผมทุ่มเทเขียนด้วยใจกลับสร้างปัญหาให้ผลงานเรื่องนี้กลายเป็นเหมือนรสชาติแห่งความขมขื่นติดอยู่ที่ปลายลิ้นของผม
ทั้ง ๆ ที่ถ้าลองอ่านดูหน่อยก็จะได้อ่านเรื่องสนุก ๆ แท้ ๆ ทำไมพวกเขาถึงไม่ยอมอ่านกันนะ
ผมถึงขั้นอยากจะโดเนทเงินสนับสนุนให้นักเขียนด้วยซ้ำ แต่มนุษย์เงินเดือนที่หาเงินได้แค่พอประทังชีวิตคนเดียวแบบผมไม่ได้มีเงินมากพอจะใช้จ่ายไปกับเรื่องพวกนี้ได้
ในตอนนั้นเองก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า ‘มีข้อความเข้า’
-tls123 : ขอบคุณนะ
ข้อความที่จู่ ๆ ก็ส่งมาอย่างกระทันหัน ผมต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้
-คิมดกจา : คุณนักเขียน?
tls123 เขาคือนักเขียนเรื่อง‘สามวิธีรอด’
-tls123 : เพราะนายแท้ๆ ฉันเลยแต่งเรื่องนี้ได้จนจบ แถมยังได้รางวัลจากประกวดด้วย
การประกวดเนี่ยนะ ‘สามวิธีรอด’เรื่องนั้น?
-คิมดกจา : ยินดีด้วยนะครับ! ว่าแต่ประกวดอะไรเหรอครับ
-tls123 : มันเป็นประกวดที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร นายคงไม่รู้จักหรอก
ความคิดที่ว่า‘เพราะรู้สึกอับอายก็เลยโกหกหรือเปล่านะ’แวบขึ้นมา แต่ในใจก็คิดว่าถ้าเป็นเรื่องจริงก็ดี บางทีผมอาจไม่รู้จักการประกวดที่ว่าจริง ๆ ก็ได้ ถึงแม้จะไม่ได้รับความนิยมที่นี่ก็เถอะ แต่บางทีบนแพลตฟอร์มอื่นมันอาจจะดังเป็นพลุแตก
ผมรู้สึกเศร้าใจนิดหน่อย แต่นิยายดี ๆ แบบนี้ก็ได้เผยแพร่ให้คนอื่น ๆ รู้จักก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้วละ
-tls123 : ฉันอยากส่งของขวัญพิเศษแทนคำขอบคุณให้คุณนักอ่านน่ะ
-คิมดกจา : ของขวัญหรือครับ
-tls123 : ก็การที่เรื่องนี้ได้เผยแพร่สู่โลก ทั้งหมดเป็นเพราะคุณนักอ่านนี่นา
ผมพิมพ์ที่อยู่อีเมล์ที่ใช้ประจำตอบกลับไปเมื่อนักเขียนขอที่อยู่อีเมลจากผม
-tls123 : จริงสิ แผนจะเริ่มเก็บเงินก็มีแล้วนะ
-คิมดกจา : ว้าว! จริงหรือครับ ตั้งแต่วันไหนครับ ผลงานดี ๆ แบบนี้ผมเองก็อยากจะจ่ายเงินสนับสนุนตั้งแต่ตอนแรกเหมือนกัน...
‘สามวิธีรอด’เป็นเรื่องที่อัปเดตทุกวัน เพราะฉะนั้นถ้าจะอ่านตลอดหนึ่งเดือนก็ต้องใช้สามพันวอน เงินสามพันวอนสำหรับผมคือข้าวกล่องในร้านสะดวกซื้อหนึ่งกล่อง
-tls123 : การเก็บเงินจะเริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้
-คิมดกจา : ถ้าอยากนั้นบทส่งท้ายที่จะอัปเดตวันพรุ่งนี้ก็เก็บเงินด้วยเหรอครับ
-tls123 : ใช่แล้วละ ขอโทษด้วยนะ แต่ตั้งใจว่าจะลงแบบเก็บเงินน่ะ
-คิมดกจา : ต้องเก็บเงินสิครับ! ผมจะจ่ายเงินซื้อตอนสุดท้ายแน่ ๆ!
หลังจากนั้นก็ไม่มีคำตอบอะไรตอบกลับมาจากนักเขียนอีก ดูท่าคงจะล็อกเอาต์ออกจากระบบไปแล้ว ความรู้สึกหดหู่ประเดประดังเข้ามา ตอนนี้ประสบความสำเร็จแล้วก็เลยจากไปโดยไม่ยอมตอบผมสินะ
จากนั้นความชื่นชมก็แปรเปลี่ยนเป็นความอิจฉา
ว่าแต่ทำไมผมยังต้องตื่นเต้นขนาดนั้นด้วยนะ ยังไงผมก็ไม่ได้เป็นคนแต่งนิยายเรื่องนี้สักหน่อย
“จะให้คูปองเงินสดอะไรเทือก ๆ นี้หรือเปล่านะ ถ้าเป็นคูปองสักห้าหมื่นวอนก็ดีสิ”
แม้จะใสซื่อ แต่ตอนนั้นผมคิดแบบนั้นจริงๆ
ผมคิดแบบนั้นโดยที่ไม่รู้เลยว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับโลกใบนี้
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!