" พี่คิดว่าสองอย่างนี้จะมากพอรึป่าวครับ ? "
" สองสิ่งไม่พอครับวินเซนต์ แต่ถ้าลองเพิ่มเกสรของดอกไม้นี้ลงไป มันจะกลายเป็นยาพิษที่รุนแรงมากอย่างที่เราต้องการเลยแหละ "
" เดี๋ยวสิ เชอร์ล็อค ! "
เสียงของหญิงสาววัยสาวสะพรั่งดังขึ้น ใบหน้าของเธอแสดงให้เห็นชัดเจนว่าตอนนี้เธอนั้นกำลังอารมณ์ไม่ดีเอามาก ๆ รวมถึงท่าทางของเธอที่กำลังกอดอกอยู่ก็ด้วย และสาเหตุที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้นั้นก็คือเจ้าของชื่อที่เธอได้กล่าวไปก่อนหน้านี้นั่นเอง
" วะ . . .วันนี้เป็นวันที่อากาศเองก็ดี ส่วนคุณฮัดสันเองก็ยังคงสวยเช่นเคยเพราะงั้น . . . ขอตัวก่อนนะครับ "
" รอเดี๋ยวสิคะ ส่งมาเลยนะ "
" โฮ่ง "
ชายหนุ่มเจ้าของสาเหตุที่ทำให้เธอรู้สึกอารมณ์ไม่ดียิ้มแห้งในขณะที่พูดและยื่นแอปเปิ้ลให้กับเธอ ในทีแรกเธอเองก็เกรงใจผู้คนที่กำลังเดินทางผ่านไปผ่านมา แต่เมื่อเจอแบบนี้เธอจึงทนไม่ไหวเริ่มบ่นคนตรงหน้าเสียงดังจนผู้คนรอบข้างบางส่วนหันมาสนใจ
" คุณฮัดสันครับ งานของเชอร์ลี่มีความพิเศษจริง ๆ นะครับ "
เจ้าของชื่อหันไปมองตามเสียงและแรงกระตุกที่เดรสของเธอจึงเห็นเด็กชายตัวน้อยทั้งสองคนที่กำลังทำหน้าตารู้สึกผิดและเศร้าสร้อยเอามาก ๆ
" ถึงจะทำหน้าตาแบบนั้นก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอกนะถ้าครั้งนี้ไม่จ่ายแล้วล่ะก็ฉันจะไล่ออกจากห้องเช่าจริง ๆ แล้วนะคะ ! "
" มาส่งเสียงดังอะไรกันบนถนนแบบนี้ล่ะ ? "
" คุณฮัดสันครับ นี่คือเพื่อนของผม ชื่อแสตมฟอร์ด เป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลเซนต์บาโธโลมิลครับ "
" โอ้ตายจริง ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ "
ชายที่พึ่งมายกหมวกของตัวเองขึ้นเล็กน้อยเพื่อนเป็นการแสดงความเคารพต่อหญิงสาว แน่นอนว่าการปรากฏตัวอย่างกระทันหันของอีกบุคคลหนึ่งที่มีความอ่อนน้อมแบบนี้ก็เพียงพอจะทำให้เธอยอมเงียบลงและหันมายิ้มอย่างเป็นมิตรได้บ้าง
" ยินดีที่ได้พบครับคุณหมอแสตมฟอร์ดเชอร์ลี่เล่าเรื่องคุณให้พวกเราฟังอยู่บ้าง แต่ผมพึ่งเคยเจอครั้งแรกเลย "
เด็กชายตัวน้อยที่มีดวงตาสีแดงชาติกล่าวขึ้นพร้อมกับก้มหัวลง ส่วนอีกคนที่อยู่ข้าง ๆ พอเห็นว่าทำแบบนั้นจึงก้มหัวลงเล็กน้อยตามอีกฝ่าย
" แหม่ ๆ โฮมส์เองก็เคยพูดเรื่องพวกเธอเหมือนกัน "
" ฉันไม่เคยพูด แล้วก็ ยืมเงินหน่อยสิ "
เชอร์ล็อกตัดสินใจเล่ารายละเอียดปัญหาที่ตนกำลังประสบพบเจอกับตัวเองในตอนนี้ให้กับแสตมฟอร์ดฟัง ซึ่งอีกฝ่ายก็ดูจะเข้าใจแล้วครุ่นคิดอยู่ว่าควรพูดอะไรต่อไปดี
" ทางนี้เองก็ลำบากอยู่เหมือนกันนะคะ "
หญิงสาวเจ้าของห้องพักเอยขึ้นในขณะที่ใบหน้าของเธอก็เปียกเพราะกำลังรํ่าไห้กับตัวเองโดยมีเด็กน้อยทั้งสองคนคอยเช็ดนํ้าตาที่ไหลออกมาอยู่ด้วย
" คุณฮัดสันครับ ถ้าโกรธบ่อย ๆ เดี๋ยวก็มีรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าหรอกครับ "
" แล้วมันเป็นเพราะใครล่ะคะ ! "
" ยังไงก็ตามเชอร์ลี่ไม่ควรพูดแบบนั้นกับสุภาพสตรีทุกท่านนะครับ "
เมื่อเห็นว่าเธอจะเริ่มโกรธอีกครั้งจึงทำให้เด็กชายรีบพูดแทรกไว้อย่างรวดเร็วเพื่อเป็นการยุติสงครามเล็ก ๆ นี้ซึ่งตัวของเชอร์ล็อกเองก็รู้ถึงเจตนานี้เลยหัวเราะแห้ง ๆ
" ถ้างั้นก็ ลองหาเพื่อนร่วมห้องที่จะแชร์ค่าห้องกันกับโฮมส์ดีไหมครับ ? "
" เพื่อนร่วมห้อง ? "
" สำหรับผมกับวินเซนต์ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกนะครับ เพียงแต่ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้เชอร์ลี่อยู่ร่วมกับอัลฟ่าเลย "
" ฉันเขาใจเรื่องที่นายเป็นกังวลนะ แต่อัลฟ่าไม่ได้มีเยอะพอจะมาเป็นเพื่อนร่วมห้องเราหรอก "
" อะไรก็เป็นไปได้ครับ "
ทั้งสามคนเดินเตร่ไปเพื่อหาอะไรลงท้องถึงแม้ว่าเชอร์ล็อกจะไม่ได้เตรียมเงินไว้จ่ายค่าเช่าห้องแต่เงินสำหรับมื้ออาหารของพวกเขาสองคนยังไงก็มีให้เสมอจนบางครั้งก็ต้องหลุดปากถามออกไป และถึงจะไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็คงเป็นสัญชาตญาณที่รับรู้ได้ว่าเป็นสิ่งที่ควรทำซึ่งไม่แน่ใจว่าถูกไหมเพราะด้วยนิสัยของเจ้าตัว
" หลังจากกินเสร็จฉันจะกลับเลยทันทีเพื่อหาคนไปออดิชั่นกับคุณฮัดสัน ถ้าจะกลับก็กลับด้วยกันแต่ถ้าจะไปห้องสมุดกันอีกก็ระวังตัวเอาไว้ด้วย "
เมื่อต่างคนต่างรับประทานอาหารเสร็จแล้วผลสรุปก็คือเด็กแฝดทั้งสองคนจะไปห้องสมุดก่อนแล้วค่อยกลับห้องเช่า ซึ่งเชอร์ล็อกเองก็พยักหน้าให้เพื่อบอกว่าตัวเองได้รับรู้แล้วก่อนจะจ่ายเงินแล้วออกไปจากร้าน
" เราเองก็ไปกันเถอะครับวินเซนต์ "
" ครับพี่ ! "
อันที่จริงเชอร์ล็อกก็ไม่ได้ชอบให้พวกเขาไปไหนมาไหนกันแค่นี้แต่เพราะว่าเรื่องมากมายที่เข้ามาทำให้ตัวเองไม่ได้มีเวลาดูแลพวกเขามากนักจึงเลือกที่จะยอมให้ไป ในปัจจุบันตัวของเขายังจำได้อยู่เลยว่าตัวของเชอร์ล็อกยอมปลอมตัวเพื่อมาแอบดูการเดินทางนอกบ้านครั้งแรกของพวกเขาโดยไม่มีใครตามมาเลยอย่างลับ ๆ
สองพี่น้องก้าวเท้าเล็ก ๆ ของทั้งคู่เดินไปเรื่อย ๆ ก้าวขึ้นบ้างก้าวลงบ้างจนกระทั่งมาถึงจุดมุ่งหมายในที่สุด ห้องสมุดนี้ถึงแม้จะบอกว่าทำขึ้นเพื่อให้ประชาชนเข้ามาศึกหาความรู้แต่นั้นก็เป็นได้แค่เบื้องหน้า เพราะโดยส่วนมากจะเป็นเหล่าขุนนางที่มาใช้งานห้องสมุด
ตัวของเขากัับแฝดน้องก็รู้ดีว่าถ้าไม่ได้เป็นขุนนางหรือเหล่าลูกหลานของขุนนางต้องเจอกับอะไร แต่ก็เพราะแต่เดิมนั้นห้องสมุดแห่งนี้จะมีหญิงสาวที่แต่เดิมมีพ่อเป็นขุนนางทำงานอยู่ เธอเป็นโอเมก้าแถมยังเป็นลูกที่เกิดจากท่านบารอนผู้สูงศักดิ์กับสาวใช้อีกด้วยซึ่งแน่นอนจึงทำให้บารอนเนสมักขับไล่เธออยู่เป็นประจำเมื่อเจอหน้าคร่าตากัน
พอเธอออกมาจากคฤหาสน์นั้นสองแฝดก็ได้บังเอิญเจอกับเธอที่เข้ามาทำงานได้ไม่นาน เธอเป็นคนที่มีหน้าตาสะสวยและใจดีมากจนเป็นข้อเสีย เธอทั้งยอมให้พวกเขาเข้าไปอ่านหนังสือได้อย่างอิสระรวมถึงช่วยปกปิดอีกด้วย แต่เมื่อไม่นานมานี้เธอได้เสียชีวิตลงหน้าห้องสมุดโดยโดนแทงที่จากด้านหลัง ตำรวจไม่สามารถหาคนร้ายได้คดีจึงเงียบไป เงียบจนน่าแปลกใจ . . .
" กลับไปนะไอ้เด็กเหลือขอ เป็นแค่พวกชั้ยต่ำแต่ริอาจอยากจะเหยียบเข้ามาในที่ของชนชั้นสูงอย่างนั้นหรอ ! "
ชายวัยกลางคนที่เข้ามาทำหน้าดูแลห้องสมุดคนใหม่ปาแก้วใส่วินเซนต์แต่แทนที่จะโดนเจ้าตัว เศษแก้วและกาแฟกลับกระทบเข้าอย่างจังกับหน้าผากของเด็กอีกคนที่เอาตัวมาบัง คนรอบข้างต่างมองมาที่เด็กทั้งสองอย่างขยะแขยงและเลือกที่จะรีบเดินออกไปโดยไม่มีใครคิดจะเข้ามาช่วยสักคน
" คิดจะยั่วโมโหกันรึไงฟะไอเด็กพวกนี้ ! "
ในจังหวะที่มือของชายวัยกลางคนกำลังจะตีลงที่หน้าของเด็กชาย ก็มีมือปริศนาเข้ามาจับที่ข้อมือไว้จนขยับไม่ได้
" ทะ. . . ท่านขุนนาง !? "
" ขอโทษที่ขัดจังหวะแต่ผมมีเรื่องกับเด็กทั้งสองคนนิดหน่อยน่ะ ได้รึป่าวครับ ? ''
" โอะ . . โอ้ ได้สิครับ ! "
นัยน์ตาสีแดงโกเมนของเด็กน้อยสบเข้ากับนัยน์ตาสีเดียวกันของชายเจ้าของเสียงอย่างบังเอิญ ชายคนนั้นยิ้มให้ก่อนจะอุ้มเขาขึ้นมา ส่วนชายอีกคนที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกันกับชายที่อุ้มเขาก็อุ้มวินเซนต์ขึ้นเพื่อไม่ให้เผลอเดินเหยียบเศษแก้วที่แตก
" เจ็บรึป่าวครับ ? "
" เจ็บครับ แต่ก็ดีกว่าน้องของผมเจ็บตัว "
หลังจากจบประโยคนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไร ในตอนนี้เด็กชายตัวน้อยอยากจะบอกเหลือเกินว่าเขาเดินเองได้มากแต่เพราะเลือดที่ไหลจากการโดนปาแก้วใส่ทำให้ร่างกายเล็ก ๆ ของเขาเพลียจนเผลอหลับไปในอ้อมแขนของคนที่กำลังอุ้มเขาไปหาหมอเพื่อทำแผล
" ผมไม่รู้จะเรียกคุณว่าอะไรดีในตอนนี้ คุณชื่ออะไรหรอครับ ? "
เนื่องจากระหว่างที่รอแฝดคนพี่ทำแผล เผลอไปครู่เดียวเวลาก็ล่วงเลยมานานพักใหญ่ด้วยความที่รู้สึกอึดอัด วินเซนต์เงยหน้ามองคนที่อุ้มตัวเองอยู่พร้อมกับเอ่ยปากถามออกไปอย่างใคร่รู้
" ชื่อของผมคือ ลูอิส เจมส์ มอริอาร์ตี้ ครับนั่นพี่ชายของผม วิลเลียม เจมส์ มอริอาร์ตี้ "
" ขอบคุณที่เข้ามาช่วยนะครับคุณมอริอาร์ตี้ คุณเรียกผมว่าวินเซนต์ก็ได้ "
เด็กชายตัวน้อยยกยิ้มอย่างไร้เดียงสาจนตาทั้งสองข้างปิด สำหรับเอ็ดการดูเหมือนว่าการชวนคุยครั้งนี้จะเพียงพอเป็นการทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัดนั้นไปได้แล้ว"
" แล้วพี่ชายของวินเซนต์ล่ะครับมีชื่อว่าอะไร ? "
" เฟรดเดอร์ริคครับ แต่อันที่จริงถึงผมจะเรียกเขาว่าพี่แต่พวกเราเป็นฝาแฝดกัน "
เมื่อทำแผลเสร็จเฟรดเดอร์ริคก็เดินจับมือของวิลเลียมออกมาจากห้องทำแผล คนเป็นน้องที่เห็นก็ดีใจมากจึงเดินเข้าไปกอดคนพี่ในทันที
" ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือต่าง ๆ นะครับคุณมอริอาร์ตี้ทั้งสองท่าน "
" ยินดีครับ แต่ผมขอถามได้ไหมว่าทำไมถึงได้อยากเข้าไปในห้องสมุดล่ะ "
" อันที่จริงพวกเราอยากจะมาหาเบาะแสอะไรนิดหน่อยน่ะครับ "
" เบาะแส ? "
" ลูกสาวคนรองแห่งตระกูลบารอนผู้สูงศักดิ์โดนแทงเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา ทั้งที่เป็นเชื้อสายขุนนางแต่กลับไม่มีใครให้ความสนใจแม้กระทั่งตำรวจ มันเป็นไปได้หรอครับ ? "
สองพี่น้องมอริอาร์ตี้สบตากันสักพักก่อนจะเอ่ยปากถามที่อยู่ของสองแฝด ซึ่งแฝดทั้งสองก็เลือกปฏิเสธที่จะบอกและกล่าวว่าพวกเขาสามารถเดินกลับเองได้อย่างมีปัญหา
เรื่องที่บาดเจ็บในวันนี้หากเชอร์ลี่รู้เข้าแล้วล่ะก็คงไม่ได้ออกนอกบ้านอีกอย่างไม่ต้องสงสัยยิ่งถ้ารู้ว่าได้รับการช่วยเหลือจากขุนนางแปลกหน้าอีกมีหวังโดนอบรมใหม่แน่นอน แต่แน่แหละถ้าเป็นเชอร์ลี่ยังไงก็ต้องรู้
เมื่ออยู่กันสองคนเฟรดเดอร์ริคก็ขอให้วิลเลียมซื้อของบางอย่างให้กับตนแล้วพูดออกมาตรง ๆ เรื่องที่ตัวเองนั้นก็รู้ดีว่าวิลเลียมเองก็กำลังหาเบาะแสเกี่ยวกับคดีนี้เหมือนกัน
และตัวเองจะมอบหลักฐานที่หามาได้ให้ ซึ่งวิลเลียมเองก็ตอบตกลงอย่างยอมรับข้อเสนอนั้นถึงแม้ตัวเองก็สามารถหาได้แต่การที่ได้อะไรเพิ่มเติมก็เป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย
เฟรดเดอร์ริคมองไปรอบ ๆ สักพักจึงยื่นซองจดหมายใส่ในมือให้กับวิลเลียม ซึ่งเจ้าตัวก็รับมาพร้อมรอยยิ้ม
" แต่ไม่มีใครเชื่อคำของเด็กหรอกครับยิ่งผมยังเป็นสามัญชนอีก เพราะงั้นอยู่กับคุณน่าจะดี "
วิลเลียมฟังสิ่งที่เฟรดเดอร์ริคพูดอย่างเข้าอกเข้าใจ สำหรับวิลเลียมแล้ว เด็กคนนี้เป็นคนที่ฉลาดไม่สมกับวัยถึงแม้จะมีจุดบกพร่องแต่ก็ไม่ใช่บกพร่องที่ใหญ่มากนัก หลังจากรับหลักฐานมาแล้วตัวของเด็กชายก็เริ่มพูดถึงการซื้อสิ่งของที่ต้องใหม่เเต่คล้ายเก่าของตัวเอง
เฟรดเดอร์ริคมองและขมวดคิ้วที่วิลเลียมยังยิ้มแล้วทำตัวสบาย ๆ อยู่ทั้งที่คนปกติถ้ารู้เรื่องน่ากลัวแบบนั้นคงจะแสดงสีหน้าอย่างอื่นบ้าง
พวกเขาตัดสินใจแยกทางกัน วินเซนต์ดูชอบคุณลูอิสมากเลยยื่นคุกกี้ที่เป็นของโปรดให้ทั้งกล่อง ซึ่งเจ้าตัวก็หนักใจที่ต้องรับไว้อยู่บ้างแต่สุดท้ายก็รับมา อันที่จริงนั่นเป็นคุกกี้ที่เชอร์ลี่เป็นคนทำ เขาเลยแอบเสียดายอยู่ไม่น้อยแต่เพื่อเป็นการแสดงนํ้าใจเพื่อขอบคุณคนที่เข้ามาช่วยเหลือยิ่งเป็นขุนนางอีกนี่มันเรื่องเหลือเชื่อจริง ๆ เลยแหละ
" ไว้พบกันอีกเมื่อมีโอกาสครับ "
เฟรดเดอร์ริคกับวินเซนต์โค้งตัวเล็กน้อยเพื่อเป็นการแสดงความเคารพก่อนจะพากันเดินต้อย ๆ เพื่อกลับบ้าน ในระหว่างทางก็คิดว่าจะทำยังไงกับแผลดีเพราะยังไงก็ต้องโดนดุอย่างเลี่ยงไม่ได้แน่ ๆ
" พอถึงบ้านพี่ก็ลองรีบเข้าห้องดูสิครับ "
" ยังไงเชอร์ลี่ก็ต้องรู้อยู่แล้วไม่ใช่หรอครับ "
" ถึงจะอย่างนั้นก็ขยับเวลาออกไปอีกนิดได้ ถ้าดูจากที่เชอร์ลี่พูดก็น่าจะรับแขกอยู่ เราสามารถใช้โอกาสนั้นหนีเข้าห้องโดยบอกว่ากลัวรบกวนแขกได้หนิครับ "
" วินเซนต์พูดมาขนาดนี้ถ้าผมไม่ทำตามจะเป็นพี่ชายที่แย่ไหมครับ ? "
" แย่ครับ ! "
" อะ..ฮ่า ๆๆ "
กว่าจะถึงหน้าบ้านพักเวลาก็ล่วงเลยมาจนเกือบจะเย็น มือเล็กของแฝดคนน้องค่อย ๆ บรรจงเคาะประตู ถึงใบหน้าจะดูร่าเริงตามแบบแผนแต่ก็พอรู้สึกได้ว่าภายในนัยน์ตาสีไพลินนํ้าทะเลนั้นลึก ๆ แล้วยังคงฉายแววประหม่าเพราะกำลังเป็นห่วงแฝดพี่อยู่
" อย่ากังวลไปเลยครับวินเซนต์ ผมให้สัญญาว่ามันจะเป็นแบบที่นายต้องการ "
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!