NovelToon NovelToon

นายหลนกับนายเต้าหู้

One and only.

...............

...........

.........

........

.......

ร้านชาบูหม่าล่าของนายหลนและนายเต้าหู้เป็นร้านเล็กๆ แต่มีความครึกครื้นด้วยลูกค้าที่มาสัมผัสรสชาติแสนเผ็ดร้อนและเข้มข้นจานชาบูหม่าล่ารสพิเศษของทางร้าน นายหลนกำลังจัดเนื้อใส่จานและเสิร์ฟให้ลูกค้าในขณะเดียวกันที่นายเต้าหู้คอยต้อนรับลูกค้าอย่างร่าเริง ทั้งคู่ทำงานด้วยความรักและความมุ่งมั่นที่จะบริการลูกค้า ท่ามกลางความวุ่นวายภายในร้านชาบูหม่าล่าแห่งนี้ นายเต้าหู้ก็ยังมีความฝันเล็กๆที่เขาไม่เคยบอกนายหลนมาก่อน คือ อยากเลี้ยงแมวน้อยสักตัว เพราะนายเต้าหู้รู้สึกว่ามันจะทำให้บ้านของพวกเรามีชีวิตชีวามากขึ้นและเป็นเหมือนพลังงานบวกที่สดใสภายในบ้าน นายเต้าหู้จึงตัดสินใจจะพูดถึงความฝันนี้กับนายหลนในสักวันหนึ่งที่เป็นใจ

วันหนึ่งหลังจากที่ลูกค้าชุดสุดท้ายกลับไปแล้ว นายหลนและนายเต้าหู้นั่งพักจากความเหนื่อยที่โต๊ะภายในร้าน นายเต้าหู้ลูบแก้มนายหลนอย่างอ่อนโยนก่อนจะเอ่ยขึ้น

" หลน... เรามีเรื่องอยากคุยด้วยอ่ะ " เต้าหู้พูดด้วยความลังเล แต่ภายในดวงตาเป็นประกายวิบวับ

" เธอมีอะไรเหรอ ที่รัก? " นายหลนยิ้มและหันไปหาคนรักอย่างนายเต้าหู้ มองดูด้วยความสังสัย

นายเต้าหู้ทำหน้าเขินเล็กน้อย " เราเจอแมวตัวนึงที่ร้านขายสัตว์เลี้ยงเมื่อเช้านี้... น้องน่ารักมากเลยนะ เป็นแมวส้มตัวน้อย ขาสั้น น่ารักมากก เราอยากเลี้ยงน้องอ่ะหลน "

" แมวเหรอ? " หลนขมวดคิ้วและมองเต้าหู้ด้วยสายตาจริงจัง " เต้าหู้ เราไม่ชอบสัตว์เธอก็รู้ เราไม่คิดว่าพวกเราจะเลี้ยงมันได้หรอกนะ "

นายเต้าหู้หน้าเศร้าลง " ตะ..แต่เรารักสัตว์มากเลยนะ เราจะดูแลน้องเองเราเลี้ยงจริงๆ เธอไม่ต้องทำอะไรเลย เราแค่อยากมีแมวสักตัวในบ้านอ่ะ มะ..มันจะทำให้เรามีความสุขมากเลยนะ ทำไมเธอถึงไม่ชอบล่ะเราลองปรับกันได้นะ"

นายหลนรู้สึกอึดอัดกับสิ่งที่นายเต้าหู้พูด เขาไม่เคยชอบสัตว์ และการที่เต้าหู้พูดถึงการเลี้ยงแมวทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ ถึงแม้เขาจะไม่ได้แพ้ขนหรืออะไรก็ตาม แต่เขาไม่ชอบมัน " เราเข้าใจว่าเธออยากเลี้ยง แมว แต่เราไม่คิดว่ามันจะเป็นไอเดียที่ดี เรามีงานมากมายที่ต้องทำกันที่ร้านแล้ว และก็ยังต้องคอยดูแลบ้านอีก การเลี้ยงแมวจะทำให้พวกเราต้องมีภาระเพิ่มขึ้นนะ ทั้งขนของมันที่หล่นไปทั่ว ทั้งพฤติกรรมของมันที่อาจทำให้ข้าวของบ้านของเราเสียหาย ยังไม่รวมถึงยาหรืออะไรอีกเต้าหู้!!"

นายเต้าหู้หน้าเศร้าลงทันที เขาไม่คาดคิดว่านายหลนจะปฏิเสธอย่างหนักและดังขนาดนี้ "แต่หลน เราสามารถดูแลได้จริงๆ เราเลี้ยงน้องกันแบบปิดก็ได้ ทำความสะอาดเราจะทำเอง เราจะพาไปหาหมอ ดูแลของใช้ของน้อง ให้อาหารเองทั้งหมดทุกอย่างเลย เรารักน้องจริงๆ เราแค่อยากให้บ้านของเรามีความสุขมากขึ้น หลนไม่ต้องห่วงเลย เราสามารถเลี้ยได้ไหม"

" เต้าหู้ เธอก็รู้ว่าเราไม่ชอบสัตว์มาก ทำไมถึงอยากจะเลี้ยงมันขนาดนั้น! "

เต้าหู้รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะเขาไม่คิดว่าทั้งที่อธิบายให้เหตุผลไปมากแล้ว นายหลนก็ยังปฏิเสธอย่างเดียวไม่สนใจเขาและความรู้สึกที่เขามีให้แมวเลย และไม่คิดว่าจะทำให้นายหลนไม่พอใจขนาดนี้ " เพราะเรารู้สึกว่ามันจะทำให้ชีวิตของพวกเรามีความสุขมากขึ้นไงหลน เราแค่อยากให้มีอะไรที่สามารถทำให้ครอบครัวเรามีสมาชิกในครอบครัวเพิ่มขึ้นได้อ่ะหลน พวกเรามีลูกไม่ได้เราแค่คิดว่าอย่างน้อยเป็นสัตว์เลี้ยงก็ดีนะหลน"

" แต่เราไม่คิดว่าการเลี้ยงแมวจะทำให้ดีขึ้นเลย และมันก็เป็นสัตว์เต้าหู้มีเพิ่มมาก็จะเป็นภาระเปล่าๆไหม "

การสนทนาที่ดูเหมือนจะเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยนี้ได้กลายเป็นปัญหาที่ทั้งสองไม่เคยคาดคิดขึ้นมาก่อน ทั้งคู่เริ่มมีปากเสียงใส่กัน นายหลนรู้สึกว่าความต้องการของนายเต้าหู้ดูไม่มีความสมเหตุสมผลที่มากเพียงพอในความคิดของเขาขนาดต้องเลี้ยง ส่วนนายเต้าหู้ก็รู้สึกว่านายหลนไม่เข้าใจเขาเลย และไม่เห็นคุณค่าของความฝันเล็กๆนี้ นายเต้าหู้รู้สึกเสียใจและผิดหวังเป็นอย่างมาก นายหลนเองก็รู้สึกไม่ดีที่ทำให้นายเต้าหู้เสียใจแต่เขาไม่ชอบเขาก็ไม่คิดจะยอมให้นายเต้าหู้เลี้ยง

หลังจากผ่านไปสักพักใหญ่ " ทำไมอ่ะหลน ทำไมถึงไม่พยายามเข้าใจเราบ้างอ่ะ เราก็อธิบายชัดเจนแล้ว! " นายเต้าหู้เริ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสั่นคลอ " เราขอแค่นี้เอง แต่หลนกลับทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่โตไปได้อ่ะ "

นายหลนเงียบไปสักพักหนึ่ง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น " เราแค่ไม่อยากให้บ้านเป็นที่ที่เรารู้สึกไม่สบายใจ เราชอบชีวิตที่เป็นแบบนี้อยู่แล้วเต้าหู้ ทุกอย่างก็ดีอยู่แล้วเราไม่เห็นว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนหรือมีอะไรจำเป็นเข้ามาเปลี่ยนมันไป "

หลังจากนายเต้าหู้ได้ยินประโยคนั้นของนายหลนก็เริ่มร้องไห้ออกมาอย่างหนัก " มันก็เป็นแค่ความฝันเล็กๆของเรา เราแค่อยากลองเลี้ยงแมวดูสักครั้งในชีวิตเองอ่ะหลน หรือถ้าหลนไปชอบขนาดนั้นเราไปเปิดห้องอยู่กับแมวก็ได้ เราจะได้ไม่ต้องทำให้หลนอยู่อย่างไม่สบายในบ้านของพวกเรา "

เมื่อเห็นนายเต้าหู้ร้องไห้อย่างหนักและพูดเหมือนจะไปจากบ้านของพวกเขา หัวใจของหลนก็เริ่มอ่อนลง เขาไม่อยากเห็นคนที่เขารักต้องเสียใจแล้วคิดจะจากเขาไปเช่นนี้ " เราขอโทษนะเต้าหู้ เราไม่อยากให้เธอร้องไห้ อย่าร้องเลยนะเดี๋ยวไม่สวยเอานะที่รัก หยุดร้องนะครับ นะ "

นายเต้าหู้มองนายหลนด้วยสายตาที่มีทั้งความรักและความเสียใจ " เราแค่หวังอยากให้หลนลองเปิดใจดูสักครั้งนะ "

" เราจะลองดูก็ได้ แต่เธอต้องสัญญากับเราว่าจะไม่ร้องไห้แล้วไม่คิดจะไปจากบ้านของพวกเราอีกนะครับ และเธอต้องดูแลมันเองนะ "

นายเต้าหู้ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา " ขอบคุณนะครับหลน ขอบคุณที่พยายามเข้าใจเรา ขอบคุณที่ให้เราเลี้ยงน้อง เราสัญญาว่าจะดูแลมันให้ดีที่สุด "

หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์นายเต้าหู้พาแมวตัวเล็ก สีส้ม ขาสั้นเข้ามาภายในบ้าน หลนยังคงรู้สึกอึดอัด เขาไม่เข้าใกล้มันเลย ไม่เล่นกับมัน และพยายามหลีกเลี่ยงมันให้มากที่สุด แต่นายเต้าหู้กลับดูมีความสุขมากขึ้นทุกวันที่ได้อยู่กับมัน

นายเต้าหู้ตั้งชื่อแมวว่า *"*** พริก **" เพราะแมวตัวนี้มีขนสีส้มคล้ายสีของพริกหม่าล่าในร้าน นายหลนแอบคอยดูนายเต้าหู้ตอนอยู่กับจ้าวพริกและเห็นว่าการดูแลจ้าวพริกของนายเต้าหู้นั้นเต็มไปด้วยความรักและความใส่ใจ แม้ว่าเขายังไม่เข้าใจความผูกพันนี้ดีนัก แต่เขาก็รู้สึกมีความสุขที่เห็นนายเต้าหู้มีความสุข

วันเวลาผ่านไป นายหลนเริ่มสังเกตเห็นว่าจ้าวพริกไม่ได้สร้างความวุ่นวายหรือปัญหาไว้อย่างที่เขาคิด แมวตัวนี้กลับเงียบสงบและรักใคร่นายเต้าหู้มาก จนนายหลนเริ่มรู้สึกว่าบางทีเขาอาจจะตัดสินใจบางอย่างเร็วเกินไป

ในวันหนึ่ง เมื่อนายเต้าหู้ออกไปทำธุระและปล่อยให้นายหลนอยู่กับจ้าวพริก นายหลนจึงได้ลองเล่นกับจ้าวพริกเป็นครั้งแรก แมวตัวเล็กกลับเข้ามาคลอเคลียเขาอย่างน่ารัก นายหลนรู้สึกว่าความอ่อนโยนนี้ไม่ได้น่ารังเกียจอย่างที่เขาเคยคิดไว้ นายหลนเริ่มเปิดใจและยอมรับจ้าวพริกมากขึ้น เขาเริ่มมีความผูกพันกับแมวตัวนี้อย่างที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีได้ นายหลนเล่นกับจ้าวพริก และเริ่มช่วยนายเต้าหู้ดูแลมัน และค่อยๆ รู้สึกว่าการมีจ้าวพริกอยู่ในบ้านทำให้ชีวิตของพวกเขาเต็มไปด้วยความสุขและความอบอุ่นมากขึ้น

นายเต้าหู้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้แล้วรู้สึกดีใจมาก " เราดีใจมากเลยนะที่หลนยอมรับพริกได้อ่ะ "

นายหลนยิ้ม " เราเองก็ดีใจที่ได้ลองเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆ การมีพริกกับเต้าหู้อยู่ มันทำให้เรารู้สึกว่าบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยความสุขมากขึ้น และก็เราเธอมากนะที่รัก เราขอโทษเธอทุกๆสิ่งทุกๆอย่างเลยนะ ที่รักเราจะขอโทษทั้งหมดเลยนะไม่ว่าจะข้างนอกหรือข้างใน " นายหลนได้จุมพิตลงไปที่ริมฝีปากของนายเต้าหู้ แล้วหลังจากนั้นพวกเขาก็เดินหายเข้าไปในประตูห้องนอนทั้งคืนโดยทิ้งจ้าวพริกผู้น่าสงสารไว้หน้าห้อง

สุดท้ายนี้ นายหลนก็ได้เรียนรู้ว่าความรักคือการปรับตัวและยอมรับซึ่งกันและกัน แม้ว่าเขาจะไม่ชอบสัตว์มากตั้งแต่แรก แต่เมื่อเขาได้ลองเปิดใจ เขาก็พบว่าความรักที่เขามีต่อนายเต้าหู้และการได้ลองเผชิญหน้าจริงๆ ทำให้เขาสามารถยอมรับในสิ่งที่เขาไม่ชอบได้

ชีวิตของนายหลนและนายเต้าหู้ดำเนินต่อไปพร้อมกับจ้าวพริก แมวตัวน้อยที่กลายเป็นสมาชิกคนสำคัญของครอบครัว พวกเขาเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจและความรักที่มีให้กันก็ลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปอีก

ในเย็นวันหนึ่ง ขณะที่ทั้งคู่กำลังนั่งเล่นกับจ้าวพริก นายหลนหันไปมองนายเต้าหู้ด้วยสายตาอบอุ่น " ขอบคุณที่ทำให้เราลองเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆที่เข้ามานะที่รัก "

นายเต้าหู้ยิ้มตอบ " ขอบคุณหลนเหมือนกันที่พยายามเข้าใจเรา แล้วพยายามเพื่อเราทั้งๆที่เป็นสิ่งที่หลนไม่ชอบมาก และจริงๆ แล้วความรักของเราที่มีให้หลนคือสิ่งที่สำคัญที่สุดนะ "

ทั้งสองคนกอดกันเบาๆ พร้อมกับจ้าวพริกที่นอนขดอยู่ใกล้ๆ จริงๆแล้วชีวิตของพวกเขาอาจไม่สมบูรณ์แบบ แต่ความรักและความเข้าใจที่พวกเขามีต่อกันทำให้ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องง่ายและงดงามที่สุด

...…end…...

.......

.......

.......

...————————————————————————...

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!