NovelToon NovelToon

ฝันของเฟย

ดิฐากร & รินทร์ลดา

แสงตะวันริดรอนส่องแสงรอดหน้าต่าง แสดงให้เห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาเช้าตรู่แล้ว ในห้องนอนขนาดใหญ่บนเตียงคิงไซส์มีชายหนุ่มรูปร่างสมส่วนน่ามองเปือยท่อนบนนอนคว่ำอยู่ เปลือกตาของเขายามนี้ปิดสนิทไร้การเคลื่อนไหว

ปึง ปึง ปึง!

“เฟยโว๊ย ตื่นได้แล้ว” เสียงเคาะประตูจากด้านนอกอย่างบ้าระห่ำ กับเสียงโหวกเหวกหลังบานประตูที่คุ้นหู ส่งผลให้คนนอนหลับตาพริ้มเมื่อครู่เบิกตาโพลงด้วยความตกใจ

“อือ ตื่นแล้ว หยุดเคาะได้แล้ว!” หลังวิญญาณกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวก็ได้แหกปากตะโกนบอกคนที่เคาะประตูเอาเป็นเอาตายให้หยุดเสียที พร้อมเดินไปเปิดประตูให้คนด้านนอก

“สายแล้วเนี่ย บอกให้เรามาปลุกแล้วแกจะล็อคห้องเพื่อ!?” เห็นหน้าปุ๊บเป็นบ่นปั๊บ ไม่ใช่ใครที่ไหน คือฝันเพื่อนสนิทตัวดีของเขาเอง

“ก็มาเปิดให้แล้วนี่ไง บ่นเป็นแม่ป้าจริงวุ้ย” ปากพร่ำบ่น มือก็ขยี้ขี้ตาไปพลาง

“ยังจะเถียง เดี๊ยะแม่จะฟาดให้ ไป๊ ไปอาบน้ำได้แล้ว” เอ่ยปากไล่คนไปอาบน้ำจบก็เดินสะบัดก้นหนีมานั่งที่โซฟาตัวเดิม แบบเดิมทุกวัน เป็นแบบนี้มาหลายปี…..

เมื่อวัยเยาว์

เด็กชายเฟย ดิฐากร ผู้เป็นหนุ่มน้อยสุดฮอต กับเด็กหญิงฝัน รินทร์ลดา สาวน้อยสุดคิ้วท์ได้โคจรมาพบกันช่วงประถมวัย ในโรงเรียนอินเตอร์แห่งหนึ่ง ด้วยหน้าตาโดดเด่นน่ารักของทั้งสองจึงได้ทำกิจกรรมคู่กันบ่อยครั้ง เป็นอันคุ้นชินกันมาตั้งแต่นั้น หลังจากทั้งสองค่อยๆเติบโตก็สนิทกันไปโดยปริยาย

นับตั้งแต่สนิทกันมาจากมัธยมต้น ณ ตอนนี้เรียนมหาลัยปีสามดิฐากรก็ไม่มีวี่แววว่าจะตรัสรู้ตื่นไปเรียนเองได้เลยสักวันหากไม่มีรินทร์ลดาคนนี้มาคอยมาแหกปากปลุก ไม่ใช่ว่าตั้งปลุกเองไม่ได้ แต่ไอ้เฟยตัวดีมันกดปิดแล้วนอนต่อ

ทั้งสองคนอาศัยอยู่คอนโดมิเนียมเดียวกัน เพียงแค่อยู่คนละห้อง กระนั้นก็ไม่ได้ไกลกันเลยสักนิด อยู่ตรงข้ามกันเลยทีเดียว เป็นอันว่าสะดวกสบายต่อภารกิจปลุกคนขี้เซา

กลับมาปัจจุบัน

คนโดนไล่ไปอาบน้ำกลับออกมาแล้ว เจ้าตัวเดินทอดน่องออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูพันรอบเอวผืนเดียว ท่อนบนเปล่าเปลือย กล้ามเนื้อโชว์หลากระแทกตาคนมองแทบทะลุ

“เช็ดน้ำลายหน่อยฝัน” บ่นเพื่อนสาวที่ยามนี้เอาแต่นั่งจ้องเรือนกายกันตาเยิ้มน้ำลายหก มองแบบเล็มเลียกันโต้งๆได้ไงเป็นสาวเป็นแซ่

“ชิ ก็แล้วใครมันทำให้เราน้ำลายไหล” ตอกกลับหน้าตายพลางสะบัดหน้าหนีทำท่าเง้างอน

คนถูกงอนปลอมเห็นจะรู้ตัว รีบสาวเท้าไปใกล้ ถึงตัวก็คว้าหมับที่สันกรามเรียวจนคนที่นั่งอยู่ต้องช้อนตามอง ทว่ามุมมองแบบนี้มันชวนให้คิดลึกชอบกล จึงรีบปล่อยมือออกแล้วพูดแก้เก้อ

“ดูให้เต็มตาซะสิ พอใจยัง?” ปากพูดแต่หันหน้าไปทางไหนของมัน แปลกจนคนที่นั่งอยู่ต่ำกว่าเริ่มจับพิรุธได้ ร้องอ๋อในหัวจบก็นึกอะไรดีๆออก แผนการอันชั่วร้ายของรินทร์ลดาจึงได้เริ่มขึ้น

“เฟยจ๋า” จงใจใช้น้ำเสียงที่คิดว่าออดอ้อนที่สุดในชีวิต ได้ผลคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าหันขวับมาเลิกคิ้วให้กันอย่างไม่เชื่อหู จึงกดยิ้มนิดๆส่งไปให้คนที่มองกันอยู่

“เล่นอะไรฝัน” เอ่ยท้วงเสียงติดดุเมื่ออุ้งมือเล็กเริ่มลูบๆคลำๆตรงหน้าขาทั้งสองข้าง

“เปล่านี่” ปากว่าตาขยิบ ยัง ยังไม่หยุด

“รินทร์ลดา อินทรเทพ” ร่างเล็กพลันชะงักกึกเมื่อถูกเรียกสมยานามแบบเต็มยศ รีบเก็บไม้เก็บมือเป็นพัลวัน ก้มหน้าหลบตางุด ซวยแล้วกู เจ้าพ่อเฟยเริ่มองค์ลง

คนเรียกชื่อกันเมื่อครู่ไม่ได้ว่าอะไรต่อ แต่ดิ่งไปทางทิศที่มีห้องแต่งตัวอยู่แทน ลอบถอนหายใจหนัก คิดว่าจะโดนทุบหลังแอ่นซะแล้วฝันเอ๊ย

ดิฐากรจัดการแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จ ฉีดน้ำหอมราคาแพงหูฉี่จบก็เดินออกมาหาคนที่ยังนั่งไถโทรศัพท์อยู่ที่เดิม แต่เมื่อสบตากับเขากลับทำท่าหมาหงอยขอความเห็นใจ เสมือนรู้สึกผิดเสียเต็มประดา ตัวเขาทำเพียงมองนิ่งเฉยจนคนที่เล่นอะไรแผลงๆ ร้อนรนต้องเดินมาหา

“โกรธเรามากหย๋อ” ทำเสียงปัญญาอ่อนแบบที่คิดว่าน่ารักพร้อมเบะปากอ้อนเผื่อคนตรงหน้าจะนึกขำจนหายโกรธ

“…” คนโดนอ้อนไม่หลงกล ทั้งยังยืนกอดอกมองกันนิ่ง

“เราขอโทษ เราเล่นอะไรไม่รู้เรื่องเอง หายโกรธหน่อยได้ไหม?” เมื่อรับรู้ได้ว่าคนตรงหน้าไม่ได้เล่นๆ จึงเปลี่ยนเป็นยืนอกผายไหล่ผึ่งพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“อือ แต่แกอย่าไปทำกับใครแบบนี้อีกนะฝัน” เห็นเพื่อนสาวอย่างรินทร์ลดาขอโทษขอโพยด้วยความจริงใจตัวเขาเองก็ไม่ได้ใจจืดใจดำจนทนเล่นละครต่อไปได้

“สายัณห์สัญญาเลยจ๊ะเฟยจ๋า” คนหงอยกลับมายิ้มเต็มหน้าได้อีกครั้ง

“ดี เพราะถ้าคนที่แกแกล้งเมื่อกี้ไม่ใช่คนดีแบบเราป่านนี้แกคงได้เสียตัวไปแล้ว” ไม่ว่าเปล่ายกนิ้วชี้จิ้มหน้าผากคนสูงแค่ไหล่เขาไปหนึ่งที

“ค่ะ พ่อคนดีศรีสังคม ฝันคนนี้จะไม่ทำอีกแล้วค่า”ตอบรับคำแถมแอบประชดพ่อคนดี ก่อนฉีกยิ้มกว้าง

เถียงกันพอหอมปากหอมคอ ก็ได้ฤกษ์ได้ยามถ่อสังขารไปเรียนกันได้สักที วันนี้สารถีเป็นเฟย ตัวรถยนต์แอสตันมาร์ติน db11 สัญชาติอังกฤษสีขาวคันนี้เองก็เป็นของเฟยเช่นกัน ด้วยความที่เป็นเพื่อนสนิทเขาก็เลยขอใช้อภิสิทธิ์ติดรถเฟยไปด้วยทุกวัน เพราะขี้เกียจ ขับรถเองทำไมให้เมื่อยในเมื่อมีเพื่อนคนนี้ขับให้ เจ้าตัวก็เห็นดีเห็นงาม

เฟยเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ ส่วนฉันเรียนคณะศิลปศาสตร์ โดยปกตินอกจากติดรถมาด้วยกันแล้วก็มักแวะกินข้าวด้วยกันก่อน ที่โรงอาหารหน้าคณะศิลปศาสตร์ที่ฉันเรียนจากนั้นเฟยถึงแยกตัวออกไปตึกวิศวะ

ตัวติดกันขนาดนี้ไม่ใช่ว่าไม่มีเพื่อนคนอื่นอีกนะ ทั้งเฟยและฉันต่างมีเพื่อนสนิทคณะเดียวกันอยู่บ้าง แต่กับเฟยเรียกสนิทเป็นพิเศษแล้วกัน

เที่ยงตรงมาเยือน จบคลาสอาจารย์ปล่อยพอดีเป๊ะ ฉันกับเพื่อนสนิทในคณะอีกสองคน คือ ขิง และใหม่ ก็ได้ตกลงปลงใจกันว่าวันนี้มื้อเที่ยงของเราจะไปฝากท้องที่โรงอาหารคณะสถาปัตย์ จุดประสงค์ที่แท้จริงคือการไปส่องผู้ชายนั่นเอง

โดยจุดหมายที่เราตั้งใจไปเหล่หนุ่มถัดไปอีกสองตึก ตึกข้างกันที่คั่นระหว่างกลางคณะศิลปศาสตร์กับสถาปัตย์คือตึกคณะวิศวะ

ระหว่างเดินผ่านตึกวิศวะสายตาดีๆของฉันก็เหลือบไปเห็น *ใครบางคนที่ยืนโดดเด่นอยู่ท่ามกลางสาวๆ*

*ใครบางคนที่เป็นเพื่อนสนิทแบบพิเศษ*

*

*

มองจ้องอยู่นานโดยฝีเท้าก็ไม่ได้หยุดเดินแต่อย่างใด พลันหัวใจคันยุบยิบแปลกๆ ทั้งที่เขาเองก็ฮอตมาตั้งนานแล้วแท้ๆ แต่ทำไมวันนี้ถึงมีความรู้สึกนี้เกิดขึ้นมาได้ ครุ่นคิดได้เสี้ยววินาทีก็ถูกดึงความสนใจไปกับบทสนทนาของขิงกับใหม่

หารู้ไม่ว่าตัวเองก็ถูกจ้องมองโดยสายตาคมกริบของคนที่อยู่ในห้วงความคิดเมื่อครู่นี้ด้วย คนตัวโตที่ยามนี้มีสาวสวยสี่คนยืนห้อมล้อมอยู่ก็ได้แต่หรี่ตามองคนพึ่งผ่านไปคล้ายจะจับผิด

จนคนที่ตนมองลับสายตาไปแล้วจึงกลับมาให้ความสนใจสาวๆที่อยู่ตรงหน้า พร้อมแจกยิ้มกระชากใจให้เรี่ยราด แล้วขอปลีกตัวออกมา มือกดโทรศัพท์เข้าห้องแชทของใครคนนึง แล้วพิมพ์ข้อความส่งหา

“กินข้าวไหนอะ”

ไร้การตอบกลับจากคนในห้องแชท จึงเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงนักศึกษา หมุนตัวเดินกลับไปหากลุ่มเพื่อนที่นั่งกินข้าวกันอยู่ก่อนแล้ว

กลุ่มเพื่อนของเฟยมีทั้งหมดห้าคน รวมตัวเฟยเข้าไปด้วย คือ อิฐ ตี๋ ปั้น และภีม คนทั้งห้าล้วนหน้าตาหล่อหลาเอาการทั้งแก๊ง แถมบ้านรวย กรวยใหญ่ คารมดีอีกต่างหาก จึงเป็นปกติที่จะมีเพศตรงข้ามให้ความสนใจเยอะ

แต่ก็มียกเว้นสองคนหลังไว้บางประการเพราะปั้นกับภีม พูดน้อยหน้านิ่งพอกัน บรรยากาศรอบตัวออกแนวสยองขวัญหน่อยๆ ด้วย จึงนับว่าคารมดีไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีคนใจกล้าท้าระบบเข้ามาให้ความสนใจอยู่ไม่น้อย

อีกฟากของเฟย

สามสาวกรวดสายตามองหาโต๊ะที่นั่ง เมื่อเจอมุมดีแล้วก็รีบบึ่งไปทางนั้นทันที สะโพกยังไม่ทันหย่อนถึงเก้าอี้ดีก็มีเสียงแจ้งเตือนข้อความแช็ตของหนึ่งในสามคนดังขึ้น

หนึ่งสาวหมวยกับหนึ่งสาวคมที่นั่งฝั่งตรงข้ามฉันรีบครวญหาโทรศัพท์ในกระเป๋าผ้า หยิบออกมาเปิดดูแชทกันเป็นพัลวัน งี้แหละน้าคนมีแฟนก็คงรอแชทแฟน เข้าใจได้ แต่ทว่า

“ไม่ใช่ของเรา” สาวตาคมผมยาวนามว่าขิงเอ่ยขึ้น ตามด้วยประโยคพูดแบบเดียวกันจากปากสาวหมวยชื่อใหม่

“อ๋อ เสียงของเราเอง” มองหน้าเพื่อนแว๊บนึงก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาบ้าง เห็นข้อความโชว์บนหน้าจอ ว่า “กินข้าวไหนอะ” จากแอ็คเคาท์ไอจีชื่อ feiii_

อ่านข้อความที่เด้งมาจบก็กดปิดหน้าจอยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋าผ้าที่วางอยู่ข้างกันด้านซ้ายมือทันที เดี๋ยวค่อยตอบแล้วกัน ขอแอ่วหนุ่มก่อน

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!