เพียงขวัญ...หญิงสาววัยยี่สิบสี่ยืนกอดเอกสารแน่นอยู่หน้าห้องสัมภาษณ์งานของบริษัทโมเดลลิงซึ่งเปิดรับสมัครผู้ช่วยพิเศษสำหรับนายแบบชื่อดังทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นจนไม่สามารถก้าวเท้าเข้าไปในห้องได้เลย
"คุณเพียงขวัญ รัตนะวิสัยค่ะ"
ชื่อของเพียงขวัญเอ่ยขึ้นเรียกสติของหญิงสาวเป็นรอบที่สอง ทำให้เธอรีบเปิดประตูเข้าไปก่อนจะเดินเข้าไปนั่งตำแหน่งสำหรับผู้รับการสอบสัมภาษณ์เมื่อหญิงสาวเงยหน้ามองบุคคลตรงหน้าก็แทบจะหยุดหายใจเมื่อคนที่กำลังจ้องเธออยู่คือธาม...นายแบบชื่อดังกำลังมองเธออย่างไม่สบอารมณ์นักจนเธอรู้สึกสงสัย เพราะก่อนหน้านี้เธอได้ยินเพื่อนสนิทที่เป็นแฟนคลับของเขาเล่าให้ฟังว่าผู้ชายคนนี้เป็นเทพบุตรที่ยิ้มเก่งแถมยังสดใสแต่ตอนนี้มันช่างแตกต่างจากที่เธอได้ยินมาเสียจริง
"แนะนำตัวเลย ว่าอะไรทำให้อยากทำงานที่นี่"ชายหนุ่มวัยกลางคนเอ่ยขึ้นเรียกสติของเพียงขวัญ
"ค่ะ ชื่อเพียงขวัญ รัตนะวิสัย อายุยี่สิบสี่ปีเพิ่งเรียนจบค่ะแต่มีความสนใจทางด้านแฟชั่นเพราะก่อนหน้านี้มักจะถูกล้อเรื่องรสนิยมการแต่งตัวไม่เป็นมาตลอดจึงอยากเรียนรู้เรื่องนี้ให้มากค่ะ"
เพียงขวัญพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใส
"อันที่จริงแล้วเธอไม่มีรสนิยมการแต่งตัวเลยต่างหาก"
เจ้าของเสียงนั้นคือ ธาม นายแบบอายุ 27 ปีที่โลดแล่นในวงการทั้งงานแสดงและเดินแบบจนโด่งดังระดับโลกและตอนนี้ธามกำลังนั่งมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าเอ่ยออกมาเสียงนิ่งจนคนฟังสะอึก มันก็จริงที่เขาพูดเพราะเธอไม่รู้จักแต่งตัวจริงๆ วันนี้เธอเองก็หยิบเสื้อเชิ้ตสีส้มคอปกกับกางเกงสีน้ำเงินลายนกกระยางตัวโปรดซึ่งอาจจะไม่เข้ากันในสายตาคนอื่นแต่สำหรับเธอมันก็พอไปได้
"ก็ยิ่งต้องรับดิฉันแล้วค่ะ ช่วยสอนให้ดิฉันมีรสนิยมด้วยนะคะ"
เพียงขวัญยืนขึ้นก้มหัวให้กรรมการทั้งหมดก่อนที่ธามคนเจ้าอารมณ์จะสั่งให้พนักงานชายสองคนมาลากเธอออกไปจากห้องทันทีที่เธอพูดจบ จนเพียงขวัญงงไปหมดเมื่อร่างของเธอถูกพาออกมานอกห้องแล้วได้รับแจ้งว่าจะติดต่อกลับ เท่านั้นทำให้เธอรู้ทันทีว่าเธอคงต้องหางานใหม่เสียแล้ว
: ร้านกาแฟ
"ฮ่าๆ ฮ่า"เสียงหัวเราะของเจ้าของร้านดังลั่นเมื่อเขาฟังเพียงขวัญเล่าจบ นะโมเจ้าของร้านกาแฟผู้มีใบหน้าหล่อเหลาราวกับหลุดมาจากนิยายหัวเราะลูกค้าประจำสาวอย่างสุดเสียงจนคนเล่าต้องตีเข้าที่แขนลำเป็นการลงโทษ
"หัวเราะอะไรนักหนาเล่า"
"ก็บอกแล้วว่าให้ส่งรูปมาให้ดูก่อนออกไป แล้วดูสิได้พูดแค่ไม่กี่ประโยคเอง"
นะโมแซวหญิงสาวเข้าอีกหนึ่งดอกทำเอาสาวเจ้าคอตกนอนฟุบกับเคาร์เตอร์ด้วยความเซ็ง เมื่อเขาเห็นเธอรู้สึกไม่ดีเช่นนั้นมือหนาก็จัดการลงมือทำลาเต้หวานร้อยของโปรดคนสิ้นหวังตรงหน้าให้เธอ
"ของฉันใช่ไหม?"ดวงตาเศร้าเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นดวงตามีประกายสดใสทันทีที่เห็นแก้วลาเต้หอมวางลงตรงหน้า เธอไม่รอฟังคำตอบแต่รีบคว้ามันขึ้นมาดื่มทันทีด้วยความชื่นใจ
"เป็นไง? หวานร้อยยยยย"
"รอบหน้าขอเกินร้อยได้ไหม"
"กินหวานแค่พอให้อารมณ์ดี ไม่ใช่กินจนเบาหวานถามหาเข้าใจไหมยัยโก๊ะ"
นะโมดีดเข้าที่หน้าผากมนเบาๆ เป็นการหยอกล้อก่อนจะจ้องมองใบหน้าหวานตรงหน้าอย่างอารมณ์ดี เพียงขวัญมักจะเป็นเช่นนี้เสมอเมื่อก่อนที่เขามาเปิดร้านใหม่เพียงขวัญเดินเข้ามาใช้บริการเป็นคนแรกแถมยังสั่งลาเต้ความหวานสองร้อยจนเขายังตกใจที่เธอชอบกินหวานขนาดนั้นทั้งแต่หลังๆ มาเขาก็ค่อยๆ ปรับพฤติกรรมเธอให้กินหวานน้อยลงผ่านกาแฟที่เธอกินทุกวัน
"แฮ่มมม ทำอะไรกันอยู่จ๊ะ"นกยูงเพื่อนสนิทของเพียงขวัญทักขึ้นก่อนจะโบกมือทักทายนะโมอย่างทุกวันเธอดึงลาเต้จากมือของเพื่อนรักมาชิมแล้วต้องรีบส่งคืนทันทีแล้วรีบหันไปถามคนชง
"หวานเกินไปปะโม"
"วันนี้ยัยนี่อารมณ์ไม่ดีเลยตามใจสักหน่อย"
"หวานสองร้อยเหรอ? ถึงว่าอร่อยจัง"เพียงขวัญพูดพร้อมกอดแก้วลาเต้แน่นที่เพื่อนชายยอมชงในแบบที่เธอให้ชิมสักที
"ขนลุก ว่าแต่แกอารมณ์ไม่ดีอะไร"นกยูงถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
"ฉันถูกลากออกจากห้องสัมภาษณ์เพราะการแต่งตัว"
พอพูดถึงจุดนี้เพียงขวัญก็ทำหน้าเศร้าขึ้นมาอีก
"ไม่แปลกใจเลยเพื่อน ดูจากการแต่งตัวของแกแล้วหน้าสวยๆ ก็ช่วยไม่ได้"
นกยูงแซวจี้จุดจนเพียงขวัญต้องดูดลาเต้หวานๆ ลงคอเพื่อปลอบใจตัวเองพอนกยูงเห็นเพื่อนไม่สบายใจจึงโอบเข้าที่ร่างเธอเบาๆ เป็นการปลอบโยนทำเอาคนที่มองอยู่อย่างนะโมถึงกับอมยิ้ม
"ไอ้ธามบ้า อย่างน้อยก็ควรให้ฉันได้พูดมากกว่านั้นหน่อยสิ!"
"ห๊า อย่าบอกนะ...ว่าแกไปสมัครบริษัทพี่ธามของฉันจริงๆ"
"ก็จริงน่ะสิ"
นกยูงอึ้งเมื่อเพื่อนสาวตอบมาแบบนั้น ตอนแรกที่เธอได้ยินเพียงขวัญสอบถามเรื่องบริษัทธามโมเดลลิ่งเธอคิดแค่ว่าเพื่อนรักอาจจะแค่อยากศึกษาแต่ที่ไหนได้เพียงขวัญกลับไปสมัครงานโดยที่ไม่บอกเธอด้วยซ้ำ
"แล้วดูแกแต่งตัวดิ โอยยย"
"แต่ใช่ว่าจะไม่มีหวัง เขาบอกจะติดต่อมานะ"
"คิดว่าเขาจะติดต่อมาจริงๆ เหรอ"นกยูงหันไปถามนะโม นะโมมองเพียงขวัญนิ่งแล้วส่ายหัวเบาๆ เป็นคำตอบทำเอาเพียงขวัญถึงกับต้องทำใจยอมรับความจริงว่าเธอคงต้องหางานใหม่
ตืดๆ ตืด
เพียงขวัญก้มมองโทรศัพท์ตัวเองที่สั่นอยู่ข้างๆ แล้วต้องแปลกใจเมื่อเบอร์ที่โชว์ขึ้นนั้นไม่คุ้นมาก่อน เธอจึงคว้ามันขึ้นมาแนบหูด้วยความรู้สึกหงุดหงิด
"ถ้าจะโทรมาก่อกวน ไม่ว่างค่ะ"
(โมเดลลิ่งนะคะ คุณเพียงขวัญ รัตนะวิสัยถูกต้องไหมคะ)
เพียงขวัญตกใจลุกขึ้นยืนก่อนจะค่อยๆ กดเปิดลำโพงให้เพื่อนทั้งสองที่ฟังอยู่ได้ยินพร้อมกัน เพียงขวัญสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะกรอกเสียงตอบคนในโทรศัพท์ไป
"ชะ ใช่ค่ะ"
(ยินดีด้วยค่ะ คุณได้รับการคัดเลือกพรุ่งนี้เข้ามาฟังคำชี้แจงหน้าที่ได้ตามเวลาที่ส่งให้ทางอีเมลนะคะ)
"ขะ ขอบคุณค่ะ"
เพียงขวัญตัดสายไป ก่อนจะยืนเอามือทั้งสองข้างเท้าเอวมองเพื่อนทั้งสองอย่างภูมิใจเธอเดินไปมาหน้าเคาร์เตอร์ราวกับกำลังเรียนแบบท่าเดินของบรรดานางแบบสาวในทีวีต่อหน้าเพื่อนทั้งสองที่ยังคงอึ้งอยู่
"สะ สุดยอด"นะโมพูด
"ฉันบอกแล้วว่าชุดนำโชคของฉันไม่เคยทำให้ผิดหวัง"
เวลา 7:00 น.
เพียงขวัญยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้องในคอนโดหรูอยู่ประมาณสิบนาทีได้ เธอกำลังรู้สึกตกใจในคำสั่งแรกที่ได้รับจากบริษัทเมื่อเช้าเพราะคำสั่งนั้นคือเธอต้องมาปลุกธามให้เข้าบริษัทพร้อมเธอให้ได้ โดยมีกฎอยู่ไม่กี่ข้อในการปลุกเขา
1.ใส่รหัสที่ให้ได้เลย ห้ามเคาะประตูเพราะเขาเกลียดเสียงเคาะประตูตอนเช้า
ข้อนี้เธอแอบสงสัยว่ากับอีกแค่เสียงเคาะเขายังไม่ชอบแล้วการที่ทางบริษัทให้ใครก็ไม่รู้อย่างเธอเข้าไปปลุกเขาถึงในห้องนี่คิดว่าเขาจะชอบใจหรือยังไง?
เมื่อถึงหน้าห้องนอน ใช้วิธีไหนก็ได้ให้เขาตื่นโดยไม่ต้องเสียงดัง ปล.ปกติธามไม่ปิดประตูห้องนอน
ขนาดเธออ่านมาถึงจุดนี้ยังไม่มีวิธีไหนในสมองที่นึกออกเลย ให้ตายเถอะ!
"เอาวะ คุยโม้เพื่อนไว้สะเยอะตกงานตั้งแต่วันแรกคงไม่มีหน้าไปเจอทุกคน"
เพียงขวัญเรียกกำลังใจก่อนจะชะเง้อหน้าเข้าไปสำรวจภายในห้อง แต่เธอต้องตกตะลึงเพราะสิ่งแรกที่สายตาเธอจับโฟกัสได้คือในห้องนี้เต็มไปด้วยตุ๊กตาแคร์แบร์หลายสีที่ถูกจัดเก็บไว้ในตู้โชว์อย่างดีเด่นออกมาจากโทนสีการตกแต่งห้องที่เป็นสีเทาดำขาว นั้นทำให้เพียงขวัญอดที่จะก้าวเท้าเข้าไปหยุดดูมันใกล้ๆ ไม่ได้
"สุดยอดโคตรเยอะ มีตัวที่หายากด้วย"
เพียงขวัญที่เดิมทีชื่นชอบตุ๊กตาหมีเป็นทุนเดิมและเคยคิดว่าถ้าหาเงินเองได้อยากจะซื้อมันเก็บไว้สักตัวเหมือนกันมองเหล่าบรรดาตุ๊กตาที่จัดวางอยู่ตาเป็นมัน
"คงนุ่มหน้าดูเลย... รอก่อนเถอะถ้าฉันได้เงินเดือนมาจะไปซื้อแกเจ้าหมีอ้วน"
คิดได้แบบนั้นเธอก็หันมองสำรวจรอบห้องอีกครั้ง ก่อนสายตาจะไปสะดุดเข้ากับเต่าแก๊สเท่านั้นสมองอันชาญฉลาดของเธอก็แล่นทันที
"คนเราจะตื่นเสมอเมื่อได้กลิ่นสิ่งแปลกปลอม"
จบคำพูดเพียงขวัญก็ตรงเข้าไปหยิบกระดาษหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วมุ่งหน้าไปที่เตาแก๊สทันที มือเล็กกดเปิดมันทันทีจนทำให้เกิดเปลวไฟก่อนจะวางลงบนถ้วยเซรามิกใบยักษ์เพื่อกันไม่ให้ไฟลุกลามและฉีกกระดาษอีกหลายชิ้นหย่อนลงไปก่อนจะหันไปใส่ถุงมือกันความร้อนแล้วหยิบจานนั้นเข้าไปวางที่หน้าประตูห้องนอนที่เปิดแง้มอยู่
เธอวางมันไว้แล้วคอยมองสำรวจร่างที่อยู่ในผ้าห่มหนาว่ามีปฏิกิริยาอย่างไร
ผ่านไปไม่นานควันจากการเผาไหม้ก็คละคลุ้งไปทั่วห้องกว้างทำให้คนที่นอนอยู่เริ่มรู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอม
เสียงสูดหายใจเข้าที่เริ่มดังถี่ขึ้นทำให้เธอต้องรีบไปหากระดาษมาเพิ่มเปลวไฟอย่างตื่นเต้น
ฟรืบ
ร่างสูงในสภาพหัวชี้ฟูด้านบนเปลือยเปล่าไร้ซึ่งเสื้อผ้าเด้งตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงด้วยท่าทีตื่นตระหนก เมื่อเพียงขวัญเห็นแบบนั้นก็รีบซ่อนตัวอยู่หลังประตูทันทีเพราะกลัวว่าจะถูกเขาโวยวายใส่
"อะไรวะน่ะ"
เสียงตื่นตระหนกและเสียงลุกจากที่นอนดังขึ้นพร้อมกันธามรีบเดินมาดูเปลวไฟที่กำลังลุกในถ้วยราคาแพงของเขาก่อนที่เขาจะรีบไปหยิบแก้วน้ำบนหัวเตียงมาเทลาดมัน
"ใคร!!!!!"
เสียงเข้มตะโกนดังกังวานทั่วห้องเพื่อเรียกตัวการออกมาจากมุมมืด เมื่อเพียงขวัญได้ยินแบบนั้นก็ค่อยๆ โผล่หน้าออกมาจากหลังประตูด้วยรอยยิ้มแห้ง
"ยัยบ้า! เธอจะเผาห้องฉันหรือยังไง!!"
ถามตะโกนใส่เพียงขวัญด้วยท่าทีหงุดหงิดเขารู้สึกหัวเสียมากที่เห็นหนึ่งในผู้สัมภาษณ์เมื่อวานมาอยู่ในห้องเขาแถมยังปลุกเขาด้วยวิธีบ้าบ้าแบบนี้อีก
"เอิ่ม...ก็ไม่รู้จะทำก็ไม่รู้จะทำยังไงอ่าค่ะพอดีข้อความที่ได้รับเขาบอกว่าคุณทำไม่ชอบให้ปลุก"
"เลยคิดจะเผาคอนโดฉันว่างั้น?"
"เปล่านะคะฉันแค่ปลุกสัญชาตญาณของมนุษย์ เอิ่ม... ที่ต้องเอาตัวรอดเมื่อได้กลิ่นควันไฟ"
เพียงขวัญพูดพร้อมยิ้มแห้ง ธามมองใบหน้าจืดชืดของเด็กสาวนิดหน่อยก่อนจะเดินขยับเข้าไปใกล้เธอด้วยท่าทีอดทนอดกลั้นเต็มที ทำเอาเพียงขวัญรู้สึกกลัวจนต้องถอยหลังหนี
"คุณๆ จะมาถอดเสื้อเดินเข้ามาใกล้ผู้หญิงไม่ได้นะ!"
เพียงขวัญโวยวายลั่นทำเอาธามถึงกับกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะโน้มตัวไปใกล้เธอมากขึ้นไปอีก
"การปลุกสัญชาตญาณของมนุษย์อื่นอีกหลายวิธี แต่ไม่ใช่วิธีแบบที่เธอทำ!!"
"ก็ ก็ ฉันไม่รู้จะต้องทำยังไงนี่คะ?"
เมื่อถูกสายตาคมกริบนั่นจ้อง ก็อดรู้สึกหวาดกลัวไม่ได้จริงๆ ไหนเพื่อนสาวของเธอที่เป็นแฟนคลับบอกว่าเขาเป็นคนน่ารักยังไงล่ะแต่ดูสิ่งที่เธอเจอสิ ผ่านมายังไม่ถึงชั่วโมงเธอถูกตะคอกไปแล้วกว่าสิบรอบ
"สมองเธอนี่มันมีอะไรอยู่กันแน่นะ! รอฉันตรงนี้เลยวันนี้ฉันจะจัดการเธอแน่!!"
ถามดุเพียงขวัญเสียงดังจนต้องหลับตาเพราะของกลัวก่อนที่เขาจะเดินหันหลังหนีกลับเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูดัง
ปัง!
"ประสาท ฉันบอกแล้วแท้ๆ ว่าไม่เอาผู้หญิง!" เสียงธามตะโกนดังลั่นห้องจนเพียงขวัญสะดุดตกใจอีกครั้ง
ผ่านไปไม่นานธามก็ออกมาในชุดลำลองเสื้อยืดสีดำและกางเกงยีนสีซีด เขาหันมองเธอที่ยังยืนอยู่ตำแหน่งเดิมด้วยท่าทีอารมณ์เสีย
"เธอต้องไปบริษัทกับฉันเดี๋ยวนี้!"
เขาพูดจบก็เดินนำหน้าเธอออกจากห้องทันทีเพียงขวัญรีบวิ่งตามมาด้วยท่าทางสงบเงียบ แต่ใบหน้ากลับมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏเพราะแผนการที่เธอคิดไว้มันสำเร็จ!
ธามกึ่งรากกึ่งจูงเพียงขวัญให้ขึ้นรถมากับเขาซึ่งตลอดการเดินทางธามยังคงนิ่งเงียบและถอนหายใจทิ้งอยู่ตลอดเวลาเหมือนกับว่าเขาเบื่อหน่ายกับชีวิตเหลือเกินจนหญิงสาวเลือกที่จะนั่งมากเงียบๆ เพราะยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วชายหนุ่มเป็นคนประเภทไหนกันแน่
พอถึงบริษัทต้นสังกัดเขาก็เดินนำเธอขึ้นไปยังห้องประชุมทันที โดยทิ้งให้หญิงสาวคอยวิ่งตามอยู่ด้านหลังเนื่องจากเขาตัวสูงและขายาวมาก เพียงเขาก้าวออกไปไม่ไกลมันก็เท่ากับสองสามก้าวของหญิงสาวเลยเชียว
และทันทีที่มือหนานั้นเปิดประตูบานใหญ่เข้าไปได้พนักงานทุกคนด้านในก็ต่างทำหน้าตกตะลึงกับภาพที่เห็น ทุกคนต่างพากันมองหน้าสบตาราวกับว่ากำลังแปลกใจ
"มานี่!"
ธามที่ยังคงหงุดหงิดกระชากเข้าที่ข้อมือเล็กให้เดินเข้ามาหยุดอยู่ต่อหน้าทุกคนในห้อง
...ตาบ้านี่นิสัยเสียจริงๆ...เพียงขวัญได้แต่บ่นในใจที่ถูกเขาลากจูงราวกับเธอเป็นสิ่งของ
"ใครเป็นคนรับยัยนี่!"
"พี่เองจ้า"
ฟาง...ผู้จัดการหนุ่มของธามเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มยิ่งทำให้ธามรู้สึกหงุดหงิดขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว เพราะเขาได้พูดชัดเจนตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาไม่ต้องการผู้ช่วยผู้หญิงเพราะนอกจากจะชอบเป็นภาระยังเป็นตัวน่ารำคาญอีก
"พี่ฟาง! ผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าผมไม่เอาผู้หญิง!"
"แต่น้องก็พาธามมาประชุมทันเวลาได้นะ ถือว่ามีฝีมือ"
"พี่พูดบ้าอะไรเนี่ย รู้ไหมยัยนี่เกือบจะเผาห้องผมแล้ว"
"เพียงจะเผาได้ที่ไหน พอควันเยอะๆ เดี๋ยวก็มีน้ำพุ่งออกมาดับมันเอง คอนโดแพงๆ ก็มีระบบนี้ทั้งนั้น"
"นี่!"
พอเพียงขวัญพูดอธิบายจบธามก็ยิ่งไม่พอใจขึ้นไปอีกเพราะสิ่งที่เธอพูดนั้นไม่ต่างกับการกวนประสาทเขาเลยแม้แต่น้อย
"เอาๆ พอๆ นั่งลง"
ฟางที่เห็นทั้งสองคนไม่มีท่าทีจะยอมกันจึงต้องห้ามทับทำให้ทั้งสองคนที่ก่อสงครามประสาทยอมนั่งลงแต่โดยดี ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ยังคงไม่วายมองจ้องเพียงขวัญราวกับอยากจะฉีกเธอออกเป็นชิ้นๆ
"เอาละเริ่มนะ ต่อจากนี้เพียงขวัญจะเข้ามาช่วยงานที่บริษัทโดยการตามดูแลธามแทนพี่ในช่วงที่พี่อาจจะไม่ว่าง"
"แต่!..."ธามกำลังจะขัด
"ฟังก่อน"
"เพียงขวัญ หน้าที่ของหนูคือดูแลจัดการของใช้และอาหารการกินของธามทั้งหมดอย่างเคร่งครัดอย่าให้ตกหล่นและถ้าไม่จำเป็นอย่าให้เขาหายไปไกลจากสายตาเด็ดขาด"
"ค่ะ รับทราบค่ะ"
"ค่าตอบแทนหนูจะได้ตามที่อ่านในใบสมัคร สัญญาจ้างอยู่ตรงนั้นถ้าโอเคก็เซ็นได้เลย"
เพียงขวัญก้มลงอ่านรายละเอียดงานอีกครั้งอย่างตั้งใจท่ามกลางสายอำมหิตที่กำลังหวังว่าเธอจะไม่เซ็นมัน สิ่งที่เธอต้องทำหลักๆ คือตามติดนายแบบคนดังเท่านั้นเอง
แต่อาจจะฟังดูไม่ยากนักแต่มันรวมถึงการกินอยู่และการทำงานของธามรวมอยู่ด้วย เพราะอย่างนั้นค่าตอบแทนที่ได้ก็เล่นทำเอาดวงตาน้อยๆ ของหญิงสาวเบิกกว้างเป็นไข่ห่านเพราะตกเดือนเธอจะได้ค่าจ้างถึงห้าหมื่นบาท! ซึ่งมันเยอะมากสำหรับเด็กจบใหม่อย่างเธอ
"ว่าไงโอเคไหม?"ฟางถามขึ้นอีกครั้ง
"อย่าเซ็นเชียวนะยัยบ้าฉันไม่ยอมให้เธอเข้ามาในชีวิตหรอก!"
ธามพูดพลางกัดฟันแน่นด้วยความแค้นจากเรื่องเมื่อเช้าแต่นั่นยิ่งทำให้เพียงขวัญกระตุกยิ้มที่มุมปากจนคนมองขู่แปลกใจ ยิ่งเธอเห็นว่าชายหนุ่มตรงหน้าที่ใครๆ ก็ให้ฉายาว่าเทพแห่งรอยยิ้มกำลังมองเธอราวกับฆาตกรมันยิ่งทำให้เธอนึกสนุกที่จะเห็นคนคนนี้คอยสลับร่างไปมาต่อหน้าคนอื่น
"ยินดีที่ได้รวมงานค่ะคุณธาม"
พูดจบเพียงขวัญก็ลงมือเซ็นชื่อในกระดาษด้วยความสะใจ ก่อนจะตวัดสายตาสวยไปมองเยาะเย้ยคนที่กล้าสั่งให้ รปภ. มาลากเธอออกไปจากห้องสัมภาษณ์วันนั้น
ธามกำมือแน่นก่อนจะค่อยๆ เผยรอยยิ้มน่ากลัวออกมาก่อนจะหยิบแผ่นกระดาษนั้นขึ้นมาแล้วทำท่าจะฉีกมัน
"ธาม..."แต่ก็ต้องหยุดเมื่อเสียงฟางดังขึ้นขัดเสียก่อน ฟางเพียงแค่พูดเสียงต่ำและจ้องมองใบหน้าชายหนุ่มเท่านั้นเขาก็แทบจะหยุดนิ่ง เพราะฟางเป็นคนเดียวที่ธามเกรงใจและไม่กล้าขัด ธามจึงต้องจำยอมวางกระดาษนั้นลงก่อนจะบ่นอุบคนเดียวอย่างไม่มีเสียง
"งั้นเริ่มการประชุมเรื่องถ่ายแบบอีกสองวันนะ"
ฟางพูดเริ่มเปิดการประชุมอย่างเป็นทางการ ตลอดการประชุมเพียงขวัญรับรู้ได้ถึงสายตาคมกริบที่จ้องเธออยู่ตลอดเวลาอย่างหาเรื่อง แถมพอเธอจ้องกลับเขายังทำท่ากวนด้วยการเอาลิ้นดุนกระพุ้งแก้มไปมาราวกับว่ากำลังคิดแผนการอะไรไม่ดีอยู่
ตืด ตืด
เมื่อโทรศัพท์ตรงหน้าสั่นขึ้นธามมองไปที่มันเล็กน้อยก่อนสีหน้าหลายอารมณ์จะเปลี่ยนเป็นเรียบเฉยจนเพียงขวัญแปลกใจ
แววตาเจ้าเล่ห์เมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเศร้าหมองก่อนที่เขาจะเลือกกดปิดโทรศัพท์แล้วเหม่อลอยมองออกไปด้านนอก และดูเหมือนฟางเองก็จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับธามจึงรีบพูดรายละเอียดและปิดการประชุมทันที
หลังปิดการประชุมทุกคนเดินออกไปจนหมดเหลือไว้เพียง ธาม เพียงขวัญ และฟาง ฟางเดินตรงมาหาธามก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาดูอย่างถือวิสาสะ เขาถอนหายใจนิ่งก่อนจะส่งมันคืนเจ้าของไป
"ธาม โรสเขาไม่ได้ผิดอะไรอย่าทำแบบนี้อย่างน้อยเขาก็ยังเป็นคู่หมั้นของนายนะ"
!!! เพียงขวัญตกใจเมื่อรู้ว่านายแบบชื่อดังนั้นมีคู่หมั้นเป็นตัวเป็นตนแล้ว
"แต่วันนั้น ผมรู้สึกแปลกจริงๆ นะ ถ้าผมไม่ไปน้องคง...ช่างมันเถอะ"
ระหว่างที่ธามกำลังนึกถึงเรื่องในอดีตก็นึกขึ้นได้ว่าเพียงขวัญยังอยู่ในห้องด้วยเขาจึงเลือกที่จะไม่พูดมันออกมาแล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปด้วยท่าทางไม่ดีนักทำให้เพียงขวัญอดจะเอ่ยถามฟางที่เป็นผู้จัดการของเขาไม่ได้
"เขาไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?"
"ไม่เป็นไรก็คงไม่ใช่ ธามเขากำลังมีปัญหาช่วงหลายเดือนมานี่มักจะฝันร้ายถึงขั้นตะโกนโวยวายเสมอ"
"เขาน่ะเหรอคะ?"
เพียงขวัญพูดอย่างแปลกใจ เพราะดูจากภายนอกแล้วเขาดูเป็นคนที่ไม่ค่อยแคร์อะไรไม่น่าเชื่อว่าจะมีเรื่องทุกข์ใจถึงขั้นนั้น
"เหตุผลที่พี่อยากให้เราตามติดธามเพราะเรื่องนี้แหละ... อีกอย่าง...พี่อยากให้เราไปพักข้างห้องธาม เผื่อว่าวันไหนธามฝันร้ายเราจะได้เข้าไปดูเข้าได้"
"เพราะอย่างนั้นเขาถึงไม่ล็อกประตูห้องนอนเหรอคะ?"
"อืม ปกติพี่จะเป็นคนอยู่ห้องนั้นแล้วคอยไปดูธามช่วงดึกๆ แต่พี่เองก็มีเรื่องมากมายให้จัดการพี่เลยหาใครสักคนมาช่วยดีกว่า ถึงธามจะไล่ออกไปตลอดก็เถอะ"
"แล้วเขาจะไม่ไล่เพียงหรอกเหรอ"
"พี่ค่อนข้างมั่นใจว่าหนูจะดูแลเขาได้และทำให้เขาเลิกคิดมาก"
"ทำไมคิดแบบนั้น ทั้งๆ ที่วันนี้เพียงเพิ่งก่อเรื่อง"
"เอาน่า..."
"แต่หนู อยู่กับพ่อแม่มันคงยาก"
ฟางนิ่งเงียบไปสักพักก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลานั้นจะระบายยิ้มอบอุ่นออกมา
"ก็บอกว่าเป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการบริษัท ถ้าไม่รับก็จะเสียดายแย่อีกอย่างบ้านหนูก็ไกลจากบริษัทมากเลยนิ ถ้าเริ่มทำงานจริงจังจะต้องมาถึงบริษัทเช้ามากหนูจะไหวเหรอ?"
เพียงขวัญนึกตามคำพูดของผู้ใหญ่ตรงหน้า จริงอย่างที่เขาว่า คอนโดของธามอยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนักเพียงนั่งวินมาไม่ถึงสิบนาทีก็ถึง ถ้าเทียบจากการเดินทางของเธอเมื่อเช้าแล้วนั้นมันก็น่าสนใจ
"ตกลงค่ะ หนูจะลองไปคุยกับพ่อแม่ก่อน"
"ธามน่ะ ช่วยดูแลเขาด้วยนะ"
ฟางระบายยิ้มอบอุ่นจนตาหยีก่อนจะเดินออกไปทิ้งเพียงขวัญให้นั่งคิดสงสัยอยู่คนเดียว ทำไมฟางถึงได้ฝากฝังธามกับเธอมากนักทั้งๆ ที่เขาก็ไม่ได้ดูเกเรหรือมันอาจจะเพราะนิสัยที่เธอรับรู้มามันต่างกับนิสัยจริงๆ ของเขามากฟางถึงได้เป็นห่วงขนาดนั้นกัน
: เพียงขวัญ
เช้าวันต่อมา
วันนี้ฉันได้รับอนุญาตให้หยุดแต่ไม่ใช่เพื่อพักผ่อนเพราะฉันจะต้องขนห้องเข้าห้องพักที่อยู่ติดกับคุณธามนั้น ซึ่งฉันต้องทำมันให้เรียบร้อยภายในวันนี้
แต่วันนี้มันก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่ฉันต้องทำคือการไปปลุกนายแบบคนดังไปทำงาน จนแอบสงสัยเหมือนกันว่าคนบ้าอะไรต้องให้คนอื่นมาปลุกทุกวันตื่นเองมันยากนักหรือไง?
ฉันทั้งบ่นทั้งหงุดหงิดที่ต้องมาคอนโดแต่เช้าเพียงเพราะเหตุผลแค่นี้ ยิ่งเมื่อวานพอกลับบ้านไปขออนุญาตพ่อแม่ก็โดนบ่นมายกใหญ่เพราะคิดว่าฉันโตแล้วอยากจะออกไปอยู่คนเดียวและทิ้งพวกท่านจนฉันต้องรีบโทรหาทางบริษัทให้ช่วยอธิบายและพี่ฟางก็รีบขับรถไปหาฉันถึงบ้าน
กว่าทั้งสองคนจะเข้าใจก็เล่นเอาพี่ฟางเหนื่อยเหมือนกัน แต่ยังดีที่พี่ฟางเป็นคนมีเหตุผลมากจึงทำให้พ่อและแม่ไว้ใจ เขาเลยช่วยฉันขนของบางส่วนมานอนที่นี่เพราะตอนเช้าฉันต้องปลุกคุณธาม
ตืด
หลังกดรหัสฉันก็เดินตรงเข้ามายังตู้โชว์ตุ๊กตาหมีอย่างเช่นเมื่อวาน น่าจะนุ่มกอดอุ่นจังนะ...
ไม่ได้ๆ ต้องรีบไปปลุกคุณธามเดี๋ยวจะสายเอาถ้าแบบนั้นฉันคงเป็นผู้ช่วยที่แย่มาก
ฉันเดินตรงเข้าไปข้างเตียงแล้วโน้มตัวลงสังเกตใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังหลับตาพริ้มด้วยความตื่นเต้น ให้ตาย! พอได้มองหน้าเขาแบบนี้แล้วเข้าใจเลยว่าทำไมใครๆ ก็ชื่นชมเขา
"คุณ คุณ..."
"อืม..."
ฉันเอื้อมมือไปสะกิดที่ไหล่เปลือยเปล่านั้นเบาๆ แต่แทนที่เขาจะตื่นกลับพลิกตัวหนีไปอีกข้างเผยให้เห็นกล้ามเนื้อหลังเรียงสวยเป็นมัดที่โผล่ออกมานอกผ้าห่มหนา
แม่เจ้า...ดูแน่นจัง ไม่ๆ ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นฉันมาที่นี่เพื่อทำหน้าที่ดึงสติหน่อยเพียงขวัญ!
"อืม คุณธาม"
พรืบ!
"ว๊าย!"
ถ้าเป็นหนังหรือละครฉากนี้นางเอกคงถูกพระเอกดึงลงไปนอนกอด แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่! เพราะเมื่อกี้พอฉันเขย่าตัวเขาแรงๆ มือหนาของเขาก็หยิบหมอนข้างกายฟาดใส่หน้าฉันเต็มๆ จนแทบหงายหลังแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงไม่ลืมตาเลยสักนิด
"หน่อย\~ ในเมื่อปลุกดีๆ แล้วไม่ตื่น หึ"
พูดจบฉันก็ก้มลงหยิบหมอนใบโตค่อยๆ วางลงบนใบหน้าคมเพื่อกะตำแหน่งก่อนที่ฉันจะยกมันขึ้นเหนือหัวแล้วจัดการฟาดมันลงบนใบหน้าหล่อนั้นอย่างแรง!
"โอ๊ยย โอ๊ย พอ!"
คนตัวสูงร้องขึ้นเด้งตัวนั่งแล้วกระชากหมอนในมือฉันออกไปปาทิ้งเมื่อเขาเห็นว่าฉันไม่มีที่ท่าจะหยุดตีเขาสักที
ดวงตาคมตวัดมองฉันอย่างคาดโทษทำให้ฉันต้องรีบยืนตัวตรงก้มหน้ามองพื้นเพราะความกลัวถูกดุ แต่เขาก็ทำฉันก่อนเองนะ...
"ช่วยปลุกดีๆ ได้ไหม! ลืมไปหรือไงว่าหน้าฉันมันสำคัญแค่ไหนถ้าเธอฟาดมันแรงขนาดนี้ฉันฟ้องเธอได้นะยัยบ้า!"
"ไหนพยานคุณอาจจะฝันก็ได้ อุ๊บ ขอโทษค่ะ"
เอาอีกแล้วนิสัยปากไวของฉันมันทำงานอัตโนมัติอีกแล้ว เล่นเอาคนฟังถึงกับกอดอกมองฉันนิ่งเลย
"ยัยเด็กประสาท รำคาญ!"
"รำคาญฉันพร้อมกับอาบน้ำไปด้วยได้ไหมคะ พอดีกลัวสาย"
ฉันไม่ได้ยียวนนะ แค่คิดว่ามันจะสายจริงๆ ถ้าเขายังลีลาอยู่แบบนี้ คนตัวสูงเมื่อฟังจบก็ได้แต่ส่ายหัวก่อนจะเค้นหัวเราะในลำคอแล้วลุกขึ้น
"คุณ!"
"อะไร"
ฉันรีบหันหลังให้เขาทันที ที่สายตาไปสะดุดกับกางเกงบล็อกเซอร์ตัวบางที่เขาใส่ สภาพล่อแหลมขนาดนี้ยังมีหน้ามาถามว่าอะไรอีก
"ไม่เคยเห็นหรือไง? กล้ามเนื้อผู้ชายน่ะ"
เขาพูดพร้อมเดินขยับเข้ามาใกล้จนฉันต้องรีบเดินหนีแต่ช้ากว่าเจ้าของร่างสูงเขาจับเข้าที่ข้อมือของฉันก่อนที่จะจับมือฉันไปวางแปะอยู่ที่หน้าท้องสวยนั้น ใบหน้าฉันร้อนราวกับยืนตากแดดมาทั้งวันยิ่งได้มองสายตาคมนั้นที่จ้องเข้ามาอย่างเจ้าเล่ห์มันยิ่งทำให้ฉันรู้ว่าเขากำลังแกล้งฉันอยู่
บีบ บีบ
"เอ้ย! ทำบ้าอะไร"คุณธามร้องพร้อมปัดมือฉันทิ้ง
"ก็คุณให้จับฉันก็บีบดูไม่เคยจับของจริงไง ไหนลองใหม่หน่อย"
"เด็กบ้า!"
เขาพูดอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป เขาคงคิดว่าแกล้งฉันไม่สำเร็จแต่ที่ไหนได้ ฉันเขินและใจเต้นแรงจนจะระเบิดออกมาจากอกอยู่แล้ว ให้ตายเถอะเพียงขวัญเขาหล่ออันตรายจริงๆ
......
"เฮ้ย!"
หญิงสาวจะสะดุ้งตัวโยนเมื่อรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นที่เป่ารดต้นคอ และเมื่อหันไปมองก็พบเข้ากับเจ้าของห้องกำลังยืนอยู่ในสภาพเพิ่งผ่านการอาบน้ำมาใหม่ผมสีดำเทานั่นยังคงมีหยดน้ำเกาะกุมและไหลผ่านใบหน้าใส แถมชุดคลุมอาบน้ำยังแหวกออกลึกจนเผยให้เห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องที่ผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนัก
เซ็กซี่\~
โปก!
นิ้วเรียวของเขาดีดเข้าที่หน้าผากของเธออย่างจังทำเอาเจ็บจนต้องยกมือขึ้นลูบ
...มือหนักชะมัด...
"ยัยเด็กโรคจิต ไปเตรียมของสิจะได้ไปทำงาน นั่งเหม่ออยู่ได้"
เขาพูดเสียงนิ่งราวกับสั่ง แต่ถ้าเขาพูดแบบนั้นคงยังไม่รู้ว่าฉันได้รับอนุญาตให้หยุดสินะ
"วันนี้ฉันแค่มาปลุกค่ะ พี่ฟางรอคุณอยู่ที่สตูดิโอแล้ว"
"ทำไม?"
เขาที่กำลังจะเดินกลับเข้าห้อง หันกลับมาถาม
"เพราะฉันต้องย้ายของมาอยู่ข้างห้องคุณ"
"เหอะ...ฉันอยู่ได้เธอกลับไปอยู่ในที่ของเธอเหอะอยู่ไปก็รำคาญ"
"ฉันก็ไม่ได้อยากอยู่หรอกค่ะ แต่มันเป็นคำสั่ง"
"นี่เธอ!"
ธามกัดฟันกรามแน่นจนฉันต้องรีบเกินถอยห่าง เกลียดความปากไวของตัวเองจริงๆ เลย เอาใหม่ๆ ฉันเป็นแค่พนักงานจะมาต่อปากต่อคำแบบนี้ไม่ได้นะเพียง!
"ขอโทษค่ะ ลืมตัว..."
"หึ เพิ่งนึกได้เหรอว่าฉันเป็นใคร งั้นก็ออกไปเตรียมของของตัวเองในห้องนั้นสะ แต่...ถ้ามาอยู่ที่นี่หากไม่จำเป็นอย่าเข้าห้องฉันเด็ดขาด!"
"ถ้ามันเป็นคำสั่งจากพี่ฟาง?..."
"เธอมาได้แค่ปลุกฉันเท่านั้นแหละ"
เขายื่นคำขาดก่อนจะเดินกลับเข้าห้องไปทิ้งให้ฉันเดินคอตกหลับห้องตัวเอง งงไปหมดแล้ว คนหนึ่งบอกต้องตามติดคนหนึ่งก็ไล่ให้ไปไกลๆ ตกลงต้องเชื่อใครเนี่ย
เวลาตีสามกว่าเพียงขวัญกำลังง่วนอยู่กับการเตรียมของใช้ส่วนตัวของธามตามที่ฟางได้ส่งมาให้ ซึ่งของแต่ละอย่างกว่าจะหามาได้ครบก็ทำเอาเพียงเพราะขวัญอดหลับอดนอนไปไม่น้อย ไหนจะของใช้ส่วนตัวที่ต้องไปเอาจากห้องของคนขี้โมโหนั้นอีก
"เสร็จสักทีเว้ย เห้ย! เหลือเวลาอีกชั่วโมงเดียวต้องไปบริษัทแล้ว"
เพียงขวัญบ่นอุบ ท้ายที่สุดเธอก็ไม่ได้นอนจนได้ เธอหันมองกระเป๋าใบโตที่เต็มไปด้วยอาหารสำหรับธามอัดอยู่จนแน่นด้วยความสงสัยว่านายแบบเขาไม่สามารถกินอะไรเหมือนชาวบ้านได้หรือยังไงถึงต้องจัดเตรียมไปเองขนาดนี้
"บ่นไปก็เท่านั้น เพื่อเงิน!"
หลังจากเรียกขวัญกำลังใจให้ตัวเองเรียบร้อย หญิงสาวก็รีบไปจัดการอาบน้ำแต่งตัวและเตรียมของใช้ของตัวเองสำหรับการไปถ่ายงานที่ทะเลวันพรุ่งนี้เพราะจะต้องนอนค้างหนึ่งคืนซึ่งข่าวร้ายก็คือเธอต้องไปกับธามแค่สองคน!
เธอแอบคิดไปว่าฟางมั่นใจอะไรในตัวเธอถึงกล้าปล่อยเด็กใหม่ไปดูแลนายแบบเบอร์หนึ่งเพียงคนเดียวแบบนี้ ทั้งที่เธอก็ยังไม่รู้อะไรด้วยซ้ำพอถามก็ได้คำตอบมาว่าเดี๋ยวธามจะบอกความต้องการของเขาเอง ซึ่งเธอคิดว่าเขาคงไม่บอกธรรมดาแต่คงตะโกนบอกนั่นแหละ \=_\=
กึก...กึก
"เห... ทำไมประตูเปิดไม่ออก ทั้งที่ใส่รหัสถูกแล้วนี่ หรือว่า..."
ธามคงตั้งใจเปลี่ยนรหัสแน่นอน โชคดีนะที่เธอคิดไว้แล้วว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเลยขอกุญแจจากทางบริษัทไว้ด้วย คงกลัวเธอเข้าไปทำอะไรบ้าๆ อีกละมั้ง
เมื่อไขประตูเข้าไปได้เพียงขวัญก็รีบเดินสำรวจเก็บของใช้ส่วนตัวธามตามที่ทางฟางได้ส่งมาให้ใส่ในกระเป๋าให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินบุกรุกเข้าไปในห้องนอนของตัวสูงอย่างถือวิสาสะ
สายตาก็อดแอบชำเลืองมองชายหนุ่มผมฟูที่กำลังนอนเปลือยกายท่อนบนอย่างอดไม่ได้ ก็เขาทั้งล่ำทั้งหล่อเป็นใครก็ต้องหยุดมองทั้งนั้นราวถึงตัวเธอด้วย
ตืด ตืด
"แย่ละ..."
เสียงนาฬิกาปลุกในกระเป๋าของหญิงสาวดังขึ้นเรียกสติให้เธอหยุดสนใจรูปลักษณ์ของชายหนุ่มตรงหน้า เธอกดปิดมันก่อนจะดึงหมอนข้างกายชายหนุ่มขึ้นมาง้างสุดแขนหวังจะฟาดลงที่ตัวเขาเป็นการปลุก แต่เธอต้องหยุดชะงักเมื่อสายตาไปสะดุดกับน้ำใสที่ค่อยๆ ไหลออกมาจากปลายหางตาคมนั้นเป็นทาง
เขา...เป็นอะไร หรือว่ากำลังฝันร้าย?
เธอวางหมอนลงแล้วหย่อนตัวนั่งลงข้างกายของเขาก่อนที่จะเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาใสนั้นเบาๆ ด้วยความเป็นกังวล ที่ฟางบอกว่าเขามักจะฝันร้ายคงเป็นเรื่องจริง แต่เมื่อนิ้วเรียวสัมผัสโดนแก้มเนียนของชายหนุ่มทำให้คนที่กำลังหลับลืมตาตื่นขึ้นทันที เขามองเธอด้วยความตกตะลึงสายตาของทั้งคู่กำลังมองสอดประสานกันท่ามกลางแสงจันทร์ที่สอดส่องลอดม่านเข้ามาทำให้ทั้งสองคนหยุดชะงักไป
พรืบ!
ทว่าแทนที่เขาจะตกใจจนผลักตัวเธอออกกลับใช้แขนแกร่งโอบรัดเข้าที่เอวของเธอทำให้ตัวเธอต้องเซลงไปนอนทับร่างกายล่ำนั้นอย่างเสียไม่ได้ ยิ่งเพียงขวัญออกแรงดันแผงอกกว่านั้นมากแค่ไหนเขาก็ยิ่งออกแรงกอดรัดตัวเธอให้แนบชิดเข้าไปอีกราวกับตั้งใจจะแกล้งเธอ
"คุณ! ปล่อย!"
"เช้าๆ ได้กอดอะไรนุ่มๆ มันก็รู้สึกดีเหมือนกัน"เสียงแหบพร่ากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูอดทำให้เพียงขวัญหน้าแดงอย่างเสียไม่ได้
"ทะ ทำบ้าอะไรเนี่ย ปล่อยเราต้องไปทำงานกันแล้ว"
"หืม? เขินงั้นเหรอ ไหนตอนนั้นยังบีบกล้ามฉันเล่นอยู่เลยนิ"ธามแซวหญิงสาวไปอีกหนึ่งรอบ ทำเอาคนตัวเล็กดิ้นพล่านพยายามเด้งตัวออกห่างจากเขาแต่คนเจ้าเล่ห์กลับไม่มีที่ท่าจะปล่อยเธอเลย
"คุณธาม คุณอย่ามาแกล้งแบบนี้นะมันไม่ถูกต้อง!"
"เอ้าๆ โมโหสะแล้ว หึ หึ"
"ก็ต้องโมโหสิ! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้น๊าาา"
เพียงขวัญดิ้นพล่านอย่างสุดแรงอีกครั้งก่อนที่ธามจะใช้ความเร็วแสงกดตัวเพียงขวัญในนอนราบลงกับเตียงก่อนที่ตัวเขาจะพลิกตัวขึ้นมาคร่อมเธอไว้แล้วใช้มือหนารวบทั้งสองมือของเธอชูขึ้นเหนือหัวอย่างรวดเร็วและยังโน้มใบหน้าคมลงมาใกล้จนเพียงขวัญตกใจ
เธอมองเขาโดยไม่กล้าพูดอะไรออกมาเพราะตอนนี้ใบหน้าของทั้งคู่ใกล้กันมากเหลือเกิน เธอกลัวว่าถ้าขืนขยับปากพูดแม้แต่นิดเดียวริมฝีปากของทั้งคู่คงแตะกันแน่นอน
"ยัยเด็กน้อย...เธอมานั่งบนเตียงฉันทำไมถ้าไม่ได้อยากอ่อยฉัน"
"ฉันเปล่านะ"เพียงขวัญพูดเบาๆ
"หมายความว่าไงพูดเบาขนาดนี้...หืม"
"คุณเอาหน้าออกไปก่อนสิ ถ้าขยับเยอะ...ปากมันจะ"
"โดนกัน? นั้นไม่ใช่เหตุผลที่เธออ่อยฉันเหรอ"
"ก็บอกว่าไม่ใช่!"
แตะ... จนได้
เพียงขวัญที่หงุดหงิดจากข้อกล่าวหาของชายหนุ่มจึงตะคอกออกมาเต็มเสียงทำให้ริมฝีปากของทั้งคู่แตะกันเบาๆ ธามเองเมื่อเห็นหญิงสาวนิ่งไปทันทีก็อดจะขำออกมาไม่ได้ ตัวเขาน่ะการจูบหรือสัมผัสกับเพศตรงข้ามมันเป็นเรื่องธรรมดาแต่สำหรับเด็กคนนี้คงจะไม่ใช่เพราะเท่าที่ดูตอนนี้เธอทำหน้าเหมือนกำลังจะร้องไห้ก็ไม่ปาน
พรืบ...
ธามปล่อยเพียงขวัญให้เป็นอิสระก่อนจะลุกขึ้นเพื่อไปอาบน้ำ เพียงขวัญที่เห็นเขาไม่สนใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่แถมยังมโนไปเองว่าตัวเธอหลงเสน่ห์เขาไปเสียแบบนั้นจึงรีบอธิบาย
"ฉันนั่งลงเช็ดน้ำตาให้ต่างหาก"
"หึ ครั้งหน้าไม่ต้อง"
"เอ้า..."
เขาพูดเหมือนไม่ค่อยพอใจนักแต่น้ำเสียงนั้นมันกลับฟังดูเศร้าชอบกลจนเธอแอบรู้สึกแปลกใจกับคนคนนี้ว่านิสัยแบบไหนกันแน่ที่เป็นตัวตนจริงๆ ของเขา
"รอตรงนี้เตรียมตัวให้พร้อมแล้วเปลี่ยนชุดด้วย จะไปทำงานนอกสถานที่ ใส่ชุดบ้าอะไรของเธอ"เขาพลางเหล่ตามองสำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า
"ก็ไปทะเล ใส่กางเกงยีนขาสั้นกับเสื้อคอปกมันผิดตรงไหนหรือฉันต้องใส่แว่นตาด้วย มันไม่ครบเหรอ"
"ยัยบ้า...แล้วมันจำเป็นต้องเป็นเสื้อสีส้มสะท้อนแสงลายนกแก้วเต็มเสื้อขนาดนี้ไหม สีอ่อนมีลายหรือไม่ก็เสื้อสีพื้นไม่มีลายสิมันถึงเข้ากัน"ธามพูดอย่างอดไม่ได้จนต้องเดินหนีเข้าไปในห้องน้ำ
เพียงขวัญที่เพิ่งสังเกตว่าชุดของเธอมันออกจะไม่เหมาะเท่าไหร่จึงพยายามนึกถึงเสื้อผ้าที่อยู่ในห้องว่าพอจะมีชุดไหนเปลี่ยนได้บ้างไหม แต่คิดไปคิดมาแล้วมันก็มีแต่แบบที่เธอใส่อยู่ทั้งนั้น
หลายนาทีผ่านไปธามออกมาในชุดคลุมอาบน้ำแล้วต้องแปลกใจที่เพียงขวัญยังนั่งรอเขาอยู่ในห้องนอนเหมือนเดิมแถมยังอยู่ในสภาพเดิมจนเขาต้องเท้าเอวมองใบหน้าหวานที่กำลังส่งยิ้มแห้งๆ มายังเขา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีเสื้อผ้าที่ดีกว่านี้แน่นอน เขาถอนหายใจยาวก่อนที่จะเดินตรงไปยังตู้เสื้อผ้าของตัวเองแล้วเปิดลิ้นชักออกมาก่อนจะหยิบเสื้อยืดสีขาวไซซ์เอสของผู้หญิงส่งให้หญิงสาวตรงหน้า
"เสื้อผู้หญิงนี่?"
"ฉันมีไว้เผื่อฉุกเฉิน"
คำว่าฉุกเฉินของเขาทำให้เพียงขวัญรู้ทันทีว่าเขามีมันเพื่ออะไร เขาก็คงเหมือนผู้ชายทั่วไปที่มีผู้หญิงเข้าหาและคงทำเรื่องแบบนั้นกันแบบไม่ได้เตรียมตัวแต่มันจะต้องเกิดขึ้นบ่อยขนาดไหนกันถึงต้องมีเสื้อผ้าผู้หญิงสำรองไว้ในห้องแบบนี้
"รับไปสิ"
"คะ? อ่อ"
หญิงสาวมองเสื้อในมืออย่างพินิจว่าเธอควรจะใส่มันหรือไม่เพราะไม่รู้ว่าผ่านมากี่คนแล้วที่ได้ใส่เสื้อตัวนี้
"เสื้อใหม่ ปกติฉันให้ผู้หญิงพวกนั้นกลับไปเลยไม่ต้องกลัว"
"คุณนี่ร้ายนะ...ไม่กลัวชื่อเสียงเสียหายหรือยังไง?"
"ฉันไม่ใช่ดารา ไม่จำเป็นต้องระวังขนาดนั้น"
"แต่คุณก็มีแฟนคลับตั้งเยอะ แถมมีคู่หมั้นแล้วไม่กลัวเธอเสียใจหรือไง?"
โป๊ก! นิ้วเรียวดีดเข้าที่หน้าผากเพียงขวัญเพื่อหยุดความปากมากของหญิงสาว จริงๆ แล้วชายหนุ่มอยากจะต่อว่าเธอด้วยซ้ำที่ยุ่งเรื่องของเขาไม่เข้าท่าแต่รู้ว่าจะต้องทำงานด้วยกันอีกจึงต้องเก็บอารมณ์ไว้ เพราะเขาคิดจะไล่เธอออกทันทีที่จบงานถ่ายแบบที่ทะเลไงละ เรียกว่าขอใช้งานสักสองสามวันแล้วก่อนจะเลิกจ้างก็แล้วกัน
"ออกไปรอด้านนอกได้แล้ว รีบไม่ใช่หรือไง"
"ใช่ คุณก็ไปเร็วๆ สิ"
เพียงขวัญนึกขึ้นได้จึงยกมือขึ้นดันแผงอกกว้างให้เดินถอยออกห่างก่อนจะรีบวิ่งออกไปรอนอกห้อง เหนือไว้เพียงแต่ชายหนุ่มที่ยกมือขึ้นมาลูบบริเวณที่ถูกมือน้อยนั้นสัมผัสแล้วอดจะเลื่อนขึ้นมาลูบเบาๆ ที่ริมฝีปากไม่ได้
เขาไม่เคยสัมผัสเนื้อตัวของเธอสาววัยแรกรุ่นมาก่อนที่ผ่านมาก็จะเป็นคนวัยเดียวกันหรือรุ่นน้องไม่กี่ปีแต่กับเธอคนนี้ห่างกับเขาถึงหกปีทำเอาความรู้สึกข้างในปั่นป่วนไม่น้อยจนต้องสะกดกันอารมณ์เลยทีเดียว เพราะตัวของเด็กนั้นทั้งนุ่มและหอม ยิ่งเจ้าตัวก็เป็นประเภทสัมผัสคนอื่นโดยไม่กลัวอะไรแบบนั้นช่างไม่รู้เลยว่ามันอันตรายต่อตัวเองแค่ไหน
: ธาม
: กองถ่าย
"ถึงแล้ว..."ผมพูดพร้อมกับหันไปบอกผู้ช่วยที่นั่งมาข้างคนขับ แต่กลับพบว่าเธอกำลังนอนหลับตาพริ้มอย่างสบายใจจนผมต้องเก็บคำพูดลงคอ เมื่อวานเธอคงเตรียมทุกอย่างสำหรับผมจนไม่ได้นอนถึงได้สภาพเป็นแบบนี้เพราะผมค่อนข้างเลือกกินเลยทำให้ต้องเตรียมของเยอะเสียหน่อยคงจะทำให้เธอวุ่นวายไม่น้อย
ตอนแรกเธอบอกผมว่าจะอาสาเป็นคนขับรถให้ผมด้วยซ้ำ แต่พอถามไปถามมาเธอกลับยังไม่มีใบขับขี่เสียแบบนั้น
แล้วอย่างนี้ใครจะกล้าให้ขับกัน แต่ก็ดีแล้วที่ผมตัดสินใจขับเอง ดูสิคนอาสาขับรถสิหลับมาตลอดทางขนาดนี้ โชคดีที่สถานที่ไม่ไกลมาทำให้พอมาถึงผมยังมีเวลาเข้าไปบรีฟงานได้ก่อนเริ่มถ่าย
"เอาไงกับยัยนี่ดีละ?..."
ผมมองสำรวจใบหน้าเล็กที่หลับพริ้มก่อนจะตัดสินใจทิ้งให้เธอนอนพักอยู่ในรถแล้วรอถ่ายเสร็จสักเซตค่อยมาดูเธออีกทีก็แล้วกัน พี่ฟางก็ใจร้ายเหมือนกันนะเนี่ยที่นอกจากไม่สอนงานยังปล่อยให้เธอมาออกงานนอกสถานที่ตั้งแต่เริ่มงานแบบนี้ เป็นใครก็ต้องสลบเป็นธรรมดา
"ทนหน่อยแล้วกันนะยัยเด็กน้อย เสร็จงานนี้ฉันก็ไล่เธอออกแล้ว"
ผมพูดเบาราวกับกระซิบเพื่อไม่ใช้เด็กสาวตื่นจากภวังค์ก่อนจะเอื้อมมือไปกดปรับเบาะให้เธอได้นอนในท่าที่สบายกว่านี่หน่อย และดูเหมือนคนตัวเล็กจะชอบใจไม่น้อยถึงได้ระบายยิ้มออกมาทั้งๆ ที่ดวงตายังหลับ
"หึ..."
ทำผมอดขำไม่ได้จริงๆ กับท่าทางของเธอ พี่ฟางคิดอะไรของเขานะถึงให้เด็กไม่มีประสบการณ์แบบนี้มาทำงานแทนยิ่งช่วงนี้สภาพจิตใจผมไม่ค่อยดียังต้องมาคอยกังวลกับยัยนี่อีกเนี่ยนะ บ้าจริงเชียว
"อืมม หิวน้ำ"
"หะ?"
เสียงอูอี้ดังขึ้น เธอพูดว่าหิวน้ำทั้งๆ ที่ยังหลับละเมอหรือยังไงกัน แต่ถึงอย่างนั้นผมก็หันไปหยิบขวดน้ำด้านข้างตัวใส่หลอดแล้วยื่นไปใกล้ปากอวบอิ่มนั้นก่อนที่เธอจะดูดมันเข้าไปเฉยเลย ฮ่าๆ คนบ้าอะไรละเมอกินน้ำได้ด้วย
"ยัยบ้าปากเลอะหมด"
ผมวางขวดน้ำไว้ข้างกายก่อนจะยื่นมือไปเช็ดน้ำที่เลอะปากนุ่มๆ ของเธอเบาๆ สัมผัสที่ปลายนิ้วนี่ทำผมร้อนรนแปลกๆ ราวกับว่าร่างกายมันกำลังสั่งให้ผมลองสัมผัสมันดูอีกสักครั้ง
"เฮ้อ เกลียดสัญชาตญาณตัวเองจริงๆ"
ผมบ่นอุบก่อนจะรีบพาตัวเองออกไปจากสถานการณ์อันตราย(ต่อเพียงขวัญ) เพราะถ้าผมเครื่องติดเรื่องแบบนั้นแล้วต่อให้ห้ามเท่าไหร่ผมก็คงหยุดไม่อยู่อย่างแน่นอน
....
หาววววว\~
มอง ( --) ?
ทะเล
"เอ้ย!"
เพียงขวัญสะดุ้งตื่นเมื่อสายตามองเห็นทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตาอยู่ไม่ไกล และเมื่อหันมองอีกทางก็พบว่าธามกำลังเริ่มถ่ายแบบกับนายแบบและนางแบบอีกสองคน!
นั้นหมายความว่า เธอหลับจนลืมว่าต้องทำงาน!!
"โดนเขาด่าแน่เลยยัยเพียง!"
เพียงขวัญรีบเก็บของเข้าที่ก่อนจะหันไปหยิบตะกร้าของกินสำหรับนายแบบคนดังแล้วก็ต้องตกใจเมื่อทุกอย่างถูกขนลงไปหมดแล้ว
"เขาขนมันลงหมดแล้ว...ตายแล้วฉัน งือออ"
หญิงสาวดิ้นพล่านด้วยความหงุดหงิดตัวเองก่อนจะรีบลงจากรถแล้วเดินตรงมายังกองถ่ายทันที ทำให้ทุกคนหันมองเธอเป็นตาเดียวก่อนจะมีพนักงานคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาหาเธอ
"น้องคะ เข้าไม่ได้นะคะเขาถ่ายงานกันอยู่"
"เอิ่ม หนูเป็นผู้ช่วยคุณธามค่ะ"
"เอะ? ใช่เหรอ?"
"ใช่ครับพี่เฟิร์นเด็กใหม่น่ะ พี่ฟางส่งมาเรียนรู้งาน"
ธามที่มองอยู่นานรีบขอตัวพักแล้วเดินตรงเข้ามาช่วยพูดกับพนักงานให้เพียงขวัญ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังดึงข้อมือเธอให้เข้าไปยืนใกล้อีกด้วย ทำให้เฟิร์นได้แต่พยักหน้าเออออตาม ก่อนที่นายแบบอีกคนจะเดินตามมารวมวง
"เด็กใหม่อีกแล้วเหรอวะ รอบนี้ทำไมเป็นผู้หญิง?"
"ไม่รู้พี่ฟางคิดอะไรเหมือนกัน ภาระชัดๆ"
ธามบ่นอุบนั้นทำให้เพียงขวัญอดจะแยกเขี้ยวใส่เขาไม่ได้ทำเอาเพื่อนนายแบบถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นท่าทางของเธอ
"สวัสดีเด็กใหม่ พี่ชื่อไนท์นายแบบเบอร์ 2 ลองจากไอ้ธาม"
ไนท์พูดแซวเพื่อนตัวเองไปเป็นการหยอกล้อตามประสาแต่นั้นทำให้เพียงขวัญรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ค่อนข้างเข้ากับคนได้ง่าย
"สวัสดีค่ะเพียงขวัญค่ะ เพิ่งมาทำงานกับคุณธามได้ไม่ถึงอาทิตย์เองค่ะ"
เพียงขวัญยื่นมือไปจะจับมือของไนท์ที่ยื่นมาทำความรู้จักแต่กลับถูกธามดึงกลับมากุมไว้ก่อน ทำเอาทั้งเพียงขวัญไนท์และเฟิร์นแปลกใจไปพร้อมๆ กัน
"เอิ่ม ...พี่ไปทำงานก่อนละกัน พวกเราก็ซับหน้าซับเหงื่อแล้วเข้าเซตได้แล้วนะ"เฟิร์นที่รู้สึกแปลกๆ กับเหตุการณ์ชวนอึดอัดจึงรีบหนีออกมาก่อน
ไนท์ขำออกมานิดหน่อยก่อนคิดจะแกล้งเพื่อนรักเล่นสักหน่อย
"ผู้จัดการพี่หายไปไหนไม่รู้ นี่ก็ต้องซับเหงื่อแล้วดูสิเหงื่อไหลเต็มเลย"
เพียงขวัญมองตามนิ้วเรียวที่ชี้เข้าหากล้ามล่ำที่เปลือยเปล่าจนอดจะมองสำรวจตามไม่ได้ เนื่องจากเซตที่ถ่ายวันนี้เป็นเซตต้อนรับหน้าร้อนทำให้ชุดของนายแบบเป็นเพียงกางเกงขาสั้นสบายๆ กับท่อนบนเปลือยเปล่าส่วนของนางแบบผู้หญิงก็เป็นชุดว่ายน้ำสุดเซ็กซี่
เซ็กซี่\~
โปก!
ธามมองหญิงสาวจ้องกล้ามเนื้อชายตรงหน้าไม่วางตาแล้วเกิดอารมณ์หมั่นไส้จึงใช้นิ้วเรียวดีดเข้าที่หน้าผากเพียงขวัญเสียงดังทำเอาเจ้าตัวมึนไปชั่วขณะ
"คุณธามมันเจ็บ!"
"แล้วสายตาเธอมองอะไรละ สมควร"
"นี่มันสายตาฉันไม่เกี่ยวกับคุณเลย"
"ดูจะหวงจังเลยน๊าา คุณธาม"ไนท์แซวเพื่อนตัวเอง
"คนโง่ก็ต้องดูแลเยอะหน่อย"
"ไม่ได้โง่นะ"เพียงขวัญโวย
"ไม่ต้องพูดมาก เช็ดเหงื่อให้ฉัน ส่วนแกก็กลับไปหาผู้จัดการแกได้ละ"
ธามไล่เพื่อนก่อนจะหยิบกระดาษทิชชูที่วางอยู่แถวนั้นส่งให้เพียงขวัญเธอหยิบมันขึ้นมาสองสามแผ่นก่อนจะเช็ดเข้าที่เนื้อตัวชายหนุ่มแรงๆ ด้วยความหมั่นไส้
"ฉันให้เพียงขวัญเช็ดให้ด้วยได้ไหม"
"ได้ค่ะ/ไม่ได้"เพียงขวัญและธามพูดขึ้นพร้อมกัน
"กลับไปก่อนฉันจะอารมณ์ไม่ดี"ธามขู่
"โอๆ เข้าใจแล้วๆ"ไนท์ที่แกล้งปั่นเพื่อนได้สำเร็จเดินกลับไปเตรียมตัวด้วยท่าทางมีความสุข แกล้งใครก็ไม่เท่าแกล้งเพื่อนรักอีกแล้วยิ่งอาการออกขนาดนี้เขายิ่งสนุกใหญ่
ไนท์สนิทกับธามมาตั้งแต่ช่วงเข้าวงการใหม่ๆ จนตอนนี้ทั้งคู่โด่งดังพอๆ กันแต่ด้วยความผ่านความลำบากและอยู่ในสังกัดบริษัทเดียวกันทำให้ไม่ได้รู้สึกอิจฉากันและกันแม้แต่น้อย
มากไปกว่านั้นไนท์ยังเข้าใจและรู้เรื่องของธามทุกเรื่องมากกว่าฟางด้วยซ้ำ ร่วมถึงเรื่องความสัมพันธ์ของธามและคู่หมั้นที่ยังค้างคาใจธามจนไม่สามารถถอนหมั้นได้
พอธามเห็นไนท์เดินไปจนลับสายตา มือหนาก็จับเข้าที่ข้อมือของหญิงสาวก่อนที่เขาจะกระชากมันเข้าหาตัวจนเธอต้องใช้มือข้างนั้นดันแผงอกกว้างล่ำไว้ด้วยความตกใจ
"ให้มันน้อยๆ หน่อยเพียงขวัญ เธอเป็นคนของฉันนะ จะไปดูแลคนอื่นทั้งที่เจ้านายต้องมาทำงานเองแถมเธอยังเอาแต่นอนเนี่ยนะ"
"ปล่อยนะ คุณนี่เป็นอะไรชอบกระชากคนอื่นเข้าหาตลอด"
"ก็ดูเธอทำสิ ออกหน้าขนาดนั้น"
"บ่นทำไมฉันก็ดูแลคุณอยู่นี่ไง"
"รู้นิว่าต้องดูแลฉันอย่าให้เห็นไปดูแลมันละ เช็ดดีๆ"
ธามสั่งอีกครั้งก่อนที่จับเข้าที่มือของเพียงขวัญให้ไล่เช็ดตามเนื้อตัวของเขาไปมาเบาๆ ทำเอาเพียงขวัญรู้สึกเขินจนใบหน้าแดงก่ำ ยิ่งตอนที่อุ้งมือเล็กสัมผัสโดนเนื้อตัวของชายหนุ่มมันยิ่งทำให้ใจของเธอเต้นแรงจนกลัวว่าคนตรงหน้าจะได้ยิน
พริบ
"อ่า"
เพียงขวัญตกใจที่อยู่ๆ ธามก็ดันกระชากเอวเธอให้เข้าไปแนบชิดกว่าเดิมหลากเท่า ก่อนสายตาเจ้าเล่ห์นั้นจะจ้องเข้ามาในดวงตาหวานลึก
ใบหน้าคมค่อยๆ โน้มเข้ามาใกล้ซอกคอขวาจนคนตัวเล็กยืนตัวเกร็งใจอยากจะผลักเขาออกแต่เหมือนกับว่าเรี่ยวแรงของเธอถูกกลิ่นเหงื่อหอมๆ ของชายตรงหน้ากลืนกินไปจนหมดเสียแล้ว
"มีสมาธิหน่อย...แค่นี้ยังเขินจนหน้าแดง ถ้ายังปากดีอยากจะไปดูแลคนอื่นฉันจะลงโทษเธอแล้วนะ"
"หะ? เดี๋ยว..."
เพียงขวัญยังไม่ทันได้ถามธามก็ผละออกจากตัวเธอแล้วเดินตรงไปทำงานต่อทันทีโดยไม่หันกลับมามอง โชคยังดีที่ไม่มีใครมองมาที่พวกเขาจึงไม่เห็นเหตุการณ์ล่อแหลมเมื่อครู่ สิ่งที่ชายหนุ่มทำมันทำให้เพียงขวัญไม่เข้าใจเลยสักนิดกับอีแค่เธอจะไปช่วยเช็ดเหงื่อให้เพื่อเขาจำเป็นต้องไม่พอใจขนาดนั้นเลยหรือไง? แต่ที่เขาพูดเมื่อกี้นี้มันไม่ต่างจากคำขู่เลยนะ!
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!