NovelToon NovelToon

เกลียดที่ยังคิดถึง

ความรักที่...

บทที่ 1

ข้าคืนให้ท่าน จักรพรรดิเซียนเล่อ

ก่อเกิดสงครามระหว่างสองยุทธภพ ระหว่างคนกับสัตว์ร้าย เกิดขึ้นในสมัยที่รัชทายาทจ้าวขึ้นครองบัลลังก์ได้เพียงสองปี ซึ่งนั่นเป็นจังหวะเดียวกับที่พวกอสูรนำทัพขึ้นมาบุกโลกมนุษย์ ผู้ที่นำทัพขึ้นมาจากหุบเหว เป็นสัตว์อสูรนามว่า ลู่ไท่หยาง เป็นผู้ที่ได้ถือครองบัลลังก์อสูรตั้งแต่ยังเยาว์วัย

กล่าวถึงสมัยที่ลู่ไท่หยางได้ลืมตาดูโลก เหล่าทวยเทพต่างประจักษ์ถึงการถือกำเนิดอสูรร้าย ขนานนามว่าลู่ไท่หยางเป็นสัตว์เดรัจฉานที่เป็นอันตรายแก่โลกมนุษย์ ต่อมาลู่ไท่หยางได้ขึ้นครองบัลลังก์ จึงได้ทำสัญญากับเหล่าเทพเซียนว่าหากอสูรกลืนตะวัน ให้โยนหญิงพรหมจรรย์ลงมาใต้ล่างเหว ไม่ว่าจักรพรรดิองค์ไหนที่ขึ้นครองบัลลังก์ก็ล้วนทำตามข้อตกลงไม่ขาด เว้นแต่จักรพรรดิองค์ก่อนที่ไม่ยอมทำตามเงื่อนไข จึงเป็นเหตุให้ลู่ไท่หยางขึ้นมาเหยียบโลกมนุษย์อีกครั้ง

"ทูลฝ่าบาท!! ผู้ที่ยกทัพมาวันนี้คือหงส์หลาง"

หงส์หลางหรืออสูรหมาป่า เป็นแม่ทัพเหล่ามารผู้ได้ชื่อว่ามือขวาของไท่หยาง บัดนี้เขาได้เดินทัพมาถึงประตูเมืองเป็นที่เรียบร้อย

"ทำไมผู้ที่ถือทัพมาคนแรก เป็นหงส์หลาง"

ทางเซียนเล่อได้แต่ครุ่นคิดพร้อมกับท่าทีร้อนรน การที่ไท่หยางส่งคนที่เก่งกาจมาก่อนนั้นย่อมไม่ใช่การท้ารบแต่นี่เป็นการรบโดยไม่ต้องการเจรจา ก่อนที่ฝั่งเบื้องบนจะส่งทหารลงไปรบ ร่วมสี่ร้อยนาย

ทางด้านหงส์หลางที่นำทัพมาถึงหน้าประตูเมือง ยังคงไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่ายืนรอ แต่กลับทำให้ศัตรูหวาดหวั่นด้วยความองอาจของแม่ทัพหน้า ก่อนที่พลทหารสี่ร้อยนายจะวิ่งเข้ามาล้อมพร้อมกับจบชีวิตลงในคราเดียว

"ทูลฝ่าบาท ทหารที่ถูกส่งไปเมื่อครู่ ล้วนเสียชีวิตทั้งหมด"

"เจ้าว่าอย่างไร!! เจ้าจะบอกว่าแค่เสี้ยวเดียวมันก็สามารถปราบคนของข้าได้ทั้งหมดงั้นหรือ"

อำมาตย์ที่เข้ามารายงานได้แต่อ้ำอึ้งเพราะไม่รู้จะกล่าวต่อ ก่อนจะมีแม่ทัพสวรรค์เข้ามาที่ท้องพระโรง

"ทูลฝ่าบาท อาวุธที่ใช้คือง้าวสุริยันจันทรา เป็นศาสตราวุธที่ทำมาจากเกร็ดอำพัน เป็นการหลอมละลายด้วยเพลิงภูเขาไฟ 1 ปีต่อ 1 หยด จึงเป็นศาสตราวุธที่มีอนุภาคสูง"

จ้าวเซียนเล่อหันไปมองเทพที่พึ่งเข้ามาในท้องพระโรง ก่อนที่เทพองค์นั้นจะแนะนำตัว

"ฝ่าบาท ข้าน้อยเจ้าภูผา แม่ทัพสวรรค์นามไป๋กงชุน ถูกส่งมาวันนี้เพื่อช่วยท่านสยบมาร"

"งั้นก็ดี!! ท่านบอกว่าอาวุธนั้นอนุภาคร้ายแรง แล้วข้าต้องทำยังไงถึงจะชนะมันได้"

"ทูลฝ่าบาท เกรงว่าเราจะไม่มีทางเอาชนะได้"

"ท่านพูดอะไรของท่าน หากไม่มีทางชนะแล้วสวรรค์จะส่งท่านลงมาทำไม เอาเถิด ท่านภูผา ข้าว่ามีผูกมันก็ต้องมีแก้ ไฉนเลยธรรมะจะไม่ชนะอธรรม" อำมาตย์รีบพูดขึ้นแทน

"ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยขอเรียนตามตรง หากง้าวนั่นหัก มันก็จะหมดอนุภาคทันที แต่เพราะมันไม่มีทางหักได้ ข้าจึงบอกว่าไม่มีทางชนะ"

"จะไม่มีสิ่งที่หักมันได้เลยงั้นหรือ" จ้าวเซียนเล่อรู้สึกตระหนักถึงสงครามที่จะเกิด นี่ถือเป็นสงครามในรอบร้อยปีที่ผ่านมา ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นในยุคของตนเอง

"ทูลฝ่าบาท มีสิ่งหนึ่งที่หักมันได้ นั่นคือดาบกลืนตะวัน ซึ่งผู้ที่ถือครองมันอยู่คือ ลู่ไท่หยาง" 

เมื่อรู้เช่นนั้นถึงเข้าใจแจ่มแจ้งว่าไม่มีทางหักได้แน่นอน

ระหว่างที่จ้าวเซียนเล่อได้เรียกกำลังพลเข้ามาร่วมหาลือ ทางฝ่ายของหงส์หลางเองก็ไม่ได้เคลื่อนทัพไปไหน

"ท่านแม่ทัพ ท่านจะไม่บุกเข้าไปหรือ" 

ตี๋หลินผู้ร่วมทัพมากับหงส์หยางได้เอ่ยถาม

"ท่านราชาไม่ได้สั่ง เจ้าก็หัดทำตามคำบัญชาบ้างเถิด"

"ท่านบุกเข้าไป ก็ไม่มีที่ใดให้เซียนเล่อหนีรอดแล้ว แบบนี้ไม่เรียกผลงานหรือ"

"จะเรียกผลงานก็ต่อเมื่อท่านราชาสั่ง" หงส์หลางเป็นผู้ที่ยึดถือสัจจะวาจา เป็นคนหนักแน่นซื่อตรงและเย็นชา

"จิ๊!! ทำไมต้องให้ข้ามากับท่านด้วย น่าเบื่อ"

"เอาเถิดท่านตี๋หลิน หากท่านหลงป๋ายมาเราอาจจะได้บุกเข้าไปจริงๆ" เสียงลูกน้องของตี๋หลินดังขึ้นพร้อมกับเสียงยกยอตาม

หลงป๋ายหรืออสูรงูขาวเป็นมือซ้ายของไท่หยางผู้ที่ถูกขนานนามว่าเชียวชาญกลยุทธ์ จากศึกเมื่อร้อยปีก่อนที่ไม่เคยแพ้พ่ายให้แก่ผู้ใด เป็นผู้ถือครองศาสตราวุธที่เรียกว่าดาบเกร็ดน้ำค้าง

ในระหว่างที่ทัพศึก ยึดหน้าเมืองเป็นฐานทัพ จ้าวเซียนเล่อก็ได้นำทัพออกมาตั้งหน้ารบ

"ข้าขอเจรจา!!" เซียนเล่อกล่าวอย่างองอาจ ไม่มีท่าทีนอบน้อมแก่ศัตรู

"ข้าไม่ได้มาเพื่อเจรจา" 

หงส์หลางไม่ว่าเปล่า ก็ได้พุ่งตรงไปหาเซียนเล่อทันที ส่วนกองกำลังสวรรค์ที่เจ้าภูผาพามา ก็ได้ตั้งตนเป็นเป็นกำแพงหน้าเพื่อคุ้มกัน เมื่อเห็นเช่นนั้นตี๋หลินก็กายร่างเป็นอีกาซึ่งเป็นร่างเดิมของนาง ก่อนจะพุงเข้าใส่กำแพงที่เจ้าภูผาสร้างขึ้น ซึ่งกำแพงก็พังทลายลงทันทีทำให้หงส์หลางฝ่าเข้าไปหาจ้าวเซียนเล่อได้ ทั้งคู่ประมืออยู่พักใหญ่ โดยไม่รู้แพ้รู้ชนะ ก่อนที่หญิงสาวปริศนาจะปรากฏ

"ฝ่าบาท!!นั่น!!นางผู้นั้นค่อยสั่งการอยู่เบื้องหลัง หากจัดนางได้ทัพของเราจะกำชัย"

"จินหลิน!!" เมื่อเซียนเล่อเห็นหน้านาง ก็จำได้ในทันที เป็นหญิงสาวในชุดแดงผมยาวสลวย แม้ครั้งนี้นางไม่ได้แต่งเครื่องประดับเหมือนตอนที่เป็นนางกำนัล แต่ใบหน้าของเธอนั้นเป็นที่งดงามไม่เคยลืมเลือน หงส์หลางถอยทัพกลับไปอยู่เบื้องหลังของนาง ทำให้เซียนเล่อรู้ว่าแท้จริงแล้วผู้คุมทัพมานั้นหาใช่หงส์หลาง

"จินหลิน ใยเป็นเจ้าที่บุกมาทำลายข้า"

"เซียนเล่อ ท่านไม่รู้จริงๆหรือ"

"จินหลิน!!เจ้าสั่งพวกนั้นให้ถอยไปเถิด แล้วข้าจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ข้าจะไม่ลงโทษเจ้า " เซียนเล่อกล่าวเกลี้ยกล่อม

"ท่านอย่าพูดให้ข้าขำหน่อยเลย.. ข้าลงทุนยกทัพมา เพื่อมาคุยกับท่านแค่สองประโยคแล้วก็กลับงั้นหรือ"

จินหลินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นเหมือนกับ ผู้ที่ไร้ซึ่งความปราณี จ้าวเซียนเล่อรู้ได้ทันทีว่านางไม่ใช่นางคนเดิม

"เจ้าหายไปแรมปี ใยครานี้ถึงกลับมาพร้อมพวกมาร"

"หายไป!! หายไปงั้นหรือ ช่างน่าขัน ใยข้าจำไม่ได้เล่าว่าข้าหายไป"

"จินหลิน นี่ไม่ใช่เจ้าเลย"

เซียนเล่อมองเข้าไปในแววตาที่แสนจะเย็นชา นางไม่มีเหลือแม้กระทั่งความเป็นมนุษย์ จังหวะที่เสียสมาธิ ตี๋หลินก็แอบเข้ามาด้านหลังก่อนจะพุ่งโตมตีเซียนเล่อเข้าเต็มๆ ร่างกายที่กระเด็นกระดอนไปตามแรงปะทะจนไม่รู้ทิศทาง เมื่อตกลงสู่พื้นหน้าประตูเมือง เหล่าสัตว์ร้ายก็พุ่งเข้ามาล้อมรอบทันที

"เซียนเล่อ!! วันนี้ข้ามาขอ..ทุกอย่าที่เป็นของท่าน " เสียงจินหลิงดังขึ้นในวงปีศาจ

"เจ้าพล่ามเรื่องไร้สาระอันใดของเจ้า!!!"

"หึ!!ไร้สาระงั้นหรือ..น่าแปลกยิ่ง ท่านฝันว่าอยากเป็นใหญ่เสมอฟ้า ผู้คนเล่าขาน ทั่วทิศเรื่องลือ.. ผู้คนน้อยใหญ่ล้วนกราบไหว้สรรเสริญ ใยคนที่จิตคิดสกปรกเช่นท่าน ถึงยังนั่งตำแหน่งจักรพรรดิได้เล่า"

"จินหลิน ข้ากับเจ้าไม่มีความแค้นเคืองต่อกัน"

"ยืนหยัดไปก็เท่านั่น เหตุใดเล่าถึงบอกไม่มีเรื่องแค้นเคือง"

"ข้ากับเจ้า!!! ไม่มีสิ่งที่แค้นเคือง" เซียนเล่อกล่าวย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

"ท่านผลักไสข้าเซียนเล่อ"

จินหลินขยับกายเข้ามาประชิดก่อนจะโดนเซียนเล่อตลบ ร่างกำยำเคลื่อนที่ไวดังพายุเพียงเสี้ยวเดียวก็สามารถทิ้งรอยแผลไว้ข้างไหล่ของจินหลิน ก่อนที่เซียนเล่อเหาะขึ้นไปบนฟ้าด้วยความเร็ว

"จินหลิน หากเจ้ายังไม่หยุด แผลนั้นจะอยู่ที่คอของเจ้า!!"

"จ้าว..เซียนเล่อ!!" จินหลินกำหมัดแน่นไม่คิดว่าเซียนเล่อจะหลอกนางอีกครั้ง แม้ตนจะพ้นวาจาใด ก็ล้วนไม่มีความหมายเมื่อคนไม่ยอมฟัง 

"ไม่ว่าเจ้าจะคิดสิ่งใด ผู้ที่เจ้าไม่มีทางชนะได้ก็คือข้า จินหลิน!!" เซียนเล่อประกาศชัดก่อนจะ กวักแกว่งกระบี่ในมือรวมสองกระบวนท่า หงส์หลางเป็นฝ่ายรับหน้าแทนจินหลินก่อนจะพุ่งขึ้นไปปะทะ

"จินหลิน!! ข้าให้โอกาสเจ้าถอยทัพ" ปากว่าโดยที่ร่างกายยังคงสนองสงคราม เสียงฟาดฟันดั่งสนั่นกึกก้องไปทั่วฟ้า แสงยานุภาพสาดสองไปทั่วทิศ บัดนี้สงครามได้ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้ง

"คนที่เอาแต่สนองความต้องการของตนเองไม่มีสิทธิ์มาสั่งสอนข้า!!" จินหลินตะคอกเสียงดังแม้บาดเจ็บก็ไม่ยอมลามือจากเซียนเล่อ นางเหาะเหินขึ้นไปบนฟ้าก่อนจะเป็นฝ่ายเข้าปะทะกับเซียนเล่อด้วยตัวเอง

"เจ้าต้องการอะไรกันแน่!!!"

"บัลลังก์จักรพรรดิของท่าน!!!"

"คิดว่าล้มข้าได้ แล้วจะได้นั่งบัลลังก์งั้นหรือ เจ้าฝันอันใดอยู่" 

"หากล้มท่านได้ต่อให้ไม่ได้นั่งบัลลังก์ข้าก็ไม่เสียดาย"

"เจ้ายอมรับแล้วสินะ..ว่าแท้จริงแล้วไม่ได้มาเพราะบัลลังก์ข้า..จินหลิน"

จินหลินชะงักไปครู่ก่อนจะโดนเซียนเล่อเล่นงานไปที่เอวของนาง แต่ครานี้จินหลินไม่เสียเปรียบเหมือนคราก่อนเพราะตนก็ได้สวนกลับไปที่แขนของเซียนเล่อเช่นกัน

สงครามได้ดำเนินไปถึงสองชั่วยามโดยที่กองทัพสวรรค์ก็หลั่งไหลกันมาไม่ลดละ บนสนามรบที่เหมือนกับธารน้ำไหล แม้ลงมือฟาดฟันถึงเพียงใดก็ไม่มีทางชนะได้ในทันที กองกำลังมารสูญทัพไปกว่าครึ่งหากเทียบกำลังสวรรค์นับว่าน้อยกว่า ทั้งเซียนเล่อและจินหลินเองก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แม้จินหลินจะเป็นฝ่ายถูกกระทำจนเสียเปรียบก็ตาม

"คนที่ฝึกวรยุทธมาครึ่งชีวิตเช่นเจ้า จะเอาชนะคนที่ฝึกมาทั้งชีวิตเช่นข้าได้ยังไง"

"หุบปาก!!!!"

"กระบวนท่าที่เจ้าวาดล้วนแล้วแต่มาจากข้าทั้งหมด คิดว่ามองแล้วทำตาม เจ้าจะเหนือกว่าข้างั้นหรือ"

"หุบปากของเจ้าซะเซียนเล่อ!!"

"ศิษย์จะเอาชนะครูได้อย่างไรล่ะจินหลิน!!!!"

"ข้าบอกให้หุบปาก!!"

จินหลินเปลี่ยนกระบวนท่าก่อนจะเป็นฝ่ายขึ้นมาข่มจ้าวเซียนเล่อ ถึงนางจะบาดเจ็บไปไม่น้อยแต่สายตาของนางไม่ได้สิ้นหวังเหมือนน้ำตา ราวกับว่าความเจ็บปวดที่รอการระบายมันคับแค้นไปถึงในอกจนแทบระเบิด

"ข้านึกว่าท่าน!!...รักข้า" ทุกคำพูดล้วนหนักแน่นก่อนจะผ่อนลมหายใจเหมือนดั่งโลกจะสลายน้ำตานางยังคงไหลรินโดยที่ดาบในมือไม่สั่นคลอน แววตาแดงก่ำด้วยน้ำที่ไม่มีแหล่ง ราวกับฝนที่พยายามปกคลุมทะเลทราย

"เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ" เจ้าเซียนเล่อรู้สึกประหม่าเมื่อเห็นนางทั้งสู้ทั้งหลั่งน้ำตาราวกับผู้ที่เสียสติ

"ละทิ้งเถิด ยืนหยัดไปท่านก็จะตาย…"

"เจ้าว่าอะไร" เซียนเล่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงต่ำเมื่อเห็นใบหน้าของนางหม่นหมอง ราวกับใจดวงน้อยนั้นแตกสลาย แต่แล้วจินหลินก็ฟาดฟันดาบขึ้นมาอีกหนอย่างไม่ลดละ ราวกับนางเอาความเจ็บแค้นวางไว้ที่ปลายกระบี่ก่อนจะพยายามสลัดมันให้หลุดราวกับเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ

"หึ!!จินหลิน เจ้ารู้หรือไมว่าข้า เห็นเจ้าตายซ้ำยังดีกว่า" เซียนเล่อเป็นฝ่ายยกยิ้มก่อนจะสบัดดาบไปหนึ่งที ร่างของนางก็ลอยละลิ่วไปตามแรง แววตาเคียดแค้นไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉานไม่แปลกที่จินหลินไม่ลามือ

"ท่านมันดุร้ายยิ่งกว่าสัตว์!!"

"ข้าไม่อยากได้ยินสิ่งที่เจ้าพล่ามแล้วจินหลิน หากเจ้าอยากตายนักเจ้าก็ตายเสียเถอะ" เซียนเล่อปล่อยกระบี่พุ่งเข้าหาจินหลินที่ล้มอยู่อย่างสุดแรง ก่อนจะถูกดาบกลืนตะวันสกัด 

เซียนเล่อชะงัก มองหาเจ้าของดาบก่อนที่จินหลินจะพุ่งเข้ามาแทงที่ช่วงท้องจนทะลุ เป็นอีกครั้งที่เซียนเล่อได้เห็นแววตาของนางที่คงยิ้มทั้งน้ำตา ราวกับว่าต่อให้ความตายมาพรากเขาไปได้แต่ก็ยังไม่สามารถพรากความเศร้าโศกไปจากนางได้

"จินหลิน..ข้ากับเจ้า!! เราเป็นอะไรกัน..." จินหลินถอนกระบี่ออกมาจากร่างเซียนเล่อก่อนที่ร่างนั้นจะล้มลงไปนั่งคุกเข่า

"เจ้ากับข้า ข้ากับเจ้า!! เราเป็นอะไรกัน..น่าขันยิ่งนัก!! คนมีสิทธิเรียกร้องคือท่านงั้นหรือ"

"ข้าคิดเสมอว่าเจ้าคือคนสำคัญของข้า..."

"เหลวไหล!!! หากข้าสำคัญ!!ท่านจะโยนข้าลงเหวหรือ ท่านผลักไสข้า!!หลอกลวงข้าว่าท่านรักข้า แล้วไหนเล่า ไหนเล่า!!!ความรักที่ท่านมีต่อข้าเซียนเล่อ!! ท่านเก็บมันไว้ที่ใดกัน" น้ำตาของจินหลินหลั่งไหลมาราวกับสายฝน นางไม่คิดว่าคนที่รักจะหักหลัง

"เซียนเล่อ...ท่านทัดเทียมเสมอฟ้า แล้วข้าเล่า.....ให้ข้าแหงนมองฟ้าที่ไม่สามารถคว้ามาได้หรือ"

"เจ้าคนโง่"

"ผิดที่ข้าโง่หรือเซียนเล่อ... ท่านถึงทำกับข้าได้ถึงเพียงนี้" จินหลินทรุดตัวลงนั่งกับพื้น เซียนเล่อจ้องมองมือเล็กที่กุมกระบี่ แม้ร่างกายนางจะราวกับคนสิ้นหวัง แต่มือกับกุมกระบี่แน่นราวกับแม่ทัพหน้าที่เผชิญหน้ากับศัตรู

"หากมีเจ้าอยู่..ข้าก็ไม่มีวันได้ตำแหน่งจักรพรรดิ!!"

"เซียนเล่อ!!!" จินหลินตบหน้าเซียนเล่อไปหนึ่งที แม้นางจะตบด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด แต่กลับรู้สึกเจ็บจนถึงขั้นชินชา

"เจ้าขวางทางข้าจินหลิน!! เจ้ามันแค่ลูกไพร่บริวาร และยังบังอาจมาเทียบเคียงข้างั้นหรือ!! คนอย่างเจ้าไม่สมควรเลยสักนิด!!"

เซียนเล่อปล่อยกำลังภายในเข้าไปในร่างของจินหลินจนนางสำลักเลือดออกมา

"หากไม่มีเจ้า ข้าก็จะได้เป็นใหญ่" 

"ที่แท้ท่านก็ยื้อเวลาที่จะรวบรวมลมปราณ ข้ามันโง่จริงๆเซียนเล่อ ที่คิดว่าท่านจะยังรักข้าอยู่" จินหลินผลักเซียนเล่อออกไปไกลก่อนที่นางจะปล่อยวรยุทธเพื่อสู้กับเซียนเล่ออีกครั้ง ด้วยอาการบาดเจ็บของเซียนเล่อจึงไม่มีทางขึ้นมาเหนือจินหลินได้

นางทั้งร้องไห้คร่ำครวญราวกับจะขาดใจ ยิ่งเห็นเซียนเล่อตอบโต้มากเท่าไหร่จิตใจนางยิ่งสลายมากเท่านั้น สิบกว่าปีที่นางอยู่ข้างเซียนเล่อนั้นล้วนไม่มีความหมาย นางตั้งใจหมายรักผู้ที่เป็นดั่งแสงสว่างของชีวิต ยิ่งเซียนเล่อยิ้มหรือกล่าววาจาที่แสนอ้อนน้อมยิ่งทำให้จิตใจนางถูกหลอมเหลวไปกับเครื่องบรรณาการแห่งความรัก สิ่งที่ไม่อาจหลุดพ้นจากบ่วงคำสาปคือจิตใจที่ยึดติดจนแน่วแน่ 

ร่างเซียนเล่อลอยละลิ่วไปบนหุบเขาก่อนที่จินหลินจะเหาะตามไป

"เซียนเล่อ ท่านมีอำนาจแล้วยังไง หากท่านรักอำนาจนัก ข้าจะช่วงชิงมาจากท่านให้ดู" จินหลิงคงน้ำเสียงเรียบนิ่งอีกครั้งก่อนจะเดินไปใกล้ร่างที่นอนไร้สติอยู่ น้ำตานางไหลรินลงอีกหนเหมือนกับการแสดงสิ้นสุดลง ร่างเล็กทิ้งตัวลงกอดชายที่ตนรักด้วยความรู้สึกนึกคิด

"ทำไมเซียนเล่อ!!! หากท่านรั้งข้าไว้สักนิดมีหรือข้าจะคิดเคืองท่าน ทำไมท่านต้องปล่อยข้าไปตาย ใยท่านไม่คิดไว้ชีวิตข้าบ้าง ท่านรั้งข้าสิเซียนเล่อ จับมือข้าไว้ ท่านปล่อยข้าลงไปทำไม ทั้งที่ต่อให้ท่านพูดอะไรข้าก็ยอมทำตามทั้งนั้น แต่ทำไมท่านถึงคิดฆ่าข้า คนที่จงรักภักดีต่อท่าน ท่านฆ่าข้าได้ลงหรือ เซียนเล่อ..." เสียงสะอื้นไห้กึกก้องไปทั่วป่าราวกับบทเพลงที่ขับร้องด้วยน้ำตา ลมหายใจเริ่มถี่แรง ก่อนน้ำตาจะเหือดหายเป็นสายเลือด

เกือบชั่วยามที่นางนอนกอดร่างชายที่หลับไหล แน่นอนว่าจ้าวเซียนเล่อไม่มีทางดับสูญ ซึ่งหากชายผู้นี้ฟื้นขึ้นมา แม้รู้ว่าคนที่จะตายต้องเป็นนาง แต่นางก็ไม่คิดที่จะหนี

...ไม่มีเหตุผล

บทที่ 2

โลกแห่งปฐพีทมิฬ

ย้อนไปตอนที่ลู่ไท่หย่างเข้าไปชมดาบที่ตนตั้งใจหล่อหลอมมันขึ้นมานานนับสามร้อยปี เป็นดาบปราบเซียน ที่ให้ชื่อว่ากลืนตะวัน เพราะทุกครั้งที่เกิดสุริยุปราคาหรืออสูรกลืนตะวัน เทพเซียนจะต้องส่งหญิงสาวพรหมจรรย์ลงมาเป็นเครื่องเซ่นไหว้ตามข้อตกลงที่ว่า ลู่ไท่หยางจะไม่ขึ้นไปเหยียบโลกมนุษย์อีก ซึ่งไม่ว่านางใดที่ถูกโยนลงมาก็จะตกสู่คมดาบพอดี เมื่อดาบได้กลืนกินเลือดเนื้อจนหมดสิ้นก็ถือว่าเสร็นสิ้นพิธี

แต่แล้วเหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อมีหญิงสาวที่ถูกส่งลงมาก่อนวันกำหนด นับว่าเป็นความโชคดีของนางที่ลู่ไท่หยางอยู่ตรงนั้น นางจึงไม่ตกลงมาตาย แต่ความโชคร้ายก็คือลู่ไท่หยางโกรธเคืองอย่างหนักเมื่อคิดว่าจะมีคนมาทำลายพิธี หากนางที่ตกลงมาเป็นหญิงพรหมจันทร์ไท่หยางคงปล่อยให้ตายในทันที แต่นางผู้นี้กับไม่มีพรหมจันทร์หากตายในลานพิธี ก็หมายว่าพิธีที่สร้างขึ้นสามร้อยปีนี้ไม่มีความหมาย

"พวกเหล่าเซียนคิดจะทำอันใดกันแน่ ถึงส่งคนลงมาก่อนกำหนด" หงส์หลางเอ่ยขึ้น

"หรือพวกเซียนจะรู้แผนการเราแล้ว"

"ไม่มีทาง!! หากรับรู้แผนการแล้วอย่างใดเล่า นี่ก็ผ่านมาแล้วสามร้อยปีหากพึ่งจะเคลื่อนไหวแล้วจะมีประโยชน์อันใด ท่านราชา ข้าคิดว่านี่ถือเป็นเรื่องดีที่เราจะได้ประกาศคึกขึ้นอีกครั้ง" หลงป๋ายเอ่ยขึ้นก่อนที่ตี๋หลินจะกล่าวเสริม

"เพราะพวกมันไม่ได้ทำตามสัญญา เราจึงบุกขึ้นไป ท่านราชา แบบนี้ก็ถือซะว่าเราไม่ได้ทำผิดอันใด"

"เอาเถอะ...ตี๋หลิน..เจ้าให้คนไปเก็บกวาดตำหนักตะวันออก ข้ามีความคิดที่ดีกว่านั่น" ลู่ไท่หยางกล่าวขึ้นเมื่อรู้สึกคลายความโกรธลงนิดหน่อย ก่อนจะเดินออกจากลานพิธีพร้อมกับนางที่อยู่ในอ้อมกอด

จินหลิงหลับไปนานถึงสามวันด้วยมนต์สะกดของไท่หยางก่อนที่มนต์จะคลายตัวลง

"ขะ ข้ายังไม่ตายงั้นหรือ" 

"เจ้าคิดว่า ตายเสียยังดีกว่าสินะ" เสียงไท่หยางดังขึ้นก่อนที่จินหลินจะหันไปมอง 

"ท่านช่วยชีวิตข้าหรือ"

"ช่วยชีวิต เจ้าพูดอันใดของเจ้า หญิงที่ถูกส่งลงมาจะต้องเป็นนางบำเรอของข้า ใยเจ้าถึงคิดว่าตกลงมาแล้วต้องตาย"

แววตาไท่หยางนิ่งและสงบจนจินหลินไม่อาจหาความจริงในข้อนี้ได้ ในใจนางล้วนเข้าใจดีว่านางไม่ได้ถูงส่งมาแต่นางถูกโยนลงมาเพื่อหวังให้ตกลงมาตายต่างหาก

"เพราะข้าไม่อยากมีชีวิต จึงคิดโดดลงมาตาย แต่ไม่คาดคิดว่าจะได้มาเป็นนางบำเรอของท่าน" จินหลิงปั้นเรื่องแต่งพร้อมหลบสายตาของไท่หย่างก่อนที่จะถอยกายออกห่าง

"จินหลิน คิดว่าคนที่โดดลงมาตายจะมีสภาพแบบนี้หรือ" 

"ท่าน!! รู้จักชื่อข้าได้ยังไง"

"ข้ารู้ชื่อเจ้าได้ยังไงไม่สำคัญ เจ้ารู้แค่ว่าต่อไปนี้ เจ้าต้องคอยปรนนิบัติข้าก็พอ"

"ไม่!! ข้าไม่มีวันทำเช่นนั้น หากท่านต้องการ สู้ฆ่าข้าเสียยังดีกว่า" 

"เจ้าคิดว่าขัดคำสั่งข้าแล้วเมืองของเจ้าจะอยู่รอดงั้นหรือ"

"ท่านหมายถึงอะไร"

"จักรพรรดิของเจ้าต้องส่งหญิงสาวเพื่อเป็นของบรรณาการให้แก่ข้า แต่หากเจ้ายังดื้อดึงคิดว่าข้าจะปล่อยเมืองของเจ้าหรือ"

ไท่หย่างรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับนางก่อนจะใช้มนต์กระตุ้นความรู้สึกของจินหลินที่ซ่อนลึกอยู่ข้างใน แววตานางเริ่มสั่นไหว จนไม่อาจอดกลั้นได้อีกต่อไป ภาพที่รัชทายาทจ้าวยื่นมองนางที่กำลังจะตกลงสู้ก้นเหวอย่างไม่ใยดีซ้ำยังพวกนางสนมที่น่ารังเกียจพวกนั้น ที่คอยลั้นแกล้งจินหลินอยู่เสมอ เพราะพวกนางต้องการแย่งชิงความโปรดปรานจากรัชทายาท

"ข้าไม่สน!!!" จินหลินกล่าวออกมาอย่างกับคนที่เห็นแก่ตัว

"ทั้งที่ข้าจะล้มเมืองเจ้า เจ้าก็ไม่สนงั้นหรือ" ไท่หย่างแสยะยิ้มขึ้นมา เพราะนี่เป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของไท่หยางที่เก็บนางไว้

"ตอนแรกท่านรู้ว่าข้าไม่ได้โดดลงมาตาย ใยตอนนี้ท่านถึงคิดไม่ได้ ว่าข้าต้องแค้นเคืองถึงเพียงใด" จินหลินเอ่ยด้วยน้ำตา นางไม่ได้คิดถึงจ้าวเซียนเล่อแต่นางคิดถึงเหล่านางสนมพวกนั้นมากกว่าที่ทำให้นางโกรธเคือง

"เจ้าอยากให้ข้าล้มเมืองสินะ"

"ใช่!! ข้าอยากให้ท่านล้มเมือง"

สุดท้ายมารก็คือมารแม้จินหลินจะยืนหยัดมั่นถึงเพียงใด แต่ภายในจิตใจก็ย่อมต้องแพ้มารอยู่วันยังค่ำ 

จินหลินถูกมนต์สะกดให้อยู่ภายใต้จิตของความชั่วร้ายจนไม่เหลือความปราณี เมื่อใดที่นางนึกถึงรัชทายาทขึ้นมาจิตใจนางจะจ่มดิ่งลงกับเหว ราวกับคนผู้นี้ได้สร้างความแค้นให้อย่างมหันต์ นางอยู่ในตำหนักฝึกวรยุทธตามที่ไท่หย่างสั่งจนถึงคราที่ต้องขึ้นไปยังโลกมนุษย์ 

"จินหลิน ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าต้องผิดหวัง"

ไท่หย่างเอ่ยสั่งนางเมื่อนำทัพขึ้นมาถึง

"ท่านราชา ข้ามีหนึ่งอย่างอยากจะขอร้องท่าน ถึงจ้าวเซียนเล่อจะไม่รักข้าแต่ข้าก็ไม่ได้หมายเอาชีวิตเขา"

"นั่นขึ้นอยู่กับเจ้า หากไม่ขว้างทางข้า ข้าก็ไม่จำเป็นต้องเปลืองแรง"

จินหลินเข้าใจความหมายได้ดี สิ่งที่ไท่หยางต้องการคือลูกแก้วที่อยู่ในตำหนัก หากตนสามารถพาจ้าวเซียนเล่อออกจากวังได้ ไท่หยางก็ไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตจ้าวเซียนเล่อ

เมื่อถึงตอนกลางคืน จินหลินแอบเข้ามาในวังหลวงก่อนจะมุ่งหน้าไปที่พำนักของจ้าวเซียนเล่อเมื่อเข้ามาถึงข้างใน นางได้เห็นจ้าวเซียนเล่อที่กำลังเชยชมปิ่นปักผมอันหนึ่ง ก่อนที่นางจะจำได้ว่านั่นคือของที่เซียนเล่อให้นางไว้เมื่อคราก่อน 

"ท่าน..." ร่างกายอ่อนไหวไร้เรียวแรงก่อนจะทรุดตัวนั่งลงกับพื้นพร้อมกับน้ำตาที่ร่วงหล่น เมื่อเซียนเล่อนั้นถือปิ่นปักผมของนางไว้ในมือ ราวกับว่ายังมีเยื้อใยให้แก่กัน

พอรุ่งสายหงส์หลางได้ยกทัพไปถึงหน้าประตูเมืองตามที่ไท่หยางได้สั่งการ

"เป็นอันใดไป" ไท่หย่างแอบเห็นใบหน้าที่หม่นหมองของจินหลิง ราวกับนางกำลังสองจิตสองใจ

"ท่านสัญญาว่าจะไม่ฆ่าจ้าวเซียนเล่อ"

"ข้าฆ่าไปแล้วงั้นหรือ"

"หาไม่...ข้าแค่กลัวท่านจะลืม"

ระหว่างที่ลู่ไท่หยางปักหลักรอรออยู่นอกเมือง ทางฝั่งของหงส์หลางก็เริ่มเข้าปะทะกันอย่างดุเดือด จินหลิงได้แต่มองดูสงครามอย่างไม่ลดละ นางรู้ว่าจ้าวเซียนเล่อไม่ได้เป็นคนที่จะยอมถอยกับเรื่องสงคราม หากเกิดการปะทะกัน ต่อให้ไหวไม่ไหวเซียนเล่อก็จะยืนหยัดสู้ ก่อนที่นางจะตัดสินใจวิ่งเข้าไปหาสงคราม โดยที่ไท่หย่างก็ไม่ได้สั่งคนมาสกัดนางแต่อย่างใด

"พวกเจ้าห้ามทำอันใดจ้าวเซียนเล่อเด็ดขาด!! นี่เป็นคำสั่งของราชา" จินหลินวิ่งเข้ามายังสนามรบก่อนจะถูกพวกอำมาตย์เพ็งเล็ง

"จินหลิน!!!"เสียงของจ้าวเซียนเล่อดังขึ้นก่อนที่นางจะชะงักมอง ความรู้สึกที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนจ้าวเซียนเล่อก็ไม่ได้ลืมเลือนนาง มันเป็นความรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก ก่อนที่คำพูดของไท่หย่างจะดังขึ้นมาในหัว สายตาของนางได้มองเห็นตี๋หลินที่แอบย่องไปด้านหลัง ตอนนี้ทัพมารกำชัยเหนือกว่า หากนางแปลพรรคตอนนี้ไท่หยางคงไม่ละเว้นจ้าวเซียนเล่อแน่ ก่อนที่จินหลินจะทำตามข้อตกลงดังเดิม

"เจ้าหายไปแรมปี ใยครานี้ถึงกลับมาพร้อมพวกมาร" เสียงของความเชือดเฉือนดังขึ้นอีกครั้ง ใยครานี้ถึงได้เจ็บซ้ำไปถึงทรวงใน ไม่คิดเลยว่าเซียนเล่อจะถามตนเช่นนี้ จินหลิงมองดูสายตาน้อยใหญ่ของพวกอำมาตย์ที่มองนางเป็นตัวน่ารังเกียจ ราวกับนางได้ทำความผิดมหันต์

ยิ่งนางพยายามอ่อนเข้าหาเซียนเล่อเพียงใดยิ่งเหมือนว่านางนั้นผิดอยู่ฝ่ายเดียว นางต้องพยายามเก็บกลั้นน้ำตาภายใต้วาจาที่เชือดเฉือน

จนคมดาบนั้นบาดลึกเข้ามาถึงเนื้อใน จินหลินมองสีหน้าเรียบนิ่งของเซียนเล่อจนตัวแทบจะขาดใจ ไม่แม้แต่จะสงสารแต่ยังกล่าววาจาเย่อหยิ่งเหมือนกับผู้ไม่รู้จัก สิ่งที่คิดว่ายังรักนั้นกลับไม่เหลือสิ้น จินหลินชักกระบี่มาไว้ในมือก่อนจะเป็นฝ่ายเข้าไปปะทะ ถึงคมดาบนั้นจะกรีดเนื้อนางจนเลือดไหลเป็นธารน้ำแต่ร่างกายกับชินชาไม่เหลือเค้าโครงของความเจ็บ 

กระบี่ยาวฟาดฟันขึ้นบนฟ้าพร้อมกับน้ำตาของความโศก หวนคิดถึงตอนที่โยนตนลงปากเหวเหล่านางสนมต่างทุบตีทรมาน เซียนเล่อก็ไม่ยอมกล่าวคำใดแม้จะรู้ว่าตนแค่ถูกเหล่านางอิจฉา แต่เซียนเล่อกลับมองแล้วถอนหายใจ ราวกับตนเป็นเรื่องเหนื่อยหน่ายของชีวิต เสียงของนางสนมที่ดังกึกก้องว่าไม่เว้นโทษ มีเพียงโยนทิ้งลงเหวถึงจะหายเคือง 

"ข้านึกว่าท่าน!!!..รักข้า"

นี่เป็นสิ่งที่จินหลินนึกคิดมาตลอด ก่อนที่ความแค้นเคืองจะขึ้นมาครอบงำจิตใจ กระบวนท่าที่เริ่มแปรผันก็หนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ที่ผ่านมานางใช้ท่างรบของเซียนเล่อเพื่อที่จะให้เซียนเล่อรู้หลบ แต่ครานี้ต่างออกไปเมื่อจิตใจที่บอบซ้ำจนไม่รู้จะแก้ ตนจึงขึ้นกระบวนท่าใหม่ แต่ก็ถูกเซียนเล่อสกัดจนร่างกระเด็นไปไกล

"ถ้าเจ้าอยากตายนัก เจ้าก็ตายเสียเถอะจินหลิน" 

"ท่านพูดเช่นนี้ได้อย่างไร!! แล้วตอนนั้นข้าอยากตายหรือเซียนเล่อ ทำไมท่านถึงโยนข้าลงเหวเล่า" 

มีเพียงกระบี่ที่ตอบรับเสียงของนาง จินหลินรู้สึกเจ็บซ้ำกับคำพูดมากกว่ารอยแผล นางทำได้เพียงหลับตานิ่งแล้วยอมรับโชคชะตา 

"ข้าไม่ได้ส่งให้เจ้าไปตาย ลืมตาแล้วเผชิญกับมันซะ" เสียงไท่หย่างดังขึ้นในหัวพร้อมกับกระบี่กลืนตะวันที่ปักลงตรงหน้า จนนางชะงักลมหายใจไปครู่ ราวกับว่าถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างไท่หยางจะเป็นคนลงมือทำเอง

จินหลินหยิบกระบี่ขึ้นก่อนที่จะวิ่งเข้าไปแทงเซียนเล่อ แม้จุดที่นางแทงไม่ใช่จุดสำคัญแต่แววตาของเซียนเล่อนั้นราวกับจะขาดใจอย่างกับคนที่ทนพิษไม่ไหว จนจินหลินชักกระบี่กลับด้วยความตกใจ นางไม่ได้ตั้งใจทำร้ายเซียนเล่อ แต่เพราะกลัวว่าไท่หยางจะทำมากกว่าเลยต้องชิงลงมือก่อน แต่กลับเหมือนตนจะคิดผิด

"ข้าคิดเสมอว่าเจ้าคือคนสำคัญของข้า..."

เสียงแผ่วเบาของเซียนเล่อนั้นเป็นเหมือนเครื่องที่บีบหัวใจนางไว้แน่น เหมือนกับโลกที่กำลังจะขาดอากาศหายใจ 

"เหลวไหล!!! หากข้าสำคัญ!!ท่านจะโยนข้าลงเหวหรือ ท่านผลักไสข้า!!หลอกลวงข้าว่าท่านรักข้า แล้วไหนเล่า ไหนเล่า!!!ความรักที่ท่านมีต่อข้าเซียนเล่อ!! ท่านเก็บมันไว้ที่ใดกัน"  จินหลินกล่าวทั้งน้ำตาเพื่อหาเหตุผลว่าทำไมถึงทำเช่นนั้นกับนาง แต่แล้วสิ่งที่เป็นคำตอบให้นางก็คือ นางเป็นเพียงแค่คนโง่คนหนึ่ง

"ผิดที่ข้าโง่หรือเซียนเล่อ ท่านถึงทำเช่นนี้กับข้า" จินหลินหวนคิดถึงปิ่นที่เซียนเล่อให้นาง บัดนี้มันได้กลายเป็นของขวัญให้แก่สนมเอกในตำหนัก ตนนึกว่าเซียนเล่อยังคิดถึงตนจนเก็บมันไว้เป็นเครื่องแทนใจ สุดท้ายมันก็เป็นเพียงสิ่งของที่สามารถเปลี่ยนนายได้ทุกเมื่อ

เซียนเล่อดึงกำลังขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นสู้กับตนราวกับมันนั้นเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี ที่แม้ตายได้แต่ยอมไม่ได้ ก่อนที่จินหลินจะเป็นฝ่ายล้มเซียนเล่อจนร่างลอยกระเด็นไปไกล

จินหลินเหาะตามไปถึงหุบเขาก่อนจะมองดูร่างชายคนรักนอนหมดสติอยู่กับพื้น นางพยายามกล่าวกลบเกลื่อนความเศร้าโศก ที่ในใจนั้นแหลกสลายจนไม่เหลือ ทั้งที่พยามครุ่นคิดถึงเรื่องที่ทำเจ็บซ้ำแต่มันกลับยิ่งเศร้าโศกมากกว่าเดิมแม้สรรหาคำใดมากล่าวมันก็ไม่อาจลบเลือนคำที่ว่าตนนั้นรักหมดหัวใจ

ข้าจะเกลียดคนที่รักได้อย่างไรล่ะเซียนเล่อ...ท่านลองสอนข้าทีสิ.....

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!