"ยินดีต้อนรับ นักเรียนกลับเข้าสู่โรงเรียนของเรา ในปีการศึกษา ใหม่อีกครั้ง..."
ผู้อำนวยการโรงเรียนสหชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมือง เอ่ยต้อนรับนักเรียนเข้าสู่ปีการศึกษาใหม่อย่างเป็นทางการ นานจนเด็กที่ยืนกลางแดดบ่นกันไปตามระเบียบ แต่ก็ต้องทนต่อไป
"ป้าวิมลแก อยู่ยืน เหมือนนามสกุลเลยเนอะ เมื่อไหร่จะพูดเสร็จคะ"
พริบพราวที่ยืนเข้าแถวอยู่กลางสนาม ก็อดที่จะล้อเลียนไม่ได้ แถมพูดด้วยน้ำเสียงที่ประชดประชันจนเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆหัวเราะไปตามๆกัน พริบพราวเป็นตัวจี๊ดประจำห้อง ก็ไม่แปลกหรอกที่เธอจะทำแบบนี้ (สวยขึ้น กลิ่นน้ำหอมใหม่ น่ารักว่ะ) นับเดือนคิดในใจ พลางยิ้มเบาๆ และ มองพริบพราวไปด้วย
"อีพราวดูนั้นดิ"
ใบเฟิร์นชี้ไปทางผู้อำนวยการที่มองเพื่อนสนิทของเธอด้วยตาขวาง ใบเฟิร์นเองเกือบจะหลุดหัวเราะออกมาที่เห็นเพื่อนของเธอทำหน้าตกใจสุดขีดเหมือนอิโมจิในโทรศัพท์ ถ้าเป็นไปได้เพื่อนของเธอคงอยากจะลงไปกราบขอขมาสักหลายสิบที (อย่ามองหนูแบบนี้ดิครู อายเพื่อน) พริบพราวคิด ก่อนจะยกมือไหว้เป็นเชิงขอโทษ
กริ่ง กริ่ง
เสียงกริ่งลากยาวสองครั้ง ราวกับเสียงสวรรค์ที่ทำให้นักเรียนทุกคนดีใจจนอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ ในที่สุดก็จะได้เข้าห้องเรียนแล้ว แต่ในห้องเรียนก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน บรรยากาศความตึงเครียดนั้นผ่านไปอย่างทรมานสำหรับพริบพราวแล้วเวลาในห้องเรียนสามชั่วโมง เหมือนผ่านไปสามปี ไม่สิ!สามทศวรรษก็คงเทียบไม่ได้
"โอ้ย! ลุงปรีชาเข้าตรงเวลา แถมสอนเลยอี๊ก~ สมเป็นครูคณิตจริงๆ"
พริบพราวพูดกระซิบกระซาบกับนับเดือนเพื่อนสนิทของเธอเอง แต่มันก็ไม่ค่อยเหมือนกระซิบเท่าไหร่ เพราะ มันดังพอจนเพื่อนที่นั่งระแวกเดียวกับได้ยิน แต่มันคงจะถึงคราวซวยของเธอเพราะครูปรีชาเดินมาหลังห้อง ซึ่งเป็นที่ที่เธอนั่งอยู่กับเพื่อนพอดี
"พรภิชาครูจะหักคะแนนของเธอ หัดเกรงใจครูด้วย"
คุณครูวัยกลางคนกล่าวกับเธอด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา และ แข็งกร้าว เพราะเธอไม่ค่อยเป็นที่โปรดปรานของคุณครูที่นี่สักเท่าไหร่เพราะแก๊งเพื่อนของเธอออกแนวนักเลง และ พริบพราวเองก็เป็นหัวโจก หรือ เรียกภาษาตัวมารดาก็เรียก อีตัวต้นเรื่องนั้นแหละ เลยทำให้มีเรื่องเป็นประจำจนคุณครูทุกคนรู้จักเธอเป็นอย่างดี รวมถึงผอ.วิมลด้วย
ตอนพักกลางวัน เวลาที่สบายกายสบายใจที่สุดของทุกคนก็มาถึงแล้ว แต่สำหรับพริบพราว ก็เป็นเวลาหาเหาใส่หัวดีๆนี่แหละ
"น้องคะ นี้โต๊ะประจำพี่ น้องช่วยไปนั่งที่อื่นได้ไหมคะ"
"ทำไมหนูต้องไปอะ ก็หนูมาก่อน"
เสียงทะเลาะวิวาท ที่ทุกคนได้ยินเป็นประจำจนเป็นเรื่องปกติดังขึ้น เหล่าคุณครูก็เอือมระอา และ สุดจะทนแล้ว ที่ต้องมาห้ามศึกรุ่นพี่กับรุ่นน้องทุกๆวัน จึงปล่อยไป ให้เด็กๆมันจัดการเอาเอง
"ยัยพรภิชาเอ้ย ม. 6แล้ว ยังจะไปทะเลาะกับน้องอีก"
"เอาหน่าเมย์ พรภิชาเขาเป็นอย่างนี้มาแต่ไหน แต่ไรแล้ว ปล่อยเขาไปเถอะ"
"ในฐานะครู เราจะไม่เข้าไปห้ามหน่อยหรอคะ ครูมีหน้าที่สอนเด็กให้เป็นคนดี ไม่ใช่หรอคะ"
"ก็ใช่ มันเป็นเรื่องของเด็ก อย่าไปยุ่งเลยเมย์"
เสียงคุณครูคุยกัน เมย์ซึ่งเป็นคุณครูที่พึ่งสอบบรรจุเข้ามาใหม่ จึงยังไม่รู้กิตติศัพท์ความเกเรของพริบพราว เธอก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปห้าม เพราะ เธอมองว่าครูที่ดีมีหน้าที่สอนศิษย์ให้เป็นคนดี แล้วถ้าเธอไม่รู้จักห้ามปราม สั่งสอน เธอจะมาเป็นครูทำไม
"พวกเธอหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!"
ครูเมย์ตะโกนเสียงดังเป็นเพื่อห้าม เด็กวัยรุ่นสองคนหันมามองครู แต่ก็ยังไม่สนใจ ทะเลาะกันต่อเหมือนไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลย
"มึงกล้าดียังไงมาแย่งโต๊ะกู ห๊ะ!"
"แล้วพี่มาหาเรื่องหนูทำไมคะ พี่ไม่ได้ซื้อโต๊ะไว้หนิคะ เพราะฉะนั้นหนูนั่งได้"
รุ่นน้องพูดพลางหย่อนตัวลงบนเก้าอี้ไม้ตัวยาวในโรงอาหาร และ ทำสีหน้าแบบผู้ชนะ แต่มีเหรอที่คนอย่างพริบพราวจะยอมแพ้ง่ายๆ
"ทำไมน้องไม่รู้จักเคารพรุ่นพี่เลย ลืมสมองไว้ในท้องแม่หรอคะ เจอรุ่นพี่ต้องทำยังไง ทำไมย--"
"พอ หยุดสักที!"
ครูเมย์ที่ทนมองมานานตะโกนห้ามพร้อมกับผลักทั้งสองคนออกจากกันจนเซกันไปคนละทาง แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าเด็กด้านหน้าจะฟังเธอเลย แม้แต่น้อย
"จารย์อย่ายุ่ง เรื่องของหนู"
พริบพราวตะโกนใส่หน้าครูที่หวังดี ก่อนที่จะผลัก ครูที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่สนใจใยดี ครูที่ล้มลงเจ็บจนระบม ไม่ใช่ที่ร่างกายแต่เป็นจิตใจ เธออุตสาห์ตั้งใจ มีเจตนารมณ์ที่ดี และ ตั้งใจอยากจะตั้งใจในวิชาชีพนี้แต่ก็ไม่สำเร็จ น้ำตาเธอค่อยไหลจนนองทั่วแก้ม แต่ก็ไม่ลืมที่ปาดน้ำตา และ กลั้นเสียงร้องไห้ไว้
"รุ่นพี่แบบนี้ไม่สมควรได้รับการเคารพหรอกค่ะ"
"อีเด็กเวร กูขอตบสักทีเถอะ"
พริบพราวง้างมือออกเตรียมจะตบประทับรอยลงบนหน้าคนที่อยู่ตรงหน้า เด็กคนนั้นหลับตาปี๋ด้วยความกลัว แต่ทันใดนั้นเสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้น
"พวกเธอหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!"
เสียงปริศนาดังขึ้น แต่เป็นเสียงที่เยือกเย็น และ มั่นคง แต่แปลกที่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้หยุดลงไปดื้อๆ
ตอนพักกลางวัน เวลาที่สบายกายสบายใจที่สุดของทุกคนก็มาถึงแล้ว แต่คงไม่ใช่เวลาที่ดีสำหรับพริบพราวเท่าไหร่ ที่จะต้องมายืนในห้องที่เย็นเฉียบ เป็นสถานที่ที่เด็กวัยรุ่นทุกๆคนกลัว แต่สำหรับพริบพราวมันแทบจะเป็นบ้านหลังที่สองแล้ว
"ไหนพวกเธอเล่าให้ครูฟังซิ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น"
"คือ...น้อ--"
"พรภิชาเธอไม่ต้องพูด พี่เขาทำอะไร พูดมา"
"หนูก็นั่งกินข้าวกลางวันกับเพื่อนนี่แหละค่ะ อยู่ดีๆพี่คนนี้ก็เดินเข้ามาหาเรื่องหนู เขาบอกว่าที่ที่หนูนั่งอยู่เป็นโต๊ะประจำเขา"
ผอ.วัยกลางคนได้แต่กุมขมับเมื่อทราบสาเหตุที่ทำให้นักเรียนทะเลาะกัน พร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะได้ตัดสินเรื่องที่เกิดขึ้น
"พรภิชา โต๊ะมันก็มีตั้งเยอะ เธอไปทะเลาะกับเขาทำไมหล่ะ"
"ก็นี่ มันเป็นโต๊ะประจำหนู แล้วน้องคนนี้ก็ไม่รู้จักเคารพรุ่นพี่เลยค่ะ แถมมาชี้หน้าด่าฉอดๆ "
"อ่าว พี่พูดแบบนี้ก็สวยดิ"
รุ่นน้องม.5 ตรงปรี่เข้าไป พร้อมกับยื่นหน้าใกล้พี่ตรงหน้า พร้อมคว้ามือไปกระชากคอเสื้อของพริบพราว แต่ไม่ทันจะคว้า ก็มีแขนมาคว้าตัวเธอไว้ พร้อมกับดึงเธอไปด้านหลัง
"โอ้ย! จารย์~"
รุ่นน้องตกใจเมื่อมีมือมาคว้าตนไว้ แต่หันกลับไปก็ต้องตกใจที่เป็นอาจารย์เมย์ที่ตนเกือบจะด่าตอนที่เธอทะเลาะกับรุ่นพี่ แต่หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้ากลับเป็นห่วงแทนที่จะดุด่าเธอเหมือนครูคนอื่น
"เฮ้อ! พอได้แล้ว พวกเธอก็ใจเย็นกันหน่อย ค่อยๆคุยกัน พรภิชาโต๊ะทานอาหาร เป็นของส่วนรวม วันหลังอย่าไปแย่งเขาอีกหล่ะ แล้วทำไมพวกคุณไม่เข้าไปห้ามเด็ก ลูกๆของพวกคุณจะตบกันอยู่แล้วยังยืนเฉยกันอยู่อีก"
ผู้อำนวยการเคลียร์ปัญหาให้นักเรียน ก่อนที่ถามคุณครูที่อยู่ในบริเวณโรงอาหาร เพราะ สำหรับผู้อำนวยการแล้ว ครูต้องสั่งสอนศิษย์ แล้วครูที่อยู่เฉยแบบนี้ควรกลับไปเรียนมหาลัยใหม่ด้วยซ้ำ
"ก็มันเป็นเรื่องของเด็กหนิคะผอ."
"คุณจะมาพูดแบบนี้ไม่ได้ คุณลองคิดว่าเด็กพวกนี้เป็นลูกของคุณ แบบนี้ยังใช่เรื่องของเด็กอยู่ไหม! พวกคุณบางคนก็มีลูกแล้ว ก็น่าจะเข้าใจดีนะคะ ฉันให้เวลาพวกคุณกลับได้พิจารณาตนเองใหม่อีกครั้งนะ"
คุณครูทุกคนได้แต่ขานตอบ เพราะ มาคิดดูอีกทีตนเองก็ผิดจริงๆ ได้เข้ารับราชการเป็นครูแท้ๆ แต่ไม่สั่งสอนศิษย์ใช้ได้ที่ไหน
"พรภิชา เขมิกา ครูขอโทษนะ"
"พวกหนูผิดเองแหละค่ะ จารย์ไม่ต้องขอโทษหรอก"
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างพูดคุย และ เคลียร์ปัญหาต่างๆให้เรียบร้อย ก่อนจะแยกย้ายกัน พริบพราวเองก็กลับมาที่ห้องเรียนเพื่อเรียนคาบต่อไป
หลังจากที่พริบพราวกลับห้องมา และ เรียนตามปกติผ่านไปสักพักก็มีเสียงท้องร้องดังขึ้น เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเจ้าของท้องนั้นหิวมากแล้ว จนเพื่อนไปที่อยูระแวกเดียวกันหันมามอง เนื่องจากพึ่งไปมีเรื่องทะเลาะกันมา จึงไม่ได้กินข้าวเป็นเรื่องปกติ พริบพราวทนหิวไปอย่างนั้น เพราะ ทำอะไรไม่ได้ แต่ก็มีเสียงผู้หวังดีที่คุ้นเคยดังขึ้น
"อิพราว เอาไปเถอะ ยังไม่กินอะไรเลยไม่ใช่เหรอ"
เสียงของนับดาวเอ่ยขึ้นอย่างเบาๆ ก่อนที่จะยื่นขนมซองเล็กให้เธอเอามาเก็บไว้ เหลือเวลาอีกห้านาทีแล้วก่อนที่จะหมดเวลา
กริ่ง~
เสียงกริ่งเป็นสัญญาณหมดเวลา ก่อนที่อาจารย์จะเดินออกไป ความอดทนของพริบพราวก็หมดลง พร้อมกับมือที่ฉีกซองขนมออกมาอย่างเอามือ และ ค่อยหยิบเข้าปากทีละชิ้นจนหมด
"ขอบคุณมากนะเว้ย"
พริบพราวกินขนมเสร็จแล้ว แต่ก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยคำขอบคุณเพื่อนสนิทที่อยู่ตรงหน้า พร้อมกับส่งรอยยิ้มเพื่อเป็นการบอกว่าตนเองดีขึ้น และ อิ่มแล้ว แต่รอยยิ้มนั้นทำให้คนที่อยู่ตรงหน้าแก้มแดง หูร้อน เหมือนคนเป็นไข้ยังไงอย่างงั้น
"ดาว มึงเป็นอะไร ไม่สบายหรอ"
พริบพราวถามอีกคนด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน และ เป็นห่วง พร้อมกับเอามือแตะหน้าผาก และ แก้มของเพื่อน นับดาวเองที่พึ่งรู้ตัวว่าอีกฝ่ายเรียก ก็รีบตอบด้วยความเร่งรีบ และจับมือพริบพราวไว้ ก่อนจะดันมือของเธอออกจากแก้มของตัวเอง
"กะ กะ กูไม่เป็นไร กูโอเค"
ใบหน้านั้นแดงกว่าเดิมเมื่อถูกสัมผัส เด็กหญิงวัยรุ่นก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายต้องเลิกลั่ก ตอบแบบตะกุกตะกักด้วย แต่เพื่อนของตนก็ยิ้มตอบเพื่อแสดงให้เห็นว่าตนเองยังสบายดี เวลาก็ได้ผ่านไปจนถึงเวลาเลิกเรียนไปประมาณสามถึงสี่ชั่วโมง เวลาก็อยู่ที่ประมาณหกโมงเย็น เด็กๆทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน แต่เหมือนจะมีแสงไฟฉายมาจากบันไดทางขึ้นอาคารเรียน แต่ก็พอเดาออกว่าไม่ใช่ยามรักษาความปลอดภัยแน่นอน
"พราว มึงลากกูมาทำไมเนี่ย"
นับดาวถามเพื่อนที่ขอให้มาเป็นเพื่อน แต่ก็ไม่รู้ว่าอีกคนพามาทำไม
"โทษทีว่ะมึง กูลืมงานพรีเซนต์ของป้ารัชนีไว้อะ"
"แต่อีกตั้งสามวันเลยนะเว้ย กว่าจะส่ง"
"เออว่ะ จริงด้วย"
พริบพราวตอบด้วยเสียงอ่อน ก่อนจะยกมือขึ้นเกาหัวเบาๆ และยิ้มเจื่อนๆตอบไปหนึ่งที จนเพื่อนที่อยู่ด้วยกันอดจะกุมขมับไม่ได้ และ เอื้อมมือไปตบหัวเพื่อนของตนเองหนึ่งที
ป้าบ!
"โอ้ย! อีดาวกูเจ็บ"
พริบพราวร้องโอดโอยด้วยความมึนหัวที่พึ่งโดนตีไปจนมึนค้าง ต้องขยี้ตาเพื่อปรับสายตามองไปรอบๆ แต่แล้วคนที่มากับเธอก็ได้ยินเสียงการก้าวเท้าของใครบางคนที่เดินมาทางนี้
ตึกๆ ตึกๆ
"พราวมีคนเดินมาทางนี้"
นับดาวรีบดึงมือคนที่ยืนอยู่ข้างๆเธอ เข้าไปแอบในห้องๆหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องเก็บของของแม่บ้าน เพื่อนที่ถูกดึงก็ตกใจมาก จนตะโกนออกมาเสียงดัง
"มึงทำอะไรเนี่ย!"
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!