แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างกระจกใสที่ปิดด้วยมูลี่กันแสงแต่ไม่อาจกันแสงอาทิตย์ทั้งหมดได้ ร่างบางที่หลับอยู่ในห้องเริ่มรู้สึกตัวจากการเหนื่อยล้าเนื่องจากบทเพลงรักที่ถูกบรรเลงวนไปเกือบทั้งคืน
เปลือกตาคู่ๆ ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างอ่อนล้าและต้องรีบลุกขึ้นทันทีเมื่อสัมผัสได้ว่าคนเมื่อคืนที่เจอกันในผับได้หายตัวไปแล้ว เหลือเพียงความว่างเปล่า ในห้องที่หันไปทางไหนก็ดูจะไม่มีวี่แววของชายคนนั้นเลย จะมีก็เพียงแต่เงินปึกนึงที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงที่เธอหลับอยู่
เธอไม่รอช้ารีบมองหากระเป๋าตนเองที่วางไว้อยู่บนพื้นห้องและหยิบโทรศัพท์หวังโทรหาคนข้างกายเมื่อคืน
รอไม่นานนักปลายสายก็รับ (ว่าไงพิมพ์)
ปลายสายตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น "นี่คุณกล้าทิ้งพิมพ์ให้นอนอยู่ คนเดียวได้ไง ได้แล้วก็ไปอย่างงั้นหรอ"
(เราก็ตกลงกันแล้วนี่ว่าเป็นแค่วันไนท์ไม่ผูกมัด และอีกอย่างเงินที่ผมวางอยู่มันไม่พอสำหรับคุณอีกเหรอ)
"นี่!ฉันไม่ได้ขายตัวน่ะ ที่จะวางเงินแล้วคุณก็หายไปแบบนี้"
(อ๋อ!ของฟรีนี่เอง แต่ไม่เป็นไรเงินนั้นผมยกให้คุณล่ะกัน แล้วหลังจากนี้ก็ไม่ต้องติดต่อผมล่ะ เรื่องของเรามันจบไปแล้ว บ๊าย~) เขาตอบกลับไปอย่างกวนๆ จนทำให้ร่างบางที่กำลังเปลือยอยู่ในห้องถึงกับต้องปรี๊ดแตกที่เผลอเสียท่าให้ผู้ชายคนนี้ มันต้องเป็นเขาสิที่ติดใจเธอ แต่ทำไมเขาถึงทิ้งให้เธอนอนอยู่คนเดียวแบบนี้กันล่ะ ให้ตายสิ ใอ้ผู้ชายเฮงซวย
แม้จะรู้ว่าตัวว่าตัวเองเจ้าชู้มากแค่ไหนแต่เขาก็เลือกที่จะป้องกัน ไม่ยอมให้ใครมาผูกมัดเขาได้หรอก ถึงจะมีที่ถูกใจบ้างแต่ก็อยู่ได้ไม่นานถ้าเขาไม่ต้องการก็โดนเขี่ยทิ้งไปหมด หล่อ รวย ลีลาดีอย่างเขาพร้อมที่จะหาของใหม่ที่ดีพออยู่แล้ว
แต่ถ้าได้เจอคนที่จริงจังเมื่อไหร่เขาจะไม่แตะต้องเธอจนกว่าเธอคนนั้นจะพร้อมเอง
'เธียร' คนนี้จะหยุดก็ต่อเมื่อได้เจอคนที่ตัวเองรักจริงยังไงล่ะ
ร่างสูงราวหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรก้าวเท้าเดินไปตามทางพลางมองโทรศัพท์อย่างเพลิดเพลินไม่ได้มองทางเลยไปชนกับผู้หญิงคนนึงที่ถือของมาอย่างพะรุงพะรัง
"ขอโทษค่ะ" เธอพูดในขณะที่เธอกำลังก้มเก็บของอยู่ เสียงที่หวาน ละมุน นุ่มนวลของเธอทำให้เขาใจเต้นเเรงอย่างประหลาด
"เอ่อ..ผมช่วยน่ะ" เขารีบก้มลงช่วยเก็บของให้เธออย่างไม่ลังเล กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเธอตอนนี้กลับทำให้ใจเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ "นี่ครับ"
"ขอบคุณน่ะ^^" เธอพูดพร้อมส่งยิ้มให้เธียร จนเธียรใจเต้นผิดจังหวะ เธอไม่ได้ขาว สวย หุ่นดี เเต่รอยยิ้มที่มีรอยบุ๋มข้างเเก้มซ้ายบวกกับน้ำเสียงของเธอมันช่างดูมีเสน่ห์เหลือเกิน รอยยิ้มของเธอตอนนี้เป็นเหมือนโลกใบใหม่เเสนสดใสของเธียรเลยก็ว่าได้
ดวงตากลมโต ผมยาวตรงสลวยเงางาม ผิวสีน้ำผึ้งเนียนละเอียด กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเธอ ทำให้เขาละสายตาจากเธอไม่ได้เลย "เอ่อ.....ให้ผมช่วยถือให้มั้ยครับ"
"ไม่เป็นไร ขอบคุณอีกครั้งน่ะ" ใบหน้าขาวเนียนละเอียด ดวงตาเฉี่ยวคม จมูกโด่ง ริมฝีปากบางกระจับของเขามันช่างเข้ากันและหล่อเอาการมากแต่เธอไม่ได้สนใจมากนักจึงหวังจะก้าวเท้าเดินไปยังจุดหมาย แต่ก็ต้องหยุดฝีเท้าลงเมื่อได้ยินเสียงเขาพูดกลับมา
"ถือเยอะขนาดนี้ เดี๋ยวก็ตกอีกหรอก ให้ผมช่วยดีกว่า"
"งั้นก็ได้" เพราะไม่อยากให้เขาเสียน้ำใจเลยยอมให้เขาช่วยถือไปจนถึงคณะ "ขอบคุณมากเลยน่ะที่อุตส่าห์ช่วยถือ ว่าเเต่นายชื่อไรอ่ะ"
คิ้วเรียวถึงกับขมวดเป็นปมเมื่อได้ยินคำถามนี้จากปากเธอ เขาออกจะมีชื่อเสียงและโด่งดัง ทำไมเธอคนนี้ถึงไม่รู้จักกันน่ะ หรือไม่ก็คงเป็นพวกเด็กเรียนที่ไม่สนใจโลกภายนอกถึงได้ไม่รู้จักคนฮอตอย่างเขา "ไม่รู้จักผมจริงๆ หรอ"
"ไม่อ่ะ เเค่คุ้นหน้าเเล้วชื่อไรอ่ะ"
"ผมชื่อเธียร เรียนอยู่ปี3 คณะบริหาร เเล้วเธออ่ะ ผมไม่คุ้นหน้าเลย เธอชื่อไร"
"พี่ชื่อน้ำมนต์ อยู่ปี4 คณะนิเทศศาสตร์"
"เอ้า!คุณแก่กว่าผมหรอ" ทันทีที่เธียรพูดว่าเเก่เธอก็มีอาการเคืองอย่างเห็นได้ชัด "แก่บ้าอะไรล่ะ เดี๋ยวก็ตีปากเลย" เธียรเห็นท่าทางโกรธพร้อมกำปั้นของเธอที่ยกขึ้นจะต่อย เขาเผลอเปล่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ "ขอโทษครับ งั้นผมไปเรียนก่อนน่ะ"
"อืม งั้นก็ตั้งใจเรียนน่ะ"
"ครับ เช่นกันครับพี่"
"^^" เธอส่งยิ้มอีกเเล้ว รอยยิ้มเธอมีเสน่ห์อะไรขนาดนี้เนี้ย เขาเห็นเเล้วเขินมากๆ เลย รอยยิ้มของเธอสดใสจนสิ่งรอบข้างเธอหมองลงทันที ให้ตายสิรอยยิ้มของเธอนี่มันเหมือนกับเพลงโต๊ะริมซะเหลือเกิน
"ยัยมนต์ดำ เมื่อกี้คุยกับใครอ่ะ" เสียงทุ้มของไตเติ้ล หนุ่มหน้าหล่อ คิ้วเข้ม ริมฝีปากบางได้รูป จมูกโด่ง ผิวขาวเนียนได้ทักถามเธอ
"เลิกเรียกฉันว่ามนต์ดำได้ป่ะ อีคุณชาย"
"ทีแกยังเรียกฉันว่าคุณชายเลย เเล้วทำไมฉันจะเรียกแกว่ามนต์ดำไม่ได้"
"เอ้า!คุณชายไม่ดีตรงไหน ดีจะตาย ส่วนที่เเกเรียกฉันอ่ะ มันบูลลี่ชัดๆ อ่ะ"
"ฉันไม่ได้บูลลี่ซะหน่อย ชื่อมนต์ดำน่ารักจะตาย"
"น่ารักกับผีเเกน่ะสิ ยังกะหมอผีไสยศาสตร์"
"เออ เอาหน่าเเล้วเมื่อกี้คุยกับใคร อย่าบอกน่ะว่าเเอบมีเเฟนไม่บอกฉันอ่ะ"
"เเฟนที่ไหนล่ะ เขาเเค่มาช่วยฉันถือของเเค่นั้นเอง รอแกมาช่วยก็ช้า ต้องทำคนเดียวเลย ดีน่ะที่น้องเขามาช่วยฉันอ่ะ"
"เออๆ ขอโทษล่ะกันที่มาสายอ่ะ" พูดจบทั้งสองก็เดินเข้าคณะด้วยกัน ทั้งสองสนิทกันตั้งแต่ปี1 ไตเติ้ลเป็นเพื่อนคนเดียวของเธอที่คบกันมานานมาก เขาคอยช่วยเหลือเธอแทบทุกอย่างเพราะรู้ดีว่าเธอลำบากมากแค่ไหนแต่เธอมักเลือกที่จะปฏิเสธเขาซะมากกว่า
ทางด้านเธียร
"เธียร ไอ้เธียร!!" กรณ์ที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาเรียกเขามาสองสามครั้งแต่ดูเหมือนว่าเขาจะใจลอยและแอบยิ้มอยู่คนเดียวไม่รู้ว่ากำลังคิดถึงใครกันแน่ จนกรณ์ต้องตะคอกเสียงเพื่อให้เขาหลุดจากภวังค์
"มึงจะเสียงดังทำไมว่ะ ไอกรณ์"
"ก็กูเรียกมึงตั้งนาน ใจลอยไปไหนว่ะ" เขายังคงคิดถึงรอยยิ้มเเสนจริงใจ สดใสของน้ำมนต์อยู่สิ รอยยิ้มหวานบวกกับรอยบุ๋มข้างแก้มซ้าย เเววตาที่สดใส จริงใจของเธอทำให้เขาหลงรักในทันที ซึ่งอาการเเบบนี้เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลย
"กูไม่ได้ใจลอยซะหน่อย เออ~กูถามไรมึงหน่อยดิห มึงรู้จักพี่น้ำมนต์ที่อยู่คณะนิเทศศาสตร์มั้ย"
"อะไรของมึงเนี้ย ทำไมอยู่ๆ ถึงถามถึงเขาว่ะ"
"เปล่า กูเจอเขาตอนเช้า เเต่กูไม่คุ้นหน้าเขาเลยว่ะ"
"มึงจะคุ้นได้ไงล่ะ ก็วันๆ มึงก็เอาเเต่มองสาวสวยๆ หุ่นดี ขาว สวย หมวย เอ็กซ์ คนหน้าบ้านๆ อย่างเขาจะอยู่ในสายตามึงได้ไงล่ะ" เเต่ตอนนี้คนหน้าบ้านๆ อย่างน้ำมนต์นี่เเหละกลับทำให้เขาใจลอยคิดถึงอยู่เเบบนี้อ่ะ
"มึงมีไอจีพี่เขาป่ะ"
"มึงจะเอาไอจีเขาทำไมว่ะ อย่าบอกน่ะว่ามึงเปลี่ยนใจไปชอบคนเเบบนั้นไปเเล้ว" กรณ์แปลกใจมากที่อยู่ๆ เสือผู้หญิงอย่างเธียรมาถามถึงสาวหน้าตาบ้านๆ อ้วนดำอย่างน้ำมนต์
"บ้า!!ไม่ใช่โว้ยย "เธียรปฏิเสธเสียงสูง มองจากยอดเขาเอเวอเรสยังดูออกเลย
"เเล้วมึงจะเอาไอจีเขาทำไม"
"ก็..." นั่นสิ เขาจะเอาไอจีเธอทำไมกัน เขาเองก็งงตัวเองเหมือนกัน เธอไม่ใช่สเปคเขาซะหน่อยแต่ทำไมต้องอยากรู้จัก ต้องคิดถึงรอยยิ้มของเธอด้วยเนี้ย
"เออ เย็นนี้มึงจะเข้าผับอีกป่าวว่ะ" เขาเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากให้เพื่อนจับได้ว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับเธอคนนั้น ลำพังแค่นี้ก็ไม่รู้จะเก็บอาการยังไงแล้ว
"ไม่อ่ะ มึงไม่กลัวพ่อมึงยึดบัตรเครดิตรึไงห่ะ"
"ก็กลัวอยู่เเต่ไม่เป็นไรหรอก กูฉลาดพอที่จะไม่ทำให้พ่อกูจับได้ เเล้วเย็นนี้กูก็นัดกับน้องเฟิร์นเเล้วด้วย"
"อ้าว!วันก่อนน้องเบลเมื่อคืนน้องพิมพ์ วันนี้มึงเปลี่ยนคนอีกเเล้วหรอ"
"อืม น้องเบลสวยก็จริงน่ะ เเต่ไม่เเซ่บว่ะ ส่วนพิมพ์ก็เอาแต่แหกปากไม่ถูกใจกูเลย กูรำคาญ"
"เออ มึงหล่อเลือกได้!!"
"กูก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงว่ะ หลักฐานมันฟ้อง" กรณ์รู้สึกเอือมระอากับท่าทีที่หลงตัวเองของเธียรมาก นอกจากจะหล่อ รวยเเล้ว เธียรเองก็หลงตัวเองด้วย เเละพวกผู้หญิงคนอื่นๆ ก็หลงเขาเช่นกัน หลงขนาดที่ว่ายอมต่อคิวเพื่อคบกับเขาก็ว่าได้ เเต่มีเหรอพ่อเสืออย่างเขาจะคบกับใครอย่างจริงจัง
เย็นวันนั้น
"พี่น้ำมมต์ น่ารักชะมัดเลย" เขาใจลอยคิดถึงรอยยิ้มของหญิงสาวเมื่อตอนเช้า รอยยิ้มเธอมีอิทธิพลกับใจเขาขนาดนี้เลยหรอเนี้ย ขนาดรออีกคนแต่ในใจคิดถึงอีกคน สมกับเป็นพ่อเพลย์บอยและเสือตัวพ่อจริงๆ เลย
"พี่เธียร เฟิร์นมาเเล้วค่ะ^^" เสียงแหลมแสบแก้วหูเรียกเขาจนเขาต้องหันไปตามเสยงเรียกนั้น สาวน้อยหน้าหมวย ผิวขาว ปากแดงใส่ชุดมินิเดรสสีแดงเลือดเดินมาเกาะแขนของเขา กลิ่นน้ำหอมฉุนจนเขาแสบจมูก
"มาสักที ปล่อยให้พี่รอตั้งนาน"
"ขอโทษค่ะ พี่ไม่โกรธเฟิร์นใช่มั้ย" เธอพูดจีบปากจีบคอ เธียรถึงกับถอนหายใจเเละมองบน
"ไม่จ๊ะ พี่ว่าเราไปเดตกันดีกว่าน่ะ"
"^^" เธอฉีกยิ้มให้เขาเพราะคิดว่าตัวเองน่ารัก เเต่เธียรไม่ได้มองเเบบนั้นเลย ทำไมผู้หญิงเเต่ล่ะคนที่เข้าหาเขาต้องเเอ๊บด้วยน่ะ ให้ตายสิ
ณ.ร้านอาหาร
เฟิร์นสั่งเเต่อาหารเเพงๆ เพราะเธอรู้ว่ายังไงๆ มื้อนี้เธียรต้องเป็นคนเลี้ยงเธอเเน่ ได้แล้วก็ขอใช้ให้คุ้มหน่อยล่ะกัน ถ้าเลิกแล้วก็กลับมากินของดีๆ ในร้านหรูๆ แบบนี้แล้ว ต้องจัดเต็มตอนที่มีโอกาสสิ "อร่อยมากๆ เลยค่ะ พี่เธียร"
"ใช่ อร่อยมากเเต่คงไม่อร่อยเท่ากับเฟิร์นหรอกใช่มั้ย"
">///<พี่เธียรพูดไรอ่ะ" เธอเเกล้งทำท่าทีเขินอายบิดตัวไปมาจนเป็นเลขแปด หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จเเล้วทั้งสองก็ไปกินกันต่อ คงไม่ต้องพูดถึงอ่ะเนาะ น่าจะเข้าใจกันอยู่
หลายวันผ่านไป
เฟิร์นยังคงทำตัวเป็นเจ้าของของเธียร เธียรไปไหนเธอก็ชอบที่จะตามไปด้วย ชอบโทรตาม แชทตามอยู่ทุกๆ วันจนเธียรเริ่มรำคาญ "เฟิร์น พี่ว่าเราเลิกกันเถอะ"
"เราคบกันไม่กี่วันเองน่ะพี่เธียร ทำไมถึงบอกเลิกเฟิร์นเเล้วล่ะ"
"เฟิร์น เธอก็รู้จักพี่ดีนี่ว่าพี่เป็นคนยังไง หลังจากนี้เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกเเล้ว "ถึงจะคบเเค่เเป๊ปเดียวเเต่เธอก็โอเคเเล้วล่ะ ได้กระเป๋าเเบรนด์เนมราคาเเพงจากเขามาก็คุ้มล่ะ
"ค่ะ เลิกก็เลิก"
.
จากนั้นทั้งสองก็เเยกย้าย ชีวิตของเธียรวนอยู่เป็นเเบบนี้ประจำ เขาไม่เคยจริงใจกับใครสักคน ก็เหมือนกับพวกผู้หญิงที่เข้าหาเขานั่นเเหละ เเต่ละคนที่เข้ามาก็เพราะเห็นเขามีชื่อเสียง หล่อ รวย ก็เเค่นั้น ไม่มีใครรักเขาที่ตัวตนของเขาเลย
ทางด้านน้ำมนต์
ห้องคอมที่จัดอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย สีครีมสบายตา เหล่านักศึกษาประมาณ สี่ถึงหาคนกำลังหมกหมุ่นอยู่แต่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์
"ยัยมนต์ดำ วันนี้เเกเปิดร้านป่ะ" ไตเติ้ลถามขณะที่คนข้างๆกำลังหมกหมุ่น คิ้วขมวดจนผูกกันเป็นโบว์ทำงานรายงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์
"เปิดดิห ทำไมจะขอกินฟรีอีกหรอ"
"เปล๊า~ฉันเเกอยากไปช่วยเเกขายอ่ะ เเล้วอีกอย่างน่ะฉันก็จะได้ใกล้ชิดกับน้องน้ำฝนเเสนสวยของฉันด้วย"
"ยัยน้ำฝนยอมเป็นของเเกเเล้วรึไง น้องฉันพึ่งอยู่ม.ปลายเองน่ะเว้ย!~"
"แล้วไงอ่ะ ฉันจะจีบก่อน จองก่อน จบม.ปลายเมื่อไหร่น้ำฝนก็จะเป็นของฉัน"
"ค้าา เอาที่สบายใจเลย เเค่อย่าทำให้น้องฉันเสียใจก็พอ"
"คบกับฉันน้องเเกจะไม่เสียใจ เชื่อดิห"
“เออ จะยังไงก็ช่าง แต่ตอนนี้หุบปากแกไปก่อนเถอะ ฉันจะทำรายงานให้ยัยน้ำฝนจะได้เสร็จไวๆ”
“โห่~นี่แกรักน้องแกขนาดรายงายให้เลยหรอ แกนี่ช่างเป็นพี่สาวที่แสนดีซะเหลือเกิน”
“ไม่ต้องพูด!!!!!!”
ณ.ร้านไอติม
ร้านเล็กๆ ที่ถูกออกเเบบเป็นแนววินเทจ มีมุมถ่ายรูปที่สวยงาม บรรยากาศในร้านก็ค่อนข้างดี มีคนเข้าออกร้านเป็นระยะๆ ซึ่งนี่เป็นธุรกิจของเธอที่ทำหลังจากเรียนเสร็จเพื่อเอามาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
"รับอะไรดีค่ะ" เธอถามลูกค้าหนุ่มหล่อที่พึ่งเข้าร้านมาด้วยรอยยิ้มที่สดใส
"อ้าว!พี่น้ำมนต์ พี่จำผมได้ป่ะวันก่อนที่ผมช่วยพี่ถือของอ่ะ" เธียรดีใจออกหน้าออกตาทันทีที่ได้เห็นรอยยิ้มของเธอ ให้ตายสิวันนี้ทั้งวันเขาเจอแต่เรื่องปวดหัวทั้งวันพอเจอรอยยิ้มเธอแค่นี้ปัญหาทุกอย่างกลับหายไปหมด
"เธียรใช่มั้ย"
"ครับ ^^" ริมฝีปากบางได้รูปของเขายกยิ้มกว้างจนตาเป็นสระอิ กำลังทำให้เธอเสียศูนย์ หัวใจที่กำลังเต้นแรงทำให้เธอสงสัยว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไรกันแน่หรืออาจจะเป็นเพราะรอยยิ้มของเขากันน่ะ
"เเล้วนี่เธียรจะเอาอะไรล่ะเดี๋ยวพี่จะเสิร์ฟมาให้"
"ผมเอาช๊อกชิพเมจิกคัพล่ะกันครับ^^"
"รอเดี๋ยวน่ะ^^"
"ครับผม" เสียงหวานๆ รอยยิ้มที่เเสนน่ารักสดใสโดยไม่ได้พยายามเเอ๊บเเบ้วของเธอมันทำให้ใจเธียรนวยไปหมดเลย เขาไม่ได้สนใจรูปลักษณ์ของเธอเเล้วว่าเธอจะเป็นยังไง ซึ่งมันผิดปกติมากกกก สำหรับเขาเพราะคนที่เขาจะเข้าหาด้วยคือสาวสวย เเต่ทำไมคนนี้เขาถึงอยากเข้าหากันล่ะ ก็คงจะเป็นเพราะรอยยิ้มเเสนจริงใจจนคนอย่างเธียรได้พลังบวกจากเธอมาเต็มๆ เลย ให้ตายสิ ทำไมเธอมีเสน่ห์ขนาดนี้กันน่ะ
เธียรรอไม่นานนักเธอก็เสิร์ฟไอติมมาให้ระหว่างที่เธอกำลังจะเดินไปก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียก
"เดี๋ยวครับพี่!!" เธียรก็จับมือรั้งเธอไว้ จนเธอตกใจเพราะเธอไม่ค่อยให้ผู้ชายถึงเนื้อถึงตัวเธอเท่าไหร่นัก เเต่ทำไมเธอถึงยอมเขาเนี้ย บ้าจริง "เอ่อ..มีอะไรหรอ"
เธอพูดเขินพลางมองมือของเธียรที่กำลังจับมือเธออยู่ เธียรรู้ตัวก็รีบปล่อยทันที "พี่อยู่คุยกับผมก่อนได้มั้ย"
"เอ่อ..." เธอพยายามจะปฏิเสธเเต่พอเห็นสายตาอันเเสนอ้อนอ้อนของเขาก็ทำให้เธอเริ่มใจอ่อน
"นะครับ~" สายตาไม่พอยังมาใช้เสียงสองกับเธออีก
"งั้นก็ได้จ่ะ^^" สุดท้ายเธอทนสายตาอ้อนดั่งแมวน้อยไม่ไหวจนต้องมานั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามกับเขา ยิ่งได้เห็นเขาใกล้ๆ เเล้ว เขายิ่งดูหล่อกว่าเดิมมากๆ ผิวขาวเนียนละเอียดไร้จุดด่างดำเเละริ้วรอย จมูกที่ดูโด่งสวยงาม ริมฝีปากบางได้รูปอมชมพูดูสุขภาพดี ทุกอย่างมันช่างลงตัวซะเหลือเกิน
"เเล้วมีอะไรจะคุยกับพี่เหรอ" นั่นสิเเล้วเขาจะคุยอะไรเนี้ย ทำไมมุกที่เขาใช้จีบสาวกลับใช้ไม่ได้กันน่ะ ยิ่งเห็นหน้าเธอใกล้ๆ ใจเขายิ่งเต้นเเรงขึ้นจนเขาทำอะไร พูดอะไรไม่ถูกเลย
"พี่ยิ้มหวานมากเลยนะครับ รู้ตัวป่าว" ทันทีที่เธอได้ยินคำชมจากเขาเธอก็หน้าเเดง เขินอายอย่างเห็นได้ชัด
">///< ขอบใจจ่ะ เเล้วจะคุยเเค่นี้ใช่มั้ย"
"ครับ ยิ้มบ่อยๆ นะครับ"
"จ่ะ ขอบใจน่ะ^^" แล้วเธอก็รีบเดินออกจากโต๊ะนั้นด้วยท่าทีเขินอาย ปกติไม่ค่อยมีคนชมเธอเท่าไหร่หรอก เวลามีคนชมเธอก็ต้องเขินเป็นธรรมดา อย่าว่าเเต่เธอเลย ผู้หญิงคนอื่นโดนหนุ่มหล่อชมก็ต้องเขินกันทั้งนั้นเเหละ
"ไอเด็กบ้า เอ้ย! เอาซะฉันเขินหน้าดำเลย" เธอพูดพึมพำคนเดียว
ผ่านไปสักพัก
เธียรกินของที่ตนเองสั่งมาจนหมดจากนั้นเขาก็เรียกเธอทันที "ทั้งหมดเท่าไหร่ครับ"
"ไม่เป็นไร มื้อนี้พี่เลี้ยงเอง"
"เฮ้ย!พี่ไม่ได้ดิห"
"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ก็ตอบเเทนที่เธียรช่วยพี่วันนั้นไง ถือว่าเป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ จากพี่น่ะ^^" เธอยิ้มจนตาเป็นสระอิ รอยยิ้มของเธอนี่คือฆ่าเขาทางอ้อมชัดๆ เลย ทำไมสาวสวยคนที่เขาคบด้วยถึงไม่ทำให้เขาใจเต้นเเบบนี้น่ะ เเละยังจะเลี้ยงเขาเพื่อตอบเเทนที่เคยช่วยอีก โอ้ย! ปลาทับจายยยยยยยย
"งั้นก็ได้ครับ ขอบคุณมากๆ นะครับ^^"
"จ๊ะ^^" จากนั้นเธียรก็ขับรถหรูกลับบ้านไป น้ำมนต์เก็บถ้วยและจัดโต๊ะก่อนจะเดินไปหลังร้านซึ่งตอนนี้มีเพื่อนตัวแสบของเธอกำลังยืนกอดอกมองเธอเเละหรี่ตาอย่างนึกสงสัย
"ยัยมนต์ดำ เเกรู้มั้ยเมื่อกี้เเกคุยกับใครอยู่"
"น้องเธียรคณะบริหารไง"
"แกรู้จักน้องเขาเเค่นั้นหรอ เเกไม่รู้ไง ว่าหมอนี้เนี่ยเจ้าชู้ตัวพ่อเลยน่ะ เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น"
"นั่นมันก็เรื่องของเขาป่ะ จะพูดถึงเขาทำไมเนี้ย"
"แล้วแกไม่กลัวจะโดนเป็นเหยื่อของมันบ้างหรอ"
"คนหล่อๆ เเบบน้องเขาคงไม่มาเล่นด้วยกับฉันหรอก เเล้วฉันก็ไม่ติดกับเขาง่ายๆ หรอกหน่า" ใช่จริงๆ หรอน้ำมนต์ น้ำเสียงเธอไม่หนักเเน่นเลยน่ะ เเค่เห็นหน้าเเละได้คุยกับเธียรวันนี้ใจเธอก็เเทบจะทะลุออกมาเเล้ว
"เออ ก็จริง คนที่จะเข้าหาหมอนั้นได้ก็คงเป็นเเค่สาวสวย ส่วนเเก....." เขาพูดพร้อมกับวรรคไว้และมองเธอพลางแอบขำเบาๆ จนเธอรู้สึกขุ่นเคืองกับการกระทำที่เขากำลังจะสื่อ
"อะไร!!!!"
"ไม่พูดดีกว่า55"
"เดี๋ยวตีเลย ไอ้ไตเติ้ล!!"
"ขอโตด ค้าบบบบ"
"ไปทำงานต่อได้เเล้ว!!"
"ครับๆ หัวหน้า" เเล้วจากนั้นไตเติ้ลก็ไปรับออเดอร์จากลูกค้า
ไตเติ้ลคือเพื่อนคนเดียวของน้ำมนต์ ถึงเขาจะเป็นคนรวยเเต่เขาก็ไม่ได้เลือกคบกับคนรวย เขาเลือกคบกับเธอที่นิสัย นิสัยที่จริงใจ ไม่ตีสองหน้า เเละเธอก็ไม่ได้หวังผลประโยชน์อะไรจากเขาเลย เพราะเขาไม่มีประโยชน์ (อ่ะ หยอกๆ) คนรอบข้างเขาส่วนใหญ่จะคิดว่าเธอคบกับเขาเพราะเงิน เเต่ไม่ใช่เลย เธอไม่เคยคิดเเบบนั้น เธอคบกับไตเติ้ลเพราะไตเติ้ลเข้าใจเธอต่างหากล่ะ
"ฝนเหนื่อยมั้ย" ไตเติ้ลถามน้ำฝนหลังจากที่ทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว
"นิดหน่อยค่ะ เเต่ไม่เป็นไร^^"
"ฝนของพี่เก่งที่สู้ดด~" เขาพูดพร้อมกับยีผมของเธออย่างเอ็นดู
"จะปิดร้านเเล้วค้าา เลิกหวานกันได้เเล้ว" น้ำมนต์พูดขัดทั้งสองคนด้วยความหมั่นไส้ เพราะความหวานที่เกินเลยของทั้งสอง "เออหน่าา ขอเวลาเเป๊ปเดียว"
เขาหันไปพูดกับน้ำมนต์ก่อนจะหันมายิ้มให้น้ำฝนต่อ "ฝนกลับดีๆ นะครับ เจอกันพรุ่งนี้น่ะ^^"
"ค่ะพี่เติ้ล พี่ก็ขับรถดีๆ น่ะ"
"คับผม" เขาพูดพร้อมกับลูบผมน้ำฝนอย่างอ่อนโยน
"ฉันกลับน่ะ ยัยมนต์ดำ"
"แหม~พอคุยกับฉันนี่อีกเสียงนึงเลยน่ะ"
"ไม่ได้ดิห คนพิเศษมากๆ ก็ต้องอ่อนโยนหน่อย" น้ำมนต์ถึงกับมองบนอย่างหมั่นไส้
"เออๆ กลับๆ ไปเลย" ไตเติ้ลขำกับท่าทีของเธอเเละเดินออกไปจากร้านเเต่ไม่วายที่จะหันมาเเลบลิ้นกวนเธอจนเธอต้องยกกำปั้นขึ้นมาขู่เขาเเต่เขากลับเดินหนีไปก่อน ถึงจะดูกัดกันตลอดเเต่ทั้งสองก็รักกันจริงๆ น่ะ
คอนโดน้ำมนต์
"พี่น้ำมนต์ พี่เหนื่อยมั้ย" น้องสาวของเธอถามด้วยความเป็นห่วงเพราะดูจากสีหน้าของพี่สาวตัวเองในบางครั้งก็ดูเหนื่อยมากๆ เลยเเต่กลับไม่เคยพูดออกมาเลยสักครั้ง
"มันไม่เหนื่อยหรอกหน่า ก็ฝนคอยช่วยพี่ตลอดอ่ะ ไหนจะอีคุณชายอีก พี่มีความสุขด้วยซ้ำ^^" เธอส่งยิ้มให้น้องสาวเพื่อจะให้น้ำฝนหายห่วง เธอไม่อยากให้น้องสาวต้องมากังวล ถึงจะเหนื่อยเธอก็ต้องเก็บอาการไว้
นอกเหนือจากการเป็นเจ้าของร้านไอติมแล้วเป้าหมายที่สูงสุดของเธอคือการทำงานในวงการบันเทิง เธออยากมอบพลังงานดีๆ ให้กับทุกคน อยากพูดถึงเรื่องการไม่บูลลี่กันในสังคม แม้ว่าตอนนี้เส้นทางมันจะยากสำหรับคนอวบตัวดำอย่างเธอ แต่เธอก็ไม่ท้อ เธอยังคงเข้าแคสนักแสดงอยู่ทุกครั้งที่มีโอกาสแม้ว่าจะไม่ได้แต่เธอยังคงยืนหยัดในความฝันและจะสู้ต่อไปจนกว่าจะทำมันสำเร็จ
"เหนื่อยก็บอกฝนได้น่ะ ฝนไม่อยากให้พี่เหนื่อย ไม่อยากให้พี่เครียด" น้องสาวของเธอเข้ามากอดเธอ การที่ส่งเรียนไปด้วยเเละทำงานส่งตัวเองเเละน้องสาวเรียนไปด้วยเนี่ย มันเหนื่อยมากน่ะ เเต่เธอเชื่อว่าสักวันนึงความเหนื่อยเเละความพยายามของเธอจะไม่สูญเปล่าสักวันนึงจะนำมาสู่ความสำเร็จเป็นการตอบเเทน น้องสาวของเธอคอยให้กำลังใจเเละให้พลังบวกกับเธอตลอดเเละคอยช่วยงานเธอด้วย เธอเลยมีกำลังใจมากๆ เลย
"ขอบคุณน่ะฝน เเค่ฝนตั้งใจเรียนพี่ก็ดีใจเเล้ว เเล้วอีกอย่างถ้าฝนจะคบกับอีคุณชายพี่ไม่ห้ามน่ะ อีคุณชายเป็นคนดี เเละรักใครรักจริงด้วยน่ะ" เธอพูดจบน้องสาวของเธอก็เขินอย่างเห็นได้ชัด น้องสาวเธอก็ชอบไตเติ้ลอยู่เหมือนกัน
"พี่จะให้ฝนมีเเฟนก่อนได้ไงล่ะ พี่ยังไม่มีเลย"
"ไม่เป็นไร พี่ไม่อยากเปิดใจให้ใครอ่ะ พี่กลัวเจ็บ" เธอยังจำภาพที่พ่อเเละเเม่ของเธอทะเลาะกันได้ดี ภาพที่พ่อพูดด่าทอเเม่ ทำร้ายแม่ ทำร้านเธอและน้องสาว ภาพเหล่านี้มันทำให้เธอกลัวที่จะมีความรักแล้ว อีกอย่างเเม่เธอก็ดูเเลเธอเเละน้องสาวคนเดียวได้เลย ทำไมเธอจะอยู่คนเดียวดูเเลน้องสาวเธอไม่ได้ล่ะ
เธอสร้างกำเเพงไว้สูงมากๆ เลย เพราะฉะนั้นคนที่จะเข้าถึงหัวใจเธอได้ก็ต้องทลายกำเเพงที่เธอสร้างไว้ให้ได้ก่อน
แล้วใครกันที่จะทำลายกำเเพงที่เธอสร้างไว้??
ณ.คฤหาสน์
ห้องนอนโทนสีครีมที่เเสนกว้างขวาง ของตกเต่งในห้องเต็มไปด้วยโมเดลการ์ตูนราคาเเพง หนุ่มหล่อนอนเล่นเกมในโทรศัพท์อย่างจริงจังเเต่กลับไม่มีสมาธิเอาซะเลยในสมองของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้มของรุ่นพี่คนนั้น
"กูจะเริ่มจีบพี่น้ำมนต์ยังไงดีว่ะ" เขาพูดขึ้นหลังจากที่เล่นเกมจบไป รอยยิ้มของรุ่นพี่คนนั้นมีอิธิพลต่อหัวใจเขามากๆ เลย ขนาดกลับมาเล่นเกมที่ชอบมากๆ เเล้วเขายังสติหลุดคิดถึงรอยยิ้มนั้นเลย
"ไปถามเเม่ดีกว่า"
เขาก็รีบลุกจากเตียงสาวเท้าเดินไปยังห้องของเเม่ที่อยู่ข้างทันที ก๊อก~ก๊อก~ก๊อก ไม่นานนักแม่ของเขาก็เปิดประตูออกมา "เอ้า!เธียร มาหาเเม่มีอะไรรึเปล่าเนี้ย"
"มีสิครับเเม่ต้องช่วยผมน่ะ"
"จ๊ะ" หญิงวัยกลางคนหน้าตาดีผู้เป็นเเม่ของเขาเปิดประตูให้ลูกชายหัวเเก้มหัวเเหวนของตนเองเข้ามา
"ผมถามเเม่หน่อย พ่อเจ้าชู้เปลี่ยนผู้หญิงบ่อย" แม่ของเขาตีมือเขาเบาๆ โทษฐานที่ไปพาดพิงว่าสามีสุดที่รัก แต่ที่เธียรพูดก็เป็นความจริงนั่นแหละ
"เเหม~ไปว่าพ่อ เธียรก็ได้พ่อมาเต็มๆ เลยน่ะ"
"แบบนี้เขาเรียกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นครับ"
"จ้าาา เเล้วทำไมกับพ่อล่ะ"
"ทั้งๆ ที่เเม่รู้ว่าพ่อเจ้าชู้ ทำไมเเม่ถึงเลือกพ่อล่ะครับ เเม่ไม่กลัวว่าพ่อจะทำกับเเม่เหมือนที่ทำกับคนอื่นบ้างหรอ” เขาพูดพร้อมกับนอนลงบนตักของแม่ตนเอง
"ทำไมอยู่ๆ ถึงมาถามเเบบนี้ล่ะ ปกติไม่เคยถามเเม่เรื่องนี้เลย" เเม่พูดพร้อมกับลูบผมของเธียรอย่างอ่อนโยน บุคลิกของเขาที่อยู่กับเเม่นี่คือลูกเเมวขี้อ้อนชัดๆ พ่อเสือตัวนั้นจะหายไปในทันทีเมื่ออยู่กับเเม่
"ก็ผมอยากรู้ไง แม่บอกผมดิห"
"พ่อเขาเจ้าชู้ก็จริงเเต่พ่อเขายอมเปลี่ยนตัวเองเพื่อเเม่ พ่อทำให้เเม่เห็นว่าพ่อรักเเม่จริง ไม่ใช่เเค่คำพูด การกระทำทุกอย่างของพ่อมันทำให้เเม่รู้สึกถึงความรักที่พ่อมอบให้เเม่ไง"
"งั้นถ้าผมรักใครจริงๆ ผมก็ต้องพิสูจน์ให้เขาเห็นใช่มั้ยครับ ว่าผมรักเขาจริงๆ"
"ใช่จ๊ะ หรือว่าลูกเจอเธอคนนั้นเเล้ว" เเม่พูดจบเธียรก็หน้าเเดงอย่างเห็นได้ชัด
"หน้าเเดงเป็นลูกมะเขือเทศเเบบนี้ ลูกปฏิเสธเเม่ไม่ได้น่ะ"
"ผมก็ไม่เเน่ใจ ผมพึ่งเจอเธอเเค่2ครั้งเอง เเต่เวลาที่ผมเจอเธอ ผมเห็นรอยยิ้มของเธอมันทำให้ผมใจเต้นเเรงตลอดเลย รอยยิ้มของเธอทำให้โลกของผมเปลี่ยนไปอ่ะ"
"งั้นก็ลองจีบเขาดูสิ พ่อเสืออย่างลูกไม่น่าพลาดน่ะ" โฮ!~เเม๊~สนับสนุนลูกขนาดนั้นเลยหรอ
"ผมพยายามจะหยอดเขาน่ะ เเต่มุกจีบสาวของผมมันใช่ไม่ได้อ่ะเวลาผมเห็นรอยยิ้มของเธอ ผมเห็นทีไร เขินทุกที” ในขณะที่เขากำลังพูดใบหน้าของเขาเองก็แดงระเรื่อขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด จนแม่เขาต้องลูบแก้มเขาเบาๆ อย่างเอ็นดูเพราะเธอไม่เคยเห็นลูกตัวเองพูดถึงใครแล้วหน้าแดงแบบนี้เลย
"เเม่ชักจะอยากเห็นสาวคนนั้นเเล้วสิ เธอต้องสวยขนาดไหนกัน ทำไมถึงทำลูกเสือของเเม่เขินเเบบนี้"
"ไว้เดี๋ยวผมจีบพี่เขาติดเมื่อไหร่ ผมจะพามาให้เเม่รู้จักน่ะ"
"จ้าา เเม่ว่าลูกไปนอนได้เเล้วน่ะ" เเม่พูดพร้อมกับลูบผมเขาเบา เเต่เขาก็จับมือเเม่ไว้
"ผมนอนกับเเม่ได้มั้ย ผมนอนไม่ค่อยหลับอ่ะ" เขาทำหน้าอ้อนกระพริบตาถี่ๆ ซึ่งมันน่ารักน่าเอ็นดูเอามากๆ เลย
"โตเป็นหนุ่มเเล้วน่ะลูก ยังจะมาอ้อนเเม่อีก กลับไปนอนที่ห้องเถอะ"
"นอนที่ห้องก็ได้ ชิห~ผมงอนเเม่ล่ะ" เขาเเกล้งเบะปากพร้อมเดินออกไปจากห้องแม่เเละปิดประตูซะเสียงดังปัง เเม่ถึงกับต้องส่ายหัวกับท่าทีไม่รู้จักโตของลูกชายตัวเอง
เเอด~เขาเปิดประตูห้องของเเม่อีกครั้ง "ฝันดีนะครับเเม่^^" โอ้ย!~พ่อเสือ ถ้าเรื่องนี้ถึงหูสาวๆ จะโดนล้อว่าเป็นลูกเเมวเอาน่ะ "ไอลูกคนนี้นี่"
วันต่อมา
วันนี้เธียรมาเรียนตั้งเเต่เช้าเพราะหวังว่าจะได้เจอกับน้ำมนต์ซึ่งเขาเเอบมองเธอเเละตามเธอไปที่ห้องสมุด เธอพยายามเขย่งเท้าเพื่อหยิบหนังสือ เขาเห็นว่ามันเป็นโอกาสที่ดีเลยไปหยิบให้ จนเธอตกใจเเละรีบหันไปมองว่าร่างสูงคือใครก็ต้องชะงัก เพราะหน้าของเธอเเละหน้าเขาอยู่ใกล้มาก
ตึก ตัก ตึก ตัก~เสียงหัวใจสองดวงเต้นเเข่งกัน เเละหน้าทั้งสองก็เเข่งกันเเดงเช่นกัน ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนใกล้ชิดน้ำมนต์เลยน่ะ เพราะเธอปิดกั้นหรือพูดง่ายๆก็คือไม่ค่อยมีผู้ชายเข้าหาเธอด้วยเเหละ เเต่เธียรเป็นคนเเรกเลยที่ใกล้ชิดเธอขนาดนี้
"เอ่อ..นี่ครับหนังสือ"
"อื้ม ขอบใจมากน่ะ" เธอรับหนังสือจากเธียรอย่างเขินอายเเละรีบเดินไปทันทีเเต่เขาก็คว้ามือเธอไว้ นี่รอบที่สองเเล้วน่ะที่เขาจับมือเธอเเบบนี้
"มีอะไรรึเปล่าเธียร"
"เอ่อ...ไปกินข้าวด้วยกันมั้ยครับ"
"ห่ะ!??" เธอรู้สึกเเปลกใจที่อยู่ๆ เธียรก็มาชวนกินข้าวเนี้ยน่ะ
"ไปกินข้าวกับผมมั้ย"
"เธียรหิวก็ไปกินสิ พี่จะอ่านหนังสือ" เพล้ง~หน้าเเตกอ่ะ เธอไม่ตอบรับ ทำไมเธอถึงกล้าปฏิเสธเขาน่ะ ทั้งๆ ที่ผู้หญิงตั้งหลายคนอยากไปกินข้าวกับเขาด้วยทั้งนั้น ยอมเทสาวทุกคนเพื่อจะมาชวนเธอกินข้าวเลยน่ะ
"พี่ไปเป็นเพื่อนผมหน่อยได้มั้ย นะครับบ" เธียรพยายามทำหน้าอ้อน เเละเธอก็ดันเเพ้ลูกอ้อนที่เธียรส่งมาสะด้วยสิ ส่งสายตายังกะลูกเเมว ใครไม่เเพ้ก็บ้าเเล้ว พ่อเสือจะกลายร่างเป็นเเมวเเล้วว เอ็นดู~ "งั้นก็ได้"
ณ.ร้านอาหาร
ทั้งสองเดินไปยังร้านอาหารที่ไม่ไกลจากมหาลัยนัก ซึ่งร้านนี้เป็นร้านที่ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านที่อร่อยมากๆ มีนักศึกษาเข้าออกร้านอยู่เป็นประจำ ซึ่งเธียรได้สั่งโจ๊กให้น้ำมนต์ไปแล้วโดยที่ยังไม่ได้ถามเธอเลย "นี่สั่งโจ๊กให้เเล้วพี่ต้องกินน่ะ"
"แล้วใครบอกให้เธียรสั่งล่ะ พี่ไม่กิน"
"พี่!!ผมดูออกน่ะว่าพี่อ่ะ ไม่ค่อยกินข้าวเช้า ดูสิหน้าหมองมาก"
"เธียร!!นี่บูลลี่สีผิวหรอห่ะ!!" เธอรู้สึกขุ่นเคืองมากๆ ที่เธียรพูดใส่เธอแบบนี้ แบบนี้มันบูลลี่กันชัดๆ เธอไม่โอเคเอาซะเลย
"ไม่ได้บูลลี่ เเต่หน้าพี่อ่ะ มันดูไม่สดใสไง ดูก็รู้ว่าพี่อ่ะ ไม่กินข้าวเช้า ข้าวเช้าอ่ะ สำคัญน่ะพี่"
"จ้าาาา รู้เเล้ววว"
"ถ้ารู้เเล้วก็ต้องกิน เพราะผมสั่งมาเเล้ว"
"ก็ได้"
สุดท้ายเธอก็ต้องยอมเขาเพราะตอนนี้โจ๊กถูกเสิร์ฟมายังโต๊ะของพวกเขาแล้ว กลิ่นหอมๆ ของโจ๊กเตะจมูกของเธอทำให้เธอห้ามความหิวไว้ไม่อยู่จนเธอต้องกินโจ๊กที่อยู่ตรงหน้าโดยที่ไม่ได้ห่วงสวยซึ่งเธอไม่รู้ตัวเลยว่าเธียรกำลังแอบมองอยู่ ความเป็นธรรมชาติของเธอมันช่างน่ารักและมีเสน่ห์เอามากๆ เลย
เเชะ~ เขาถ่ายรูปเธอที่กำลังกินอยู่ เธอได้ยินเสียงชัตเตอร์จึงเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับเธียรที่กำลังยกกล้องถ่ายรูปมาถ่ายรูปเธออยู่
"เธียร!! ถ่ายทำไม"
"ก็น่ารักดีไง"
"ไม่!~ลบ!!"
"ไม่ลบ โมเม้นท์น่ารักเเบบนี้ควรเก็บไว้ในmemoryน่ะพี่"
"มันน่ารักตรงไหน น่าเกียจจะตาย"
"พี่น่ารักทุกตรงเลย เชื่อผมดิห" ทั้งสายตาเเละน้ำเสียงของเขามันดูเรียลไปหมดเลย จนทำให้เธอเผลอมองไปในดวงตาของเขาเเล้วรู้สึกเขินเเละใจเต้นเเรงมากๆ เขาเห็นว่าเธอเงียบไปก็รู้สึกผิด
"พี่โกรธผมออ ผมขอโทษน่ะ"
"เปล่า กินต่อเถอะ" ใครโกรธกันล่ะที่เธอเงียบเพราะเธอกำลังเขินต่างหากล่ะ
"เออ พี่ผมขอไอจีพี่ด้วยดิห"
"จะเอาไปทำอะไร"
"ก็เผื่อไว้ติดต่อไรงี้ไง พี่คงไม่ขี้เหนียวขนาดที่ไม่ให้ไอจีกับผมหรอกน่ะ"
"เออๆ ให้ก็ได้ เอาโทรศัพท์มาดิห" เธียรกำลังจะยื่นโทรศัพท์ให้เเต่เขาก็ดึงกลับเพราะกลัวว่าน้ำนมต์จะลบรูปตัวเอง
"อ้าว!เอาโทรศัพท์มาดิห จะได้พิมพ์ชื่อไอจีให้"
"ผมเปลี่ยนใจล่ะ ผมเอาโทรศัพท์พี่มาดีกว่า"
"เรื่องเยอะ!!"
"ไม่เถียงก็ได้ เเต่พี่ก็เอามาดิห" เธอยอมยื่นโทรศัพท์ให้เขา เขารับโทรศัทพ์จากเธอพร้อมส่งสายตาอันหวานหยาดเยิ้มให้เธอจนเธอเขิน ไม่นานนักเขาก็คืนโทรศัพท์ให้เธอ "อ่ะนี่"
"ขอบใจ เออ นี่จะเก้าโมงเเล้ว พี่ต้องเข้าเรียนล่ะ"
"รีบอ่ะ"
"เอ้า!ก็พี่มีเรียนไง ไว้วันหลังเรามากินด้วยกันอีกน่ะ"
"พี่สัญญาเเล้วน่ะ"
"อื้ม~ครั้งหน้าเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง" เธอพูดพร้อมกับชูนิ้วก้อยให้เขา เขามองหน้าเธอเเล้วยิ้มเพราะความน่ารักของเธอพร้อมกับเกี่ยวก้อยของเธอไว้ "ตั้งใจเรียนนะครับพี่"
"เช่นกันจ่ะ ^^" เธอส่งยิ้มหวานให้เขาก่อนจะไป เเค่นี้ก็ทำเขาเสียอาการเเล้ว รอยยิ้มเธอทำให้โลกของเขาสดใสได้จริงๆ เลย
'เป็นรอยยิ้มของผมเเบบนี้ไปทุกวันนะครับ พี่น้ำมนต์' เสือจะยอมทิ้งลายเพราะสาวอวบ ผิวสีน้ำผึ้งคนนี้จริงๆ หรอเนี่ยยยย
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!