ตำนานของเหล่ามนุษย์ได้กล่าวไว้ว่า
ในอดีตนับพันปีดินเเดนแห่งทวยเทพที่เเรกว่าแดนเมฆาได้ถือกำเนิด จากนั้นแดนเมฆาก็ได้ให้กำเนิดเหล่าเทพทั้งสามซึ่งทั้งสามมีความผูกพันธ์กับแดนเทพชนิดที่แรกว่าถ้าแดนเทพยังคงอยู่พวกเขาก็จะไม่มีวันตายเทพทั้งสามมีเเหล่งก่อกำเนิดพลังที่แตกต่างกันโดยเทพปฐพีมีแหล่งก่อกำเนิดพลังคือ หัวใจเเห่งปฐพี เทพวารีมีแหล่งกำเนิดพลังคืออัญมณีแห่งสายน้ำ และสุดท้ายผู้ปกครองแห่งเหล่าสรรพสัตว์เทพปักษา มีแหล่งกำเนิดพลังคือปีกสวรรค์ แต่เมื่อมีความมืดก็ต้องมีแสงสว่าง เมื่อมีแสงสว่างย่อมมีความมืด เทพมารได้บังเกิดขึ้น ในตอนแรกเทพมารยังมิได้ชั่วร้ายเขาปรากฎกายในร่างเด็กหนุ่มใสซื่อผู้หนึ่งเขาถูกรับขึ้นสวรรค์โดยเทพปักษาเทพปักษาคอยเลี้ยงดูเด็กหนุ่มประดุจลูกของตนเองในยามนั้นแดนเมฆาเริ่มมีเทพองค์ต่างๆถือกำเนิด เวลาผ่านไปเทพต่างๆก็มากขึ้น
ดังคำที่ว่า มีคนมากก็มากความ แดนเมฆามีเรื่องวุ่นวายไม่เว้นวัน จนเทพปักษาผู้ที่รักความสงบทนไม่ได้จึงตัดสินใจ สร้างแดนที่มีแสงอาทิตย์ส่องตลอดเวลามีลักษณะเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ ต้นหญ้าเขียวขจี อากาศเย็นสบาย เทพปักษาที่ชื่นชอบความสงบ โปรดปราณที่แห่งนี้มากเด็กหนุ่มที่อนาคตคือจอมมารก็ได้ตามเทพปักษามาอาศัยอยู่ที่นี้ จนถึงวันที่เด็กหนุ่มอายุ15ขวบปี
จะมีพิธีหนึ่งที่แรกว่าพิธีทำนาย เด็กหนุ่มได้เข้าพิธีทำนาย
ด้วยความที่ว่าเด็กหนุ่มถูกเลี้ยงดูโดยเทพปักษามาโดยตลอดจึงทำให้มีนิสัยคล้ายกับเทพปักษาอยู่ถึงเเปดส่วนรวมถึงนิสัยรักความสงบ ก็ได้รับการถ่ายทอดออกมาจากเทพปักษาเช่นกัน ผู้ประกอบพิธีทำนายให้เด็กหนุ่มคงเป็นใครพวกท่านก็น่าจะทราบ เทพปักษาได้ทำพิธีทำนายให้เด็กหนุ่มโดยพิธีถูกจัดขึ้นที่แดนที่นางสร้างขึ้น ปีกสีขาวบริสุทธิ์กางออกแสงสีทองถูกแผ่ออกมาจากปีกของเทพปักษาพลังสีทองถูกแผ่ไปยังร่างของเด็กหนุ่ม
ตัด
เเสงสีทองโอบล้อมร่างของเด็กหนุ่มเอาไว้ ค่อยๆเข้าไปในร่างของเด็กหนุ่ม พลังสีทองในร่างของเด็กหนุ่มกำลังทำหน้าที่ปลุกพลังซึ่งพลังสายต่างๆมีความสำคัญต่อบุคคลผู้นั้นในยามนั้นเริ่มมีผู้คนที่มีพลังสายมารเกิดขึ้นมาแล้ว เนื่องจากพวกมนุษย์เห็นสิ่งที่แตกต่างก็เกิดความหวาดกลัว นํามาซึ่งการปฏิบัติกับผู้ที่มีพลังสายมารด้วยความเลวร้าย เดิมทีพวกเขาอาจมีจิตใจบริสุทธิ์ แต่เมื่อถูกกดขี่ เยาะเย้ย ถากถาง ทำร้ายร่างกาย จิตใจบริสุทธิ์นั้นก็แปดเปื้อนดั่งคำที่ว่า อยู่ใกล้นําหมึกย่อมเปื้อนสีดำ แต่กลับกันผู้ที่มีพลังสายสวรรค์ ถูกปฏิบัติอย่างดีทั้งการกิน การอยู่ ต่างจากผู้มีพลังสายมารที่จะกินเศษอาหารเพื่อดำรงชีวิต ชีวิตที่แตกต่างราวฟ้ากลับเหวนี้ทำให้บางคนเกิดความเครียดแค้น ดั่งประโยคที่ว่า จุดเปลี่ยนของชีวิตมีอยู่สามช่วงคือช่วงเกิด ช่วงทำพิธีทำนาย ช่วงแต่งงาน แสงสีทองที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเเผ่ไปทั่วร่างของเด็กหนุ่ม
เขายืนรับแสงนั้นประมาณหนึ่งเค่อ จนรู้สึกคล้ายกับมีบางอย่างปลดปล่อยออกมานอกร่าง ควันดำกลุ้มหนึ่งลอยออกมาจากร่างของเด็กหนุ่ม ตามด้วยเสียงที่ดังก้องในหัวของเขา "เจ้าคือผู้หลอมรวม เข้าคือผู้ที่ต้องจ้องมองผู้ที่ตนรักถูกทำร้ายร่างกาย"เสียงนั้นเเหบแห้งที่ฟังไปแล้วทำให้ผู้คนรู้สึกขนลุกขนชันจากนั้นความเจ็บปวดแสนสาหัสก็ปะทุออกมา เด็กหนุ่มขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด เทพปักษาที่เห็นเช่นนั้นก็ถลาเข้ามาโอบกอดเด็กหนุ่มพร้อมแผ่แสงสีทองเข้าไปในร่างของเด็กหนุ่มอย่างต่อเนื่องแต่แสงสีทองนั้นคล้ายมีแสงสีดำปนอยู่ เด็กหนุ่มที่เริ่มหายเจ็บปวดเมื่อสำรวจร่างกายของตนพบว่าหน้าอกงามบดเบียดอยู่ที่อกชายหนุ่ม ทำให้บางสิ่งบางอย่างนูนขึ้นมาจากกางเกงความผิดปกติครั้งนี้ทำให้เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว
ทำไมเขาจึงรู้สึกร้อนรุ่มเช่นนี้กัน
ตัดค่ะ (ใกล้จะนอนแล้ว)
หนึ่งเค่อเท่ากับเวลาประมาณสิบห้านาที
คล้ายว่าเทพปักษาไม่เห็นความผิดปกติในร่างกายของเขาเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง "เจ้าเป็นอันใดหรือไม่ เหตุใดตัวจึงร้อนเช่นนี้เล่า "เทพปักษาเอ่ยพร้อมขมวดคิ้วก่อนจะพ่นคำถามต่อมา "หรือว่าพลังมารในร่างกายเจ้าสงผลกระทบต่อร่างกาย ไม่ได้การข้าต้องไปหาเทพโอสถเสียหน่อย"เทพปักษากล่าวจบก็จับมือของเด็กหนุ่มไว้หันหลังปีกคู่งามกลางขึ้น เขาเอ่ยห้ามผู้เป็นทั้งมารดาและอาจารย์ไว้ "คล้ายว่าข้าจะมีไข้เท่านั้น ท่านมิต้องเป็นห่วง" เทพปักษาที่ได้ยินเด็กหนุ่มกล่าวก็ขมวดคิ้ว "เจ้ามิหัดจะรักษาร่างกายของตนเองเสียเลย"น้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วงชัดเจน เด็กหนุ่มยิ้มออกมาเมื่อได้ยินถ้อยคำของเทพปักษา "เจ้ายังจะมายิ้มอีก รีบเข้าห้องไปข้าจะยกอาหารไปให้"น้ำเสียงที่แฝงความไม่พอใจที่ลูกศิษย์ยังมีหน้ายิ้มได้ให้เข้าห้องไป ความสุขเช่นนี้ช่างเป็นสิ่งที่สวยงามรอยยิ้มเสียงหัวเราะชีวิตเรียบง่ายอยากให้มันดำรงอยู่ต่อไปตราบชั่วนิรันดร์ แต่น่าเสียดายถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้ก็จะไม่มีเทพมารผู้อำมหิต เลือดเย็น เด็กหนุ่มที่หยอกล้อกับอาจารย์ในวันวาน บัดนี้แปลเปลี่ยนไปร่างสูงสง่านัยตาอ่านแววไม่ออก จ้องมองแดนเมฆาที่พรากทุกสิ่งทุกอย่างของเขาไป
"อาจารย์"กล่าวเพียงแค่นั้นแต่แววตาของเด็กหนุ่มในวันวานแสดงความเคียดแค้น เกลียดชังชนิดที่เรียกว่า
'มิอาจอยู่ร่วมโลก'
แต่คล้ายกับว่าชายหนุ่มนึกอันใดขึ้นได้ยกยิ้มที่ทรงเสน่ห์แต่กลับแฝงด้วยไอสังหารอันหน้าขนลุก
สภาพของอาจารย์ยามนั้นเป็นเช่นไรปีกที่ชาวบริสุทธิ์ที่เขาชอบจับเป็นหนักหนา อาบย้อมด้วยโลหิตสีสด ปีกที่ตั้งตระหง่านอย่างสูงส่ง ยามนั้นหักลงผิวหนังขาวเนียนเต็มไปด้วยบาดแผล
ความเจ็บแค้นที่ตนเองทำอันใดไม่ได้เป็นตัวไร้ประโยชน์ เพียงแค่ช่วยเหลือผู้เป็นอาจารย์ยังมิได้
หล่อหลอมเขาจากเด็กหนุ่มใสซื่อในวันนั้นกลายมาเป็นผู้โหดเหี้ยมในวันนี้
ต้องขอบคุณพวกเจ้าเเดนเมฆา!
เราอาจจะแต่งไม่ได้สนุกมากแต่ก็ขอขอบคุณทุก ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกันนะค่ะ สัญญาว่าจะพยายามจะทำให้สนุกที่สุดตามความรู้สึกเรานะค่ะ
ถ้ามีข้อผิดพลาดตรงไหนแจ้งให้ทราบได้นะค่ะ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!