สวัสดีครับผม“กายฟ้า”อายุ 17 เดี๋ยวก็ 18 ละ เกิดไวก่อนเพื่อนอีก วันนี้เป็นวันที่ผมไม่อยากให้มันถึงเลย
วันเปิดเทอม วุ เหมือนไหร่ผมจะจบๆไปสักทีก็ไม่รู้เวลานานเกินรอ มาโรงเรียนก็ต้องมาเจอไอ..คิมหันต์ อีก
ผมละเบื่อขึ้หน้ามันจริงๆ
วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เปิดเรียนได้ไม่กี่วันก็สร้างตำนานละ ผมมีคนที่ชอบอยู่คนนึง พี่เค้าชื่อ ฝนฝน พี่เขาสมบูรณ์แบบทุกอย่างน่ารักมากมากด้วย
ผมชอบพี่เขามา 2 ปีแล้วยังไม่ได้คุยกับพี่เขาเลย มั่วแต่เขินพี่เขาไม่กล้าเข้าไปสักที แต่ใครจะกล้าไม่ดูเบ้าหน้าผมเลย พี่เค้าออกจะน่ารักมีคนเข้าหาตั้งมากมาย แต่มันจะมีคนนึงที่ คบกับพี่เขาแล้วคบคบเลิกเลิก ไอคิมหันต์ มารหัวใจผม ผมล่ะหมั้นไส้มันจริงๆ ระหว่างที่ผมคิดอยู่นั้น
“กายฟ้า!”
เสียงไอมารหัวใจผมนั่นและ วุ เรียกอยู่ได้ ทำไมผมต้องมาเจอมันด้วยเนี่ย
“ไอกายฟ้า!”
“อะไรของมึงว่ะ”
ผมหันไปหามันด้วยความหงุดหงิด และตะโกนใส่มันอย่างคุ้นเคือง
“มึงจะหงุดหงิดใส่กูทำไมเนี่ย"
“วันนี้กูอารมณไม่จอยว่ะ กูไปก่อนนะ”
ผมพูดไปอย่างนั้นแล้วผมก็รีบรุกออกจากเก้าอี้ทันที่ แต่มีฝ่ามืออันใหญ่มือฟากด้วยแหล่ะน่ะ โอ้ยๆ มันจำแขนผมอีกแล้ว อะไรว่ะเนี่ย!!!
“เดี๋ยว ไปกินข้าวกับกูก่อน”
“ไม่ว่า-”
“แต่วันนี้กูพาพี่ฝนฝนมาด้วยนะ”
“เค ตกลง”
คุณก็รู้ผมเป็นคนแบบนี้อะพี่ฝนคือที่สุดของผมแล่ว!อะไรที่ผมพี่ฝนผมเอาหมดแต่ไม่ได้จะเอาแบบนั้นนะจากนั้นผมก็เดินไปกับมันแต่รู้สึกว่า มันสูงกว่าผมแล้วนะ จากแต่ก่อนผมสูงกว่ามันอีก ตอนนี้ใครๆก็คิดว่าผมอยู่ ม.3 โถ่วเอ้ย! ผมอยากถามมันจริงๆนะว่ามันสูงเท่าไหร่ มันก็คงจะตอบกวนตีผมอีกว่า เท่าไหล่ ผมละหมั่นไส้มันจริงๆ อยากต่อยสัก 3-4 ที
“ไอกายมุงคิดไรอยู่อะ”
“ห่ะ อะไร”
“กูถามว่ามึงคิดอะไรอยู่เห็นช่วงนี้มึงเหม่อๆ”
“กูก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อยนั่นแหล่ะ”
มันหยุดเดินละมองผมแบบ... อะไรว่ะนั้น ตัวโครตสูงมองผมด้วยสายตาที่แปลก โครตจะแปลก เอิ่ม
“มึงหยุดเดินทำไมเนี่ย”
“กูถามว่ามึงคิดอะไรอยู่”
“จะรู้ไปทำไมรู้ไปก็ไม่ได้ประโยชน์”
“เอ้าไอนี่”
ผมเดินนำมันไปที่โรงอาหาร ผมก็แค่คิดว่าทำไมมันตัวสูงแค่ไม่กล้าถาม มันชอบกวนตีนผมอะ อีกอย่างที่ลืมบอกไป ผมเดินไปไหนมาไหนก็มีสาวๆกรี๊ดที่กรี๊ดก็เพราะมันนั่นแหล่ะ แถมตอนที่ผมเดินกับมันมีคนกรี๊ดก็ยังมีสาวๆที่จิ้นผมกับไอคิมหันต์อยู่เหมือนกัน จิ้นไปได้ไง ผมได้แอบไปติดตามและส่องไอพวกที่สร้างกลุ่มด้อมในทวิตเตอร์ คิมหันต์กับกายฟ้า อะไรว่ะ งงสัด
“ไอกายมึงเหม่ออีกแล้วนะ”
“เอ่อ...กินข้าวไปเหอะ”
“กายกูถามมึงหน่อยดิ่”
“อืม”
“ทำไมมึงไม่จีบพี่ฝนสักทีว่ะ”
“ก็กูไม่กล้านี้วา”
“มึงต้องเอาจริงเอาจังได้ละพี่เขามีแฟนไปกี่คนกี่รอบละมึงนี่น่า”
“เอ่อนา บ่นเยอะก็กูจีบใครไม่เป็นอะให้ทำไง”
“เดี๋ยวกูสอนมึงเอง”
“....ยังไง”
หลังจากนั้นมันก็เล่าอะไรไม่รู้ต่างๆนาๆ ผมปวดหัวตายละ ผมฟังมันไปเรื่อยๆ ผมก็เพ้อหลับไป ผมคิดว่ามันคงเหล่าจบแล้วเมื่อมันปลุกผม
“ไอกาย!”
“อะไร”
“หลับสบายเลยมึง”
“มึงบ่นไรของมึงกูไม่รู้เรื่อง”
“ที่กูพูดมามึงไม่เข้าใจเลย”
“เอ่อ”
“วุ มึงก็รอเค้ามีลูกนั่นแหล่ะ”
“เอ้า”
มันพูดแล้วมันก็เดินออกไป มันคงโกรธผมแน่ๆที่ผมไม่ฟังมันโอ้ย ไอนี่นิ ขี้งอนจังเลยว่ะทำตัวเหมือนผู้หญิงอยู่ได้ วุ รำคาญ
ผมบ่นเสร็จก็ลุกตามมันออกไป นี่คือผมต้องไปง้อมันใช่ไหมเนี่ย
“คิมหันต์!!”
เดินเร็วจังว่ะ
“ไอคิมหันต์”
“อะไรของมึง ตามมาทำไม”
“กูตามไม่ได้หรือไง”
“เออ!”
“มึงเป็นไรเนี่ย”
“คน”
“หยุด!!!”
ผมไปขว้างมันแล้วก็เคลียร์กับมัน ถ้าง้อไม่หายก็ไม่ต้องคุยแค่นั้นแหล่ะ ผมเหนื่อยแล้วนะ
“มึงโกรธอะไรกูเนี่ย”
“ก็มึงไม่ฟังอะกูหวังดีนะโว้ย”
“เออ ขอโทษ”
“อืม”
“อ่าวหายง่ายจังว่ะ”
“อยากให้กูโกรธต่อหรอได้”
“ไม่ๆๆๆๆ ไอนี่กูเหนื่อยนะพอเลย”
พูดเสร็จเราสองคนก็เดินเข้าห้องกันเข้าห้องปุ๊บผมก็ไม่ได้คุยกับมันละทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นผมเมินมันทันทีเพราะถ้าไปรู้สึกดีกับมันจะยุ่งเหยิงไปมากกว่านี้
ผมกลับมาบ้านแล้วฟุบตัวลงบนที่นอน ด้วยอาการที่เหนื่อยล้า ผมบ่นพึมพำแล้วพอหลับไป หลับได้ไม่กี่นาที แม่ก็มาเรียกให้ผมลงไปกินข้าว
:กายฟ้ากินข้าวลูก
:ครับ
ผมพูดด้วยความงัวเงียก็จะค่อยค่อยลุกออกจากเตียงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงไปกินข้าว
“อ่าวกายทำไมลงมาช้าจังละลูก”
“อาบน้ำอยู่แม่”
“เออ เออ กินข้าวๆ”
“แม่”
“....มีไร”
“ซาว ไปไหนแม่”
“มันออกไปเดินเล่นมั้ง”
“อ่อ”
ซาวคือชื่อสุนัขของผมนะครับ ผมได้มันมาจากคุณตาตอนเด็กๆก่อนที่ท่านจะเสีย ตอนนั้นผมอายุได้แค่ 7 ขวบเองมันเป็นสุนัขที่ผมรักโครตๆอะตอนนี้มันก็กับผมมานานเหลือเกิน ผมก็เลยห่วงมันเป็นพิเศษเพราะผมก็ไม่รู้น่ะว่ามันจะตายวันตายพรุ่งหรือมันจะจากผมไปตอนไหน พูดแล้วก็เศร้าแต่นี่ก็ หกโมงเย็นแล้ว มันต้องกลับเข้าบ้านแล้วไม่ใช่หรอ
“แม่”
“หืม”
“แต่มันหกโมงแล้วนะแม่ ซาวมันต้องเข้าบ้านแล้วเนี่ยมันผิดปกติ”
“แกก็ออกไปหามันสิมันแก่แล้วสมองไม่ดีมั้ง”
“...”
“เข้าบ้านใครเค้าผิดหรือป่าว”
“อืม เดี๋ยวผมไปตามมันก่อนนะ”
“เออ แล้วอย่ากับดึกนะ ฉันเป็นห่วง”
“ครับ”
ผมพูดเสร็จผมก็ออกไปหน้าบ้านชะเง้อมองดูว่ามีหมาไหมผมรีบวิ่งเปิดประตูรั่วบ้านแล้วเห็นเจ้าซาวนอนรออยู่หน้าประตู อ้าว!! ไอซาว ใครมันปิดประตูรัวบ้าน ว่ะผมพูดเสร็จเจ้าซาวก็วิ่งเข้าบ้านไป ผมรีบปิดประตู รัว แล้วบอกแม่
“แม่! แม่ปิดรั่วหรอไอซาวมันเข้าบ้านไม่ได้เพราะรั่วมันปิดเนี่ย”
“ฉันก็ไม่รู้สมองฉันก็ไม่ค่อยจะดีแกหรือป่าวที่กลับบ้านมาแล้วเปิดปิดรั่วบ้านอะ”
“ไม่ๆ”
“แกอ่ะแหล่ะ ไม่ใช่ฉันหรอกฉันยังไม่ได้ออกไปไหนหลังแกมาเลย”
“คงงั้นมั้ง”
“เออ สมองแกนิ”
“ผมผิดเองแหล่ะไปละ”
พูดเสร็จผมก็รีบขึ้นห้องเข้าไปเล่นคอม เล่นไปได้สักพักใหญ่ก็มีคนโทรศัพท์มาหาผม งึดๆ ใครว่ะ! ผมเอ่ยปากขึ้น แล้วก้มไปมองที่โทรศัพท์ คิมหันต์ มันโทรมา ผมตัดสายมันทิ้งแลวเล่นเกมต่อมันก็ยังจะมีสาย 2 สาย 3 แม่งเอ่ย โทรมาทำไมนักหนาล่ะเนี่ย ผมรีบกดรับสายมัน
“มีไร”
“กว่าจะรับสายกูนะ”
“แล้วมีอะไรกูเล่นเกมอยู่”
“ก็...เสาร์นี้กูจะชวนมึงไปทะเลอะไปป่ะ”
“หึไม่อะ กูขี้เกียจ”
“เห้ยนานๆทีมึงไปนะโว้ย”
“เดี๋ยวกูลองขอแม่ก่อน”
“มึงต้องไปนะเพราะพี่ฝนฝนกับเพื่อนพี่เค้าก็ไป”
“จริงดิ่”
“อืม”
“เออ เออ”
แล้วผมก็กดวางสายทิ้งเกม แล้วรีบลงไปหาแม่ที่ห้องนอน
“แม่!!!!!!”
“โอ้ยนิแกจะตะโกนทำไมเนี่ย”
“แม่เสาร์นี้ผมขอไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนนะ”
“ใครกับใคร ฉันไม่ให้ไปหรอกนะ”
“คิมหันต์ไงแมไอที่ตัวสูงตอนมอต้นใส่แว่นหนาๆอะ”
“อ่อ แค่นี้หรอ”
“มีเยอะเลยแม่ ผมขอไปน่าาา”
“จะไปทำไมแดดแรงนะช่วงนี้อะเดี๋ยวผิวก็ไหม้หมดหรอก”
“นะครับ ผมไม่ค่อยได้ไปเลยอะนานทีนะแม่”
“เออ เออ ฉันจะนอนล่ะ จะไปก็ไป อย่าให้เห็นแผลกลับมาบ้านนะ”
“ครับ รับทราบ”
ผมพูดเสร็จก็วิ่งกลับห้องตัวเอง เย้!! ผมโครตมีความสุขเลยแฮปปี้จัดๆ ผมรีบไปปิดคอมเพื่อให้ถึงวันนั้นเร็วๆ ผมรีบเข้านอนทันที ได้ไปทะเลกับพี่ฝนฝน เย้ๆๆๆ งึดๆๆ เห้ย!! อะไรอีกว่ะ ผมกดรับสาย ฮัลโหล!!!
“กายฟ้ามึงจะนอนยัง”
“เออไอเหี้ยกูจะหลับแล้วเนี่ย”
“มึงช่วยอยู่เป็นเพื่อนกูก่อนได้ไหมว่ะ”
“อะไรมึงโตเป็นควายละยังจะให้กูอยู่เป็นเพื่อนอีก”
“อืม”
“มึงเป็นไรเนี่ยกูพูดแรงไปหรอ”
“อืมโครตแรง”
“เออ กูขอโทษกูอยู่เป็นเพื่อนมึงก็ได้”
“กาย คือกู...รู้สึกว่ายิ่งโตกูยิ่งมีปัญหาว่ะ”
“มันก็ต้องเป็นงั้นดิ่ มึงอยู่มอปลายละจะเรียนเอบีซีไง”
“ก็ไม่ใช่แบบนั้น กูแค่รู้สึกว่ากูมีแต่ปัญหาเข้ามาในชีวิตกูอะมันเยอะมากๆเลยนะโว้ยต้องโดนกดดันจากครอบครัวคนรอบข้างกูก็ไม่รู้จะระบายให้ใครฟัง”
“มึงก็ระบานใส่ระบายสิยะไประบายก็อื่นทำไมสกปรก”
“กูจริงจังอยู่นะ”
“ฮ่าฮ่า อ่าอ่ากูขอโทษเดี๋ยวก็ผ่านไปได้นอนๆ”
“อืมพรุ่งนี้เจอกัน ฝันดีนะ”
“ฝันร้ายไปเถอะมึง”
ผมกดวางสายมันแล้วรีบเข้านอน ไอนี่พายนอกดูตลกแต่มันก็คงเก็บอะไรไว้เยอะเหมือนกันไม่ว่าจะ ความกดดันในครอบครัวที่อยากให้มันเป็นหมอ ญาติญาติมันที่กดดันให้มันเรียนสายวิทคณิต คนรอบข้างที่ดูความสำเร็จมันมันก็คงยากจริง แต่ผมอะหรอคิดไรมากใช้ชีวิตไปเรื่อยความไฝ่ฝันก็ไม่มีเข้าอะไรได้ก็อันนั้นแหล่ะ สไตล์ผม ผมคิดแล้วก็หลับไป
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!