ปี ค.ศ.2030

ในยุคที่มนุษย์ไม่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีให้สามารถก้าวไกลไปมากกว่าปัจจุบัน

วันที่สรรพสิ่งบนดาวโลก รอวันแก้แค้น

ธรรมชาติสีเขียวที่ดูเป็นมิตร แต่ใครจะรู้กันว่าพวกใบไม้ ใบหญ้าสีเขียวที่ธรรมดาจะเริ่มกลายพันธุ์เป็นสิ่งมีชีวิตประหลาด ออกไล่ล่าคนเป็น จนโลกเกิดความปั่นป่วน

กฎหมาย เหอะ ลืมไปตั้งแต่5วันหลังจากที่ไอ้พวกต้นไม้กลายพันธุ์มันออกอาละวาดแล้ว

สังคมเริ่มจับมือรวมกันเป็นกลุ่ม เพื่อร่วมกันต่อสู้ มีจำนวนมากย่อมดีกว่าจำนวนน้อยที่ไม่รู้จะมีชีวิตรอดได้ไหม

จิตใจมนุษย์ แน่นอนว่ายากหยั่งถึง ในเมื่อโลกเป็นแบบนี้ไปแล้ว หลายคนผลักคนในครอบครัวถ่วงเวลาเพื่อการหลบหนี แลกลูกกับอาหารขยะไม่กี่ห่อ

สิ่งโสมมหลายอย่างที่โลกยังปกติจะยังไม่มีใครกล้าทำ

แต่ตอนต่างกันลิบลับเลย

เลวร้ายถึงขนาดที่พวกคุณคาดไม่ถึงเลยล่ะ

พวกมนุษย์ต้องต่อสู้ดิ้นรน แต่ละวันผ่านไปอย่างยากลำบาก แม้แต่คนที่ไม่เคยจับอาวุธถือปืน ยังต้องลั่นไกใส่ศัตรูอย่างไม่ลังเล ทุกอย่างวนลูบอยู่อย่างนั้น

เวลาผ่านไป 5ปี

10ปี

20ปี

ถึง100ปี

ณ ค.ศ.2130

ในตอนนี้ประชากรบนโลกมีไม่ถึง1แสนคน

ตอนนี้ได้เข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่าน ในเมื่อสงครามกับพืชกลายพันธุ์ได้หมดสิ้นลงไปแล้ว บรรพบุรุษได้เสียสละมากมาย เพื่อให้มนุษยชาติอยู่รอด

ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง แต่ก็ไม่ปกติเท่าไหร่เพราะศัตรูสีเขียวที่ต่อสู่กันมานับร้อยปี ได้ตายหายไปไม่เหลือแม้กระทั่งซาก ทำให้ภูมิประเทศทั่วโลกเป็นเหมือนกึ่งทะเลทรายรกร้าง

หากคุณคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดจบแล้ว โลกเข้าสู่สภาวะสงบไม่มีสงคราม ไม่มีความปั่นป่วน มนุษย์ใช้ชีวิตสงบสุข

ผิดคาดแฮะก็ไม่มีจริงๆ แต่ไม่ทั้งหมดนี่สิ

คิดจริงๆ หรอว่าทุกอย่างจบแล้ว

นี่น่ะ

พึ่งเริ่มต้นต่างหาก

50ปีหลังจากที่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น กับโลกที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ ใครจะรู้ว่ามันค่อยถอยไกลออกจากดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ

เศรษฐกิจโลกปัจจุบันหากถามใครว่า ธุรกิจไหนรุ่งเรืองที่สุดในโลก

ณ ตอนนี้ ถามสิบคนหรือร้อยคนตอบก็คือคำตอบเดียวกัน มีคนทายถูกไหมเอ่ย

ใช่แล้ว มันคือธุรกิจอาวุธนิวเคลียร์

อันดับที่สองคือธุรกิจเหมืองแร่ อาหาร สาธารณูปโภค ตามลำดับ

ในยุคหลังศตวรรษที่21ภายหลังการเกิดสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ เรื่องราวการใช้ชีวิตปกติธรรมดา กลายเป็นเรื่องราวที่แสนพิเศษราวกับบทกวีของนักปราชน์ที่พรรณนาถึงแดนสรวงสวรรค์หลายเรื่องราว

ความเป็นมาในโลกยุคนั้นผู้คนช่วยนำความรู้ความคิดมาปะติดปะต่อกันกลายเป็นหนังสือความรู้พื้นฐาน แต่ก็ยังพอโชคดีอยู่บ้างที่หนังสือบางส่วนที่ไม่ได้ถูกทำลายไปแต่ก็นานมาแล้วทำให้บางส่วนกลายสภาพย่อยสลายตามกาลเวลา

สิ่งที่หนังสือทุกเล่มในปัจจุบันมีคือประวัติศาสตร์โลกที่เกริ่นทุกสมัยสั้นๆ จบในหนึ่งหน้า โดยเน้นในยุคที่มนุษย์เจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์เป็นพิเศษเพื่อคำนึงถึงจุดหนึ่งที่พวกเราเคยอยู่บนจุดสูงสุดมาก่อน เนื้อหาเอ่ยถึงการใช้ชีวิตอิสระ เทคโนโลยีที่ทันสมัย น้ำที่สะอาด อาหารการกินไม่ขาดแคลน ธรรมชาติทิวเขาแหล่งท่องเที่ยวอันสวยงาม

ตอนนี้แม้แต่เพียงต้นหญ้าหนึ่งต้นยังมีความสำคัญกว่าอาหารห้ามื้อเสียอีก

พวกเราหวังว่าสักวันที่จะได้พบกลับโลกที่สวยงามอีกครั้ง

ไม่มีกรีนมอนสเตอร์ ไม่มีพืชกลายพันธุ์ ไม่มีโรคระบาด ไม่มีสัตว์คลุ้มคลั่ง

หลายคนที่มีอาการทางจิตอ่อนๆ ที่ส่งต่อมาทางพันธุกรรมจากบรรพบุรุษ ทำให้นอนไม่หลับ ร่างกายมีการหลั่งสารอะดรีนาลีน ทำให้ตื่นแทบตลอดเวลา

ส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาจิตแพทย์และยา เพื่อบรรเทาอาการให้ใช้ชีวิตประจำต่อไปได้อย่างไม่มีปัญหา

มีเพียงส่วนน้อยที่ไม่ยอมรับอาการป่วยของตัวเองและขังตัวเองไว้อยู่แต่ในบ้านไม่ยอมออกไปไหน

แต่อยู่ๆ มาวันหนึ่ง ตามเวลาสากล ค.ศ2130 เดือน14 วันที่7

เวลาบ่ายคล้อยของวัน

วันที่ทุกคนใช้ชีวิตปกติ จู่ๆ ก็เกิดแสงสว่างทั่วบริเวณของท้องฟ้าพร้อมกับเสียงที่ก้องกังวานไปทั้งเมือง

ผู้ที่กล่าวอ้างตนว่าเป็นพระเจ้าผู้สร้างโลก มามอบของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถผ่านยุคสมัยการเปลี่ยนผ่านของมนุษยชาติมาได้โดยเผ่ามนุษย์ไม่สูญพันธุ์

พร้อมประกาศบังคับให้ทำภารกิจ ไม่งั้นทุกคนจะต้องตาย ก่อนลาจากไปพร้อมแสงที่เปร่งออกมาจากมือของทุกคน

เมื่อแสงหายไปเหลือเพียงสัญลักษณ์ปริศนา บ้างก็ตัวเลขประหลาด บ้างก็รูปลักษณ์ของธาตุตามธรรมชาติหรือดอกไม้ บ้างก็ลักษณะของแร่

อ๊ากกก ไฟ มันไหม้มือฉันแล้ว ช่วยด้วย อ้ากก ช่วย เอ้ะ ทำไมไฟไม่เห็นร้อนเลย

กรี้ดน้ำท่วม น้ำมาแต่ไหน รีบหนีขึ้นที่สูงเร็ว

เดี๋ยวนั่นกรีนมอนสเตอร์หรอ เอ้ะต้นไม้สีเขียว

แกรก แกรกก

เสียงแผ่นดินร้าวก่อนจะค่อยๆ แยกออกจากกัน

เฮ้! ช่วยด้วยจะตกลงไปแล้วอ้ากกก

เชือกอยู่ตรงนั้น เกาะไว้แน่นๆ ก่อนนะครับ เชือกกำลังมาแล้ว

ทุกคนครับ โปรดอยู่ความสงบอย่าตื่นตูมกันสิครับอย่าวิ่งไปทั่ว มันยิ่งจะเกิดเรื่องวุ่นวาย เอาเป็นว่าตอนนี้เราค่อยเป็นค่อยไปตั้งสติมาหาทางออกด้วยกัน

ชายวัยกลางคนตะโกนขึ้นท่ากลางเหตุการณ์ที่วุ่นวายจนเกือบจะบานปลาย ไม่แน่นี่อาจเป็นของขวัญของเจ้าแสงประหลาดนั่นที่อ้างตนว่าเป็นพระเจ้าก็ได้ ผมเคยอ่านนวนิยายของท่านโรเบิร์ต โลกจินตนาการที่ทุกคนมีพลังวิเศษกัน

หากอ้างอิงตามหนังสือ ท่านโรเบิร์ตเขียนไว้ว่า พลังใช้ได้ดี เมื่อจิตสงบ พลังจะหลอมรวมกับร่างกายเราได้ดี

ผมว่าทฤษฎีนี้น่าสนใจ แต่ก่อนผมคงคิดว่างมงายแล้ว แต่ตอนนี้ผมเชื่อไปเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำใจให้สงบแล้วลองใช้พลังของตัวเองดู

ซ่า ซ่า เสียงน้ำพุ่งเป็นสายออกจากมือไหลตกลงพื้นจำนวนมาก

น้ำ? น้ำ! กรี้ด ฉันได้พลังน้ำงั้นสิ หญิงสาวสูงวัยกรี้ดร้องด้วยความดีใจ

ฮ่า ฮ่า ไอ้จอร์ซข้ากับเอ็งจะไม่ขาดแคลนน้ำแน่ในอนาคต ใครอยากซื้อข้าขายเกลอนละ 89 เหรียญ

ใจเย็นก่อนสิครับแม่ อย่าพึ่งคิดถึงธุรกิจตอนนี้สิครับ พลังที่มายังไม่แน่ชัด ไม่รู้ว่ามีอันตรายอะไรไหม

ชายหนุ่มอายุประมาณ15กล่าวปรามมารดาที่กำลังกระโดดดีใจอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะพยายามทำใจให้สงบ แล้วดึงพลังที่อยู่ในร่างกายออกมาใช้

หลายคนทำตามจนเกิดความโกลาหลขึ้นอีกครั้ง เพราะบางคนควบคุมพลังตนเองไม่ได้เผลอปล่อยมามากเกินไป

ทำให้บางคนที่ยังไม่ได้ลองพลังตนเอง เลือกจะเมินพลังที่ตัวเองได้รับมาก่อนรีบเก็บของตัวเองวิ่งหนีให้พ้นรัศมีก่อนจะโดนลูกหลง

ณ ห้องผู้นำ แกนนำขับเคลื่อนมนุษยชาติ เป็นองค์กรที่จัดตั้งโดยสถาปนาจากการเห็นชอบของประชาชน โดยหน้าที่คล้ายคลึงกับรัฐบาลในอดีต

ส่งจดหมายเหตุฉุกเฉินด่วน เรียนสมาชิกเข้าห้องประชุมภายใน1ช่วงเวลา

เอาล่ะ ในเมื่อทุกท่านมากันครบแล้ว กระผม เมนโดซา ผู้นำแกนนำ ขอเริ่มการประชุมตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป

เรากำลังเผชิญกับสิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชน เป็นปัญหาใหญ่ต่อมนุษยชาติ

จากเมื่อ2ช่วงเวลาก่อนได้มีแสงปริศนาปรากฏออกมาจากฟ้า พร้อมกล่าวอ้างตนว่าเป็นพระเจ้า

ลักษณะเป็นตัวอะไรกัน ชายวัยกลางคนไว้หนวดที่นั่งด้านขวามือเยื้องไปคนที่4ยกมือเอ่ยถาม

ไม่มีลักษณะของสิ่งมีชีวิตเลยครับ เลขาธิการเอ่ยอย่างเคร่งเคลียด

มีแค่แสงสว่างวาบไปทั่วพร้อมกับเสียงพูดทุ้มแหลม

ใช่ เสียงบาดหูเราสุดๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ใช่เวลาหัวเราะหรอครับ

พวกเรากำลังจะตายกันหมดแล้ว ไหนจะพลังประหลาดนั่นที่จู่ๆ ก็มีขึ้นมามันจะปลอดภัยต่อเราจริงหรอ

คุณคาร์ดใจเย็นก่อนนะครับ เลขาธิการกล่าว จะให้ใจเย็นได้ยังไง

ปัง เสียงทุบโต๊ะจากชายผู้นำผู้นั่งอยู่หัวโต๊ะ คาร์ดที่กำลังอ้าปากพูดประโยคต่อมา กลืนคำพูดกลับแทบไม่ทัน

เขาลุกขึ้นโค้งตัวลงขอโทษทุกคนเมื่อเขาเผลอควบคุมสติตัวเองไม่ได้พร้อมกับคนในห้องที่ตอนนี้สีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะต่างคนต่างเคร่งเคลียด

ไม่ใช่แค่คุณที่เดือดร้อน หากยังสงบไม่ได้ออกไปสงบตัวเองที่ด้านนอก ก่อความวุ่นวายจน เห็นทีจบการประชุมวันนี้คงเสียเปล่า

ขออภัยเป็นอย่างสูงท่านผู้นำ ผมเป็นแค่เป็นห่วงเด็กในอนาคตโลกใบนี้ไม่เอื้ออำนวยต่อพวกเขา แต่ผมก็จะทำหน้าที่ให้เต็มความสามารถครับ

เอาล่ะ ทุกท่านด้วย ผมเข้าใจ เราเป็นผู้ที่อาศัยบนโลกที่มีแต่ความหวาดกลัว โลกที่ไม่สงบสุข โลกที่สันติภาพไม่มีจริง โลกที่มีความเหลื่อมล้ำ

โลกที่เป็นที่เกลียดชังจากผู้เป็นเจ้า

แต่พวกเราต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป

จบการหารือเพียงเท่านี้ก่อน พรุ่งนี้ขอให้เข้าประชุมอย่างตรงเวลา เดินทางกลับปลอดภัย

ขอให้พระเจ้าคุ้มครองทุกคน

หึ พระเจ้า พระเจ้าน่ะรังเกียจพวกเราจะตาย

ถึงอย่างนั้นเขาก็พูดเพื่อความสบายใจของทุกคน

ก็มันเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจที่ค่อนข้างมีอิทธิพลกับมนุษย์เลยละ

_________________

คำศัพท์

ช่วงเวลา 1ช่วงเวลา=2ชั่วโมง 2ช่วงเวลา=4ชั่วโมง

กรีนมอนสเตอร์ =ต้นไม้ดั้งเดิมที่กลายพันธุ์ ระดับสูง(เป็นภัยต่อมนุษย์มาก)

พืชกลายพันธุ์ =พืชที่กลายพันธุ์ระดับต่ำ(เป็นภัยต่อมนุษย์น้อย)

จบตอนแล้ว เย้ สงสัยกันตรงไหนถามเข้ามากันได้น้า

นิยายเรื่องนี้ไรต์อยากเขียนเป็นเหมือนอีกโลกหนึ่งที่มีอยู่จริงๆ ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างใช้การอ้างอิงกันและมีเหตุผลในตัวของมันเอง(รายละเอียดส่วนนี้จะค่อยๆเผยในตอนต่อไป) ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยน้า🙏( ꈍᴗꈍ)