...ต้นปี2015
เช้าของวันหนึ่งก็เป็นวันธรรมดาเหมือนทุกทีของหน้าหนาวประเทศญี่ปุน วันนี้มีหิมะตกลงมาปรอยๆสร้างความหนาวเย็นให้กับคนในประเทศ ในบ้านหลังหนึ่งที่มีขนาดสองชั้นไม่เล็กไม่ใหญ่ในเมือง ได้มีหญิงสาวผู้หนึ่งกำลังนั่งชงชา พร้อมกับฟังเพลงเตรียมตัวออกไปเรียนตามปกติ
คาเรร่า"วันนี้หิมะก็ตกหรอเนี่ย?...เอาเถอะดื่มชาเสร็จค่อยไปก็แล้วกัน"
“ข่าววันนี้ข่าวแรกเป็นข่าวของประเทศกรีซนะคะ ที่กรีซเมื่อวานนี้ทีมนักสำรวจได้ทำการสำรวจโบราณสถานแห่งหนึ่ง บลาๆๆ และก็ได้พบภาพวาดที่มีรูปของหญิงสาวผมสีเหลืองเหมือนกับโบราณสถานที่เก่าๆของที่อื่นๆไม่ว่าจะเป็นจีน ญีุ่่ปุน เม็กซิโก บลาซิล และอื่นๆอีกมากมายในยุโรปนะคะ”
คาเรร่า"...เรื่องมันนานแล้วไม่ต้องสนใตจหรอก ดื่มชาของเราต่อดีกว่า"
และคาเรร่าก็เริ่มดื่มด่ำบรรยากาศตอนเช้าที่อากาศกำลังเย็นพอดีพร้อมกับการดื่มชาและเสียงทีวีที่ดังอยู่ หลังจากนั้นไม่นานคาเรร่าก็ดื่มจนหมด คาเรร่าก็ลุกไปล้างจาน และหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกจากบ้านไป เอ่อ! จริงสิตอนนี้เธออยู่คนเดียวเนื่องจากที่เธอดื่อเกินไปในตอนแรก ถึงแม้เกรดจะดีมากก็ตาม นั้นทำให้พ่อแม่เลือกที่จะซื้อห้องเช่าให้เธออยู่ และจะกลับไปหาพวกเขาได้แค่วันเทศกาล
ส่วนน้องสาวของเธอก็เป็นเด็กที่ตั้งใจเรียน และไม่ได้ดื้อเหมือนเธอนั้นทำให้น้องสาวของเธออยู่ที่บ้านพ่อแม่ แต่แบบนี้ก็ดีแล้วล่ะเป็นส่วนตัวดี แถมจะได้ใช้เวทมนต์ในการทำอะไรต่างๆได้โดยไม่ต้องกังวลว่าใครจะเห็น
ซึ่งระหว่างทางก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆไม่นานก็ได้เดินมาถึงหน้าโรงเรียนแล้ว
คาเรร่า'โอ้ ขอบใจมากชิเอล'
อะ-ใช่เธอมีสกิลราฟาเอลมาช่วยด้วยถึงแม้ตอนนี้จะกลายเป็นมนัสชิเอลไปแล้วก็เถอะ เธอเปรียบเสมือนเพื่อนที่ค่อยอยู่ด้วยกันมานานรวมถึงมนัสมิเชล(มิคาเอล)อีกคนนึงด้วยและอีกคนก็เป็นพวกพูดน้อยต่อยหนักซึ่งทั้งสองคนก็อยู่กันเธอมามากกว่าหนึ่งพันล้านปีแล้ว
และอีกเรื่องคือโรงเรียนี้แหละคือโรงเรียนที่ดังที่สุดในประเทศแล้วล่ะนะ ถึงแม้ข้อสอบสำหรับคนอื่นจะยากแต่เธอมีชิเอลนี่นะ อ่าใช่เขาไม่ได้เรียกว่าโกงหรอกนะเขาเรียกว่าใช้ทุกอย่างที่มีในการเข้าสอบ
"อ้าว คาเรร่าเธอมาแล้วหรอ มานี่เลยมาช่วยฉันยกของหน่อยสิ"
คาเรร่า"ได้เลยๆ แล้วอันไหนล่ะ"
"กล่องพวกนี้น่ะ ฝากหน่อยนะเดียวฉันยกของพวกนี้ไปเอง"
ซึ่งเธอก็เป็นคนที่เพื่อนเยอะอีกต่างหาก และเนื่องจากว่าเธอเป็นคนมีแรงเยอะมากกว่าผู้ชายตัวใหญ่ๆเสียอีกดังนั้นเพื่อนและอาจารย์ส่วนใหญ่จึงมาขอให้เธอช่วยยกของล่ะนะ หลังจากนั้น 10 นาทีเธอก็ยกของทั้งหมดไปวางให้ แล้วก็เดินขึ้นห้องเรียนของตัวเองไป ซึ่งก็ไม่ได้ทำอะไรต่อนอกจากไปนั่งรวมวงคุยกับเพื่อนในห้องอย่างสนุกสนานต่อ
.
และแล้วเวลาได้ผ่านไปจนถึง 8.30 น.
เสียงตามสายก็ได้ดังขึ้น
“สวัสดีอาจารย์และนักเรียนที่น่ารักทุกๆท่านนะครับ วันนี้ทางโรงเรียนขอให้นักเรียนและอาจารย์ทุกท่านมารวมกันที่ห้องประชุมใหญ่นะครับ และเนื่องจากวันนี้มีงานใหญ่งดการเรียนการสอน 1 วันนะครับ”
สิ้นเสียงประกาศทุกคนในห้องก็ตะโกนด้วยความดีใจขึ้นมา
จิซาโตะ"เยส! พวกเราไปกันเถอะ!"
และจิซาโตะก็ได้กระโจนตัวเองออกมาจากเก้าอี้และเต้นไปรอบๆทำตัวเหมือนกับเด็ก ซึ่งก็เป็นปกติของเธอล่ะนะและมันก็เป็นสีสันของห้องอีกต่างหาก
"ยังร่าเริงไม่เปลี่ยนเลยนะ"
คาเรร่า'อ่า ขอบใจมากมิเชล...เหมือนว่าฉันจะต้องไปจัดการอีกแล้วแฮะ'
คาเรร่า"ฮ้าววว...อยู่ๆก็ง่วงนอนขึ้นมาแฮะ"
"ค่อยไปนอนที่ห้องประชุมก็ได้คาเรร่าจัง"
แล้วคาเรร่าก็ลุกขึ้นและเดินออกไปจากห้องไปตามกลุ่มซึ่งระหว่างทางก็พูดคุยกับเพื่อนตลอดทาง จนในที่สุดก็มาถึงห้องประชุม แล้วก็เดินตามพวกเพื่อนของเธอไปนั่งแล้วก็นั่งหลับไป ซึ่งคาเรร่าก็ออกจากร่างกายหยาบไปเป็นร่างจิตเพื่อไปเคลียร์ปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้น ถ้าไม่แก้ไขมันล่ะนะ
เพียงไม่กี่นาทีต่อมาทุกคนก็มาอยู่ที่ห้องประชุมกันจนเต็มห้อง และก็มีเสียงคุยเสียงดังขึ้นมาหลังจากที่ประตูปิดลง
แต่ในตอนนั้นเองผอ.ก็ได้เดินเข้ามาพร้อมเริ่มพูดหน้าเวที
ผอ."เอาล่ะนักเรียนทุกคนช่วยเงียบกันหน่อยครับ! วันนี้ผมผู้อำนวยการโรงเรียนxxxxมีเรื่องจะมาประกาศครับ"
และตอนนั้นเองทั้งห้องก็เงียบลง
ผอ."ทุกคนน่าจะได้ดูถ่ายทอดสดเกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องอ่านความทรงจำของเหล่านักวิทยศาสตร์ที่กำลังทดลองอยู่ในขณะนี้ และในวันนี้เหล่านำกวิทยศาสตร์นั้นได้นำเครื่องอ่านความทรงจำมายังโรงเรียนของเราเพื่อสุ่มนักเรียนผู้โชคดีออกมาถ่ายทอดสดความทรงจำของตัวเองให้คนทั่วโลกได้เห็นได้รับชม! ใครคิดว่าตัวเองมีช่วงเวลาอันดีงามและรุ่งโรจน์ที่สามารถโชว์ได้ก็ก้าวออกมาเลย!"
เมื่อพูดจบก็เกิดเสียงฮือฮาขึ้นมา และนักวิทยาศาสตร์ก็ได้เปิดผ้าคลุ่มเครื่องอ่านความทรงจำออกมาซึ่งมันค่อนข้างดูลำสมัยแบบสุดเลยล่ะนะ จริงสิ โลกนี้มีบริษัทที่ล้ำสมัยที่ชื่อว่า'Power Of Technology'เรียกสั้นๆว่า'POT'พวกเขามีเทคโนโลยีที่ล้ำยุคเป็นอย่างมาก เช่นเ เครื่องอ่านความทรงจำนั้นเป็นตัวอย่างที่ดีเลยทีเดียว
"ว้าว! คิดไม่ถึงจริงๆว่าพวกเขาจะเลือกโรงเรียนเรานะ!"
"ตื่นเต้นแบบสุดๆเลย จะมีใครเห็นฝีมือบาสของฉันแล้วอยากเรียกให้เข้าทีมไหมล่ะเนี่ย"
"ไม่อยากถูกดูความทรงจำเลย มันดูไม่ส่วนตัวเลยสักนิด"
"น่าจะสำหรับพวกดาวโรงเรียนอย่างเดียวละมั้ง"
แต่ว่าตอนนี้จิตของคาเรร่านั้นไม่ได้อยู่กับร่าง แต่ไปอยู่ที่มิตินรกแทนเพื่อจัดการกับปัญหาปีศาจจำนวนมากมารวมตัวกัน เพื่อที่จะพังประตูนรก และออกมาอาระวาดในมิติมนุษย์ แต่ช่างเถอะกลับไปงานต่่อนั้นแหละดีแล้ว
"""""เฮ!!!"""""
ด้วยความที่เครื่องนี่มันพิเศษสุดๆสามารถืทำให้มองเห็นเป็นมุมมองบุคคลที่ 3 ได้ทำให้มองเห็นจังหวะดังค์สุดเท่ได้ และมันก็สามารถสร้างคำบรรยายโดยใช้จิตสำนึกมาเขียนอธิบายเหตุการณ์ในตอนนี้ได้ด้วย
"รุ่นพี่คุรุโกะดังค์บาสได้เท่มาก!!!"
"รุ่นพี่คุรุโกะหน้านิ่งแบบนั้นหล่อสุดๆไปเลยค่า!!!"
"สมกับเป็นนักบาสดาวเด่นโรงเรียนของเรา"
ซึ่งหัวหน้าครูจากสาขาต่างๆก็ได้ส่งคนที่มีทักษะสูงสุดของแต่ละคนมาเพื่อโปรโมทและอวดโฉมหน้าโรงเรียนเกี่ยวกับการเรียนการสอนอันมีประสิทธิภาพสูงของโรงเรียนนี้ที่สอบเข้าได้ยากและมีคนอยากเข้าจนได้ฉายาว่าอันดับหนึ่งแห่งนี้
[นักเรียนคนนั้นดูจะเก่งพอๆกับตัวแทนทีมระดับประเทศเลยแฮะ ถ้าปั้นต่อเก่งกว่านี้แน่นอน!]
[นั้นมันลูกชายฉันนี่! สมกับเป็นลูกของแม่จริงๆด้วย!]
[เด็กนั้นเก่งฟิสิกส์สุดๆไปเลยล่ะ อนาคตเป็นนักฟิสิกส์ชื่อดังได้แน่ๆ!]
[โรงเรียนนี้สุดยอดจริงๆสอนเด็กให้เก่งสุดๆไปเลยล่ะ!]
[โอ้ว! ดูเธอสิสวยสุดๆไปเลย!]
ก็นั่นแหละนี่มันเป็นการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกให้พวกชอบยุ่งจุ้นจานชีวิตและเรื่องส่วนตัวคนอื่นเขาไปทั่วให้เข้ามาดูได้เยอะล่ะนะ
อาจารย์สอนชีวะ"เอาเป็นใครดีนะ?...ชิสุจังเธออยากลองดูไหม?"
ชิสุ"ได้เลยคะ ฉันไม่มีปัญหาอยู่แล้วคะอาจารย์"
ชิสุพูดด้วยรอยยิ้มหวานๆอันแสนอบอุ่น และก็ได้ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินขึ้นไปที่หน้าเวที และมีจุดที่ดึงดูดสายตาได้ดีอย่างนกหวีดสีขาวรูปร่างประหลาดที่มีหินสีแดงตกแปลกตาที่คาเรร่ามอบให้เป็นของขวัญวันเกิดครบ 18 ปีของเธอ ซึ่งเมื่อหันกลับมาก็เห็นพี่สาวของเธออย่างคาเรร่ากำลังหลับอยู่
ชิสุ'สงสัยเมื่อคืนพี่ไม่ได้นอนแฮะ อดให้พี่ดูความสามารถเลย'
ซึ่งชิสุกับคาเรร่าก็เป็นพี่น้องที่ดีต่อกันล่ะนะ ด้วยความที่คาเรร่านั้นเกรด4 ทุกวิชาตลอดการเรียน และอธิบายให้เขาใจได้ง่ายด้วย ชิสุจึงไปหาคาเรร่าให้สอนเรื่องที่ไม่เข้าใจบ่อยๆ จนเธอเก่งในเรื่องที่คาเรร่าสอนให้และได้เกรด4 มาเรื่อยๆ นั้นเอง แต่ถึงอย่างงั้นเธอก็อยากให้พี่สาวแสนใจดีของเธอได้เห็นการพัฒนาบ้าง
[เอื้อ! เธอสวยมาก! แถมยังมีกิริยามารยาทสุภาพสตรีดีสุดๆอีกต่างหาก]
[หน้ารักสุดๆไปเลย! ไม่ไหวแล้วเอื้อ!]
[แฮกๆๆๆ...ไม่ไหวแล้ว-]
[ไปไกลๆเลยนะย่ะ ไอพวกโรคจิต]
ภาพความทรงจำต่างๆของชิสุก็ได้ถูกฉายออกมา โดยรวมๆแล้วก็ไม่ได้น่าสนใจเท่าไหร่ นอกจากว่าคุณจะเป็นพวกนักวิทยาศาสตร์สายชีวะล่ะนะ เพราะเธอเก่งชีวะแบบสุดๆ ถึงกระนั้นเลยเรื่องวิชาอื่นเธอก็ยังคงทำคะแนนได้ดีล่ะนะ ถึงแม้จะมีหลุดบ้าง เช่น ทีก็หลับที่โต๊ะคาห้องเรียนบ้าง บางครั้งตอนเรียนเคมีก็เผลอหยอดสารผิดตัวบ้าง แต่ก็นั้นแหละเรื่องเล็กน้อย
แล้วภาพก็ตัดไปที่ช่วงเย็นๆที่หน้าห้องเช่าแห่งหนึ่งของวันนึง และคำบรรยายก็ได้เด้งขึ้นมา
- - -พี่สาวสุดเก่งของฉัน- - -
*นิ่งน่อง... กึก แอ็ดดด...
ชิสุ"นี่พี่คาเรร่าคะ สอนชีวะให้ฉันหน่อยได้ไหม?"
คาเรร่า"อ่า...ได้เลยเข้ามาสิ"
ชิสุ"ได้เลยคะ"
คาเรร่า"ขอฉันไปเตรียมตัวสอนก่อนนะ ระหว่างนี้เธอก็ไปพักผ่อนก่อนได้เลย"
เมื่อคาเรร่าพูดจบชิสุก็ได้วางกระเป๋าและเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำซึ่งภาพวิดีโอช่วงนี้ก็จะถูกตัดออกไป จนถึงช่วงที่กำลังจะเข้าไปเรียน ซึ่งภาพก็เผยให้เห็นว่าเธอยืนอยู่หน้าห้องนั่งเล่น และเมื่อเปิดเข้ามาแล้วก็พบว่าพี่สาวของเธอได้เตรียมน้ำขนมอะไรต่างๆไว้ให้ และคาเรร่าก็ได้กวักมือให้เข้ามานั่งข้าง
ซึ่งวิดีโอก็ไม่ได้กรอวิด๊โอกลับให้เห็นถึงเนื้อหาต่างๆที่ถูกอธิบายออกมาอย่างชัดเจนและแจมแจ้ง ซึ่งที่ทุกคนที่ได้ฟังก็เข้าใจมันขึ้นมาทันตาเห็น ซึ่งครูชีวะที่ดูอยู่ก็อึ้งกันเป็นแทบๆ
ชิสุ"ขอบคุณที่สอนนะคะ"
คาเรร่า"ไม่เป็นไรอยู่แล้วน่า"
"โห นี่ขนาดไม่ได้เรียนต่อหน้าจริงๆนะเนี่ยยังเข้าใจเลย!"
"มาสอนแทบครูเลยดีกว่า ถ้าจะสอนเก็บขนาดนี้ ขนาดแค่ดูผ่านๆยังเข้าใจเลย!"
"จริง! ขนาดครูสอนยังไม่ได้เท่านี้เลย!"
"พวกเธอว่าอะไรนะนักเรียน!"
"ยึ่ย!"
[นี้ขนาดฉันยังไม่เคยเรียนมาก่อนนะเนี่ย!]
[อธิบายได้ง่ายและทำให้พวกเราเข้าใจได้ในทันทีอีกต่างหาก!]
[ฉันคิดว่าโตไปพี่สาวเธอต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลกได้แน่!]
[ขนาดติวเตอร์ที่ว่าแน่ยังไม่เท่าเธอเลย!]
แล้วภาพก็ได้ตัดจบลงไปเพราะเครื่องได้เตือนว่าเข้าใกล้จุดวิกฤตของก้านสมอง และทำการตัดระบบออกเพื่อป้องกันความเสียหายของก้านสมองของผู้ใช้งาน ซึ่งโดยปกติขีดจำกัดที่ไม่อันตรายของคนทั่วไปคือ 25 นาที ถ้าแข็งแรงขึ้นมาหน่อยก็ประมาณ 26-35 นาทีซึ่งก็ไม่มีใครเคยเกินมันแม้แต่คนเดียว
พิธีกร"ขอบคุณสำหรับความทรงจำของเธอนะนักเรียนชิสุ"
ชิสุ"ไม่เป็นไรคะ เรื่องแค่นี้เอง"
แล้วชิสุก็เดินกลับไปนั่งที่ของตัวเอง
พิธีกร"แบตเตอร์รี่เหลืออีกแค่ 40 นาทีแล้วและเราจะพักครึ่งแรกกันแล้วมีใครอาสาจะออกมาปิดงานรอบเช้านี้ไหม!?"
"""""………"""""
ทันใดนั้นทั้งห้องก็เงียบและมองไปคาเรร่าที่กำลังหลับแบบสบายใจ
"อยากรู้จังเลยว่าตัวคนสอนจะเก่งขนาดไหน"
"อืมๆ พวกเราก็อยากรู้นะ"
ชิสุ"ไม่ได้นะ พี่คาเรร่ายังไม่อนุญาติเลยนะ"
จิซาโตะ"ไม่เอาน่า เดียวพวกเราอนุญาติเอง ไปกันเลยยกเธอไปได้เลย"
"รุ่นพี่คุรุโกะฝากด้วยนะ"
คุรุโกะ"อ่า ก็ได้ฉันยกไปให้ก็แล้วกัน"
ชิสุ"เดียวสิ มันไม่ผิดกฎหมายหรอ?"
"ไม่หรอก ใครๆก็อยากให้ความทรงจำของคาเรร่าอยู่แล้วน่า"
[เห้ยๆ เดียวก็โดนกฎหมายมนุษยชนเล่นเอาหรอก]
[โหๆๆ พวกเราอยากดูๆ นั้นแหละๆ!]
[ณ เวลานี้ไม่ใครสนใจสิ่งนั้นหรอกมั้ง]
แล้วคาเรร่าก็ถูกแบกลงมาที่หน้าเวทีและโดนจับยัดเข้าเครื่องอ่านความทรงจำทันที ซึ่งก็ไม่ค่อยมีใครอยากห้ามเท่าไหร่ เพราะก็อยากดูเหมือนกันว่านักเรียนอันดับหนึ่งของโรงเรียนใช้ชีวิตยังไง... แต่สิ่งที่พวกเขาจะได้กลับไม่ใชาสิ่งที่พวกเขาตามหาแต่กลับเป็นสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการต่างหาก....
[TBC]
ภาพได้เริ่มฉายหลังจากที่คาเรร่าโดนจับยัดเข้าเครื่องไปได้ 30 วินาที
ซึ่งภาพก็ฉายให้เห็นถึงของเหวแห่งหนึ่งที่ข้างล่างมีชายหาดอันกว้างใหญ่ที่มองไปซ้ายขวามันก็สุดลูกหูลูกตา และน้ำทะเลสีครามสดใส พร้อมกับคลื่นเล็กๆที่ซัดเข้าฝั่งเรื่อยๆ และภาพก็ได้หมุนไปรอบๆก็พบว่าไม่มีต้นไม้ใหญ่หรือพุ่มไม้อะไรอยู่เลยแต่กลับมีเงาที่ทำให้ความรู้สึกร่มรื่นแบบแปลกๆ และในวิดีโอเธอก็ได้ใส่เสื้อที่ใส่เป็นประจำ
และภาพของน้ำทะเลมันก็ตัดกลับ
"สวยจังเลยแฮะ ชักอยากจะไปทะเลซ่ะแล้วสิ"
"ที่ไหนอ่ะ อยากไปด้วย"
[จริงที่ไหนอ่ะ มีใครรู้บางใหม่?]
[ไม่อะ หาดที่ไหนก็เหมือนๆกันนั้นแหละ]
และคำบรรยายก็ได้เริ่มเขียนขึ้นมากลางจอ
- - - ชายหาดที่เงียบเหงา - - -
"ชายหาดที่เงียบเหงา? ก็จริงแฮะไม่มีใครอยู่เลยนี่เนอะ"
"แต่มันไม่มีขยะเลยสักชิ้นเดียวเลยแฮะ เป็นหาดลับที่คาเรร่าไปเจอรึป่าว?"
[ก็จริงอย่างที่สองคนนั้นพูดล่ะนะ]
[หาดนี่มันสะอาดมากเลยนะ แต่ว่าคิดไปคิดมาไม่ตอนนี้อยากไปเท่าเลยแฮะ หาดแต่ละหาดก็มีแต่ขยะ]
ตัดกลับไปที่ความทรงจำ หลังจากที่ในวิดีโอคาเรร่าได้มองทะเลมาสักพัก คาเรร่าก็ลุกขึ้นยืนเนื่องจากได้ยินเสียงเรียก
เวลด้า"นี่คาเรร่า มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะ?"
คาเรร่า"ไม่มีอะไรหรอก แค่มานั่งเฉยๆน่ะเวลด้า"
เมื่อคาเรร่าหันไปหาก็พบกับชายที่มีใบหน้าอันหล่อเหลา และมีความสูงประมาณ 180 เซนติเมตรผมสีน้ำเงินออกไปทางม่วงและสวมเสื้อสีดำเปิดไหล แต่ก็มีผ้าคลุมสีขาวมาสวมปิดเอาไว้ และก็มีดวงตาอันเป็นเอกลักษณ์สุดๆอย่างดวงตาสีทองอำพันและรูม่านตาที่เล็กเรียวยาวราวกับสัตว์ป่า
"เจ้าหน้าหล่อนั้นใครน่ะ?"
"ไม่รู่สิแฟนของเธอป่าว?"
"กรี้ดด! หล่อสุดๆไปเลยค่า!"
"อยากได้อ่ะ! แต่งค่ะ!"
[ไอหน้าหล่อนี้ใคร? แต่งตัวก็ดูแปลกๆ]
[ฉันไม่สนแล้ว ฉันขอแต่งค่ะ!]
[ของเธอที่ไหนของฉันต่างหากย่ะ!]
[จะว่าไปใครล่ะนั้นน่ะ? ดาราหน้าใหม่ป่าว? หรือว่าลูกคนรวย?]
ตัดกลับมาที่วิดีโอ
เวลด้า"ขอฉันนั่งด้วยคนได้ไหม?"
คาเรร่า"แล้วแต่เลยจะนั่งก็นั่งไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้ว"*
เวลด้า"ดวงอาทิตย์ยามเย็นก็สวยดีว่าไหม?"
คาเรร่า"มันก็ปกตินิไม่เห็นมีอะไรพิเศษสักหน่อยดวงอาทิยต์ยังไงๆก็เป็นดวงอาทิตย์อยู่วันยังค่ำ"
เวลด้า"เธอควรมีอารมณ์อะไรดีๆแบบคนอื่นเขาบางก็ได้นะ"
คาเรร่า"หืม..."
เวลด้า"...เอ่อ ลืมๆสิ่งที่ฉันพูดไปเถอะ"
หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันอีกทำให้เครื่องจึงเลือกที่จะเร่งเวลาไป 1 ชั่วโมง ซึ่งคาเรร่ากับเวลด้าก็นั่งรอบกองไฟต่อแต่ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรพูดกันอยู่ดี สุดท้ายทั้งคู่ก็นอนขึ้นฟ้าดูดาวไปซึ่งบนฟ้านั้นเต็มไปด้วยทะเลดวงดาว ซึ่งการที่จะเห็นภาพแบบนี้ในเมืองนั้นมันเป็นไปไม่ได้
จิซาโตะ"นิสัยเหมือนไม่ใช่คาเรร่าที่เรารู้จักเลยแฮะ? ปกติเป็นคนร่าเริงนี่น่า"
"จริงด้วย! ปกติเธอไม่ใช่คนเงียบแบบนี้นี่น่า! ไม่ปกติซ่ะแล้วสิ"
คุรุโกะ"อ่า แต่ฉันว่านะที่แน่ๆทะเลดาวสวยจริง!"
"อันนี้เห็นด้วยสวยจริงบอกต่อเลย"
[ฉันว่าฉันได้ที่จะไปเที่ยวกับแฟนแล้วแหละ]
[นั้นสิถ้ามีดาวตกด้วยน่าจะสวยกว่านี้อีกนะ]
ในวิด๊โอเช้าวันต่อมาคาเรร่าก็ได้ตื่นขึ้นมา ก่อนจะหยิบหาฬิกาทรายที่มาจากไหนก็ไม่รู้แต่ก็ไม่มีใครสังเกตุมันเลย และทรายกำลังไหลลงมาอย่างช้าๆ แต่เวลามันก็ใกล้จะหมดลงแล้ว
คาเรร่า"...เวลาพักใกล้หมดแล้วสิ"
เวลด้า"จริงสิหลังจากที่ทำงานของเธอเสร็จก็กลับมาที่นี่หน่อยก็แล้วกันฉันมีเรื่องจะบอกนะ"
คาเรร่า"...เข้าใจแล้วๆ"
แล้วคาเรร่าก็ลุกขึ้นพร้อมกัยหมุนด้านนาฬิกาทราย ก่อนจะวางมันไว้ที่เดิม และบิดขี้เกียจเล็กน้อย ก่อนจะทำหน้าจริงจังแล้วหันหลังเดินออกไปซึ่งระหว่างเดินก็โบกมือลาไปด้วย
"ใช่เรื่องที่จะขอเปนแฟนรึป่าวนะ?"
"อะไรกันเพิ่งโผล่มาไม่นานเองนะ"
"อะไรกันจะจบแล้วหรือป่าวเนี่ย?"
[งานอะไรล่ะนั้นน่ะ การบ้านรึป่าว?]
หลังจากที่คาเรร่าเดินออกมาสักพักบรรยากาศก็เริ่มเปลี่ยนจากสดใสพร้อมกับเสียงทะเลพัดเข้าฝั่งยามเช้า ก็เป็นเริ่มเปลี่ยนเป็นความเงียบ และความวังเวงทีล่ะเล็กทีล่ะน้อย
"บรรยากาศวังเวงแปลกๆ"
"ทำไมอยู่ๆก็หน้ากลัวขึ้น เมื่อกี้ก็ยังสงบสุขอยู่เลยไม่ใช่หรอ?"
แต่ทันใดนั้นภาพก็ได้มืดลงไป และค่อยๆสว่างขึ้นมาราวกับการกระพริบตา แต่ว่าสิ่งที่ไม่เหมือนเดิมก็คือสถานที่คาเรร่าอยู่ในตอนนี้ท้องฟ้าได้มีสีแดงเลือด พร้อมกับก้องเมฆที่เป็นกลุ่มควันสีดำทมิฬ และไม่มีดวงอาทิตย์แต่กลับมีดวงจันทร์สีเลือดค่อยส่องสว่างเป็นสิ่งเดียวที่ให้แสงสว่างเหนือท้องฟ้า ซึ่งวิดีโอก็ได้ตัดมาที่หน้าของคาเรร่าที่กำลังยิ้มแบบคนที่ยิ้มตื่นเต้น
[เกิดอะไรขึ้นที่นี่ที่ไหน โคตรน่ากลัวเลย!]
[ไม่ใช่จินตนาการนะ]
"ตรวจสอบด่วนเลย!"
"ไม่พบความผิดปกติแม้แต่นิดเดียวครับ! ไม่ว่าจะเป็นอัตราคลื่นสมองก็ปกติแถมก้านสมองยังแข็งแรงสุดๆด้วย!"
"งั้นความทรงจำนี่เกิดขึ้นเมื่อไหร่ล่ะ!?"
"เอ่อ- !!?! อ่ะๆ ๆ---..."
"เท่าไหร่บอกมา!"
"ระ-ราว หะ-หนึ่งพันล้าน...ปีก่อนครับ"
*.......
คาเรร่า"ไอพวกบ้า!!! พร้อมตายห่ากันอีกสักรอบรึยัง!!!"
เมื่อคาเรร่าตะโกนออกไปไม่นาน ก็มีเสียงตอบรับกลับมาเป็นเสียงคำรามอันยาวนาน และก็มีเสียงอีกหลายตัวคำรามเข้ามาตาม ก่อนที่ภูเขาสุดขอบฟ้าจะแหวกออกเป็นวงกลม และก็มีลำแสงสีดำทมิฬพุ่งเข้ามา
*วืดดด! ฟู่มมม!!!
ซึ่งระหว่างทางที่แสงนั้นพุ่งเข้ามารอบๆก็ระเหยกลายเป็นไอทันที แต่ก่อนที่จะถึงคาเรร่าคาเรร่าก็ชูมือออกไปข้างหน้า นั้นทำให้แสงนั้นพุ่งเข้ามาหยุดอยู่ที่มือของคาเรร่า และคาเรร่าก็เริ่มดูดพลังงานทั้งหมดเข้ามาทันที เมื่อดูดจนกลายเป็นลูกกลมๆสีดำทมิฬขนาดเท่าฝ่ามือแล้วคาเรร่าก็ทำการโยนมันกลับไปคืนทันที
*ตู้มมมมมม!!!
แรงระเบิดที่มีขนาดเท่าระเบิดนิวเคลียร์ไฮโดรเจน 10 ตันก็ได้เกิดขึ้นด้านหน้า
คาเรร่า"ไม่คิดจะเปลี่ยนมุขหน่อยรึไง?"
พูดจบคาเรร่าก็พุ่งออกไปข้างหน้าด้วยความเร็วในวิดีโอเท่ากับวาร์ป ส่วนพื้นที่เคยเหยียบอยู่ก็ได้แตกกลายเป็นรูปใยแมงมุมทันที
*ปัง!!!!
ภาพด้านหน้าของคาเรร่าที่กำลังลอยอยู่บนฟ้านั้นก็คือฝูงปีศาจที่แต่ล่ะตัวมีใบหน้าที่บิดเบี้ยวจนหน้ากลัว บางตัวรูปร่างไม่เหมือนสิ่งมีชีวิต บางตัวเหลือแต่เศษเนื้อหุ้มกระดูก บางตัวมีลักษณะอุบาตตา
"ไอเxี้ย เห็นแล้วจะอ้วก...อ็อค!"
"พวกนั้นมันตัวบบ้าอะไรว่ะนะ!"
"กรี้ด! น่ากลัวสุดๆ!"
ชิสุ"พ-พี่ค่ะ?"
[อยากจะอ้วก!]
[นั้นยังมีชีวิตอีกหรอว่ะนะ!]
ตัดไปที่ห้องประธานาธิปดี
"ท่านค่ะ?"
"รอดูไปก่อน..."
เมื่อคาเรร่ามองลงไปข้างล่างได้สักพักนึง คาเรร่าก็หลับตาก่อนที่เหนือหัวของคาเรร่าจะมีบอลสีขาวอันศักดิ์สิทธิ์ ยิงลงมาใส่พวกที่อยู่ข่างล่างและตัวของคาเรร่าเองก็อยู่กลางลำแสงนั้น พอลำแสงนั้นค่อยๆจางหายไป คาเรร่าก็กระโดดลงไปข้างล่างจากความสูงกว่า 500 เมตร
และพุ่งเข้าไปกระชากอวัยวะต่างๆของพวกมันอย่างสนุกสนาน และสนามรบก็เต็มไปด้วยเสียงโหยห่วนอันหน้าขนลุก และเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของคาเรร่า
"ไอทรยศเผ่าพันธุ์ไปตายซ่ะ!- อ้ากกก!"
"ดินแดนความมืดและพื้นโลกต้อวงกลับมารวมกันเป็นหนึ่งอีกครั้ง! ว้ากกก!"
คาเรร่า"ทำแบบนั้นก็หมดสนุกกันไปน่ะสิ!"
"ทำไมแกต้องมาหยุดพวกเราด้วย!"
* "เป็นราชาปีศาจแท้ๆทำไมถึงใช้เวทย์ศํกดิ์สิทธิกัน! ไอราชาปีศาจจอมปลอมเอ้ย!"*
คาเรร่า"พวกอ่อนแอก็อย่างพวกแกก็ควรอย่างอ่อนแอข้างล่างนั้นไปนั้นแหละดีแล้วไอกระจอก! ฮ่าๆๆๆๆ! มาร่ายรำไปจนตายเถอะ!"
คาเรร่าได้พูดออกมาด้วยความสุขระหว่างที่ไล่ฉีกร่างพวกปีศาจตั้งแต่ระดับต่ำไปจนถึงระดับสูงอย่างง่ายดาย โดยที่แทบไม่ต้องออกแรง ซึ่งมือของคาเรร่านั้นได้เคลือบเวทย์ศักดิ์สิทธิที่เผ่าปีศาจแพ้ทาง ก่อนจะจบลงด้วยเวทย์แรงโน้มถ่วงปั่นป่วนระบบดวงดาวจนร่างของพวกปีศาจที่อยู่ข้างล่างโดนแรงบีบอัดจากทุกทางพร้อมๆกันจนร่างแหลก ส่วนเลือดของพวกมันก็กระเด็นไปมาจนกลายเป็นแอ่งน้ำสีดำทันที
[TBC]
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!