NovelToon NovelToon

ฤดูรัก

ตอนเดียวจบ

...ฤดูรัก...

ณ ตอนนี้ฉันอยู่หน้าห้องทุกสายตาจับจ้องมาที่ฉัน แอบหวั่นกับสายตาของทุกคน

'' สวัสดีเราต้นข้าวฝากตัวด้วยนะทุกคน '' สิ้นคำพูดฉันฉีกยิ้มให้กับเพื่อนๆ ในห้อง ด้วยเหตุทางบ้านฉันจึงต้องย้ายโรงเรียน การมาเป็นเด็กใหม่ก็แอบรู้สึกเกร็งๆ กลัวไม่มีเพื่อนจังแต่คงไม่ต้องกลัวเรื่องนี้แล้วมั้ง

               " เฮ้ยแก / นี่ย้ายมาจากไหนหรอ / แกสวยจัง " เพื่อนๆ ต่างพากันถามคำถามฉันพร้อมกันจนไม่รู้แล้วว่ากำลังใช้ภาษาไทยอยู่ เสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ จนครูเอ่ยปรามให้เงียบ

'' เอาละๆ พอเลย ต้นขาวจ๊ะหาที่นั่งจากที่ว่างได้เลยนะ " ฉันมองไปรอบๆ ห้องนี้จะนั่งเป็นแบบโต๊ะคู่มองไปที่ว่างแต่ละที่ก็มีคนบอกว่ามีคนนั่งแล้วแค่ไม่มาโรงเรียนจนมองเห็นที่นั่งสุดท้าย ฉันเดินไปอยู่ตรงหน้าโต๊ะอย่างคิดมากว่านี่ที่สุดท้ายแล้วถ้าไม่มีที่นั่งแล้วจะนั่งที่ไหนบนพื้นเหรอครูจะสอนนักเรียนที่นั่งพื้นมั้ยนะ อ่าฉันว่าฉันเลิกเพ้อเจ้อก่อนดีกว่า กลับมาที่ปัจจุบัน ใบหน้าเฉยชาของเขาจัดว่าหล่อทีเดียวราวกับว่าเป็นคนจีน ตาชั้นเดียว โดยรวมแล้วเขาตัวค่อนข้างสูง ตอนนี้เขากำลังก้มเล่นมือถืออยู่ไม่ได้สนใจหรือรู้ถึงการมีอยู่ของฉัน สีหน้าของผู้ชายคนนี้เรียบนิ่งไม่อาจรู้เลยว่าเขาคิดอะไรนิ่งซะฉันประมาทไม่กล้าเอ่ยพูดกับผู้ชายคนนี้ ฉันถอนหายใจ เอาหน่ามันไม่มีอะไรแย่หรอกเขาก็แค่หน้านิ่งอย่าคิดมาก ฉันให้กำลังใจตัวเอง หายใจเข้าลึกลึกกกแล้วพูด

'' เอ่อ..คือ'' เขาเงยหน้าขึ้นมาสบตาฉัน เขาขมวดคิ้วทำหน้าไม่พอใจที่โดนขัด ทำเอาฉันเลิกลั่กเลย '' ข..ขอโทษนะตรงนี้มีคนนั่งมั้ยอะ เราขอนั่งด้วยได้มั้ย ''

'' ไม่ '' เขาตอบอย่างรวดเร็ว

'' เอ้า แบบนี้ก็ไม่มีที่ว่างแล้วนะสิ '' นี่ฉันจะต้องนั่งพื้นจริงๆ เหรอเนี่ยยย

'' หมายถึงไม่ให้นั่ง '' พูดจบก็เอากระเป๋าวางที่เก้าอี้กันไม่ให้ฉันนั่ง ซึ่งการกระทำของเขาอยู่ในสายตาของทุกคนในห้อง เเล้วทุกคนต่างก็ว่าไม่สิต้องเรียกด่าเลยละ และเสียงด่าก็มาจากหญิงสาวโต๊ะข้างหน้าด้วยเช่นกัน เธอเบี่ยงตัวหันมาต่อว่า ซึ่งทำให้เห็นหน้าตาของเธอว่าจิ้มลิ้มมากแค่ไหน

" ไอคีย์มึงจะแกล้งเด็กใหม่เหรอหะ! " เธอตะหวาดใส่คีย์

" พวกมึงเห่ออะ "

" เออ!! " ทุกคนในห้องพร้อมเสียงกัน

งั้นฉันก็ยังไม่มีที่นั่งอะดิ ทำไงดีเนี่ยย ฉันยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไม่รู้จะไปต่อกับเหตุการณ์นี้ยัง

" คีย์ให้เพื่อนนั่งเลยนะ " เธอพูดไม่รอคำตอบหยิบกระเป๋าที่กันไม่ให้ฉันนั่งออกมาวางบนโต๊ะคีย์

" ไอพราว!อะไรมึงเนี่ย " คีย์พูดอย่างไม่พอใจ

" แกนั่งได้เลย "

" มึงแม่งวุ! ไม่สนุกเลย " เขาพูดคำหลังเเผ่วเบา

" นั่งสิหรือต้องให้อันเชิญมานั่ง "

" อ..อ๋ออืมขอบคุณนะ " ฉันนั่งและขอบคุณน้ำใจเขาที่ให้นั่งแต่เหมือนจะไม่ได้สนใจในคำพูดของฉัน

" เด็กๆ พอ จบโฮมรูมแค่นี้ค่ะไปเรียนคาบแรกได้เลย " อาจารณ์เอ่ยปรามเด็กๆ แล้วบอกให้ไปเรียนคาบแรก

12:00 น.

ณ โรงอาหาร

ไม่รู้ทำไมฉันถึงได้มานั่งกินข้าวกับพราวและคีย์ได้ อาจจะเพราะคาบก่อนกินข้าวครูให้ทำงานกลุ่มแล้วพราวดึงฉันเข้ากลุ่มละมั้ง

ขณะที่พวกเรานั่งกินข้าวมีคนเดินผ่านไปผ่านมามากมาย จนพราวได้เอ่ยเรียกชื่อใครบางคน

" เอ้าพี่โซ่หวัดดี " พราวเรียกชื่อเเละโบกมือทัก

ฉันหันไปมองว่าพราวเรียกใคร เขาเดินเข้ามาใกล้โต๊ะที่พวกเรานั่งและหยุดเดินเมื่อถึงโต๊ะ การที่เขาเข้ามาใกล้ทำให้เห็นอะไรได้ชัดเจน สิ่งแรกที่เห็นคือเขาเป็นผู้ชายรูปร่างสูง ใบหน้าคมเรียวตาสองชั้นในดวงตานั้นมีสีน้ำผึ้งเป็นประกาย เขามีจมูกที่โด่งตรงสันจมูกโค้งลงเล็กน้อยให้บรรจบกับปลายจมูก สะพายกระเป๋านักเรียนข้างเดียว มือขวาถือถ้วยก๋วยเตี๋ยว

" ว่าไงพราวมีอะไรรึเปล่า "ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ว่าฉันมองอยู่เลยหันมามองที่ฉันแล้วยิ้มให้

" พี่มีที่นั่งยัง ถ้ายังไม่มีมานั่งกับพราวสิ " พราวชวนเขานั่งด้วย

" ยังเลยอะ " เขาตอบ

" งั้นแปลว่าพี่จะนั่งด้วยกัน " พราวด่วนสรุปเป็นการบังคับอีกในนึงว่าต้องนั่ง

" ได้ๆ "

เขาเดินมานั่ง ตอนนี้ตำแหน่งที่นั่งคือพราวกับคีย์นั่งฝั่งเดี๋ยวกัน ส่วนพี่ที่ชื่ออะไรสักอย่างซอซอนั่งข้างฉัน รู้สึกเกร็งๆ แหะ แต่ดูเหมือนพราวจะพูดถูกคอกับพี่เขาเห็นทั้งสองคนคุยกันอย่างสนุก จนสักพักนึงเขาหันมาถามกับฉัน

'' น้องต้นข้าวใช่รึเปล่าครับ " ทำไมเขาถึงรู้ชื่อฉันได้ละ

" คะ..ค่ะ " ฉันทำหน้างงใส่พี่เขาจนเขาขำ

" 5555 คือพี่รู้จักเราเพราะว่าเพื่อนในห้องของเราน่ะพูดถึงเราจนคนครึ่งโรงเรียนรู้จักชื่อเราแล้ว "

" จริงดิ!! " คีย์พูดด้วยรีเอ็คตกใจปลอมๆ เขาดูไม่แปลกใจหรือไม่สนใจดีนะ

" ปลอมอีสัสคีย์ " ฉันไม่ได้ห้ามพราวที่ด่าคีย์เพราะฉันก็รู้สึกว่ามันคือเรื่องจริง คีย์ที่โดนด่ากลับไม่สะทบสะท้านอะไรเลย ขนาดโดนด่าคีย์ทำเพียงแค่หยักไหล่และทำหน้านิ่งๆ ฉบับของคีย์ แล้วการสนทนาต่างๆ ก็เป็นไปเรื่อยๆ จนฉันจำชื่อพี่โซ่ได้และในขณะที่ทุกคนพูดคุยกันนั้น

" ไอคีย์กินข้าวเสร็จยังไปเตะบอลกัน " อยู่ๆ ก็มีผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาแล้วพูดคุยกับพี่โซ่อย่างสนิทสนม

" เสร็จแล้วไปดิ " พี่โซ่พูดและตอบ

" พี่เจตสวัสดีค่ะ " พราวพูด

" ไงยัยพราวไม่ได้เจอนานเลย " พี่เจตตอบกลับและเดินเข้ามาข้างหลังพราวแล้วใช้มือข้างซ้ายยีหัวพราว

" โอ้ย! หยุดเลยพี่เจตผมเสียทรงหมดเลย " พราวร้องโวยวายต่อว่าพี่เจตอย่างหัวเสีย

" เออกูได้ยินว่ามึงแกล้งเด็กใหม่เหรอ คนนี้ใช่เด็กใหม่คนนั้นปะ " หลังจากที่แกล้งพราวเสร็จพี่เจตก็หันข้างมาคุยกับคีย์ที่เล่นมือถืออยู่ ขณะที่พูดกับคีย์พี่เจตใช้นิ้วชี้มาที่ฉัน

" อืม " เจ้าตัวตอบเพียงแค่นั้น

" ดีพี่เจตนะ เราละ " พี่เจตหันมาพูดกับฉันและแนะนำตัว

" ต้นข้าวค่ะ " ฉันตอบ พร้อมกับยิ้มให้

" ยินดีที่ได้รู้จักนะ " พี่เจตตอบ

" ตกลงจะไปเตะบอลกันมั้ย ช่วยอย่ามาคุยข้ามหัวผม " คีย์พูดอย่างหงุดหงิดใจ

" ปะไปๆ " ทั้งคู่เดินออกไป

หลังจากพี่เจตกับพี่โซ่ออกไป

" กรี้ดๆๆ พี่โซ่หล่อเนอะแก " พราวพูดออกหน้าออกตาอย่างเห็นได้ชัด

" งั้นๆ " คีย์พูดขัดอารมณ์พราว

" ไอคีย์มึงนี่มัน! " คีย์ทำปากล้อเรียนพราว ฉันหัวเราะกับความหน้ามึนของคีย์ 2คนนี่อยู่ด้วยกันแล้วน่ารักดีจัง

" หัวเราะอะไร!! " ทั้งสองพูดพร้อมกัน ฉันพยายามกลั้นหัวเราะโดยการเม้มปากเข้าหากันจนมันน่าจะไม่น่ามองแต่ยังมีเสียงหัวเราะหลุดรอดออกมาอยู่ ทั้งสองคนที่เห็นแบบนั้นเลยหัวเราะฉันหยิบกระจกในกระเป๋าตัวเองออกมาดูหน้าตัวเองฉันถึงกับหัวเราะด้วยอีกคนเพราะรับไม่ไหวหน้าตัวเองเหมือนกัน

18:37

ครื้นนน

ฉันขึ้นบนรถเมย์มองหาที่ว่าง และฉันก็ไปเจอที่ว่างสุดท้าย ฉันเดินไปนั่งที่ว่างนั้น แต่ฉันก็หันมองเจอกับคุณยายที่ขึ้นมาที่หลัง

" คุณยายค่ะเชิญนั่งตรงนี้เถอะค่ะ " ฉันเรียกคุณยายและขอให้ยายนั่ง

" โอ้ว ไม่เป็นไรจ้ะหนูนั่งเถอะ " คุณยายตอบ

" คุณยายนั่งเถอะค่ะรถเมย์โคลงเคลงเดี๋ยวจะล้มเอา " ฉันพูดกล่อมจนคุณยอมแพ้และมานั่งที่ฉันแทนส่วนฉันยืนจับราว ขณะที่รถเมย์กำลังเคลื่อนไปข้างหน้า

" อ้าวน้องข้าว! " ฉันหันตามเสียงเรียก เขากวักมือเรียก ฉันเดินเขาไปหาเเต่ก็ไม่ได้ใกล้เขามาก

" พี่โซ่!? เรียกข้าวรึป่าวคะ? " ฉันถาม

" ใช่มานั่งนี่สิ "

" เอ่อ..คือ "

" อย่าปฎิเสธเลยวันนี้ข้าวมาเรียนวันแรกต้องเดินขึ้นๆ ลงต้องปวดขาแน่มานั่งเถอะหน่า " ไม่มีอะไรจะเถียงเลยฉันปวดขามากจริงๆ นั้นแหละ

" โอเคค่ะ " เมื่อพี่โซ่ได้คำตอบก็กำลังลุก ขึ้นยืนฉันเองก็เดินเข้าไปใกล้ แต่รถที่โคลงเคลงมากจนทำให้ฉันจะล้มหงายหลังโชคดีที่พี่โซ่ดึงข้อมือฉันไว้ก่อนแต่เหมือนจะดึงแรงไปหน่อยเลยทำให้ตัวฉันล้มลงไปหาพี่โซ่ หน้าเราใกล้กันมาก เราจ้องตากันอยู่สักพัก สติฉันหลุดรอยไปไหนเนี้ยยัยข้าวตั้งสติสิ!

" ข..ขอโทษค่ะ " ฉันลุกขึ้นมาตั้งตัว

" ไม่เป็นไรๆ นั่งเลยๆ " พี่โซ่ลุกแล้วให้ฉันนั่ง

3 อาทิตย์ต่อมา

" ทุกคนอาทิตย์หน้าเรามีนัดพรีเซ้นกันนะอย่าลืมไปหาข้อมูลมาด้วยละ แล้วก็อย่าค้นหาใน Google นะพวกเธอควรค้นหาในหนังสือเพราะมันจะทำให้พวกเธอจำได้ดี และ ข้อมูลถูกต้องกว่าการเสิร์ชหา" อาจารย์ประวัติศาสตร์พูดจบก็ออกจากห้องไป พวกเราเองก็เก็บของไปเรียนวิชาต่อไป

" นี่พราวห้องสมุดโรงเรียนอยู่ตรงไหนเหรอตอนเลิกเรียนเราจะไปหาข้อมูลงานประวัติศาสตร์นะ '' ระหว่างเดินฉันถามพราว

" จะทำวันนี้เลยเหรอนี่เพิ่งวันแรกมีเวลาตั้ง1อาทิตย์ พรีเซ้นตั้งจันทร์หน้า อีกอย่างเรากับไอคีย์คงอยู่ทำด้วยไม่ได้ทั้งอาทิตย์เลย กะจะทำเสาร์อาทิตย์อะ "

" คือเสาร์อาทิย์เรามีธุระน่ะอีกอย่างงานมันค่อนช้างใช้เวลานานด้วย แล้วทั้งสองทำไมถึงอยู่ด้วยไม่ได้เหรอมีธุระกันเหรอ? " ต้นประโยคฉันบอกเหตุผลของฉัน อีกประโยคฉันถาม

" ใช่คือพี่สาวคีย์เพิ่งคลอดลูก บ้านคีย์ทั้งอาทิตย์นี้ไม่มีคนอยู่เลยแล้วข้าวคิดดูคนอย่างไอคีย์จะไปเลี้ยงเด็กได้ยังไง บ้านเราติดกับบ้านมันพอดีแม่เราก็คอยช่วยดูแลทั้งแม่ทั้งลูก แต่จะให้แม่เราดูแลคนเดียวก็ไม่ได้แม่เราได้เหนื่อยตายชัก " พราวอธิบายละเอียดยิบ

" ไม่รีบเดินมารึไงเดี๋ยวก็เข้าสาย " คีย์พูดเตือนถึงเวลา

ณ เวลา 14:30

ฉันมาห้องตามทางที่พราวบอก หาที่นั่ง แล้วเดินไปหาหนังสือที่ต้องใช้ ฉันได้หนังสือมา2เล่ม และเงยหน้าเจออีกเล่มเเต่มันอยู่สูงฉันพยายามเขย่งเท้าแขนยืดตรงขึ้นสูงจนปลายนิ้วมือแตะสันหนังสือแต่แล้วก็มีมือใครคนนึงมาหยิบหนังสือ ฉันหันกลับมาก็เจอกลับใบหน้าของพี่โซ่ที่ใกล้กับฉันเหลือเกิน ฉันสบตาของพี่โซ่เอาอีกเเล้วเหมือนสติจะหลุดไปอีกแล้วยัยข้าวตั้งสติสิอย่าให้ความหล่อของพี่โซ่ทำเราสติหลุดสิ

" อ่ะ เราจะหยิบเล่มนี้ไม่ใช่เหรอ " พี่โซ่ยื่นหนังสือมาให้ฉัน ฉันยื่นมือไปรับแล้วเอ่ยขอบคุณ " ขอบคุณค่ะพี่โซ่ "

" แบกหนังสือเล่มหนาขนาดนี้ไม่หนักเหรอมาเดี๋ยวพี่ถือให้ " พี่โซ่ไม่ฟังคำตอบหยิบหนังสือที่อยู่ในมือและเล่มที่พี่โซ่เพิ่งยืนมาให้ไปถือเองหมดเลย " ที่นั่งข้าวอยู่ไหนอะพี่เอาไปว่างให้ "

" หนักละสิพี่โซ่ 55555 " ฉันหัวเราะการกระทำของเขาทั้งๆ ที่หนักแต่ก็ยังทำเป็นสุภาพบุรุษ

" อย่าขำสิ~ " พี่โซ่ทำหน้ามุ้ย ฉันเดินนำมายังที่นั่งของฉัน

" ข้าวจะเอาหนังสือเล่มหนาพวกนี้มาทำงานวิชาประวิติศาสตร์ใช่รึเปล่า " โซ่อ่านหน้าปกหนังสือ ส่วนประโยคหลังถาม

" ใช่ค่ะ รู้ได้ไงเนี้ย " ฉันถาม

" ปีที่แล้วพี่ก็ทำแบบเรานี้แหละ " พี่โซ่ตอบ

" อ๋ออย่างนี้นี่เอง "

" มีอะไรให้พี่ช่วยรึป่าว พี่ช่วยข้าวได้นะ "

" ได้ไงกัน ไม่ได้หรอกค่ะแบบนั้นเหมือนข้าวเอาเปรียบเพื่อนคนอื่น " ฉันตอบกลับอย่างจริงใจ

" พี่ไม่ได้บอกว่าจะเอางานพี่มาให้เราลอกสักหน่อย สิ่งที่พี่จะบอกก็คือพี่จะช่วยหาข้อมูลและถ้าข้าวยังบอกว่าจะเอาเปรียบเพื่อนอีกเรื่องนั้นมันไม่ใช่หรอกนะ ใช่ว่าคนอื่นจะไม่มีใครช่วยนิ หาข้อมูลคนเดียวมันนานนะ " อีกแล้วเถียงไม่ได้อีกแล้ว

" โอเค ก็ได้ค่ะ แต่พี่ช่วยข้าวพี่จะได้อะไรละค่ะ " ฉันถามคำถามที่เหมือนฉันจะรู้คำตอบอยู่แล้ว

" งั้นเอางี้หลังจบงานนี้เราก็เลี้ยงข้าวพี่เป็นการตอบแทนละกัน "

" จนกว่างานจะเสร็จเลยเหรอ " อย่านะ อย่าเลยนะ ฉันไม่อยากรบกวนพี่โซ่

" ใช่ อย่าปฎิเสธนะ ข้าวพูดเเล้วว่าจะให้ช่วย " พี่โซ่พูดอย่างรู้ทันทั้งที่เราเจอกันนับครั้งได้

" ก็.." ฉันถอนหายใจอย่างเหนื่อยที่จะเถียง

" งั้นเรามาเริ่มกันเลย " พี่โซ่พูดอย่าร่าเริง

" ค่ะ " ฉันตอบเมื่อไฟในการทำงานกำลังมา

5 วันที่ฉันมีพี่โซ่คอยช่วยงานทุกเย็นมันทำให้ตัวฉันกับพี่โซ่ได้ใกล้ชิดและทำความรู้จักกันเยอะขึ้น เรื่องของฉันกับพี่โซ่พราวกับคีย์ก็รู้ ฉันไม่คิดจะปิดบังเพื่อนอยู่แล้วพราวโอเคสุดๆ แต่คีย์ไม่โอเคสุดๆ เหมือนกัน คีย์ให้เหตุผลว่าไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับพี่โซ่ แต่เมื่อคีย์พูดถึงอะไรที่ไม่ดีกับพี่โซ่ พราวกับคีย์จะมีปากเสียงกันตลอด ส่วนตัวฉันนั้นไม่ได้อยู่ข้างใครแค่คอยแยกให้ทั้งคู่หยุดทะเลาะกันเท่านั้น เพราะตัวฉันเองคิดว่าพี่โซ่เป็นรุ่นพี่ที่ดี..แต่ไม่เหมาะจะครอบครอง ฉันคิดแบบนั้น

แต่เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกกับฉันตั้งแต่ที่พี่โซ่ช่วยงานในตอนนั้นฉันได้เจอและได้รับความช่วยเหลือจากพี่โซ่อยู่บ่อยครั้ง แต่ใช่ว่าฉันจะใสซื่อขนาดนั้นในวันนึงที่ข้างสนามบอลฉันได้เอ่ยปากถามออกไป ตอนนั้นมีเพียงฉันกับพี่โซ่นั่งคุยกัน2คนส่วนพราวคีย์เตะบอลกับพี่เจตอยู่

" พี่โซ่สิ่งที่พี่ทำอยู่มันหมายความว่าไงเหรอค่ะ..ช่วยบอกข้าวทีสิ "

" คือพี่ก็ไม่รู้จะสรรหาคำพูดแบบไหนมาพูดพี่ไม่รู้จะบอกความรู้สึกที่พี่มีต่อข้าวยังไงดีแต่ถ้าไม่บอกมันก็อัดแน่นอยู่ในอกพี่" ฉันเงียบฟังพี่โซ่พูดจนกว่าจะจบ

" ต้นข้าว พี่ชอบเรานะ "

" พี่พยายามเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสายตาข้าวทุกครั้งที่เจอ จะใช้คำว่าพี่จีบข้าวอยู่ก็ได้แต่พี่ก็กลัวข้าวไม่ให้จีบ " พี่โซ่รีบพูดจนพูดติดๆ ขัดๆ ดูลนลาน

" ทำไมถึงกลัวละค่ะ " ฉันถาม

" เพราะพี่มันประวัติไม่ดีข้าวคงจะรู้จากคำพูดคนอื่นหมดแล้ว และอาจจะเคยเห็นกับตาแต่พี่ปรับปรุงตัวได้นะพี่จะไม่ทำกับข้าวเหมือนกับคนอื่น " สิ่งที่พี่โซ่พูดหมายถึงความเจ้าชู้ของตัวเอง

              " ในเมื่อข้าวรู้แล้วให้พี่จีบได้มั้ย..อย่าตัดสินพี่จากปากคนอื่นเลยนะ " เสียงพี่โซ่เริ่มคลอ

" ถ้าพี่โซ่ทำอย่างที่พูดจริงๆ ก็ได้ค่ะ " ตัวฉันเองไม่ได้อยากตัดสินใครจากลมปากคนอื่นในเมื่อพี่โซ่บอกจะปรับปรุงตัวฉันก็อยากจะฉันเชื่อสิ่งที่พี่โซ่พูด ที่ฉันตอบตกลงเพราะฉันเองไม่ใช่ก้อนอิฐก้อนปูนหรือขอนไม้ที่จะไม่รู้สึกอะไรเลย

" จริงหรอข้าว! พูดจริงใช่มั้ย " พี่เขาทำหน้าดีใจมากซะจนฉันหลุดยิ้มออกมา

" ได้ๆ พี่จะพิสูจน์ให้เราเห็น รับรองว่าพี่จะไม่ทำให้ต้นข้าวเสียใจพี่จะทำให้ข้าวเป็นคนที่พิเศษที่สุดเลย "

เวลาผ่านไป

หลังจากนั้นพี่โซ่ก็พิสูจน์อย่างที่พูดไว้จริงๆ เขาจีบฉันหนักมากดูแลฉันเป็นอย่างดี ไม่ปล่อยให้ฉันขึ้นรถเมย์กลับบ้านด้วยยืนยันว่าจะไปส่งให้ได้เขาถึงกับขับมอเตอร์ไซค์มาโรงเรียนเพื่อมารับมาส่งฉัน แล้ววันที่เขาขอฉันเป็นแฟนก็มาถึง

" ข้าวเป็นแฟนกับพี่นะ " พี่โซ่ขอฉันเป็นแฟนกลางห้องประจำของฉัน ในห้องถูกล้อมไปด้วยเพื่อนๆ ในห้องบางคนหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายทำเอาฉันรู้สึกอายเลยทีเดียว

" แต่งเลยๆๆ " ทุกคนในห้องเชียยกเว้นคีย์

" แต่งอะไรเล่า! " ฉันทำหน้ามุ้ยใส่

" 555 โอ๊ะๆ พูดผิดเอ้าทุกคนตกลงๆ " พราวเป็นต้นเสียงให้ทุกคนพูดมาตามเว้นแต่คนเดียวที่ยืนอยู่ข้างพราวที่กำลังทำหน้าบึ้งตึง

" ค่ะ "

" อะไรนะพี่ไม่ได้ยินเลยจะแต่งเลยเหรอได้นะ " เขาแกล้งฉัน

" จะบ้าเหรอโถ่ ค่ะ ข้าวตกลงเป็นแฟนกับพี่โซ่ค่ะ!!! ชัดพอรึยัง " ฉันพูดออกมาดังๆ แต่ประโยคหลังจะเบามากเพราะรู้สึกเขินอาย

" เฮ้!! " ระหว่างที่ทุกคนตะโกนเฮฮ่ากันฉันหันมาสบตากับคีย์ ฉันรู้ว่าคีย์เป็นห่วงฉันยิ้มให้คีย์เพื่อบอกว่าฉันแน่ใจแล้วที่ตอบตกลงไป คีย์พยักหน้าแล้วหันหลังเดินออกจากห้อง

ความสัมพันธ์ของเราเป็นไปด้วยดีพี่โซ่ให้เกีรติและยังเป็นสุภาพบุรุษกับฉันมากอาจมีการกระทำที่ Skinship กันบ้างอย่าง กอด หอม หรือ แม้กระทั่งจูบ ทุกอย่างนี่พี่โซ่ทำมันออกมาอย่างอ่อนโยนและทะนุถนอมฉันมากและเสมอต้นเสมอปลาย

จนเวลาผ่านไป5เดือน

ซ่า ซ่า

เสียงฝนตกกระทบลงกับฟุตบาทฉันพราวคีย์ยืนรอจนฝนเริ่มเบาคีย์ก็ไปรีบวิ่งไปเอารถมอเตอร์ไซค์มาจากโรงรถของโรงเรียน คีย์เข็นรถเข้าใกล้ริมฟุตบาทเพราะหลังคามันยื่นออกมาเลยสามารถบังฝนได้อยู่นิดหน่อย และเหมือนพยายามให้ตัวเองไม่โดนฝนเพื่อไม่ให้เสื้อเปียก คีย์เข็นมอเตอร์ไซค์เข้ามาใกล้เรื่อยๆ

" แน่ใจใช่มั้ยข้าวว่าจะอยู่รอพี่โซ่คนเดียวได้ " พราวหันมากระซิบกับฉัน

" อื้ม เราอยู่ได้ " หลังฉันตอบคีย์ก็เข็นรถถึงพอดีตรงนี่มันมีพื้นที่บังฝนขนาดใหญ่เลยทำให้คีย์จอดรถได้

" เร็วๆ ดิพราว " คีย์เรียกให้พราวเร่งความเร็ว

" เออๆ ไปแล้วๆ!! " พราวตะโกนตอบ แล้วรีบสับเท้าไปหาคีย์และเหมือนทั้งสองจะทะเลาะกันอีกแล้ว

" โอ้ย!! มึงจะให้กูใส่ทำไมมึงเป็นคนขับนะคีย์ " ภาพที่เห็นคือคีย์พยายามยัดหมวกกันน็อตใส่หัวพราวแต่พราวไม่ยอมพยายามดันออก เป็นแบบนั้นอยู่ไม่กี่นาที ดูท่าฝนกำลังจะตกหนักกว่าเดิม คีย์ถอนหายใจเอาหมวกกันน็อตแขวนไว้ตรงกระจก

" เฮ้ย! มึงถอดเสื้อทำไมเนี้ยเป็นบ้าไรไอคีย์แล้วนี่เรายังในโรงเรียนจะมาถอดเสื้อเเบบนี้ไม่ได้ถึงมึงจะใส่เสื้อข้างในอีกทีก็ไม่ได้ " พราวตะโกนด่ากับเสียงฝน

" มึงหึก.. " พราวยังพูดไม่ทันจบ

" เงียบ " ซึ่งพราวก็เงียบจริงๆ คีย์เอาเสื้อนักเรียนมาคลุมหัวให้พราวเราตัวเองก็หันหลังหยิบหมวกกันน็อตมาใส่แล้วขึ้นสตาร์ทรถ พราวมองเสื้อตัวใหญ่ที่คลุมตัวของตัวเองอยู่

" พราวเหม่ออะไรขึ้นมาเร็ว " คีย์เรียกพราวให้สติกลับมา

" อ๋ออืม ไปแล้วนะข้าว " พราวขึ้นนั่งแล้วหันมาโบกมือลา

" กลับกันดีๆ นะ คีย์อย่าพาพราวล้มละ " คีย์ไม่ได้หันมามองแต่พยักหัวและขับรถออกไป

ฉันรอพี่โซ่อยู่นานจนตอนนี้ฝนกลับมาฝนหนักอีกแล้วสักพักพี่โซ่ไลน์มาบอกว่าครูปล่อยแล้วกำลังมา

ครื้นนน

เสียงรถมอเตอร์ไซค์

" ข้าวพี่มาแล้ว " พี่โซ่ขับมอเตอร์ไซค์มาหยุดตรงหน้าฉัน ระหว่างที่ฉันกำลังเดินเข้าไปหาเม็ดฝนก็ตกลงมาโดนผมและส่วนอื่นๆ ค่อนข้างเยอะพี่โซ่เลยรีบสวมหมวกกันน็อตให้ฉันก่อนบิดคันเร่งพี่โซ่เอ่ยพูด

" ฝนตกหนักเเบบนี้ไปคอนโดพี่ก่อนแล้วกันนะโอเคมั้ย "

" ได้ค่ะ ถ้าไปส่งข้าวเลยตอนฝนตกแบบนี้มันอันตรายไปคอนโดพี่โซ่แหละค่ะดีแล้ว "

ฉันไม่ได้ปฎิเสธเพราะมันอันตรายจริงๆ คอนโดพี่โซ่ใกล้กว่าด้วย แล้วมันไม่ใช่ครั้งแรกด้วยที่ฉันไปคอนโดพี่โซ่โดยปกติฉันก็ไปบ่อยอยู่แล้ว

ตี๊ดด

เสียงคีย์การ์ดปลดล็อคประตู พี่โซ่เปิดออกให้ฉันเข้าก่อนเหมือนอย่างทุกครั้ง

" เชิญครับ "

" ขอบคุณค่ะ "

" ข้าวเข้าไปอาบน้ำข้างในห้องนอนเถอะมันสะดวกกว่า เดี๋ยวพี่อาบข้างนอกเองส่วนพวกแปรงสีฟัรพี่มีอันที่ยังไม่ใช่อยู่ในลิ้นชักหน้าห้องน้ำนะ "

" พี่โซ่แต่ข้าวไม่มีเสื้อเปลี่ยนนะคะ "

" อ๋อเรื่องนั้นเดี๋ยวใส่เสื้อพี่ก็ได้ส่วนกางเกงพี่มีกางเกงขาสั้นที่ข้าวพอจะใส่ได้อยู่ เราไปอาบน้ำได้แล้วจะไม่สบายเอาเสื้อกับกางเกงเดี๋ยวพี่วางใว้หน้าห้องน้ำ " พี่โซ่พูดไปลูบผมฉันไป

" ค่ะ "

ฉันออกจากห้องน้ำก็เห็นพี่โซ่กำล้งนั่งอยู่ที่โซฟาหน้าทีวีพี่โซ่หันมากวักมือเรียกฉัน

" มานั่งนี่สิเดี๋ยวเป่าผมให้ " ฉันเดินไปนั่งข้างล่างโซฟาเพื่อที่จะให้พี่โซ่ใช้ไดร์ผมให้

ตื้ออออออ

" เป็นไงยังมีตรงไหนไม่แห้งอีกมั้ย "

" แห้งหมดแล้วค่ะ " ฉันหันไปส่งยิ้มให้พี่โซ่แต่ไม่รู้ทำไมหน้าของพี่โซ่ถึงมาอยู่ใกล้กันจนจมูกชนกันได้ สายตาดึงดูดกันและกันฉันไม่สามารถละออกจากดวงตานี้ได้เลย ทั้งบรรยากาศและอารมณ์พาไป ใบหน้าของเราทั้งคู่ขยับเข้าหากันจนริมฝีปากของเราประกบกัน ระหว่างที่จูบกันพี่โซ่ดึงฉันขึ้นไปนั่งบนตัก มือพี่โซ่เริ่มสอดเข้ามาในเสื้อฉัน ฉัรรีบจับไว้ทันที

" พี่โซ่จะทำอะไรค่ะ " ถึงแม้ฉันจะรู้คำตอบอยู่แล้วแต่ก็ยังถามอยู่ดี

" เราคบกันมานานแล้วนะข้าว พี่ขอได้มั้ยครับ "

" แต่พวกเรายังเรียนกันอยู่เลยไม่ใช่เหรอค่ะ มันจะดีเหรอ "

" ไม่เห็นจะมีตรงไหนไม่ดีนี่ นะครับ

ข้าวน้าาา " พี่โซ่ไม่ตอบคำถามฉัน แต่กลับใช่เสียงอ้อนจนทำฉันใจอ่อน

" ก็ได้ค่ะ.. " ฉันยอมก็เพราะว่ารัก

" ข้าวพี่ไม่มีถุงยางอะ ไม่ได้ซื้อไว้ไม่ใส่ได้มั้ยครับ "

" ค..ค่ะ " ด้วยอารมณ์ที่พาไปทำให้ฉันตอบไปอย่างไม่ได้ไตร่ตรองอะไรหลังจากครั้งนั้นพวกเราก็มีอะไรกันบ่อยมากจนวันนึงฉันรู้สึกถึงอะไรความผิดปกติของร่างกายตัวเองจึงไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจซึ่งผล

ออกมาคือ2ขีดเลยรีบมาหาพี่โซ่ที่คอนโดเพื่อเอาเรื่องนี้มาบอกพี่โซ่

" พี่โซ่ข้าวท้อง " พี่โซ่หันมามองแล้วทำหน้าตึงแต่แล้ว

" 555555เล่นอะไรเนี้ยข้าวทำพี่ช็อกไปพักนึงเลยนะเนี้ย "

" ข้าวไม่ได้ล้อเล่นนะค่ะพี่โซ่ " ฉันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง และหยิบที่ตรวจครรภ์ในกระเป๋าออกมายื่นให้พี่โซ่ดู พี่โซ่รับไปดูเเล้วเริ่มทำหน้าจริงจัง

" เป็นไปไม่ได้เราใส่ถุงยางตลอด ข้าวนั้นแหละไปมีอะไรกับใครมานอกจากพี่รึป่าว "

" จะไม่ใช่ได้ยังไงข้าวไม่เคยไปมีอะไรกับใครนอกจากพี่! พี่เป็นคนแรกของข้าวแล้วไอที่ว่าใส่ถุงยางตลอดนั้นก็ไม่ใช่ความจริงพี่ไม่เคยใส่!! "

               " ข้าวต่างหากที่เป็นคนอนุญาติเองไม่ใส่เหรอถ้าข้าวปฎิเสธพี่ตั้งแต่แรกพี่ก็ใส่ไปเเล้ว "

                " ก็เพราะข้าวรักพี่ไงข้าวถึงได้ยอม " น้ำตาเริ่มเอ่อล้น

                "พี่กำลังจะบอกว่าพี่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเด็กในท้องข้าวหรอคะพี่โซ่.."

                " ก็บอกว่าเด็กนี่ไม่ใช่ลูกกูไงวะ!! "

                " พี่โซ่..พี่พูดแบบนี้ได้ยังไงอะ พี่ชักจะหยาบคายและพูดไม่รู้เรื่องแล้วนะ!! " ฉันพูดพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลออกมา เหมือนสติพี่โซ่เริ่มกลับมาแล้ว

" ฟังนะข้าวใช่ว่าพี่จะไม่รับผิดชอบข้าวกับลูกนะ เอางี้เรากลับไปบอกคนที่บ้านก่อนพี่เองก็จะบอกบ้านพี่เหมือนกัน " มันควรจะเป็นแบบนี้แต่ฉันไม่รู้จะบอกที่บ้านยังไง

ฉันจำต้องออกมาจากคอนโดที่โซ่และทำตามที่พี่โซ่บอก ฉันกลับบ้านตัดสินใจบอกพ่อแม่ในสิ่งที่เกิดขึ้นพอฉันเล่าจบพ่อแม่ฉันกลับรับไม่ได้และต่อว่าดุด่าฉัน แม่เขย่าร่างฉันจากแรงอารมณ์ทั้งหมดอย่างแรง ฉันไม่มีอะไรจะเถียงหรือแก้ตัวเลย ซึ่งเมื่อผู้ใหญ่จากทางฝั่งพี่โซ่กับพ่อแม่ฉันได้รู้เรื่อง พวกท่านได้นัดกันที่ร้านแห่งหนึ่งพ่อแม่และฉันรออยู่ก่อนแล้วจนคุณแม่ของพี่โซ่เดินเข้ามาในร้าน เธอตรงมายังพวกเรา

" สวัสดีค่ะคุณแม่ " เธอรับไหว้

" ใครแม่เธอ "

" ข..ขอโทษค่ะ " เธอไม่ได้สนใจคำขอโทษจากฉัน แต่กลับหยิบเงินออกมาแล้วโยนลงบนโต๊ะ

" นี่เงินเอาไปทำแท้งซะแล้วอย่ามายุ่งกับโซ่อีก " แล้วเธอก็หันหลังเดินจะออกจากร้านไปแต่ฉันพูดยื้อเธอไว้ก่อน

" นี่คุณจะให้หนูไปเอาเด็กออกงั้นเหรอคะ!! "

" แล้วจะเก็บไว้ทำไมเก็บแกก็ไม่มีปัญญาเลี้ยงเด็กนี่ได้หรอก " เธอเดินออกจากร้านไปแล้ว

               " แม่เขาให้ข้าวเอาลูกอะแม่ " ฉันกระวนกระวายกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในใจอยากจะร้องไห้  ออกมาแต่ทำได้เพียงฝืนไว้

                " ฉันว่านี่แหละดีแล้วไปเอาออกเถอะแกจะได้มีอนาคต ยังท้องอ่อนอยู่ไปทำแท้งที่โรงพยาบาลเถอะนะ ไปตอนนี้เลยเดี๋ยวฉันพาไป " แม่พูดเสร็จจากนั้นดึงฉันไปที่รถทันที

ฉันไม่สามารถขัดขืนได้ พอถึงโรงพยาบาลทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากรู้อย่างเดียวคือฉันเจ็บและทรมานทั้งความรู้และร่างกาย ฉันไม่ได้มีโอกาสได้บอกลาลูกของฉันด้วยซ้ำ แม่เอาใบแพทย์การทำแท้งให้ทางโรงเรียนเพื่อให้ฉันได้พักฟื้นร่างกาย1อาทิตย์ ฉันมาโรงเรียนมีแต่เสียงซุบซิบนินทาแม้เพื่อนในห้องก็ไม่เว้นถึงพราวจะคอยพูดปลอบใจฉันแต่ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นเลย ส่วนคีย์หายไปไหนไม่รู้เจออีกทีก็มีคาบเลือดที่มือของคีย์ซึ่งเดาไม่ยากเลยว่าคีย์ไปทำอะไรมาฉันรู้ว่าคีย์กับพราวเป็นห่วงฉันมากแค่ไหนแต่ฉันฝืนยิ้มให้กับความเป็นห่วงนั้นไม่ไหว ความอยากอาหารลดลงความรู้สึกต่างๆ ด้วยเช่นกัน ส่วนโรงเรียนไปบ้างไม่ไปบ้างคำบอกเลิกที่ไม่มีคำว่าเลิกโดยการไม่มาหากันเลยตั้งแต่ที่คุยกันครั้งล่าสุดนั้นทำเอาฉันรู้สึกแย่อยู่พอสมควร ไม่คิดว่าพี่โซ่จะทำแบบนี้กับฉัน ไหนจะคำพูดที่เคยบอกฉัน มันล้วนแต่เป็นคำหลอกลวง ฉันเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องปิดผ้าม้านปิดไฟไมให้ตัวเองเห็นเดือนเห็นตะวัน วันๆ เอาแต่คิดเรื่องในอดีตหันมองไปทั่วห้องและสายตาไปสดุดกับคัดเตอร์อยู่ๆ ก็มีความคิดที่อยากจะพักผ่อนแล้วสิ เหมือนกับภาพตัดยังไงไม่รู้จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าไปหยิบคัดเตอร์มาตอนไหน และกรีดแขนตัวเองไปตอนไหน เลือดไหลมาเยอะมาก ตาเริ่มพร่ามัว รู้สึกได้เลยว่าหัวใจเต้นช้าลง และทุกอย่างก็มืดสนิด ได้เวลาพักผ่อนแล้วสินะต้นข้าว

...จบ...

... ~♧~...

...แม้เราจะรักใครคนนึกมากแค่ไหนแต่ก็ไม่ควรยอมทางเลือกที่จะทำให้ชีวิตเราพัง...

...ไม่ใช่ว่าตัวละครดีหมดหรือเลวหมด...

...แต่เพียงแค่ยังไม่เจอสิ่งที่จะทำให้ตัวเองตะหนักถึงสิ่งที่มี...

...นี่คือจิตนาการไม่ใช่เรื่องจริงเรากับเพื่อนช่วยกันแต่งโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ...

^^^王雅婷^^^

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!