มันเป็นเพียงวันธรรมดาวันหนึ่งที่ท้องฟ้าโปร่งใสในคาเฟ่แห่งหนึ่งกับเพลงเศร้าที่คลอเบา ๆพวกผมก็เป็นเพียงนักเรียนมัธยมปลายสุดชิคทั่วไปที่มานั่งติวหนังสือกันอยู่ในพื้นที่สุขสงบเช่นคาเฟ่
แต่มันชิคเกินไปหน่อยเลยปล่อยโฮออกมาตามเพลงที่นักร้องในคาเฟ่ร้องก็ไม่ได้อกหักอะไรหรอกแค่ติวไม่รู้เรื่อง
“ฮึก มึงกูว่ากู”
ผมแอคติ้งกระซิกจะซบไอ้เฟรมก่อนมันจะผลักผมออกและตัดบทผม
“มึงไม่มีแฟนเพื่อน” ไอ้เฟรมว่าขึ้นก่อนจะเอาเมจิกเคาะหัวผมเบาเบา
“ตัดบทกูไอ้เหี้ยมึงเห็นมั้ยเนี่ยกูติวไม่รู้เรื่องเลย” ผมกำกำปั้นใส่มันก่อนจะหันมาเอาหน้าฟุ่บลงโต๊ะ
“โอ๊ย จะจบมั้ยเนี่ยกู” ไอ้เคมันบ่นขึ้นก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ตามออกมา
พวกผมที่ได้ถอนหายใจออกมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมายก็นะเรียนมาจนจะจบช่วงป๊อปปี้เลิฟล่ะยังไม่มีแฟนสักคนแม้ว่าผมเองก็คิดจะมีก็ตามหรืออาจจะแอบคิดแต่ตอนนี้เอาเกรดดีๆเข้ามหาลัยให้ได้ก่อนดีกว่า
“คิกคิก... หึ” ศรไอ้คนไม่โสดคนเดียวในแก๊งค์ที่เงียบแต่เริ่มติวมันก็ขำคิกขึ้นใส่เสียงดัง
“มึงขำอะไรไอ้ ศรยันต์!” ไอ้เฟรมมันพูดขึ้นเสียงดังใส่ไอ้ศรที่จู่ๆก็หัวเราะขึ้น
“ขำไอ้พวกไม่มีแฟน” ไอ้ศรมันว่าขึ้นก่อนจะโชว์สถานะในเฟสที่มันขึ้นกับแฟนให้พวกผมดู
“แหม ไอ้คนมีแฟน! มึงอยากจบมั้ยห๊ะติวหน่อยเพื่อนติว!” พูดจบผมก็ทำหน้ามุ่ยก่อนจะตักเค้กมาเข้าปากคำโต
“เดี๋ยวก็ติดคอหรอกไอ้สัด” ไอ้เคมันดุเตือนผมที่รีบกินก็คำสุดท้ายแล้วมั้ยล่ะ!
“มันไม่โง่เหมือนมึงหรอกกินปลาเขาให้กินแล้วฉลาดแต่นี่อะไรกินแล้วก้างติดคอ”
ไอ้เฟรมมันร่ายยาวเรื่องที่เคมันเคยกินต้มปลาแล้วก้างติดคอที่โรงอาหารแถมยังบ่นแม่ครัวอีกเขาทำให้มึงกินก็บุญแล้วมั้ย
“กูพูดถึงเค้กมั้ยคับเพื่อนเฟรม” ไอ้เคมันชี้หน้าเฟรมก่อนจะเอากบเหลาดินสอขว้างใส่
“เชี่ยตั้งแต่ติวมาเนี่ยกูเริ่มหิวอีกแล้วว่ะกูว่าจะไปสั่งเพิ่มพวกมึงจะเอาไรปะ” ผมได้ลุกขึ้นเมื่อเค้กคำสุดท้ายหมดไป
“ไอ้ศรยันต์มึงสนใจเพื่อนก่อนดิ” ผมหันไปดุใส่ไอ้ศรก่อนมันจะชี้ไปที่ซอฟครีมจ้าเพื่อนจ้า
“พวกมึงอะ” ผมถามไอ้สองตัวบาทเคกับเฟรมที่ถลึงตาใส่กันไม่หยุดไม่รู้พวกมันทะเลาะไรกัน
“กูเอาลาเท!” ไอ้เฟรมมันยกมือโบกไปมาและยกยิ้มราวเด็กน้อยก่อนจะหันไปเบะปากใส่ไอ้เค
“กูเอาคัพเค้กกล้วยหอม” ไอ้เคว่าจบผมก็พยักหน้าก่อนจะเดินไปยังเคาน์เตอร์เพื่อสั่ง
เมื่อผละตัวจากเพื่อนออกมาผมรู้สึกว่าหัวสมองของผมสะอาดขึ้นมาทันทีอยู่กับพวกมันล่ะโคตรวุ่นวายผมกวาดสายตาไปยังทั่วร้านก่อนจะเดินอย่างเขินอายไปยังเคาน์เตอร์นี่ล่ะคือสาเหตุหลักที่ไม่มีแฟนเพราะอายไม่กล้าจีบเค้าขำแห้งไปดิ ฮ่าๆ
แก๊งค์ผมก็ไม่ได้นั่งห่างเคาร์เตอร์เท่าไหร่แต่ทำไมมันเหมือนยาวไกลจังวะผมส่ายหัวเบาๆก่อนจะเร่งฝีเท้าขึ้นถึงแม้ว่าขาเรียวของผมจะสับเดินด้วยความรวดเร็วแล้วก็ตาม
นัยตาสีดำกลมโตจดจ้องไปยังตารางเมนูที่ตนโปรดปรานก่อนจะเม็มปากอย่างเขิกเขิน บ้าเอ้ย! ไม่กล้าเรียกพี่เขา
ตุ๊บ!
“อ่ะ! ขะ ขอโทษครับ”
ผมที่กำลังฮึบแรงมาเรียกพี่พนักงานก็ได้เซไปชนโดนไหล่กว้างของชายหนุ่มหน้าหล่อที่ไม่รู้ว่ามาตอนไหนเข้าอย่างจังแม้ว่าจะไม่แรงแต่ผมนี่ล่กล่ะครับตัวโตไม่พอแม่งหล่ออีกต่างหาก
“ชนพี่แล้วอะขอโทษมันไม่พอเว้ยน้อง!”
น้ำเสียงขึงขังพูดขึ้นใส่ผมก่อนจะยิ้มหวานให้หน้าหล่อเหลามาดเข้มร่างสูงโปร่งกับสไตล์การแต่งตัวที่ดูแล้วโคตรจะสบายตาแต่ก็หล่อมากเรียกได้ว่าใช้คำว่าหล่อได้โคตรเปลืองไหนจะนัยตาสีน้ำตาลอันทรงพลังนั่นอีก
“ผมขอโทษจริงๆพี่”
ผมเบิกตากว้างมองยังร่างสูงโปร่งของพี่มันอย่างละเอียดก่อนจะทำตาแป๋วและส่งยิ้มแห้งไปให้สภาพผมตอนนี้คือสันเทาเป็นแมวตกน้ำแล้วล่ะครับใจหนึ่งก็กลัวใจหนึ่งก็อาย
“ไอ้วายุอย่าแกล้งลูกค้ากู”
พี่เจ้าของร้านว่าขึ้นก่อนยื่นกาแฟเย็นผ่านหน้าผมไปส่งให้หนุ่มหล่อตรงหน้าทำเอาฉายาชิคๆของผมสลายหายไปตั้งแต่ที่ได้รู้จักคนที่ชื่อ วายุ คนนี้ไม่นะที่สั่งสมมา
“พี่ล้อเล่นว่าแต่เราชื่อไรหรอ?” พี่มันถอนหายใจเบาๆก่อนจะเปล่งเสียงทุ้มนุ่มนวลออกมาถามชื่อผม
“ผะ ผม ผมชื่อขนมคับ!”
ผมตอบไปโดยที่ไม่ได้สบตาพี่มันก่อนจะเริ่มหันกลับมาสนใจเมนูตรงหน้าต่อไม่ใช่ว่าอะไรหรอกผมเขินพี่มันอะดิ! แถมชื่อของผมยังไม่แมนเลยสักนิดด้วยโลกช่างไม่ยุติธรรม
“พี่จีบเราได้ปะ” พี่มันส่งยิ้มมาให้เมื่อสิ้นประโยคตัวผมเองก็ได้แต่เพียงเบิกตากว้างอีกครั้งอย่างอ้ำอึ้ง
“จีบ จีบผมเนี่ยนะ!?”
ผมตอบอย่างอึกอักเพราะตั้งแต่เกิดมาจนตอนนี้ก็ยังไม่เคยจีบใครและพึ่งมีคนมาจีบผมควรทำตัวยังไงเนี่ยผมที่เลิ่กลักก็ได้แต่เม็มปากเเน่น
“ใช่ เรานั่นแหละพี่จีบได้มั้ย” พี่มันว่าขึ้นเสียงอ่อยก่อนจะยกยิ้มกว้างใส่ผม
“ว่าไงเราน้องพี่จะจีบอะ” พี่เจ้าของร้านที่ฟังอยู่แต่แรกเอ่ยแทรกก่อนจะตบบ่าพี่วายุเบาเบา
“ได้ ได้สิผมแค่พึ่งเคยมีคนมาจีบอะครับ”
ผมเม็มปากเเน่นจนเลือดซึมก่อนจะยิ้มอย่างเขิกเขินออกมาราวกับว่านี่คือการโดนจู่โจมครั้งแรกของขนม! ใช่มันเป็นครั้งแรกแถมแก้มของผมก็ยังแดงมากอีกด้วย
“งั้นพี่ขอไลน์เราได้ปะ” พี่วายุพูดขึ้นก่อนจะยื่นบาร์โค้ดที่ขึ้นในมือถือรุ่นใหม่ส่งมาให้ผมสแกน
ผมไม่รอช้าที่จะหยิบมือถือของตัวเองมารีบสแกนทันทีอย่างไม่รีรอเพราะมีแฟนหล่อมันดีต่อจิตใจถึงจะไม่เคยคบใครแต่ถ้าถูกเสนอมาขอจีบแบบนี้บอกเลยว่าขนมไม่พลาด!
ติ้ง!
ไม่นานจากที่สแกนก็มีไลน์ที่มีโปรไฟล์สุดหล่อเด้งขึ้นหน้าจอผมและเป็นใครที่ไหนไปไม่ได้ก็พี่ วายุ นั่นแหละ
“ไว้พี่ติดต่อเราไปนะครับ” พี่วายุส่งยิ้มหล่อมาให้ผมก่อนจะขอตัวไปเนื่องจากเพื่อนพี่แกมารอ
แต่ละคนนี่ภายใต้เสื้อช้อปทั้งหล่อทั้งสวยมากเสียจนผมอยากรู้ว่าตัวเองอยู่ในเวิร์สเดียวกันกับพวกพี่เขาจริงหรือเปล่าทำไมมันต่างกันราวฟ้ากับเหวขนาดนี้
เมื่อพี่วายุลับสายตาไปผมก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะใช้มือเรียวปาดเหงื่อทิพย์บนหน้าผากออกไปอย่างสั่นระรัวก็นะคนอะไรดาเมจรุนแรงเหลือเกิน
“เอ่อพี่ครับผมว่าจะขอสั่งเพิ่ม” ผมหันไปจดจ้องที่เมนูต่อก่อนจะพูดขึ้นกับพี่เจ้าของร้าน
“ได้ดิ คนที่วายุมันจองทั้งที” พี่เจ้าของร้านเอ่ยแซวก่อนจะเตรียมสมุดขึ้นมาจด
“ผมเอา ซอฟครีมหนึ่งที่ คัพเค้กสอง ลาเทเย็นหนึ่ง แล้วก็ไอศกรีมวนิลา” ผมร่ายยาวถึงเมนูที่เพื่อนฝากมาก่อนจะสั่งของตัวเองบ้าง
ผมชอบกลิ่นวนิลามากเพราะมันทำให้ผมรู้สึกตื่นตัวและสบายตัวการที่ฉีดน้ำหอมกลิ่นน่ามดตอมก็จึงเป็นเรื่องธรรมดา
แต่ว่าเมื่อกี้พี่เขาว่ายังไงนะ? คนที่พี่วายุคนเมื่อกี้จองหรอ!? ยังไม่ใช่ซะหน่อยเถอะพี่เจ้าของร้านชอบแกล้ง
เมื่อสั่งเสร็จแล้วผมก็หันหลังเดินกลับมายังโต๊ะที่สภาพตอนนี้เพื่อนของผมเปิดศึกกันเรียบร้อยแถมไอ้คนมีแฟนอย่างศรยังวางมือถือมาเล่นด้วยอีก
“พวกมึงเล่นไรกันเนี่ยเป็นเด็กอ่อ” ผมเอ่ยทักพวกมันที่หัวเราะคิกคักจี้กันไปมาที่โต๊ะ
“ไหนๆไอ้คนไหนมันฮอตอะ” ไอ้เฟรมที่เห็นผมก็ขำไหล่สั่นก่อนจะหยุดและแซวผม
“พวกกูก็ไม่ได้ใช้มึงไปสั่งมาเยอะไหง่ไปนานว้า” ไอ้เคมันแซวอีกคนก่อนจะทำเสียงวี๊ดวิ้วใส่ผม
“สวยนะมึงอะ” เป็นไอ้ศรมันแซวคนสุดท้ายก่อนจะหันไปแทคมือกับไอ้สองตัวที่เหลือ
“อะไรของพวกมึงเนี่ย! กูอายเป็นนะ” ผมรีบนั่งลงเอาหน้ามุดโต๊ะกับคำแซวของพวกมันก่อนจะยิ้มเขินคนเดียว
“คนสวยเราเขินว่ะ” เป็นไอ้เฟรมที่ยังคงแซวผมอยู่ไม่หยุด
ผมเบะปากใส่มันก่อนจะกำหมัดแน่นแกล้งจะต่อยหยอกมันแต่มันก็หยอกล้อคืนและโยกเยกเต้นไปมาเหมือนเด็กใส่ผมไม่นานพี่เจ้าของร้านก็นำของที่สั่งมาเสริฟพวกผมจึงหยุดเล่นและเก็บสมุดกับหนังสือเรียนใส่กระเป๋าให้โต๊ะมันโล่ง
“เออกลับจากนี้กูจะไปทำงานพิเศษล่ะนะ” ไอ้เคมันดูโทรศัพท์ก่อนจะพูดขึ้นบอกพวกผม
“กูก็จะติวต่อกับแฟน” ไอ้ศรมันว่าขึ้นด้วยหน้านิ่งก่อนจะยักคิ้วข้างซ้ายไปหนึ่งที
“มึงล่ะคนสวย”
ไอ้เฟรมที่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าจะไปเตะบอลต่อกับรุ่นพี่ก็จึงถามผมที่ยังกินไอศกรีมวนิลาอยู่อย่างอารมณ์ดีของกินเข้าปากบรรยากาศมันพาฟิน
“คนสวยพ่อง! กลับไปกูอะต้องติวต่ออะดิติวกับพวกมึงวันนี้ไม่รู้เรื่องอะไรเลย”
ผมตอบไอ้เฟรมก่อนจะกินต่ออย่างอารมณ์ดีเหมือนเดิมเมื่อไม่นานก็แยกจากมันที่จริงนอกจากติวผมเองก็ลุ้นอย่างใจจดใจจ่อไม่ไหวว่าพี่ วายุ มันจะทักมาเมื่อไหร่ก็นะคนโสดก็งี้แหละ
เมื่อถึงห้องผมก็ไม่รอช้าที่จะวางกระเป๋าสุดที่จะหนักเพราะใกล้จะสอบปีสุดท้ายและย้ายเข้าสู่รั้วมหาลัยอย่างเป็นทางการลงยังเตียงเสียงดังลั่นและหยิบผ้าขนหนูวิ่งเข้าห้องน้ำด้วยความเร็วแสง
ซ่า ซ่า !
เสียงน้ำไหลผ่านร่างที่สมส่วมไปบางใบหน้าหวานเหมือนขนมผมสีดำสนิทเงาวับและนัยตาสีดำกลมโตที่หลับตาปิปๆราวลูกแมวกำลังเปียกชุ่มผิวสีน้ำผึ้งไปทางขาวที่ตอนนี้ถูกโอบด้วยฟองสบู่กำลังถูกชำระล้างด้วยน้ำสะอาดต่อ
“สดชื่นจังเลย!”
เสียงใสว่าขึ้นเสียงดังอย่างอารมณ์ดีเนื่องจากเรียนและติวมาทั้งวันแถมยังได้เล่นสนุกแค่แป๊ปๆเองกับเพื่อนเมื่ออาบน้ำเสร็จก็ไม่รอช้าที่จะหยิบผ้าขนหนูลายแครอทมาห่อช่วงล่างของตนเองและออกมาคุ้ยตู้เสื้อผ้าเพื่อหาชุดใส่
ตือดึง !
เสียงข้อความเข้าทางมือถือทำเอาขนมที่รีบร้อนได้หยิบชุดนอนลายตระต่ายมาใส่ด้วยความเร็วและไม่รอช้าที่จะหยิบมือถือที่วางบนเตียงมาอ่าน
...CHAT...
...wayu "วายุเองนะสะดวกคุยมั้ย?"...
...Khnm "สะดวกครับ"...
...wayu "งั้นว่างไปเดตกับพี่ตอนไหนหรอ?"...
...Khnm "ครับ? ห๊ะ!"...
...wayu "งั้นพี่รอน้องสอบเสร็จดีกว่าเนาะ"...
...Khnm "อา ตามนั้นก็ได้ครับ"...
การสนทนาที่ทำเอาผมเขินอย่างรุนแรงแม้ว่าจะเล่นที่มือแต่ดันร้อนที่แก้มเสียได้แม้จะดูรีบเร่งและทำเอาทำตัวไม่ถูกก็คนมันไม่เคยจีบใครและพึ่งมีคนมาจีบอะ!
Khnm "พี่ดูรีบจังเลยนะครับ"
wayu "เพราะอยากได้น้องเป็นแฟนเร็วๆไง"
ทั้งที่พิมพ์ไปแค่ไม่กี่วินาทีกลับถูกตอบกลับมาด้วยความเร็วแต่ถึงกระนั้นขนมผู้นี้ก็รู้สึกอยากมีพี่เป็นแฟนเร็วๆเหมือนกันแล้วล่ะครับ! อะไรจะร้อนแรงปานนั้น
ฉ่า..
วันนี้แค่ถูกใช้งานในฐานะเดือนวิศวะหนักไปหน่อยก็จึงออกมาหาที่สงบอยู่ถึงจะดูใจดีแต่ก็ไม่ได้มีอะไรดีกว่าคนอื่นอีกอย่างปีหน้าตัวเขาก็ปีสามแล้วจึงไม่อยากจะสนใจอะไรมากนัก
“แม่งโคตรน่าเบื่อ”
ผมสถบออกมาเมื่อออกจากมหาลัยแล้วทุกอย่างมันดูเฉยชาจนแทบอ้วกเลยทีเดียวถึงจะบอกให้เซฟลุคเดือนมหาลัยก็เถอะ
“เซฟลุคหน่อยไอ้วายุ” ไอ้ทิวที่เดินตามหลังมาพูดขึ้นก่อนตบบ่าผม
“มันจริงมั้ยอะ แม่ง” ไอ้หนิงทอมบอยโซผัวในแก๊งค์บ่นขึ้นตามผมติดๆใส่ไอ้ทิว
“จ้า ไอ้พวกหล่อ” ไอ้ซีที่เดินเหมือนเต่าได้เร่งฝีเท้าตามมาทีหลัง
“พวกมึงแม่งก็ไม่ต่างจากกูอะ”
ผมสถบออกมาก่อนจะส่ายหัวเบาๆก็นะถูกใช้ไม่พอยังมาอวดเบ่งใส่อีกโตกว่าแค่ไม่กี่ปีประโยชน์ก็ไม่มี
เมื่อมาถึงยังคาเฟ่ผมก็จึงจะเข้าไปซื้อกาแฟเพราะเป็นช่วงที่ปลายภาคเรียนสุดท้ายและเด็กก็จะหาที่วิ่งสอบเข้ามหาลัยกันคาเฟ่จึงแทบไม่มีที่วางเลยและไม่ใช่แค่เด็กใกล้จบด้วยพวกผมก็ต้องเตรียมรับน้องเตรียมสอบทำงานส่งอีกมีแต่เรื่องให้เครียดบอกเลย
กริ่ง !
เมื่อเข้ามายังคาเฟ่ของเฮียซันก็สั่งกาแฟดำเย็นไปแก้วใหญ่ผมรอไม่ถึงครึ่งนาทีก็มีเด็กในชุดนักเรียนเดินอย่างเกร็งๆมายังเคาน์เตอร์ทำเอาผมอึ้งไปชั่วขณะว่าคนคนหนึ่งมันน่ารักได้ขนาดนี้เลยหรอ? ผมมองมายังน้องมันที่ดวงตากลมโตเหมือนลูกแมวเลิ่กลั่กไปมาไม่หยุดทำเอาผมตกอยู่ในผวังเลยทีเดียว
เมื่อเดินมาถึงก็ทำยึกยักราวกับว่าไม่กล้าเรียกพี่ซันทั้งที่อยู่แค่ตรงหน้าผมจ้องอยู่พักใหญ่เจ้าตัวเองก็ดูไม่ได้จะสังเกตุเห็นเลย
พอตั้งตัวได้ก็เหมือนจะสั่งแต่กลับเซมาชนไหล่ผมเล็กน้อยที่จริงมันก็ไม่แรงหรอกแต่ทางนั้นดูจะเลิ่กลั่กไม่น้อยน่าแกล้งดี
“ชนพี่แล้วแค่ขอโทษมันไม่พอเว้ยน้อง!”
พอพูดออกไปทางนั้นดูจะสั่นดิกๆเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงใสใสถึงผมจะมีคนมาจีบเยอะแต่การที่สนใจจริงจังก็แทบจะไม่มีเลยสักคนเพราะไม่มีเวลา
“ผมขอโทษจริงๆพี่”
เหมือนจะลืมไปแล้วว่ามาสั่งของ? ผมมองหน้าน้องก่อนจะยกยิ้มขึ้นทำเอาทางนั้นแสดงออกทางสีหน้าหมดเลยดูซื่อดีจัง
เมื่อโดนเฮียซันสายชงขัดผมก็จึงยิ้มมุมปากและถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือกเบาเบาและถามชื่อน้องมันไป
“พี่ล้อเล่นว่าแต่เราชื่ออะไรหรอ?” น้องมันดูจะทำตัวไม่ถูกอยู่ไม่น้อยหรือว่าผมทำหน้าโหดใส่วะ?
“ผะ ผม ผมชื่อขนมครับ!” เขินชื่อนี่เองชื่อน่ากินจังเอ้ย!ชื่อหวานจัง อา ก็ไม่ต่างกันนี่หว่า
“พี่ขอจีบเราได้ปะ” ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่แต่พอรู้ตัวก็พูดออกไปแล้วหรือผมจะหวั่นไหวกับเด็กน่ารักนี่กันนะ
ทางนั้นดูยะอ้ำอึ้งเล็กน้อยก่อนจะแสดงความตกใจขึ้นมา โอยย ทำไมถึงน่ารักจังนะพี่ใจละลายแล้วนะน้อง
“ใช่ เรานั่นแหละพี่จีบได้มั้ย?” เมื่อยังนิ่งไร้ซึ่งคำตอบก็เลยถามย้ำไปอีกรอบ
“ว่าไงเราน้องพี่จะจีบอะ” พี่ซันรับบทชงไม่รอช้าที่จะเค้นคำตอบช่วยผม
“ได้ ได้สิผมแค่พึ่งเคยโดนจีบอะ”
น้องมันเม็มปากอย่างไม่มั่นใจก่อนจะยิ้มหวานและส่งสายตาแป๋วมาให้ผมไม่รอช้าที่ผมจะพลาดโอกาศไปก็เลยขอไลน์น้องมันมาไว้เสียเลยดีหน่อยที่ได้มาด้วย
และไม่พลาดที่จะโดนแซวแต่ใครสนกันล่ะแค่ได้ไลน์น้องมาผมก็พร้อมยัดเยียดความเป็นแฟนให้แล้วก็นะเล่นน่ารักซะขนาดนั้น
เมื่อมาถึงยังคาบดึกคาบสุดท้ายก็จึงลองทักไป “ตอบเร็วดีจัง”
...Khnm "พี่ดูรีบจังเลยนะครับ"...
คำตอบมันก็แน่อยู่แล้วไงว่าพี่อยากได้น้องมาเป็นของพี่เร็วๆหรือเพราะว่าไม่เคยเห็นคนน่ารักเต็มสองตากันนะ
...wayu "เพราะพี่อยากได้น้องเป็นแฟนเร็วๆไง"...
คงจะเขินอยู่ล่ะสิ อ่าาาาา วายุจะเอาคนนี้ วายุอยากได้คนนี้
เช้าอีกวันที่ช่างสดใส เหอๆ ถ้าจะถามว่าทำไมถึงทำเสียงเหนื่อยแบบนี้น่ะหรอก็เพราะมีสอบน่ะสิลองนึกสภาพรถติดยาวเป็นหางว่าวจุฬาถนนทางเท้าที่โคตรง่อยกับการใส่แว่นขึ้นรถไฟฟ้าที่เป็นอะไรที่ลำบากผมไม่ได้อยากจะบ่นหรอกนะแค่ขอก่อนคาบแรกได้กินข้าวเหนียวหมูปิ้งหน้าโรงเรียนก็พอไม่ได้บ่นเลย!
วันนี้ที่ต้องใส่แว่นเพราะว่าค่าสายตาของผมเริ่มจะมีอาการแต่ถึงกระนั้นก็ยังคงถือว่าไม่เป็นไรเท่าไหร่ก็เล่นอ่านหนังสือซะดึกขนาดนั้นทำไงได้
“หะ หาว”
ผมยกมือปิดปากหาวก่อนจะเดินมาถึงยังป้ายรถเมย์เมื่อวานไม่มีที่ติวก็จึงต้องนั่งรถเมย์กันมาบุกหาคาเฟ่จนโชคดีหน่อยได้แถวมหาลัยถึงกระนั้นก็ไม่คิดว่าจะมีโชคหล่นทับโดนหนุ่มเสน่ห์แรงหน้าหล่อมาจีบคิดแล้วก็ยังเขินไม่หาย
นัยตาสีดำทอดมองไปยังผู้คนที่พลุกพล่านบนท้องถนนกับการรอรถไปโรงเรียนที่ต้องรออย่างไม่มีเวลากำหนดกับบรรยากาศช่วงเช้าที่พระอาทิตย์กำลังส่องแสงยูวีอันร้อนแรงลงมา
ในหัวของ ขนม ตอนนี้ที่รีบจนไม่ได้เอาแซนวิสในตู้เย็นมากินรองท้องก็นึกถึงแต่ปิ้งหมูกลิ่นหอมเย้ายวนกับข้าวเหนียวร้อนๆที่ขายตามทางเข้าโรงเรียนของตัวเองแม้ว่าที่อื่นจะมีขายแต่เพราะเป็นเช้าวันศุกร์ก็จึงมีคนเยอะพอกับวันจันทร์เลยทำได้แต่เพียงใช้นัยตาสีดำกลมโตจ้องมองตามปิปปิป
“หือ หืม?”
เมื่อรู้ว่ามีอะไรอุ่นๆมาโดนเเก้มก็จึงสะดุ้งโหย่งและแสดงสีหน้าเลิ่กลั่กไม่อยู่เฉยราวแมวที่โดนน้ำกระเส็นใส่ก่อนจะหันไปจ๊ะเอ๋กับสิ่งนั้น
เป็นชายร่างสูงโปร่งประมาณร้อยแปดสิบกว่ารอยยิ้มสุดกวนใบหน้าหล่อเข้มมีเสน่ห์และนัยตาสีน้ำตาลอันทรงพลังเจ้าเดิมพี่ วายุ บุคคลที่ขอจีบขนมเป็นคนแรก! ในชีวิตแถมยังร้อนแรงขอเป็นแฟนทั้งที่เพิ่งเคยรู้จักกันอีกด้วยถึงจะจีบน้องแต่น้องก็อยากรู้จักพี่ดีๆก่อน
“สวัสดีตอนเช้าครับพี่วายุ”
ทักทายเสร็จก็ไม่รอช้าที่จะทำตากลมโตดุ๊กดิ๊กไปมาจดจ้องมองคนตรงหน้าที่ในมือถือข้าวเหนียวหมูปิ้งอยู่กลิ่นหอมคละคลุ้งจนแทบกลบกลิ่นวนิลาที่เขารีบเสียจนระดมฉีดใส่ตัวเองจนแทบเปียกตรงหน้า
“มอนิ่ง นี่พี่ซื้อมาให้เรา” พี่วายุทักทายกลับก่อนจะยื่นข้าวเหนียวหมูปิ้งมาให้แมวที่หัวฟูทุกเช้าตรงหน้า
มือเรียวสวยที่ใหญ่กว่ามือของเขาที่ในมือมีของยั่วยวนอยู่ก็จึงไม่รอช้าที่จะขว้าข้าวเหนียวหมูปิ้งมาอาหารยามเช้าชั้นดีของขนม!
“ซื้อมาให้ผมหรอ!? ขอบคุณครับพี่วายุ”
ถึงจะเขินจนอยากจะกรีดร้องแต่ภาพตรงหน้าทำเอาละสายตาไม่ได้เลยแม้ว่าจะได้มันมาอยู่ในมือแล้วก็ตาม
“ผมจะทานแล้วนะครับ!”
เมื่อรับมาแล้วด้วยตาเป็นประกายก็จึงรีบกินอย่างไม่รีรอทำเอาทางนั้นก็จึงหลุดขำออกมาเล็กน้อย
“ฮะฮะ” พี่วายุหัวเราะเสียงเบาก่อนจะใช้มือเรียวหนาเกลี่ยผมจัดทรงให้
“อื้อ! อร่อยจัง”
ถึงจะซื้อกินทุกเช้าแต่เพราะคนละเจ้าหรือเพราะมีหนุ่มหล่อซื้อมาให้ด้วยก็จึงเคี้ยวแก้มตุ่ยอย่างไม่พักหายใจก่อนจะมีอะไรเย็นๆมากระทบที่แก้มของผม
“ค่อยๆกินสิอะนี่น้ำ”
พี่วายุพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะนำขวดน้ำที่ยื่นมาไปเปิดฝาและปิดไม่แน่นส่งมาให้อีกครั้งพี่พอดีเราพึ่งเจอกันเมื่อวานนะเห็นใจน้องหน่อย
โอยย พ่อเทพบุตรส่งมาเกิดน้องนี่ใจแป่วแล้วคร้าบคบเลยมั้ยเอามั้ย งุ้ย~ เเม้จะคิดอยู่ในหัวแต่กลับแสดงออกมาจนแทบหมดทางสีหน้าเสียแล้ว
“ตื่นเช้าจังเลยนะเรา”
วายุ แม้ว่าจะตื่นเช้าเพราะถูกเรียกตัวมาถ่ายแบบขึ้นปกมหาลัยกับที่นัดเพื่อนมาส่งงานจึงต้องมาเช้าแม้จะขับรถยนต์คันหรูมาแต่เพราะความเบื่อหน่ายที่ติดไฟแดงก็จึงแวะลงมาซื้อน้ำดับหัวร้อนของเขาเฉยๆ
หางตาก็ไปจ๊ะเอ๋กับคนที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีแม้ว่าจะพึ่งเจอกันเมื่อวานมือเล็กๆที่ดันแว่นทรงกลมเอาไว้กับสายตากลมโตที่จดจ้องไปยังร้านข้าวเหนียวหมูปิ้งแม้ว่าจะอยู่ไม่ไกลแค่อีกฟากถนนแต่ดูจากรถที่เเล่นไปมากับผู้คนแล้วก็จึงพอนึกออก
“ใส่แว่นแล้วน่ารักจัง” เขาชื่นชอบน้อง ขนม ก็จริงแต่ไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะทำให้เขาหลงได้เพียงนี้
ขาเรียวยาวได้ก้าวเดินไปซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งก่อนจะค่อยวนกลับเดินมาหาแมวน้อยที่ยืนนิ่งอยู่ยังแถวป้ายรถเมล์วายุเข้ามาหาคนตัวเล็กทีละน้อยก่อนจะทักทาย
ใต้กรอบแว่นที่มีนัยตากลมโตสีดำสนิทราวกับแมวได้หดลงอย่างตกใจก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเค้ามันช่างราวกับแมวไม่ผิด
เมื่อรับไปแล้วก็รีบเคี้ยวแก้มตุ่ยทำเอาวายุคนนี้อดยิ้มไม่ได้ก็จึงนำมือเรียวหนาไปเกลี่ยผมที่พันกันยุ่งให้แทน
“น้องขนมมารอนานหรือยังครับ?” เขารู้ว่าการรอรถประเทศนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังก็จึงเอ่ยถามออกไป
“ก็สักพักแล้วล่ะครับ” น้ำเสียงนุ่มตอบกลับมาพร้อมเงยหน้าขึ้นสบตาเขาขณะคุย
“งั้นให้พี่ไปส่งที่โรงเรียนมั้ยครับ?”
อึ้งสิครับ... ผู้ชายจะไปส่งที่ผมโรงเรียนไม่สิไม่ใช่เรื่องนั้นสัักหน่อยแต่คนที่ยังแบมือขอตังค์พ่อแม่จ่ายค่าเทอมให้แม้ว่าตัวเองจะหัวรั้นออกมาอยู่หอและหาเงินค่าขนมของตัวเองเพราะถึงที่บ้านชอบตามใจแต่ก็ชอบขัดใจเรื่องเล็กน้อยที่ตนชอบอย่างผมขนมรึ! จริงปะเนี่ย
ผมจ้องหน้าพี่วายุอย่างอ้ำอึ้งก่อนจะเม็มปากของตัวเองไว้แน่นเช่นนั้นก็แปลว่าเขาจะมีเวลาเหลือเฟือก่อนคาบแรกน่ะสิ
ผมพยักหน้าหงึกหงักถึงจะเคอะเขินกับการกระทำของตัวเองที่เหมือนจะใส่แอคติ้งไปหน่อยแต่เพราะมีนิสัยชอบแสดงออกทางสีหน้าก็จึงแก้ไขไม่ได้แต่ช่างมันใครสนล่ะ
“งั้นแปลว่าผมต้องรบกวนพี่น่ะสิ” แต่ถึงกระนั้นขนมเองก็ยังคงงงตึ๊บอยู่ที่พี่มันมีรถหรือก็คือตั้งใจมาหาเราหรอ?
พี่วายุอิคนแสนดี
“ได้สิ ตามพี่มาสิรถพี่อยู่ทางนี้” พี่มันไม่รอช้าที่จะจูงมือผมให้ตามไปที่รถ
แม้ว่าตัวผมเองก็ไม่รู้ว่าพี่มันมีรถและขับรถมาก็ตามผมชายตามองแผ่นหลังใหญ่ของพี่วายุที่อยู่ตรงหน้าอย่างเขินอายฟีลเหมือนผมตัวเล็กตัวน้อย
เป็นรถเก๋งคันหรูสีดำแวววับที่ดูจากสภาพแล้วราคาคงไม่ใช่เล่นเป็นแน่ถึงเขาจะไม่ใช่เซลล์แต่เท่าที่ดูก็ถึงบางอ้อก่อนจะขึ้นมานั่งยังในรถด้วยความเกร็งจนหัวจะหด
“เพิ่งเคยนั่งเลยล่ะ!” แม้จะตื่นเต้นจนจะลุุกมาเต้นแต่ก็ไม่คิดว่าปากมันจะบอกออกไป
ทำเอาคนที่เพิ่งนั่งลงข้างคนขับอุบยิ้มไม่อยู่จนจะหัวเราะก๊ากออกมาอย่างไม่หยุดนี่พี่เขาตลกที่เราเคยนั่งรถหรูหรอ? หรือว่าเราทำเสียงแปลกๆออกไป
“น่ารักจริงๆด้วยนี่มาคบกันเลยมั้ย”
พี่วายุพูดขึ้นก่อนจะเอนหัวลงยังพวงมาลัยรถและจ้องมองผมอย่างเคอะเขินเพิ่งเคยเห็นมุมแบบนี้เลยนะเนี่ย
“พะ พูดเร่งอีกแล้ว” นี่ถือว่าเป็นเดตทางอ้อมด้วยมั้ยนะ
“ก็ถ้าผมสอบเสร็จแล้ววันนั้น” เรามาคบกันเป็นแฟนนะครับแต่ถึงกระนั้นก็ทนต่อดาเมจของพี่มันไม่ได้จึงตามใจไปเอาจริงก็ไม่รู้จะเล่นตัวทำไมเหมือนกัน
เมื่อพูดจบผมก็จึงเงยหน้าขึ้นมาสบตากันพี่วายุก่อนที่พี่วายุจะหันหน้าที่แดงไปทางอื่น พี่เขาเขินเราหรอ?
“พูดแล้วนะ”
พี่วายุหันกลับมาก่อนจะขยี้หัวของผมไปทีหนึ่งก่อนจะออกรถไปส่งผมแน่นอนว่าผมทำได้แต่เพียงนั่งอยู่ในรถในอาการเขิน เขินใครหรอ? เขินพี่วายุน่ะสิ!
ไม่นานเท่าไหร่นักกับสภาพรถติดที่ผมโดนพี่วายุหยอดตลอดทางก็ถึงโรงเรียนของผมใบหน้าหล่อเข้มจ้องมาที่ผมด้วยรอยยิ้มก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากส่งให้
“พี่จะรอเรานะครับ” พี่วายุพูดขึ้นก่อนจะส่งเกียร์มาให้ผม เอ๊ะ!!?
เกียร์อยู่ใจ ใจอยู่ที่เกียร์ ฝากเกียร์ไว้กับใคร ก็เหมือนฝากใจไว้กับคนนั้น
ประโยคสุดคลาสสิคจากวิศวะไม่ว่าจะสถาบันไหนและการที่พี่วายุมอบให้ผมก็เท่ากับว่า...
“พี่วายุให้ผมทำไมหรอ” เพราะไม่แน่ใจก็จึงเอ่ยถามออกไป
“ก็ใจพี่อยู่กับน้องขนมนี่ครับรักษาให้ดีนะใจพี่อะ”
สิ้นคำพูดนั้นประตูรถก็ถูกปิดโดยที่ผมยังคงนิ่งอยู่ก่อนที่พี่วายุจะบอกลาและขับรถออกไป
เมื่อหลุดจากภวังก็จึงยกยิ้มกว้างจะกรี๊ดออกมาอย่างควบคุมไม่ได้นี่เขาไม่ได้ถูกผู้ใหญ่แกล้งใช่มั้ย !?
“อ้าาาา !” ผมร้องตะโกนเสียงดังลั่นหน้าโรงเรียนก่อนจะจีบวิ่งจ้ำอ้าวไปยังอาคารเรียน
เมื่อเห็นน้องมีท่าทีงุนงงก็จึงเอื้อมมือไปกุมมือของน้องขนมเพื่อที่จะพาไปยังรถของผมที่จอดอยู่ไม่ไกลจากป้ายรถเมย์เท่าไหร่มือเรียวที่เล็กกว่าแถมยังนุ่มมากที่อีกด้วยทำเอาผมต้องเร่งฝีเท้าให้เดินเร็วขึ้น
ปีป ปีป
เมื่อเปิดรถแล้วก็จึงเปิดประตูให้น้องเข้าไปนั่งถึงจะดูเกร็งไปหน่อยแต่ก็ว่าง่ายแถมยังหันมาส่งยิ้มอีกชื่อหวานเหมือนขนมยังน่ารักเหมือนลูกแมวอีก
แม้จะมีข้อความจากแชทดาวเดือนมหาลัยสั่นอยู่ในเครื่องไม่หยุดแต่ก็ไม่แม้จะสนใจเมื่อผมเข้ามายังรถก็ได้ยินเสียงอู้อี้ชมรถที่ได้มาจากป๊าเมื่อวันเกิดปีที่แล้วอย่างตื่นเต้นใส่
“เพิ่งเคยนั่งเลยล่ะ!”
น้ำเสียงซื่อๆกับท่าทางที่ดูจะตื่นเต้นมากไปจนดูตลกทำเอาผมแทบอยากจะหัวเราะออกมา
น้องขนมเนี่ยเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใช้คำว่า “น่ารักจัง” ได้เปลืองจริงๆ ถึงจะพูดออกมาในลำคอแต่ก็อดยิ้มเป็นไม่ได้
ฮะฮะ “น่ารักจริงๆเลยนะนี่มาคบดันเลยมั้ย” ทั้งที่ไม่อยากรีบแต่ก็พูดออกไปจนได้
“พะ พูดเร่งอีกแล้ว” จริงด้วยวายุแกเร่งน้องอีกแล้ว
“ก็ถ้าผมสอบเสร็จแล้ววันนั้น” โอ๊ะ! เมื่อได้ยินคำนั้นก็แทบจะคลั่งเลยล่ะครับวายุนี่แกโดนน้องสวนหรอ
แม้ต้องเก็บอาการแต่เห็นทางนั้นพูดขึ้นอย่างเขินอายและเงยหน้าขึ้นมาเอาตากลมโตมาสบตาผมอีกก็ทำเอาแทบจะขิตเลยล่ะครับวายุนี่แกทำบุญด้วยอะไรมา
“พี่จะรอเรานะครับ”
ถึงจะใช้เวลานานหน่อยกว่าจะถึงโรงเรียนของน้องเนื่องจากต้องสู้กับรถมากแหล่บนถนนก็มาถึงแต่เพราะอดกลั้นไม่ไหวในความเงียบก็จึงเอ่ยจีบไปแค่คำตอบก็ทำเอาดีใจเกินคาด
ถึงอย่างนั้นก็ไม่อยากให้ใครมาก่อกวนแม้ว่าน้องจะใกล้จบและต้องเตรียมเข้ามาหลัยอาจไม่มีเวลาแต่ว่าถึงอย่างนั้นก็ไม่สบายใจก่อนที่น้องขนมจะลงรถไปก็จึงเรียกไว้และยื่นเกียร์ให้
“พี่วายุให้ผมทำไมหรอครับ” เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะรับเกียร์จากมือของผมไปได้เอ่ยถามขึ้น
“ก็ใจพี่อยู่กับน้องขนมนี่ครับรักษาให้ดีนะใจพี่อะ” ถ้ามีเป็นสิบดวงพี่ก็ยกให้หนูหมดนั่นแหละ
ใต้กรอบแว่นที่ใส่มาวันนี้ได้เบิกตากว้างก่อนจะยิ้มแย้มพร้อมเม็มปากแน่นและขอตัวเข้าโรงเรียนไปโดยไม่ลืมที่จะบอกลา
“ผมไปเรียนแล้วนะครับพี่วายุ” มือเรียวได้โบกบ๊ายบายโดยที่อีกข้างจับเกียร์ไว้แน่น
ผมส่งยิ้มให้ก่อนจะโบกมือบ๊ายบายน้องขนมกลับเช่นกันตอนนี้ผมอยู่ในอาการตกหลุมรัก 0.5 วินาทีไปแล้วเรียบร้อย
ครืดดด ♪
เสียงสั่นของมือถือที่วางอยู่ยังคอนโซลหน้ารถดังขึ้นมือเรียวหนาได้กดรับสายโดยที่ไม่แม้แต่จะได้ดูชื่อเลยสักนิด
[ วายุ!! ทำแกถึงยังไม่มาห๊ะคณะอื่นเขาถ่ายกันจนจะหมดแล้วนะ!!!]
เจ๊เขมเฮดว๊ากที่ขึ้นแท่นว่าตามตื๊อตัวเขาจนได้มาเป็นเดือนวิศวะแต่ปีหนึ่งแต่เพราะทำไม่สำเร็จแต่ปีสองเขาพลาดก็จึงได้มาเป็นเดือนมหาลัยจนถึงตอนนี้แม้ว่าจะมีการรับน้องทุกปีคนหล่อก็มีเยอะแต่ดันมีนิสัยชอบโดดเหมือนผมเจ๊แกก็จึงสู้ไม่ไหว
“โทษทีรถติดอะรอไม่ได้ก็ไม่ต้องถ่าย”
ผมตอบกลับพี่เขมด้วยน้ำเสียงกวนโอ๊ยตามสไตล์ของตัวเองก่อนจะยกยิ้มขึ้นที่มุมปาก
[ วายุ!!! ไม่สนล่ะรีบมาเลยนะตอนนี้เพื่อนแกมาหมดแล้วพอฉันถามพวกมันก็ไม่รู้เพราะแกเอารถมายังไงซะรีบมาถ่ายขึ้นบอร์ด! ปีหน้าก็ต้องรับน้องกันแล้ว]
พี่เขมร่ายยาวราวบทสวดใส่ผมก่อนจะพล่ามต่อไปหยุดแม้ว่าผมจะโดนแบบนี้มาแต่ปีสองที่ขึ้นรับเดือนวิศวะก็ตามแต่ใครมันจะอยากเป็นล่ะไม่ได้มั่นขนาดนั้นด้วยถ้าแต่ว่า
“ได้พี่จะถึงล่ะนี่อยู่วงเวียนพอดีวันนี้อารมณ์ดีว่ะ”
น้ำเสียงก่อกวนนัยตาสีน้ำตาลที่มีเสน่ห์ใบหน้าหล่อเข้มได้ยกยิ้มก่อนจะเลี้ยวรถไปยังคณะของตนแลพหาที่จอด
[อารมณ์ดี? แกน่ะนะวายุ!? เอาเถอะรีบมานะรู้มั้ยฉันน่ะรีบ-]
ติ๊ด-
ไม่รอเสวนาฟังต่อวายุก็กดวางสายงั้นก็แปลว่าสอบเสร็จและจบจากโรงเรียนน้องขนมของเขาที่สอบเข้ามหาลัยเสร็จแล้วช่วงปิดเทอมก็
“ร้ายจังนะตัวเล็ก” น้ำเสียงทุ้มมีเสน่ห์พูดขึ้นก่อนจะยิ้มหน้าบานเดินเข้าคณะของตัวเองก็วายุจะมีขนมแล้วนี่นา
“ไอ้วายุ!! มึงไลน์บอกกูแต่เช้าไหง่มึงมาสายกว่าพวกกูวะ” ไอ้ซีมันตะโกนและวิ่งมากระโจนเกาะไหล่ผม
“เพื่อนกูมีความรักว่ะ” ไอ้หนิงที่ตามมาไม่รอช้าจะแซว
“ไม่มีคนเอาก็อย่าเห่าหนิง” ไอ้ทิวมันแซวหนิงก่อนจะโดนกำปั้นชนไหล่ไปที
“โอ๊ย ไอ้สาดด” ไอ้ทิวมันแอคติ๊งวิ่งหนีไอ้หนิงรอบผมกับไอ้ซีที่เดินกันอยู่
“เป็นไงวะเพื่อน” ไอ้ซีที่สถานะพร้อมเสือกเอ่ยถามผม
“หึ ใจกูอยู่ที่น้องไปแล้ว” ผมยกแขนขึ้นข้างหนึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่าเกียร์ที่เคยหวงมีเจ้าของไปแล้ว
“เชรดเข้!!! เพื่อนกูเหนือว่ะวายุมึงมันเท่จัดเลย!” ไอ้ซีมันตกใจก่อนจะไปลากไอ้หนิงกับทิวที่เล่นกันมาหาผม
“ชมเหี้ยไรล่ะกูแค่จริงจังเอง” ผมเลิกคิ้วก่อนจะเดินนำพวกมันไป
“เชี่ย เกียร์มีเจ้าของว่ะ”
ไอ้ทิวมันเดินมาแสดงสีหน้ากวนใส่ผมก่อนจะถลึงตาโตพวกมึงจะแอคติ้งอะไรมากมายวะ
“อั๊ยยะเพื่อนกูมีเมียล่ะ แน่ๆคืนนี้” ไอ้หนิงมันพูดก่อนจะทำท่าทีเหมือนยกแก้วเหล้า
“เหี้ยไรล่ะจะปิดเทอมอยู่ล่ะเนี่ยกูถ่ายงานแป๊ปนึง”
ผมยักคิ้วใส่ไอ้หนิงก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่เขมที่กำลังถ่ายแบบให้ดาว-เดือนคณะอื่นอยู่ก่อนจะชี้หน้าพวกมันเรียงตัว
“พวกมึงนะอย่าแอบหนีกูนะ”
ผมพูดทิ้งท้ายก่อนจะมองที่แขนซ้ายของตัวเองที่เคยสวมเกียร์ไว้ก่อนจะนำมันเก็บไว้ดีๆเพราะตอนนี้มันมีเจ้าของแล้วผมยกยิ้มอย่างอารมณ์ดีอีกครั้งก่อนเดินไปหาพี่เขมด้านใน
วันนี้เป็นวันธรรมดาเช่นเคยที่สอบเสร็จแล้วอาจจะดูเร็วไปหน่อยแต่ก็ถือว่าโอเคเลยดีเดียวตอนนี้ตามสัญญาเขาออกมาเดตกับพี่วายุถึงตลอดมาจะคุยแชทกันจนรู้ลึกแทบทุกอย่าง
มหาลัยวันนี้มีการจัดนิทรรศการต้อนรับปีหนึ่งหรือก็คืออวดสรรพคุณเพื่อให้มีเด็กเข้ามาเรียนเยอะขึ้นหน้าที่ของดาว-เดือนมหาลัยที่พอจะดังก็จึงมีหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์
"แต่ไม่คิดว่าจะเล่นใหญ่โดยการเอารูปมาติดป้ายบอร์ดหน้าตึกเรียนขนาดนี้"
ผมจ้องมองไปยังรูปของตัวเองที่ติดอยู่ยังตึกอาคารเรียนอย่างอนาถเล่นใหญ่กันจริงๆ พวกนี้
"ดีใจหน่อยดิวะคนดังเลยนะเว้ย" ไอ้ซีมันแซวผมก่อนจะเอาโทรศัพท์มาถ่ายลงสตอรี่ตามเคย
"นั่นดิวะเผื่อว่าน้องมันจะสนอกสนใจ"
ไอ้หนิงมันแซวที่ผมตามจีบน้อง ขนม อยู่เขาว่าคนน่ารักมักคู่กับคนหล่อไม่ใช่ว่าใครที่ไหนหรอกผมเองนี่แหละ ฮะฮะ
ผมไม่ได้ตอบอะไรไอ้หนิงไปแค่ถอนหายใจและยักไหล่ให้จากนั้นพวกผมก็พากันเดินออกไปจากตรงนั้น
ผมที่มาถึงมหาลัยของพี่วายุก็ได้ชายตามองไปยังซุ้มขายของมากมายตระการตาแต่ที่ผมสนใจเลยนั่นก็คือตุ๊กตาการต่าย! ล้อเล่นรูปของพี่วายุที่ติดอยู่กับป้ายพร้อมขึ้นว่าเดือนวิศวะต่างหาก!!
"มึงกระต่าย"
ผมพูดขึ้นทำเอาเพื่อนผมมันพากันเดินหนีไปจนหมดไม่รอสักคนพวกมันคงด่าผมแน่ถ้าผมซื้อตอนนี้ก็แทบจะเต็มห้องแล้ว
แต่ที่ติดใจผมก็คือรูปพี่วายุต่างหากเดือนคณะวิศวะงั้นหรอนี่มันสุดยอดเลยนี่นาผมยิ้มกรุ่มกริ่มจนไอ้เฟรมมันมาลากผมออกไป
"มึงหยุดเลยเต็มห้องล่ะนะ"
ไอ้เคมันบ่นผมที่กำลังโดนไอ้เฟรมลากออกไปจากซุ้มขายตุ๊กตาผมเองก็ไม่ได้เถียงพวกมันหรอกนะเพราะมันจริงน่ะสิ
"เออขนมสรุปมึงกับพี่คนที่จีบมึงเมื่อตอนนั้นถึงไหนแล้ววะ"
ไอ้ศรมันถามขึ้นอย่างพร้อมเสือกและพวกที่เหลือก็ไม่รอที่จะเค้นคำตอบจากผม
"ก็ชอบแหละ"
ผมตอบพวกมันไปอย่างเขินๆก่อนที่ไอ้เคกับเฟรมมันจะเบ้ปากและแสดงท่าทีเหมือนจะอ้วกให้ส่วนไอ้ศรมันก็พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม
"เพื่อนกูจะไม่โสดว่ะ"
ไอ้ศรมันว่าขึ้นก่อนที่พวกผมจะรวมกลุ่มกันเดินไปต่อก็หาไรกินกับดูคณะแหละเพราะผมจะเข้าสถาปัตย์! ไม่ใช่ไรหรอกแค่อยากเป็นสถาปนิกเท่านั้นแหละเพราะพี่ชายพี่สาว
"แหน๊ เพื่อนกูจะมีแฟนว่ะ"
ไอ้เฟรมที่เล่นพอใจก็แซวผมตอนนี้พวกเรามาถึงซุ้มคลอสเพลย์คนที่ชอบอนิเมะแบบผมมีหรอจะพลาดก็ถ่ายกับตัวละครที่ชอบที่วางอยู่หน้าซุ้มไปเลยสิครับ
"อ่ะ พี่วายุ"
ผมที่ตกใจได้หันไปเอ่ยเรียกชื่อพี่วายุก่อนจะโดนรอยยิ้มเจ้าสเน่ห์ส่งกลับมาถึงจะถ่ายรูปในป้ายมาก็หล่อไม่สู้ตัวจริงจริงด้วยแฮะ
"ถ่ายกับพี่ดีกว่า"
พี่วายุว่าขึ้นพร้อมยิ้มให้เพื่อนๆของผมที่พวกมันยกมือหวัดดีซึ่งผมเองก็ลืมไปเลยแต่พี่วายุก็ไม่ได้ว่าอะไรก็นี่เป็นมหาลัยของพี่วายุนี่นา
"พี่ๆสวัสดีครับ"
เพื่อนผมเอ่ยทักทายและยกมือไหว้ในขณะที่พี่วายุเอามือถือของผมไปถ่ายรูปผมกับตัวเองอย่างไม่อายคนรอบข้างอยากจะบอกว่าเขินครับพี่
"ผมว่าจะเดินดูคณะต่อน่ะครับ"
ผมเอ่ยปากบอกพี่วายุที่ยืนจ้องผมปานจะกลืนลงท้องด้วยรอยยิ้มก่อนจะยิ้มตอบพี่มันไปก็ในเมื่อสอบไปแล้วการดูมหาลัยที่จะต่อและสอบเข้าจึงต้องเร่งไม่งั้นจะแย่เอา
"ไปด้วยกันมั้ยล่ะพี่จะพาเราทัวร์เอง"
ไม่รอช้าที่พูดจบพี่วายุก็พาผมออกมาจากเพื่อนๆในทันทีผมเองก็ทำได้แต่ส่งยิ้มให้เพื่อนของผมที่เบ้ปากเหม็นความรักกัน
"เดี๋ยวเจอกันนะพวกมึง"
ผมบอกลาพวกมันก่อนจะเดินตามพี่วายุออกมาพอมองดีๆแล้วหล่อกว่าในรูปที่ติดอยู่หน้าตึกอีกผมที่มัวแต่เหม่อมองพี่วายุก็โดนเรียกสติจากพี่มัน
"น้องขนมครับ? ทำไมเขินพี่หรอ"
พี่วายุเรียกผมก่อนจะเอ่ยถามถ้าบอกว่าเขินจริงๆล่ะ? ก็เล่นหล่อขนาดนี้แต่อีกไม่นานผมก็จะเข้ามหาลัยปีหนึ่งแล้วกับความรักที่เพิ่มขึ้นแม้ว่าจะคุยกันบ่อยแค่ในแชทก็ทำเอาแก้มแดงขึ้นมา
"ก็พี่หล่ออะแบบนี้ผมก็ดับดิ"
ใช่ออร่าของพี่วายุกลบผมไปหมดเลยลาก่อนความชิคที่สะสมมาหมดไปตั้งแต่ที่รู้จักกับพี่มันแต่ถ้าเป็นแฟนก็คุ้มนะ
"ไม่ดับหรอกแล้วว่าแต่เราเถอะตัดสินใจได้หรือยัง"
พี่วายุเอ่ยถามผมอีกครั้งขณะที่เดินหลบผู้คนมายังใต้ต้นไม้ที่มีม้านั่งอยู่พวกเรานั่งลงภายในความเงียบที่มีผู้คนพลุกพล่าน
"เลือกไว้แล้วล่ะครับ"
ผมตอบพี่วายุพร้อมกับฉีกอมยิ้มมากินถือไว้นานล่ะเดี๋ยวเสียของพี่วายุดูจะหลุดอมยิ้มออกมาก่อนจะส่ายหัวเบาๆ
"ไม่ใช่ ที่ว่าจะคบกับพี่น่ะ"
พี่วายุถามขึ้นก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมที่กำลังกินอมยิ้มอยู่ก็ชัดเจนขนาดนี้แล้วผมเอียงตัวเองไปผิงพี่วายุก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดยกใหญ่และปล่อยออกมา
"ครับผมตกลง" เพราะผมก็ชอบพี่เหมือนกัน
พี่วายุดูจะอ้ำอึ้งไปสักพักก่อนจะหน้าแดงขึ้นมาและใช้มือหนาลูบหัวของผมไปพรางด้วยรอยยิ้ม
"เราเป็นแฟนพี่แล้วนะ"
ผมตอบน้องขนมไปด้วยน้ำเสียงที่ดูจะสั่นอยู่ไม่น้อยก็คนมันเขินนี่นาถึงกระนั้นเหมือนคนที่น่าแกล้งจะเป็นน้องมันมากกว่าผมจึงเสยผมใส่ไปที
ออร่าความหล่อของพี่วายุส่งมาให้ผมตอนนี้เราอยู่ในสถานะแฟนกันแล้วผมหลบทันออร่านั้นก่อนจะยืดเส้นยืดสายไปทีและลุกขึ้นไปเตรียมรายงานตัวเข้าคณะที่จะเรียนต่อจากนี้
พี่วายุหัวเราะแห้งๆออกมาก่อนจะพาผมเดินทัวร์ตามที่บอกไว้ก่อนหน้ามหาลัยนั้นใหญ่มากถ้าไม่มาดูไว้มีหวังหลงแน่แต่วันแรกผมชายตามองไปทั่วด้วยความตื่นตาก็นะนอกจากโรงเรียนก็มีหลายที่ที่ไม่เคยไปเพราะไม่รู้ว่าจะไปทำไมยกเว้นห้างนะไปบ่อยแค่ไหนก็หลงตลอดแฮะๆ
"เราจะเรียนคณะไหนหรอพี่จะได้พาไปถูก?"
วายุถามผมก่อนจะยื่นมือมาให้จับและผมก็จับผมบอกพี่วายุว่าจะเรียนสถาปัตย์และเราก็ได้เดินไปยังคณะถาปัตด้วยกันเพราะพี่วายุมีรุ่นพี่อยู่น่าจะแนะนำได้
เรามาถึงยังคณะสถาปัตย์ทำเอาผมไปไม่เป็นอยู่ไม่น้อยเนื่องจากการเรียนหนักและงานที่โคตรเยอะไม่พักแต่ผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะเรียนจึงฮึดสู้! ไม่ยอมแพ้หรอก
"ถึงแล้วถาปัต" ผมบอกน้องที่ตาบุกวาวอยู่ข้างๆ
"คณะสถาปัตย์หรอยอดเลยมีแต่ของเจ๋งๆ"
ผมมองน้องมันที่เดินดูผลงานของรุ่นพี่อย่างตื่นตาที่จริงก็อยากบอกว่าวิศวะก็ดีนะแต่ไม่อยากกวนใจน้องผมยิ้มตอบรับก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแชทหาเพื่อนต่างคณะให้มาแนะนำน้องต่อ
"นี่พี่นิ้ง.. พี่นิ้งน้องอยากเข้าถาปัตอะ"
ผมแนะนำเจ๊นิ้งให้น้องขนมรู้จักน้องขนมน้องดูจะตื่นอยู่ไม่น้อยก่อนจะทักทายพี่นิ้งกลับส่วนยัยนิ้งก็ส่งสายตามาผมไม่พักคงอยากจะถามนั่นแหละ
"ว่าไงเราจะเข้าถาปัตอ่อ"
พี่นิ้งเอ่ยถามน้องที่มีท่าทีตื่นเต้นก่อนจะยิ้มตอบที่น้องขนมพยักหน้าทักทายอย่างสดใสให้
"ครับ!! สวัสดีครับพี่นิ้ง"
ขนมยกมือไหว้ก่อนจะยื่นมือไปกุมมือวายุเอาไว้ไม่ได้จะขิงนะ! แค่อยากให้รู้ว่ามีแฟนแล้วแค่นั้นเอง
ในขณะที่กำลังดูผลงานของรุ่นพี่และเตรียมกรอกใบสมัครชมรมล่วงหน้าก็ได้สะดุดตากับผลงานหนึ่งที่คุ้นเคยเป็นของพี่ชายผมเอง นุนิว ที่ใช้ผมช่วยผมมือหงิก!
ทำไมถึงได้ติดบอร์ดนะไม่สินี่มันมหาลัยเดียวกันกับอิพี่มันนี่นาถึงจะว่าอย่างนั้นก็เถอะแต่ว่าช่างมันล่ะกัน
"ชอบผลงานนี้หรอคนสร้างมันชื่อ นุนิว เพื่อเราอยากให้มันสอน"
พี่นิ้งที่เห็นผมกับพี่วายุเดินดูจนทั่วแล้วหยุดที่ผลงานหนึ่งที่บอร์ดอย่างจดจ้องทำเอาพี่นิ้งอดไม่ได้ที่จะมาแนะนำให้ 'นั่นไงว่าแล้วเชียว' ผมคิดในใจ
"ก็ไม่มีไรมากหรอคณะนี้ส่วนมากมีแต่งานแหละถ้าเราลงชมรมแล้วก็โอเคแล้วแหละตอนนี้ก็เป็นพี่น้องกันแล้วเนาะ"
พี่นิ้งว่าจบก็ปล่อยให้ผมกับพี่วายุอยู่ด้วยกันเธอก็เอาเอกสารสมัครเข้าชมรมที่ผมเขียนเสร็จแล้วไป
"พี่วายุเราไปเดินเที่ยวกันในมอมั้ย"
ผมถามพี่วายุที่กำลังกวาดสายตาดูผลงานของสถาปัตอย่างชื่นชมก่อนจะหันมาสบตากับผมที่เอ่ยถามไป
"เอาสิ"
พี่วายุตอบพร้อมกุมมือผมไว้แน่นและพาออกจากคณะสถาปัตไปพร้อมกันโดยไม่ลืมที่จะบอกลาพี่นิ้งจะกลายเป็นพี่สายของผมในอนาคตอันไม่ไกลนี้
เมื่อบอกลาแล้วก็จึงขอตัวจากออกมาลมหน้าร้อนที่พัดมากระทบหน้าทำเอาเย็นชดชื่นไปหมดถึงแสงแดดมันจะร้อนจนแทบไม่ไหวก็ตาม
"ปกติพี่วายุพักเที่ยงที่ไหนหรอ?"
ผมถามเจ้าตัวไปพี่วายุบอกว่าถ้าพักเลทก็จะไม่ได้ไปโรงอาหารวิศวะจะสั่งมากินไม่ก็รอเลิกทีเดียวเลยแต่ถ้าพักเร็วก็จึงจะไปหาของว่างหรืออาหารกินทีเดียว
"ก็ตามนั้นแหละ" พี่วายุตอบ
"งี้เอง"
ผมแสดงสีหน้าฉุดคิดก่อนจะยิ้มกว้างให้คุณแฟนของผมเพราะดูท่าว่าจะไม่มีอะไรพูดเลยนอกจากเรื่องสัพเพเหระและทั่วไปทั้งที่คบกันแล้วแท้ๆแต่กลับดูจะไม่เหมือนเลยสักนิด
"อะ หวา"
มือเรียวหนาได้เอื้อมมาบีบแก้มของผมและพี่วายุอีกตามเคยทำเอาผมงงอยู่เล็กน้อย
"อะไรน่ะพี่วายุ" ผมถามพี่วายุที่เอาแต่ส่งยิ้มหล่อมาให้
"ก็เห็นแฟนเงียบไปนี่นา"
ผมตอบน้องขนมที่อยู่ ๆก็มุ่ยหน้าขึ้นมาถึงจะน่ารักแต่ก็ดูไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่เพราะพึ่งคบกันก็เลยยังไม่กล้าเท่าไหร่
"แก้มนุ่ม"
ผมตอบน้องขนมไปพร้อมเดินเข้าใกล้และเอียงตัวไปโอบเอวบางนั้นไว้เพราะในมอมีแต่คนพลุกพล่านที่หาคณะสอบเข้าหามหาลัยสัมภาษณ์กันเต็มไปหมดคนเลยเยอะ
"อะไรกันเล่า"
ถึงจะพูดออกมาแบบนั้นแต่น้องขนมก็เอนตัวมาผิงกลับจริงสิถูกถามเรื่องพักเที่ยงหรือว่าหิวกันนะผมคิดแบบนั้นก็จึงพาน้องเดินมาโรงอาหารที่วิศวะถึงจะกังวลว่าน้องจะกลัวที่โดนแซวเพราะนอกจากปากแจ๋วแล้วยังชอบจุ้นอีก
"โรงอาหารวิศวะ? หืม" น้องขนมหันมาทำหน้างงใส่ผม
"ก็หิวไม่ใช่หรอพี่เลี้ยงเอง"
ผมตอบน้องใบหน้าเรียวใต้กรอบแว่นที่เหมือนแมวส่งออร่ามาให้ด้วยความฉงนก่อนจะเดินมาติดๆไปซื้อขนมมานั่งด้วยกัน
"ผมก็บอกว่าหารกันไงเล่า"
น้องขนมยื่นตังมาให้ผมและผมก็ไม่เอาอยู่ดีแฟนคนเดียวผมดูแลได้ไม่มีปัญหาถึงจะโดนฟึดฟัดใส่บ้างก็ตาม
"ก็พี่อยากดูแลเรานี่นา" ผมตอบน้องขนมไป
"งั้นเอาไปครึ่งนึง!" ไม่วายที่น้องจะยื่นแบงค์เล็กมาให้
"พี่เอาไปเถอะนะ นะๆ"
พอโดนน้องขนมอ้อนก็จึงต้องจำใจรับเอามาเพราะกลัวคนอื่นสนใจแฟนตัวเองก็เล่นน่ารักไม่สนใจใครเลยนี่นา
"ก็ได้ อย่าน่ารักสิพี่หวง"
น้องขนมที่กำลังกินขนมหวานที่ซื้อมาอยู่เงยหน้าขึ้นมาสบตาผมก่อนจะหยิบห่อใหญ่มายื่นให้ผมแกะ
"ไม่ได้จะให้หวงสักหน่อยแค่ไม่อยากเอาเปรียบพี่นี่น่า อ่ะนี่"
เป็นรสเผ็ดน้อยที่หวานมากไม่ได้หวานที่ขนมแต่คนตรงหน้าต่างหากเป็นวันที่ทั้งวุ่นวายและมีความสุขมากสำหรับผมเลยผมมองน้องขนมด้วยใจสั่นระรัวน่ารักจริงนั่นแหละ
น่าเสียดายที่แค่แป๊ปเดียวอีกแล้วเพราะน้องต้องเตรียมตัวอีกไม่นานก็จะได้เข้ามหาลัยแล้วเราเองก็ต้องทำงานทั้งในมอและเรียนอีก
"พี่วายุไว้ผมจะโทรหานะ"
น้องขนมส่งจุ๊บให้ผมก่อนจะขอตัวไปกันเพื่อนทำไมแฟนของผมถึงได้น่ารักขนาดนี้กันนะอยากจุ๊บจริงโดยที่ไม่ต้องส่งมาแบบนี้จังไว้น้องเข้ามหาลัยก่อนดีกว่า
"พี่จะรอนะ"
ผมขยิบตาให้น้องมันที่กำลังเดินไปกับเพื่อนแน่นอว่าเพื่อนผมเองก็ตามมาติดๆไม่ห่างไปไหนพวกนี้นิ
ขนมที่เดินออกมาเมื่อโดนไอ้เฟรมเรียกโดยที่ทีมีไอ้เคกับศรยืนขิงใส่อยู่ไม่ห่างผมเบะปากใส่พวกมันก่อนจะเดินเข้าไปหา
"เพื่อนกูมีแฟนว่ะ" ไอ้ศรมันรีบแซวผมในทันที
"อิจฉาจังน่าพวกคนมีแฟน" ไอ้เฟรมมันว่าขึ้นก่อนจะเดินมาจับบ่าผม
"อะไรของพวกมึงเนี่ย" โดนขนาดนี้ก็เขินดิ
ผมมองไอ้แค่มันเคที่มันเงียบอยู่คนเดียวที่จริงมันก็ไม่ได้ตั้งใจเงียบหรอกแค่คงยังคิดเรื่องแซวไม่ออกแต่คงไม่พ้นเรื่องพี่วายุอยู่ดีแฟนของผมพอได้โอกาศก็เล่นใหญ่กันจังเลยนะพวกนี้
"มึงพี่เค้าให้กูมาด้วยแหละ" ไอ้เคที่มันเงียบอยู่มันหยิบที่คาดผมหูกระต่ายมาให้ผม
"จริงอะ! ขอได้มะ" อะไรที่เป็นกระต่ายผมชอบหมดแหละผมรีบขอมันทันที
"แหน๊~ ยกตำแหน่งเก่ามึงให้กูเลยนะแก๊งเรามึงเข้าถาปัตคนเดียว"
มันชี้หน้าผมพร้อมเล่นหูเล่นตาชวนกวนโอ้ยแปลกๆที่จริงก็ตลกจนไอ้เปรมกับศรมันทนไม่ได้หัวเราะกันออกมาเสียงดังนั่นแหละ
"อุ๊บ! อะ อือได้มึงอย่างเล่นดิโคตรฮาเลย"
ผมที่รับมาก่อนจะหันไปหลบขำไหล่สั่นที่มุมอื่นหน้ามันตลกเวลาที่ตั้งใจจะเล่นมุกแม้ว่าแก๊งผมจะขึ้นชื่อแป๊กไม่จำกัดก็ตาม
"จริงนะจริงหน่าา" ไอ้เคมันหยอกล้อก่อนที่พวกผมจะร่วมใจกันหัวเราะออกมา
"ฮ่า ๆๆๆๆตลกไอ้สัสเล่นไรมึงเนี่ย" พวกผมว่าขึ้นพร้อมกันก่อนที่ไอ้เคมันจะขำตาม
ก่อนจะเดินเกาะกลุ่มกันหาเล่นไปเรื่อยก่อนจะแยกกันกลับส่วนไอ้เฟรมก็เหมือนเดิมเล่นกีฬาจึงแยกย้ายกันไปเมื่อใกล้เย็นแล้วแน่นอน! ขนมคนนี้ไม่ลืมที่จะโทรหาแฟนตัวเองอย่างพี่วายุ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!