..."บันนี่~~~~" เสียงเรียกของคนที่คุ้นเคยดังมาแต่ใกล "ครับ" บันนี่ขานรับอย่างเดิมเหมือนปกติ "กินกล้วยฉาบมั้ยเห็นไม่ได้กินข้าวแต่เช้าเที่ยงก็ไม่กินเดี๋ยวก็หิวอีก" จันทร์ คนที่บันนี่คุยมาเกือบ 1 อาทิตย์แล้ว ด้วยความที่จันทร์เป็นคนน่ารักมาก เล่นกีฬาก็เก่ง เรียนก็ได้ บันนี่จึงยอมเปิดใจ จนถึงวันนี้ที่เขาแปลกไปจากเดิมมาก จันทร์จึงเป็นห่วง "ผมไม่หิวจริงๆครับ" บันนี่ตอบเสียงเรียบ **จันทร์ก็พอคิดได้ว่าทำไมน้องถึงเป็นแบบนี้และรีบเดินออกมาระบายความรู้สึกในห้องเก็บกระเป๋า.....
...----------------...
16:30 น.
ในห้องแชทของทั้งสองคน
จันทร์ : บันนี่พี่ถามจริงๆนะเราเป็นไรรึป่าว [จันทร์ถามด้วยความเป็นห่วงแม้ลึกๆจะรูอยู่แล้วก็ตาม]
บันนี่ : ป่าวครับผมไม่ได้เป็นอะไร
จันทร์ : พี่เชื่อเรานะ [เมื่อน้องไม่ตอบจันทร์จึงต้องเค้นน้องออกมา]
บันนี่ : ครับ ผมแค่ไม่พร้อม [บันนี่ตอบด้วยคำที่คิดออก]
จันทร์ : พี่จะรอเรานะ [จันทร์เริ่มมีสีหน้าที่ไม่โอเคจนสังเกตุได้]
บันนี่ : ครับ... [บันนี่ตอบ]
จบการสนทนาในห้องแชท.
...ΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩ...
หลังจากนั้นบันนี่ก็ ไม่พูด ไม่คุย ไม่เล่น ไม่ติดต่อกับจันทร์อีกเลยจนจันทร์รู้สึกว่าจะรอน้องต่อไปและพยายามให้มากขึ้น เเละหลายวันผ่านไป หลายอาทิตย์ต่อมา แล้วนานเข้าเหมือนบันนี่จะไม่ต้องการใครแล้วจึงฝากเพื่อนที่สนิทกับจันทร์มาบอกว่า " ไม่ต้องพยายามแล้ว ผมไม่กลับไปแล้ว และไม่เคยให้ความหวัง" จันทร์รู้สึกรับไม่ได้กับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นและไม่พร้อมกับทุกสิ่งทุกอย่างบางวันก็เหม่อคิดถึงแต่น้อง บางวันก็เอาแต่ร้องไห้ ข้าวปลาไม่ค่อยจะกินจนเพื่อนๆเป็นห่วงสภาพของจันทร์ตอนนี้ไม่ค่อยสู้ดีนักทั้งสภาพจิตใจและร่างกาย เรียนแย่ลง แทบไม่รู้เรื่อง งานไม่ทำเอาแต่เขียนหาบันนี่จนเพื่อนเริ่มเอือม
...****************...
02:23น.
ในคืนนึงที่จิตใจของจันทร์แทบไม่เหลืออะไรเลย จันทร์เครียดและท้อนอนกอดตัวเองทั้งคืนคิดถึงเรื่องราวต่างๆที่เคยมีร่วมกันบันนี่เป็นคนที่จันทร์แคร์ที่สุดแต่ตอนนี้จันทร์ทำได้แค่มองดูน้องอย่างเดียว จันทร์หยิบมีดคัดเตอร์ตัดกระดาษขึ้นมาและกรีดเเขนตัวเองจนมีเลือดไหลซึมออกมาและจันทร์ก็เครียดหนักกว่าเดิมจึงคว้าผ้าห่มมาผูกตรงราวเเขวนผ้าม่านที่สูงจากพื้นประมาณเกือบ 2 เมตร
จันทร์เดินไปเอาเก้าอี้มาวางข้างหน้าราวแขวนผ้าม่าน นึกขอโทษทุกคนและปีนขึ้นไปแขวนคอและถีบเก้าอี้ออกหวังฆ่าตัวตาย
แกร๊ก..
เสียงเปิดประตูของผู้เป็นแม่มาเช็กลูกว่าทำไมยังไม่นอนเพราะได้ยินเสียงเก้าอี้ล้มและเมื่อเปิดมาทำให้แม่ของจันทร์ใจสลายกรี้ดและร้องไห้รีบคว้าตัวลูกลงมาพ่อที่ได้ยินเสียงแม่กรี้ดจึงรีบวิ่งขึ้นมาที่ห้องจันทร์ภาพที่พ่อเห็นคือแม่กำลังพยายามเอาลูกลงมาจากราวแขวนผ้าม่านพ่อถึงกับน้ำตาไหลเป็นสายน้ำและรีบวิ่งไปอุ้มลูกสาวมาไว้ในอ้อมอกพาขึ้นรถส่งโรงพยาบาลทันที**
......................
ตัดครับ...
ตอนนี้เป็นเวลา ตี 2 กว่าๆ
...พ่อของจันทร์ขับรถพาจันทร์ไปถึงโรงพยาบาล และเข้าห้องฉุกเฉินทันทีพ่อและแม่ของจันทร์ทั้งเศร้า ทั้งรู้สึกผิด และคิดกันไปต่างๆนานาว่าทำไมจันทร์ถึงเป็นได้ขนาดนี้ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้จันทร์เป็นเด็กร่าเริงและสดใส รักกีฬา...
จนมาเจอเด็กคนนั้นจันทร์ก็ร่าเริงมากขึ้นไปอีก พ่อกับแม่ก็รู้แต่ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเห็นลูกมีความสุขพ่อกับแม่ก็สบายใจแต่พอผ่าน 1 อาทิตย์นั้นไปจันทร์ก็ไม่พูดถึงเด็กคนนั้นอีก ไม่กินข้าวกินปลา นั่งเม่อลอยทั้งวัน การเรียนก็แย่ลง กีฬาก็ไม่เล่น ไม่หัวเราะ ไม่ขำ บางวันก็เอาแต่ร้องไห้ และในคืนนี้จันทร์คงต้องแอดมิทที่โรงพยาบาลแม่จึงเฝ้าจันทร์อยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนพ่อก็กลับบ้านเตรียมอาบน้ำไปแจ้งลาให้ลูกและคงต้องไปถามหาเด็กผู้ชายคนนั้นเเละคุยให้รู้เรื่อง
...****************...
7:30น.
พ่อของจันทร์เดินทางไปถึงโรงเรียนแห่งหนึ่งที่จันทร์ศึกษาอยู่ พ่อของจันทร์เดินเท้าไปยังห้องปกครองเพื่อยืนใบลาป่วยของจันทร์ให้กับครูฝ่ายปกครองแต่ในใบไม่ได้เขียนว่าจันทร์ป่วยด้วยอะไรครูฝ่ายปกครองอ่านแล้วจึงต้องถามว่าจันทร์ป่วยเป็นอะไรพ่อของจันทร์เลี่ยงไม่ได้ที่จะตอบจึงตอบว่าจันทร์นั้นพยายามฆ่าตัวตายและต้องแอดมิทที่โรงพยาบาลอีกหลายวัน หมอบอกว่าต้องเข้ารักษาการบำบัดซึมเศร้าจึงค่อยกลับมาเรียนใหม่ได้ ในขณะนั้นตอนที่พ่อของจันทร์กำลังเล่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นให้ครูฝ่ายปกครองฟัง กลุ่มของเด็กชายหลายๆคนและหนึ่งในนั้นคือบันนี่ บันนี่เดินผ่านห้องปกครองและมองเข้าไปเห็นพ่อของจันทร์อยู่ในห้องจึงหยุดยืนฟังเพราะวันนี้เค้าก็ไม่เห็นจันทร์เลยทั้งที่ปกติจะบังเอิญเดินเจอกันบ่อยมากและบันนี่ก็ได้ยินทุกอย่าง เค้ารู้สึกสับสนเหมือนสมองจะระเบิดเค้าคิดว่าเวลาแค่นี้มันรักใครสักคนได้ขนาดนี้เลยเหรอ เค้ารู้สึกผิดและคิดอะไรไม่ออกได้แต่หยุดยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น พ่อของจันทร์เดินออกมาจากห้องปกครองมองหน้าบันนี่สักพักแล้วก็เดินออกไป "ไอเชี่ยบันนี่!! มึงเป็นเชี่ยไรอยู่ดีๆก็หยุดเดินเรียกก็ไม่ได้ยิน"
เพื่อนของบันนี่ได้แต่ท้วงถาม "ป่าว ไม่มีไร" บันนี่เดินต่อไปและไปนั่งเล่นอยู่ที่ห้องเรียนของจันทร์เพราะมีรุ่นพี่ที่สนิทอยู่ที่นั่น บันนี่นั่งเล่นกับ พิมพ์และฟ้าเพื่อนสนิทของจันทร์และพูดออกมาว่า "แค่ลืมๆไปมันยากตรงไหน" สบถด้วยความรู้สึกทุกอย่าง ด้วยความที่บันนี่ยังไม่เคยมีแฟนและไม่เข้าใจว่าความรักมันเป็นอย่างไร เพื่อนของจันทร์ได้ยินแล้วก็รู้สึกเจ็บแทนไม่คิดว่าน้องจะพูดขนาดนี้และทั้งสองก็ได้รู้อยู่แล้วว่าตอนนี้จันทร์แอดมิทอยู่ที่โรงพยาบาล ตอนแรกพิมพ์กับฟ้าคิดว่าคงต้องบอกจันทร์เรื่องนี้เเต่เห็นเป็นแบบนี้แล้วก็คิดว่าไม่น่าบอกแล้ว ทุกคนก็คุยกันไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาเรียนแต่ละคนก็แยกย้ายกันไปเรียนประจำห้องตัวเอง
...ΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩ...
ตัดครับ.
"แค่ลืมๆไปมันยากตรงไหน" จนถึงวันนี้พิมพ์ก็ยังคงคิดวนไปเวียนมาอยู่ในหัวว่าควรบอกดีมั้ยเพราะเป็นห่วงเพื่อนรักเช่นเดิมถึงแม้เพื่อนจะกลับมาเรียนได้ตามปกติแล้วก็ตาม ทว่าจริงๆจันทร์นั้นก็ยังไม่หายดีแต่จันทร์ก็กังวลว่าเพื่อนจะเป็นห่วงจึงได้แต่โกหกไปตามน้ำ
...ΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩ...
12:30 น.
หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จกลุ่มเพื่อนๆก็มานั่งจัดการกับของว่างที่ซื้อมาตรงจุดประจำที่ๆพวกเค้าได้เจอและรู้จักกันและพาแฟนๆของตัวเองมาเล่นด้วยกันอีกด้วยและวันนี้ก็เหมือนเดิมพิมพ์กับน้องปกและฟ้ากับซิมยังนั่งคู่กันเหมือนทุกๆวันส่วนจันทร์ที่ตอนนี้ที่ไม่มีน้องบันนี่เหมือนเมื่อก่อนก็ได้แต่คิดน้อยใจตัวเองที่ทำไมถึงต้องเป็นคนถูกทอดทิ้งตลอดสุดท้ายก็ต้องเก็บความรู้สึกนั้นไว้ในใจทั้งที่อยากปล่อยออกมาให้หมดๆไปเสียทีก็ตาม พิมพ์ที่สังเกตุเพื่อนอยู่ตลอดเวลาเมื่อเห็นว่าจันทร์เหม่อลอยก็เอาแต่เป็นห่วง "มึงพวกกูไปหาซื้อของกินเพิ่มก่อนนะ" ฟ้าบอก "จะฝากซื้ออะไรมั้ยอ่ะ เดี๋ยวซื้อมาให้" น้องปกถาม "งั้นเค้าเอาบลูฮาวายแก้วนึง ไอ้จันทร์เอาไรป่าวฝากน้องไปก็ได้" ทำให้จันทร์ตื่นจากภวงของความคิด "อื้อ งั้นกูเอาไอติมผัดรสโอริโอ้ก็ได้" "รับทราบครับ!! " ใช่ว่าแค่เพื่อนๆที่รู้เรื่องนี้แต่กับน้องๆที่สนิทก็รู้เช่นกันเอาง่ายๆคือคนส่วนใหญ่รู้ยกเว้นบันนี่ที่ทุกคนพยายามปิดบังอยู่ จึงช่วยกันดูแลและให้ความห่วงใยจันทร์มากขึ้น "ขอบคุณนะ" จันทร์ยิ้มตอบและดีใจที่ทุกคนเทคแคร์จันทร์ขนาดนี้ "จันทร์..." เสียงเรียกของพิมพ์ทำให้จันทร์หันไปหยักคิ้วเหมือนบอกว่าได้ยินแล้ว "คือ.....กูมีอะไรจะเล่าให้ฟังก่อนคนอื่นจะกลับมาอ่ะ " พิมพ์ยังคงไม่แน่ใจว่าบอกจันทร์ดีหรือไม่เรื่องบันนี่ แต่ก็จำใจต้องบอกไม่อยากให้มันคาใจไว้ "มีอะไรเหรอ" จันทร์ถามอย่างรอคำตอบ "ก็คือวันก่อนน่ะน้องบันนี่... บอกพวกกูว่า แค่..ค. แค่แค่ลืมๆไปมันยากตรงไหน..." "........" ความเงีบยเกิดขึ้น "ถ้ารับไม่ได้ก็ลาออกไปดิก็ไม่ยากเหมือนกันถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ต้องมาว่ากูไอสัส" จันทร์ได้พูดออกไปด้วยความรู้สึกทุกๆอย่าง สักพักพิมพ์ก็ได้สังเกตุดห็นน้ำตาที่ไหลลงมาตามแก้มของจันทร์ พิมพ์ตกใจมาก รู้สึกผิดคิดว่าไม่ควรพูดออกไปเลย "มึง...กูขอโทษ" พิมพ์พูดออกมา "มึงจะขอโทษกูทำไมวะมึงไม่ผิดเลยนะเว้ย" จันทร์ยิ่งพูดน้ำตายิ่งเอ่อล้นออกมาเหมือนเก็บไว้มานาน "มึงใจเย็นๆจันทร์ มึงใจเย็นนะ มึงมองหน้ากู มึงอย่าลืมนะเว้ยว่ามึงยังสำคัญอยูพวกกูทุกคนรักมึงไม่ต้องร้องเเล้วไม่ต้องร้อง" จากคำปลอบของพิมพ์ทำให้จันทร์ใจเย็นลงเหลือเพียงแต่ความสะอื้น และในทุกๆเหตุการณ์เพื่อนๆทุกคนเห็นก็แอบดูอยู่ "มึงกูกลับมาแล้ววว"
ฟ้าตัดสินใจเดินออกมาก่อนที่มันจะหนักกว่านี้ "เอ้าเจ้ทำไมตาแดง" ปกมองหน้าจันทร์สลับกับพิมพ์ จันทร์มองหน้าพิมพ์ก่อนตอบน้องปก "ก็เจ้กินส้มตำแล้วมันเผ็ดอ่ะ ดูดิน้ำตาไหลเป็นทางเลย555" "หือ3เม็ดเนี๊ย" น้องปกหยอกเล่นถึงแม้จะรู้อยู่แล้วก็ตามเพราะส้มตำไม่ได้น้องลงเลยตั้งแต่เค้าไป "เอ้าก็เจ้กินเผ็ดไม่เก่งอ่ะ ดูดิกินน้ำหมดแก้วแล้วเนี่ย" จันทร์โวย "อาๆๆๆๆ เคๆเข้าใจๆ" ปกกวน "อ่ะเอาไอติมผัดไปกินแก้เผ็ดไป" ปกยื่นไอติมผัดรสโอริโอ้ที่จันทร์สั่งให้ "อ้อขอบใจมากนะ"
...ΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩ...
ตัดครับเพ่น้อน.
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!