บนโลกใบนี้บนนั้น มนุษย์ถูกแบ่งแยกเป็นสามชนชั้นด้วยกัน ได้แก่ อัลฟ่า เบต้า และโอเมก้า
อัลฟ่า ชนชั้นสูง เปรียบเหมือนกับผู้นำ ร่างกายกำยำ แลดูแข็งเกร็ง มีความเป็นผู้นำสูง แลเป็นพวกเดียวเท่านั้นที่สามารถทำให้โอเม้าทั้งหญิงและชายตั้งท้องได้
เบต้า ชนชั้นกลาง หรือมนุษย์ธรรมดาๆนั่นเอง มีทั้งหญิงและชาย ไม่สามารถทำให้โอเมก้านั้นตั้งท้องได้
โอเมก้า ชนชั้นล่างสุด มักจะถูกกดขี่จากอัลฟ่าและเบต้าอยู่บ่อยครั้ง โอเมก้านั้นมีทั้งหญิงและชาย แต่ส่วนมากแล้วจะเป็นหญิงซะส่วนใหญ่ ส่วนผู้ชายนั้นหายาก หรือ 10 ต่อ 90 แต่ก็มี เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยผสมพันธุ์ โอเมก้าจะปล่อยฟีโรโมน หรือ ฮีท สามารถทำให้อัลฟ่าที่เป็นคู่นั้นครั่งได้
พระเอก คุณเพลิงพราย อินทนกุล วงศ์อัครเดช
อายุ 34 ปี ลักษณะกำยำ สูงโปร่ง ประมาณ190เซนติเมตร น้ำหนัก 65 กิโลกรัม ใบหน้าคบ นัยตาสีน้ำตาลเข้มแลดูดุดัน จมูกโด่งสัน ริมฝีปากอวบอิ่ม ผิวพรรณเข้มสีน้ำผึ้ง
นายเอก เหนือนริน ศิราภิวัฒน์ วงศ์อัครเดช (นามสกุลเดิม หัสสบดี) อายุ 21 ปี ร่างกายบอบบางราวกับหญิงสาว สูงโปร่ง ประมาณ 175 เซนติเมตร ใบหน้าสวยหวาน นัยตาสีน้ำตาลหม่น จมูกโด่งงาม ริมฝีปากอวบอิ่มอมชมพู ผิวพรรณแลดูขาวเนียน
-คุณเพริงพราย อัลฟ่าหนุ่ม นักธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรง ที่เหล่าโอก้าสาวๆต่างหมายปอง ยอมพลีกายเพื่อหวังจะเป็นศรีภรรยา สำหรับเขาแล้วโอเมก้าพวกนั้นก็เป็นเพียงสิ่งที่รองรับอารมณ์ความต้องการที่มีมหาสารของตนเอง ชายหมุ่นเป็นพวกที่ว่าอารมณ์ทางเพศร้อนแรง หรือ BDSM นั่นเอง จนบางทีสาวๆที่เขานั้นควงแต่ละคืน บางคนถึงกับตายคาเตียง เลยทีเดียว ส่วนน้อยที่จะรอดออกมาจากขุมนรกที่เขาสร้าง ถึงกระนั้น พวกเธอก็คิดพยายาม หาวิธีเข้าหาอยู่ดี ชายหนุ่มไม่คิดที่จะผูดมัดกับใคร เพราะความกลัว ว่าตนจะเจ็บปวดทรมานครั้งเหมือนรักครั้งก่อน จนมาบัดนี้ ความคิดของเขานั้นได้เปลี่ยนไปในทันทร หลังจากการ ได้พบกับ โอเมก้าหนุ่มหน้าหวาน -เหนือริน- บาร์เทนเดอร์ และนางโชว์สุดฮอต เพียงพบครั้งแรก เขานั้นก็แทบจะคุมอาการตนเองไม่อยู่เสียแล้ว
นับตั้งแต่ครั้งนั้น เขาก็พยายามทุกวิธีทาง เช็กเช่น ที่เขานั่นเคยเจอมา ทั้งการเข้าไปหาที่ผับแห่งนั้นบ่อยๆ เขาหาทางแม่ ตีสนิทกับน้องชาย หรือกระทั่งลักพาตัว ฉุด หรืออีกสารพัดวิธี เท่าที่เขานั้นจะคิดออก เขาทำเช่นนั้นเสมอมา จนทำให้อีกฝ่ายที่ถูดนั้นหวั่นใจเข้าบ้าง
-เหนือริน ศิราภิวัฒน์ วงศ์อัครเดช ภรรยาหนุ่มหน้าหวานของคุณเพลิงพราย อินทนกุล ในวัย 21 ปี อดีตบาร์เทนเดอร์หมุ่นฮอต ที่ชายใดก็หมายได้ครอบครองลีลาการยั่วยัวของเขานั้น เด็ดเสียจนคุณเพลิงพรายนั้นต้องตามพิชิตใจ และได้คว้ามาเป็นศรีภรรยา ที่โอเมก้าสาวๆนั้นอิจฉากันเลยทีเดียว-
-โอเมก้า เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยผสมพันธ์นั้น จะทำการหลั่งฟีโรโมนออกมา (ฮีท) ทำให้อัลฟ่าที่เป็นบางตนนั้น แทบจะคุมสติอารมณ์ไม่ได้ คุณเพลิงพรายนั้น ก็มีอาการเช็กเช่นเดียว ครั้งได้พบเห็นว่าที่ภรรยาเพียงหนแรกเท่านั้น -
ณ ผับหรูใจกลางเมืองลาสเวกัส
แสงสีสาดสะท้อน บทเพลงดังกระหื่ม เหล่า DJ.มากมายต่างสนุกสนานบนเวที รอบข้าง มีชายหนุ่มร่างกำยำสวมชุดสีดำ ปกปิดหน้าตา ยืนล้อมเหล่า บรรดาอัลฟ่าเงินหนา เพื่อป้องกันความปลอดภัย หากตกอยู่ในสถานะการณ์อัตรายจะได้หาทางหนีทันท่วงที
เหล่าโอเมก้าทั้งชายและหญิงต่างนุ่มน้อยห่มน้อยเต็นยั่วยวนอยู่ข้างกายเหล่าบรรดาอัลฟ่าเงินหนาทั้งหลายเพื่อแลกกับเศษเงินอันน้อยนิดของพวกเขา
ฮู้~~~
เสียงโห่ร้องแสดงการต้อนรับ เหล่าบรรดาโอเมก้าที่จำทำการแสดงพอเศษ
ชายหนุ่มร่างบาง บาร์เทนเนอร์คนเชียร์ตัวท็อป อีกทั้งยังเป็นนางระบำ ที่ดีที่สุดของสถานที่แห่งนี้ ใบหน้ามน ผิวพรรณขาวเนียน ร่างกายราวกับหญิงสาว อย่านกาย ก้าวเท้าคู่งาม ค่อยๆ เผยตนออกจากหลังม่านเเดง
เรือนร่างเปลือยท่อนบน สวมใส่เพียงผ้าสีขาวบาง ปกปิดของรักเอาไว้ เต็นยั่วยาวอวดเรือนร่างบนเวที ใบหน้าช่างยั่วราคะเสียจริง
"มึงพากูมาทำไมว่ะ กูมาทำงาน กูไม่มีอารมณ์หรอกนะโว้ย" ชายหนุ่มเสียงเข้ม ร่างกายกำยำ สูงโปร่ง ดูมีฐานะร่ำรวยไม่น้อย ก้าวเท้าคู่หนาที่ปกปิดด้วย ร้องเท้าระคาแพง ย่านกาย เข้ามาในตัวอาคารแห่งนี้ แลพูดตำหนิหันมากล่าวพูดตำหนิแก่ เพื่อน ที่กล้าชวนเขามาในสถานทีี่ ในเมื่อตอนนี้นั้น เขามาเพื่อนจะทำงาน ชายหมุ่มก็ไม่นำราคะ ที่เขามีมาปนเปือ สำหรับคนแบบเขาแล้วความต้องการที่มีนั้น สามารถอวบคุมได้อยากนัก เมื่อได้เกิด ราคะ ขึ้นแล้ว
ชายหนุ่มร่างกายกำยำค่อยๆ ย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้หนังสีแดงตัวยาว สายตาคบกริบ เริ่มไม่อยู่นิ่ง กวาดสายตา สำรวจทั่วบริเวณในทันที ในเมื่อมาแล้ว จะให้เสือ อย่างเขาพลาดได้หยั่งไรกัน สายตาคบกริบแลดูดุดัน สะดุดเข้ากับ ชายหนุ่มหน้าตาเย้ายวน ร่างกายผอมบาง ที่ได้เต็นยั่วยัว อวดเรือนร่างบนเวที ใบหน้าที่เข็มขรึมนิ่งเงียบเหมือนไม่พอใจเมื่อครู่ ตอนนี้นั้นบนใบหน้าคบสัน กลับมีเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่หยิ่งมองลึกเข้าไป อาจหวาดหวั่นเอาบ้าง แววตาปางจะกลื่นกินจับจ้อง เรือนร่างบาง ดวงใจเต็นระรัว ร่างกายร้อนรุ่ม ใคร่แก่ราคะ ยากที่จะหยุดมัน มีเพียงคนที่เขาต้องการในตอนนี้เท่านั้น จะระงับดับมันลงได้
ชายหนุ่มไม่รีรอ รีบคว้าหยิบแก้วไวน์ชั้นดีขึ้นมาถือไว้ในกำมือหนา พรางเด้งร่างออกจากเก้าอี้หนังตัวยาว บรรดาสาวๆที่มาเต้นข้างกายยั่วยัวเขานั้นบางคนถึงกับเหว๋อไปเลยทีเดียว
ฝีเท้าคู่หนา รีบเร่งเคลื่อนไหว หมายมุ่งตรงไปทางต้นเสียงบทเพลงที่เปิดออกมาเสียงดัง เหล่าแสงสีที่ทำให้แสบตา นาสีๆ
แววตาอันเฉียบคบของคุณเพลิงพราย นั้น เฝ่ามองจับจ้องเรือนร่างสวยบาง ที่น่าค้นหาอย่างมาก แววตาของชายหนุ่มนั้นไม่เคยที่จะลดละหรือพละไส ภายในนัยน์ตาคมเต็มไปด้วยความเฉิดฉายของเลห์สนัยต่างๆนาๆ ยิ่งถ้ามองลึกเข้าไปยิ่งดูเเพรวพราวเหลือเกิน เป็นเหมือนดั่งนักล่าที่กำลังจับจ้องเหยื่อของตนเอง
เมื่อชายหนุ่นนั้นหยุดลงการเคลื่อนไหวลง บนใบหน้าคมพรางมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ลำแขนแกร่งของชายหนุ่มนักธุรกิจถูกยกขึ้นชูแก้วเหล้าชั้นดีในกำมือ เขาเขย่ามันเล็กน้อยทำให้ก้อนน้ำแข็งในแก้วกระทบกัน อย่างเป็นจังหว่ะ ตามการเคลื่อนไหว แม้ว่าเสียงมันจะบางเบาเพียงใด แต่ถ้าลองมาอยู่ใกล้หรือในอ้อมกอดของชายหมุ่นผู้ที่กระทำ มันจะได้ยินเสียงแหลมกระทบอย่างชัดเจนกึกก้อง
ริมฝีปากกระจับสีชมพูสดของชายหนุ่มร่างแกร่ง ถูกประทับลงบนปากแก้ว ตามด้วยการลั่นไหวของลำคอ ลูกกระเดื่อลูกโตค่อยๆ ยกขึ้นลงเป็นจัวหวะ ตามเจ้าของมันที่กำลังกลืนเครื่องดื่มลงคอ การเครื่องไหวในตอนนี้ของเขา ดูสง่างาม ดึงดูดเพศตรงข้ามหรือเพศเดียวกันได้เป็นอย่างดี สาวๆ ที่อยู่รอบบริเวณข้างกายชอยหนุ่ม ถึงกับกลืนน้ำลายเสียงดัง กรื๊บ กรื๊บ มารยาทผู้ดีที่สั่งสมมานานได้จางหานไปหมดสิ้น เพียงเพราะคุณเพลิงพรายคนนั้นหล่อเหลาเอาการ
นันย์ตาสีน้ำตาลคบเข้ม ของชายหมุ่นนักธุรกิจ ยังคงจับจ้องอยู่เช่นเดิม ณ จุด จุด นั้น ตรงที่ ชายหนุ่มร่างบางนั้นทำการแสดงอยู่ แม้เจ้าของร่างสวยบางที่เขาหมายพร้องต้องใจไม่ได้สนใจหรือเห็นเขาก็ตาม
หากแต่ในตอนนี้นักธุรกิจหนุ่ม คุณเพลิงพราย เขานั้นได้เกิดอาการครั่งอย่างหนึ่ง ถึงจะควบคุมไว้ได้ แต่ถ้ายิ่งเข้าใกล้เจ้าของร่างสวยหยดย้อยนั่น สติอารมณ์อาจจะคุมไว้ไม่อยู่ ชายหมุ่นในตอนนี้มีทั้งอารมณ์ความต้องการ อาหื่นกระหาย อยากจะลิ้มลองรสชาติริมฝีปากอวบอิ่ม ของร่างบาง เห็นได้ชัดว่าเขาจะเอาคนนี้เป็นแน่
นักศึกษาหนุ่มน้อยร่างสวยบางที่กำลังไร่รำอยู่นั้น แม้ร่างกายจะยังขยับเขยื้อนต่อ บนใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มประดับ แต่กลับส่งไม่ถึงแววตานันย์ตากลมโตกลับฉายแววความเบื่อหน่าย สายตาของเขานั้น คอยสอดส่องรอบข้างเวทีการแสดง อย่างไม่ลดละ ราวกับต้องการสืบอะไรอยู่บางอย่าง
โชติชตานั้นได้เข้าข้างคนร่างแกร่งจึงทำให้เขาที่คอยด้อมมองอยู่แล้วนั้น ได้สบตาเข้าอย่างจัง กับดวงตาที่พึ่งมองมาทางเขา
ดวงตาทั้งสองคู่ของสองหมุ่นที่ค่อนข้างแตกต่างกัน ถูกประสานงานกันเข้าอย่างจัง นั้นถือเป็นเรื่องดีของคุณเพลิงพราย เขาจึงไม่คิดที่จะหลบแววตาคู่หวานของเหนือริน ชายหนุ่มจะไม่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเด็ดขาด เพราะเขาเป็นพวกไม่ชอบโกหก และไม่ชอบคนโกหก เขาเลือที่จะยอมรับว่าเขานั้นมองเรือนร่างเจ้าของแววตาคู่นั้นอยู่โทนโท่ ก่อนที่แววตาสีน้ำตาลประกายหม่น ของชายหนุ่มร่างบางจะทำการ หักหลบก่อน เพื่อเป็นการรักษามารยาทตามมาตรฐานของทางร้าน
ขืนเขามองต่อละก็ มันอาจจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น ถึงจะบอกว่าเป็นกฏแต่ภายในใจกลับแอบไหวหวั่นไปบ้างเล็กน้อย
"หล่อจังเลยเเฮะ"เหนือรินทำได้เพียงหลบหลีกสายตา หันมองไปทางด้านอื่น พร้อมกับกล่าวชมเจ้าของนัยน์ตาสีคมเข้มเมื่อครู่
เหนือรินไม่อาจหักห้ามใจ ที่มันเกเรของตนได้ ทำได้เพียง ลอบมองคนที่ยังคงยืนอยู่ตรงหน้าเขา แต่ทุกครั้งเขาก็ต้องพบกับนันย์ตาคมเข้มที่เปร่งประกาย แม้บนใบหน้าเรียบนิ่งเย็นชาเช่นเดิมที่ ถึงกระนั้นเจ้าของนันย์ตสตากลับยกยิ้มให้แก่เขาในทุกครา ที่เขานั้นมองมา
หากเป็นคนอื่นที่ถูกจับจ้องปานจะกลืนกินเช่นนี้แล้วละก็ ก็คงต้องผวาหวาดกลัวกันบ้าง ถึงแม้ใบหน้านั้นจะหล่อเหลาเพียงใดก็ตาม แต่เรื่องทั้งหมดนี้สำหรับ-เหนือริน-นั้นมันถือเป็นเรื่องปกติเป็นอย่างมาก
อาจเป็นเพราะเรืองร่างของเขานั้นถูกเพ่งมอง หรือถูกแววตาสำรวจครบทุกสัสส่วน ครั้งเมื่อทำการแสดงพิเศษ ที่เป็นระบำเปลื้องผ้า แต่มันก็เปลื้องหมดไม่ได้ เป็นเพราะมีกฏหมายรองรับอยู่ หากต้องการรับงานเสริม หลังทำงานเสร็จก็ให้ไปถามกับเจ๊ หยี่หรา เบต้าผู้จัดการสถานบังเถิงแห่งนี้
การแสดงที่กล่าวถึง ดังกล่าวมีแต่ต้องนุ่มน้อยห่มน้อย แถมผืนผ้าอันน้อยชิ้นนั้น ยังบางทำให้เกลือบเห็นของรักอีก อาจพูดได้ว่าเรือนร่างนี้ถูกผู้อื่นเห็นมานักต่อนัก แต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครได้ลิ้มลอง เพราะชายหนุ่มนั้นไม่รับงานประเภทนั้นเป็นอันขาด
-ผมไม่รับงานนะครับ และก็ไม่เคยแคร์ว่าใครจะว่ายังไง คนเรามองคนแค่ภายนอก จากอาชีพเท่านั้นแหละ บางคนดูดี ดูรวยแต่กลับโหดร้ายยิ่งกว่าสัตว์ร้ายอีก ผมรู้สึกว่าผมชินกับคำพูดพันธ์นั้นไปแล้ว
ไม่แปลกที่คนจะมองเพราะเรือนร่างอันน่าพิศวาทนั้นมันดึงดูดสายตาได้ดีมาก
และอีกอย่างผมต้องหาเงิน มารักษาแม่ เรื่องแค่นี้ถึงผมทำได้สบาย-
เหนือริน ชายหนุ่มนั้นเป็นคนที่ขยันและยังเป็นเสาร์หลักที่ต้องทำงานเลี้ยงครอบครัวอีก ฉะนั้นมันจำเป็นที่จะต้องทำถูกวิถีทาง เพื่อให้ได้เงินเหล่านั้นมาจุนเจือภาระหนี้สินในครอบครัว และงานนี้เป็นงานที่ได้เงินดีที่สุดแล้ว ถ้าเทียบกับงานอื่นๆ
ภายในงาน เสียงบทเพลงที่ค่อนข้างดังเมื่อครู่ ได้ค่อยๆลดระดับความดังลงให้เบาที่สุด ตามด้วยน้ำเสียงใสของหญิงสาวใบหน้าจิ้มลิ้ม -ลินดา -เธอนั้นต้องการกล่าวเชิญชวนให้บรรดาเเขกของเธอสนุกสนานเพลิดเพลิน ก่อนจะกว่าถึงการแสดงสุดพิเศษชุดต่อไป ที่เธอนั้นจัดเตรียมการเเสดงนี้มาเป็นพิเศษ เนื่องในโอกาสเล็กๆน้อย เรื่องเเบบนี้เป็นเรื่องปกติที่พวกลูกคนใหญ่คนโตจะจัดขึ้น และนั้นถือว่าเป็นการที่ดีเลยทีเดียว เหนือรินจะได้มีงานเข้ามาไม่ขาดสาย ถึงจะเหนื่อยหน่อย แต่ชายหนุ่มนั้นก็ยินดีและเต็มใจที่จะทำมัน
เหล่าบรรดาอัลฟ่า ลูกคนใหญ่คนโต ซึ่งนั้นอยู่ในห้องหรู ต่างพร้อมเพียงกันปรบมือเล็กๆน้อย เป็นมารยาททางสังคมอย่างหนึ่ง และนี่ยังเป็นการให้เกียรติเจ้าภาพอีกด้วย สำหรับคนมีชาติตระกูล เรื่องแบบนี้เขาจะบังคับกันตั้งแต่เป็นเด็ก ต่างจากคนบ้านนอกคอกนาอย่าง เหนือริน
ทุกคนต่างยิ้มยินดี เมื่อได้ฟังผู้พูดจบลง แต่ดูเหมือนว่านักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอย่าง คุณเพลิงพรายไม่ค่อยจะสนใจเรื่องอะไรแบบนั้นนัก บนใบหน้าอันหล่อเหลาเฉียบคบ ยังมีเพียงความเรียบนิ่งเฉยชา
แต่แววตาคบเข้มของคุณเพลิงพรายกลับไม่เรียบนิ่งตามสีหน้าท่าทาง แววตาเฉียบคมนั้น กำลังมองหาอะไรบางสิ่ง แต่ไม่อาจจะเดาออก ด้วยความที่เขาถูกฝึกให้เก็บสีหน้าท่าทางตนเอาไว้อย่างดี เพื่อจะทำให้ตัวเขาเองและคนที่เขารักปลอดภัยที่สุดจากสัตรู
เขาไม่รีรอให้เวลาล่วงเลยนานเกินไป ชายหนุ่มจึงหาข้ออ้างในการรีบปลีกตัวออก"ผมขอตัวนะครับ มีประชุมด่วน" น้ำเสียงเรียบนิ่งถูกเปร่งออกมาจากชายหนุ่มที่ดูภูมิฐาน ว่าจาและถ้อยคำดูสุภาพ แต่กลับแฝงไปด้วยความเย็นยะเยือกอย่างบอกไม่ถูก
ที่เขาเลือที่จะทำเช่นนั้นเป็นเพราะว่า ทุกคนนั้นคิดว่าเขานั้น รักการทำงานเป็นอย่างมาก และด้วยภาพลักษณ์ ก็ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่จะคิดเช่นนั้น เรื่องเข้าใจผิดพวกนี้มันก็มีประโยชน์กับเขาเล็กๆน้อยๆ เพราะทุกครั้งที่เขาบอกว่าคิกประชุม ทุกคนก็จะปล่อยให้ไปทันที ไม่มีคนไหนที่กล้าทัก ถ่วงเลยสักคน จึงทำให้เขานั้นตรงต่อเวลาเสมอ
ทางด้าน เหนือริน ชายหนุ่มรีบจัดของที่พกมันมา จัดใส่เข้าไปไหน กระเป๋าสะพายใบโต ลายลูกเป็ดน่ารัก ในทันที แต่ก็รีบสาวเท้า ตรงออกไปจากตัวห้อง แต่ยังไม่ถึงไหน
"พี่เหนือครับ"เด็กชายน่าตาน่ารัก กล่าวทักถ้วงขึ้น เมื่อเห็นคนพี่นั้น เดินออกห่างไปจากเจ้าตัว
ฝีเท้างามหยุดลงในทันทีที่ได้ยิน เสียงทักถ้วงที่ดูเหมือนจะต้องการรั้งเขาไว้ก่อน เชกเช่นทุกครั้ง ใบหน้าสวยหวานค่อยๆหันทั้งตัวกลับไปมองยังเด็กน้อย คนเมื่อครู่
"คร้าาาาบ น้องการันต์ "ชายหนุ่มเลือที่จะทำเสียงออดอ้อนแทนการใช้น้ำเสียงปกติ เพราะทุกครั้งมันจะได้ผล ดีเสมอ
"น้องรันต์ กลับด้วยครับ"แววตาออดอ้อน เว้าวอนแสดงถึงความต้องการอย่างแจ่มแจ้ง ชายหนุ่มร่างสวยซึ้งถือว่าเป็นพี่ชาย ถึงกับส่ายหัวเบาๆ หมดวิธีที่จะเอาชนะการอ้อนของเด็กน้อยคนนี้เลยทีเดียว มันทั้งน่ารัก น่าเอ็นดู และยิ่งเขานั้น แพ้ลูกอ้อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ถึงเขาจะอยากพากลับบ้านด้วยขนาดไหนก็ตาม แต่มันก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเด็กน้อยไม่ใช่ลูกของเขา ชายหนุ่มจำเป็นต้องคิดอย่างหนักในทุกครา เเละก็ต้องอยู่เป็นเพื่อนเด็กน้อยตลอด
"งั้น น้องการันต์ไปถามมามี๊ก่อนนะครับ"
น้ำเสียงหวานถูกเปร่งออกมา หลังจากการเงียบงำอยู่สักพัก ที่เขาทำอย่างนี้หน่ะมันดีกับทั้งสองฝ่ายเขาจะไม่ต้องมาเข้าคุก ข้อหาพรากผู้เยาว์ด้วย แต่หากถ้าผู้เป็นแม่นั้นอนุญาต เหนือรินก็จะไม่รีรอที่จะเอาเด็กชายการันต์กลับบ้านด้วยเลย แต่ถ้าแม่เขาไม่อนุญาติละก็...อื้ย~ไม่อย่างจะคิด แค่คิดก็ขนลุกขันแล้ว
เด็กชายการันต์นั้นเป็น อัลฟ่าหน้าหวานละมุน คลับคล้ายคลับคลากับเด็กหญิง เด็กชายเกิดจากครอบครัวของเบต้าทั้งหมด ทั้งมารดาที่เป็นผู้จัดการของสถานบันเทิงแห่งนี้ กับเบต้าค้าผู้เป็นสามี และเป็นพ่อของเด็กชาย "สินทัพ" แต่ก็ไม่รู้ทำไม อัลฟ่าอย่างเด็กชายการันต์ถึงได้สวยราวกับผู้หญิงแบบนี้
หลังจากการเงียบงำสักพัก
ก็มีเสียงของเด็กชายเปร่งออกมา ด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง
"น้องการันต์ไม่กลับก็ได้ครับ" เด็กชายเอ๋ย
ชายหนุ่มเขาไม่รู้จะทำอย่างไร เลยเอ๋ยเพื่อเป็นการปลอบโยน
"โอ๋ นะคร้าบบบ ~~วันนี้แม่ไม่ให้กลับ วันหลังก็มีนะครับ"ชายหนุ่มคุกเข่าลงตรงหน้า พรางเอามือขึ้นมาลูบเส้นผมสวย เพื่อเป็นการปลอบโยนความเสียงใจ
"แต่ตอนนี้พี่มีธุระ งั้นพี่ไปก่อนนะครับ" ร่างชายหนุ่นค่อยๆพยุงร่างกาย ลุกขึ้นมายืนอยู่ตรงหน้า ร่างเล็กของเด็กชาย ก่อนจะหันหลัง ฝีก้าวเท้าคู่งามนั้นได้รีบก้าวเดินไปข้างหน้า ตรงไปยังทางออกจากห้องแต่งตัวไปในทันที
ทางเดินหน้าห้องพักของโรงแรม ที่ทางด้านล่างเปิดสถานบันเทิงไว้อยู่
"อื้ม~"เสียงครางต่ำค่อยดังขึ้นทีละนิด พร้อมกับ เสียงแต่กระจักจายของเเก้วแจกัน ที่ถูกวางเรียงรายกัน
เเกร๊ง!
"ไปในห้องดีกว่านะคะ" เสียงกระเส่า ที่น่าจะเป็นของหญิงสาวค่อยๆดังตามหลังมา
"ครับ" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นอีกครา แขนเเกร่งรีบคว้าตัว ช้อนตัวหญิงสาวร่างบางขึ้นมาให้ในอ้อมมือ ชายหนุ่มร่างแกร่งรีบเก้าเท้าต่อ เพื่อไปทางห้องที่ตนจ้องไว้ให้รวดเร็วที่สุด
ชายหนุ่มร่างกายสูงใหญ่พร้อมกับหญิงในอ้อมแขน ริมฝีปากกระจับสีแดงสดประกบ ซากไซส์ต้นคอขาวอย่างเมามัน ฝีเท้ายังคงขับเคลื่อน เพื่อไปยังจุดมุ่งหมาย
ตึก!
"ขอโทษครับ ขอโทษ" น้ำเสียงหวานละมุนถูกเปร่งออกมาอย่างรู้สึกผิด เจ้าของร่างหวานก็เช่นกัน รีบยกมือขึ้นไหว้ พร้อมกับก้มหน้าก้มตา ชายหนุ่มนั้นไม่ได้ส่วมชุดพนักงานโรงแรมแต่อย่างใด
"โอ้ย !!ไม่มีตาหรึไง ห้ะ!!" หญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม กระแทกเสียงตะคอก ชายหนุ่มร่างบางที่ก้มหน้าอยู่เบื้องหน้า ใบหน้าของเธอในตอนนี้ แดงก่ำ ไม่รู้ว่าเพราะริษสุราหรือความโกรธเคืองกันแน่
"พอเถอะครับเขาเองก็ขอโทษเราแล้ว" เสียงทุ้มต่ำเอ๋ยขึ้น และคว้าเอวเล็กของหญิงสาวให้มาแนบชิดกับตน พร้อมยื่นหน้าเข้าใกล้บริเวณใบหู "เราไปกันเถอะครับ"เสียงกระซิบที่ได้ยิน แรงลมอุ่นจากปากยิ่งทำให้เสียวซ่านขึ้นไปอีก ริมฝีปากของนักธุรกิจหนุ่ม ค่อยๆงับลงบนไปหูที่แดงเถือกอย่างเบาๆ เขาแค่ต้องการกระตุ้นอารมณ์ของอีกฝ่ายเท่านั้น
"งั้น เราไปกันค่ะ"หญิงสาวเอ๋ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวน น่าฝัง และหันมาทางฝั่งคนที่ยื่นเก้งๆกัง ก้มบ้างเงยบ้าง "ส่วนแก อย่าให้ฉันเห็นอีก"หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงกดต่ำ ทำใหดูค่อนข้างน่ากลัว
"เอ่อ ครับ" ชายหนุ่มร่างบางไม่รอช้า รีบดันตัวออกจากบริเวณนั้นทันที
"เฮ้อ เกียบไปแล้วไงเหนือริน ขวัญเอ๊ยขวัญมา" ชายหนุ่มเอ่ยปลอบตนเอง พรางนำมือมากวักเรียกอะไรสักอย่าง การกระทำนี้ถือเป็นความเชื่อของคนในชนบทแถวบ้านชายชายหนุ่ม
ติ้ง!!
ประตูลิฟต์ถูกเปิดออกตรงหน้าแต่กลับ ไม่อยากเชื่อเลย นั้นเขาชัดๆ เขาเป็นผีรึเปล่านะ ฝีเท่างานค่อยเคลื่อนเจ้าของร่างให้เข้าไปในตัวลิฟต์อย่างช้าๆ จิตใจเขาในตอนนี้ ได้หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว บรรยากาศค่อนข้างวังเวง ทั้งบรรยากาศแห้งเย็น ประกอบกับโรคกลัวที่คับแคบ
อึก อึก ร่างบางค่อยๆ ล้มไปกองอยู่บริเวณพื้น ริมฝีปากเริ่มซีดเซียว "ช ช่วย ด้วยครับ"ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"ฮื้ม ผมหรอครับ"ชายร่างแกร่งเอ่ยขึ้นพร้อมกับชี้นิ้วเข้ามาหาตัวเอง เขาไม่ได้โง่จนคิดไม่ออกหรอก แต่เมื่อครู่เขาเอาแต่คิดเลื่อยเปื่อยจนไม่ทันสังเกตคนรอบข้าง พอหันมองก็ไม่มีใครเลยจริงๆ มีเเค่เขากับชายหนุ่มที่นอนขอความช่วยเหลืออยู่ที่พื้น
ร่างแกร่งค่อยๆย่อตัวลง คว้าตัวร่างบางขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนแกร่ง เขาใช้มือเพียงข้างเดียวโอบกอดร่างอีกฝ่ายเอาไว้ เพราะอีกฝ่ายนั้นตัวค่อนข้างเล็ก มือแกร่งอีกข้างที่ยังว่างอยู่รีบกดเปิดประตูลิฟต์ออกในทันที
เขาเริ่มใช้ฝีเท้าอันแข็งแกร่ง วิ่งด้วยความว่องไว ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่ออกไปทางด้านนอก เพราะเกรงจะเป็นข่าวเสียๆหายเเก่คนอ้อมแขน และประเมินจากอาการในตอนนี้แล้ว ถ้าไม่รีบอาจจะเสียชีวิตได้เลย ชายหนุ่มถึงเลือกกลับห้องของตนเอง ภายในห้องนั้น มีอุปกรณ์การเเพทย์เพรียบพร้อมทุกอย่าง ด้วยอาชีพที่เสียงอันตรายอยู่บ่อยครั้ง
ชายร่างเเกร่งค่อยๆ วางร่างบางลง อย่างเบามือ และรีบเร่งนำ ยามารักษาแก่ ร่างบางที่นอนแน่นิ่งบนเตียงสีขาวสะอาด ร่างแกร่งทำการรักษาอยู่ ราวๆ30นาทีเสร็จ
ชายหนุ่ม เดินเข้ามาอีกครา หลังจากการไปชะล้างร่างกายให้สะอาด
ร่างกายแกร่งที่สวมเพียงชุดคลุมอาบน้ำ ค่อยๆย่อตัวลงบนเก้าอี้โซฟาหนังสีดำตัวใหญ่ พรางคว้าโทรศัพท์ขึ้นมา กดสั่งอาหารเพื่อไม่ให้ร่างที่นอนอยู่ ตื่นขึ้นมาแล้วหิวโหย
ผ่านไปราวๆ 15นาที ก็มีเสียงกดกลิ่งหน้าประตูดังขึ้น ชายหนุ่มจึงรีบวางโทรศัพท์ลงไว้ข้างกาย พรางเด้งตัวลุกขึ้นไปเปิดประตู รับอาหารที่นำมาส่ง ที่เขาไม่หวั่นที่จะไปรับอาหารนั้น ก็เป็นเพราะเขาสั่งให้พนักงานฝากไว้กับคนสนิท และให้คนที่สนิทนำมาให้แก่เขาแทน
.
.
โอ้ย!! "ปวดหัวจัง"เหนือรินเอ๋ยด้วยความเจ็บปวดทางร่างกาย แล้วค่อยๆปรายตามองรอบข้าง อย่างสงสัย เหตุใดเขาถึงมาอยู่ที่นี่ แล้วที่นี่คือที่ไหนกันเนี่ย แค่เมื่อพบเจ้าของห้องอีกครา ความทรงจำเมื่อครู่ก็ได้พุดออกมา
"คุณ ขอบคุณนะครับที่ช่วยผม"เหนือรินเอ๋ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง แสดงจึงความขอบคุณ
"อ๋อ ไม่เป็นไรครับ"ชายหนุ่มแกร่งรับเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ แลยกมือขึ้นมาทาบหน้าพาก "อืม ไม่มีไข้แล้วครับ'' สีหน้าของเหนือรินเริ่งก่ำ ถึงแม้จะไม่ชอบ แต่ใครที่โดนแบบนี้มันก็ต้องเขิลบ้างเป็นธรรมดาของมนุษย์บนโลก
"แล้วคุณชื่ออะไรหรอครับ "นัยน์ตาสีคมเข้มเอ๋ยกล่าวแสดงเจตจำนง
"เหนือรินครับ ผมชื่อเหนือริน"ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงรีบเร่ง
"ครับ"
"แล้วคุณ...."
"อ่อ ผมเหมันต์ครับ"ชายหนุ่มตอบอย่างใจเย็น น้ำเสียงนิ่งเรียบ
คุณเหมันต์ หรือ นายเหมันต์ อมรรัตน์สิงห์โชคชัย อัลฟ่านักธุรกิจหน้าหล่อเหลาคลับคล้ายคลับคลากับนักธุรกิจอีกคน อย่างคุณเพลิงพรายเป็นอย่างมาก แต่เมื่อมองดีๆใบหน้าที่หล่อเหลานั้นยังรองลงมาจากคุณเพลิงพรายอยู่ไม่น้อย คุณเหมันต์นั้นร่ำรวย และยังเป็นเพื่อนเก่าของนักธุรกิจคุณเพลิงพราย และตอนนี้สองคนนี้เป็นคู่เข่งกัน ชายหนุ่มมีใบหน้าที่เฉียบคม หล่อเหลา นัยน์ตาสีน้ำตาลคบเข็ม แววตามีความอบอุ่นอยู่บ้าง และบนใบหน้านั้นมีรอยยิ้มประดับในทุกเวลา แม้จะเศร้าโศก หรือ โกรธแค้น เขานั้นก็จะแสดงสีหน้าเป็นมิตรอยู่เช่นเดิม รูปร่างของเขานั้นแลดูแข็งแกร่ง กำยำ กล้ามเนื้อเป็นมัด ส่วนสูงประมาณ 185 เซนติเมตร ส่วนน้ำหนักประมาณ 65 กิโลกรัม ถือว่าเป็นชายในฝันของหญิงสาวหรือโอเมก้าอีกมากมาย
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!