NovelToon NovelToon

三公子

ch.1

"นี่เรียกว่าแผนงานเหรอ ไปทำมาใหม่!" แฟ้มเอกสารถูกโยนใส่กระแทก จนรู้สึกเจ็บแปล๊บๆที่สันจมูก ก่อนล่วงลงตามแรงโน้มถ่วง จนผมต้องก้มลงเก็บมันอีกครั้งก่อนจะเดินออกมาอย่างไร้เรี่ยวแรง

แผนงานโดนตีกลับนับครั้งไม่ถ้วน ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันไม่ผ่านตรงไหน เพราะหัวหน้าไม่แม้จะเปิดดูมันเลยสักนิด

ผมนั่งลงแหมะที่โต๊ะประจำของตัวเอง ก่อนจะยกแขนขึ้นแล้วทิ้งศีรษะลงบนฝ่ามือ ซุกใบหน้าลงนิ่งค้างไว้ก่อนขยับเรียวมือขึ้นเสยผมจนยุ่งไม่เป็นทรง ก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วถอนใจพรางยาวเยียด

ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าทำไมถึงโดนกลั่นแกล้งอยู่แบบนี้ เพราะผมไปมีปัญหากับเด็กที่หัวหน้าเกี้ยวอยู่น่ะสิ ไม่รู้ว่าเด็กนั่นไปเป่าหูอีท่าไหน ถึงได้โจมตีและกดดันทุกวิถีทาง

อยากจะยื่นซองขาวลาออกไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่สมัยนี้หางานไม่ง่ายเลย แล้วในช่วงที่ต้องตระเวนหางานใหม่จะเอาอะไรยาไส้ ถึงทำได้เพียงกัดฟันสู้ต่อไป

เพราะสภาพอารมณ์ไม่คงที่จึงย้ายตัวเองมายังห้องน้ำ หวังว่าน้ำเย็นๆจะทำให้ลดอาการหัวร้อนรุ่มๆไปได้บ้างไม่มากก็น้อย

ผมยืนมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกที่มีหยาดน้ำเกาะพราวอยู่ทั่วใบหน้า แล้วแย้มรอยยิ้มให้กำลังใจตัวเองเหมือนทุกวัน ก่อนจะพาร่างกายกลับมานั่งแหมะที่โต๊ะทำงานตามเดิม

"น้องหลินคะ ขอฝากค่ะ" แต่ในระหว่างที่กำลังนั่งง่วนอยู่กับงาน เสียงใสที่แสนคุ้นเคยก็ดึงความสนใจของผมไป เมื่อเหลือบตาขึ้นมาก็ปะทะเข้ากับถุงขนมถุงใหญ่ที่มีขนมหลายอย่างรวมอยู่ในนั้น

"ขอบคุณครับพี่จี" พี่ในแผนกยิ้มแย้มแกว่งมือน้อยๆพอให้ถุงขนมในไหวไปมา ผมส่งมือไปรับเหมือนทุกครั้งที่เธอชอบซื้อของติดไม้ติดมือมาฝาก แต่อย่าพึ่งเข้าใจผิดคิดไปไกลว่าเขาชอบผม พี่จีแต่งงานแล้วครับ และเธอซื้อมาฝากทุกคนในแผนกอยู่แล้ว

"ซึมเลยนะ โดนไอ้แก่นั้นแกล้งอีกแล้วดิ" ผมพยักหน้าน้อยๆเป็นคำตอบ มันไม่ได้เป็นความลับอะไรเพราะทุกคนรู้ดีว่าหัวหน้าของพวกเราเป็นไอ้เฒ่าหัวงู

"ส่งไฟล์งานของหลินมาให้พี่ช่วยดูมั้ย เดี๋ยวพี่ช่วยรอบนี้อาจจะผ่าน" พี่จีเดินอ้อมมาหย่อนก้นลงตรงบริเวณว่างตรงโต๊ะทำงานผม

"เขาไม่แม้แต่จะเปิดอ่านสักนิดครับ ต่อให้ทำดีแค่ไหนแก้อีกกี่รอบ ถ้าเขาไม่เปิดดู แล้วยังเอาแต่พูดว่าไม่ผ่าน ก็เท่านั้นแหละครับพี่" พอผมพูดจบพี่จีก็ชกหมัดกับฝ่ามือตัวเองอย่างไม่ชอบใจ

"ทนอีกหน่อยนะ หัวหน้าคนใหม่กำลังมาแล้ว ไอ้แก่นั่นจะได้กระเด็นไปไกลๆสักที" ผมพยักหน้าตอบพี่จีไป หวังว่าหัวหน้าคนใหม่จะไม่เป็นแบบเขานะ

พี่จีตบที่บ่าผมเบาๆเป็นเชิงให้กำลังใจก่อนจะเดินกลับไปที่ตัวเอง ไม่วายบอกให้ผมกินขนมให้หมดด้วยนะ ผมจึงทำเพียงยิ้มตอบไป จะให้กินมันก็ได้อยู่หรอกแต่เยอะขนาดนี้กี่วันละเนี่ยถึงจะหมด

...

19.30 น.

เพราะวันนี้ไม่ต้องอยู่ทำโอทีจึงกลับถึงบ้านไว้กว่าทุกวัน เพราะความเหนื่อยอ่อนทำให้ผมทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาอย่างหมดแรง โดยที่คลายเพียงเนกไทและกระดุมสองสามเม็ด ก่อนจะจมหายเข้าสู่ห้วงนิทราโดยสมบูรณ์

.

.

.

"คุณชาย ฟื้นสิขอรับ" แรงเขย่าทำให้ผมต้องฟื้นเปลือกตาอันหนักอึ้ง แล้วก็แว่วเสียงคล้ายสะอื้นไห้ให้ได้ยินอยู่ใกล้ๆ ผมกระพริบตาถี่รัวเพื่อปรับโฟกัส ก่อนจะเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งนั่งคุกเข่าร้องไห้ ริมฝีปากก็พร่ำพูดแต่คำเดิมๆ

"คุณชาย! ฟื้นแล้วหรือขอรับ" แล้วก็เปลี่ยนเป็นท่าทางดีใจทั้งยังมีรอยคราบน้ำตาอยู่ ก่อนจะลุกลี้ลุกลนวิ่งออกไปที่ไหนไม่รู้ เพียงไม่นานเด็กหนุ่มคนนั้นก็กลับมาอีกครั้ง แต่มีผู้อื่นตามหลังมาด้วย

แต่ด้วยความที่ยังรู้สึกมึนๆอยู่จึงไม่ได้สังเกตอะไรมาก ใครจะจับต้องที่ใดก็ให้ทำอย่างยินยอม จนกลับมาเหลือเพียงผมกับเด็กคนนั้นเพียงสองคนอีกหน

"ข้าจะไปต้มยาให้นะขอรับ คุณชายนอนรอสักประเดี๋ยว" เด็กหนุ่มพูดจบก็วิ่งออกไปโดยไม่รอทำตอบจากผม และด้วยความมึนงงและปวดศีรษะจึงทำให้ผมจมลงสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง

...***...

talk

**เราได้รีไทร์เรื่องนี้ใหม่ทั้งหมด เพราะรู้สึกว่าแบบเดิมมันค่อนข้างไม่แมคเซ็นเท่าไหร่ แต่ยังคงความพรีเรียดไว้เหมือนเดิม และเป็นแนวข้ามภพ อย่างที่วางพล็อตไว้แต่แรก

ฝากติดตาม คอมเมนต์ กดไลค์เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ**

CHAPTER 2

เมื่อได้พักผ่อนอย่างเต็มที่จึงจำต้องโบกมือลาอาการง่วงง่าวหาวนอนกันชั่วครู่ไว้ยามราตรีมาเยือนอีกคราค่อยเจอกันใหม่ เพราะยังมีสิ่งต่างๆที่รออยู่อีกมาก ไหนจะงานที่กองพะเนิน แถมหัวหน้าก็ไม่เอาไหน ได้แต่ทำตัวเป็นเฒ่าหัวงูไปวันๆ หากใครทำให้ขัดใจก็มักจะใช้อำนาจที่ตัวเองมีมาคอยกลั่นแกล้งกันอยู่เสมอ

"อื้อ" ขยับตัวสักเล็กน้อยคลายความเมื่อยขบตามร่างกาย แต่ก็แปลกที่วันนี้รู้สึกปวดตัวมากกว่าทุกวัน หรือจะนอนผิดท่ากันนะ

!!!

และเมื่อพอเช็ดขี้ตาเสร็จก็ต้องตกใจกับภาพเบื้องหน้าตน ถึงกับต้องขยี้ตาตัวเองซ้ำ เพราะคิดว่าอาจจะยังเช็ดตาไม่ดีนัก เลยทำให้เห็นภาพที่ผิดแปลกไปจากเดิม แต่ก็ต้องละความพยายามนั้นไป เมื่อมันไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนไปเลยสักนิด ทุกอย่างที่ปรากฏให้เห็นอยู่เบื้องหน้ายังคงเป็นเช่นเดิมมิมีอะไรเปลี่ยนไปเลย

จะว่าไปก็รู้สึกเหมือนว่าจะจำอะไรได้รางๆ แต่ตอนนั้นสติการรับรู้มีไม่มากนัก จึงคิดไปว่ากำลังอยู่ในห้วงฝัน แต่มาตอนนี้คงต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ เพราะทุกอย่างมันสมจริงเสียเหลือเกิน และคงไม่ใช่การแกล้งกันเล่นเป็นแน่ เพราะทุกอย่างมันดูแพงทั้งนั้น แพงแบบเก่าๆ ไม่ได้จะบู้บี้วัตถุโบราณ แต่กำลังชมว่ามันดูขลังดี

แต่จะให้นั่งงงอยู่บนตั่งนอนแบบนี้คงจะไม่ดี จึงลุกขึ้นเดินออกมาสำรวจเสียหน่อยว่ามันคือที่ใดกัน จะได้ปรับตัวได้ทัน รู้จักหรือเปล่า เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม และมนุษย์เป็นพวกปรับตัวได้รวดเร็วจนน่าตกใจ

!!!

และตกใจจริง เพราะที่นี่มันดูยังไงก็ยุคโบราณชัดๆ แล้วดูเหมือนจะมาผิดเซิร์ฟเสียด้วย ก็เล่นเข้ามาอยู่ในเซิร์ฟจีนซะขนาดนี้ แล้วคนที่ภาษาจีนงูๆปลาๆอย่างผมจะไหวหรือครับ

"คุณชายขอรับ" แล้วนี่ใครอีกล่ะ แล้วเรียกผมว่าคุณชายซะด้วย ก็ยังดีที่ไม่ได้เป็นยาจก ไม่งั้นตายแน่ๆ

"อะแฮ่ม..จะ..เจ้า..เป็นใครหรือ" แม่เจ้าโว้ย ตอนแรกก็กังวลแทบแย่ว่าจะเอาชีวิตรอดไปยังไงดี แม้กระทั่งจะอ้าปากพูดกับใครสักคนก็ลำบากเพราะไม่ได้ภาษา จนต้องพูดอย่างตะกุกตะกักไม่ค่อยจะเป็นคำ ก็ถือว่ายังคงใจดีกับคนหลงเซิร์ฟแบบผมอยู่บ้าง ที่ยังใจดีมีสกิลติดตัวด้านภาษามาให้

"ฮึก..ฮื่อออ.." แต่ตอนนี้เริ่มกลับมาวิตกอีกแล้ว ก็ไอ้คนเมื่อกี้ที่เข้ามาทักทายผมดันร้องไห้โยเยไปซะแล้ว แล้วแบบนี้ผมต้องทำยังไงต่อหรือครับ ต้องตบตูดเอ้เอ้กล่อมนอนหรือเปล่าครับ

"ระ..ร้องไห้ทำไมหรือ" เพราะไม่รู้จะทำยังไงจึงละล่ำละลักเอ่ยถามอย่างคนทำอะไรไม่ถูก โดยปกติแล้วเด็กๆไม่ค่อยจะเฉียดเข้าใกล้ผมเท่าไหร่ เพราะหน้าตาผมไม่ค่อยจะเป็นมิตร ออกจะบูดบึ้งเสียมากกว่าเพราะแบบนี้เด็กๆถึงไม่ค่อยชอบเข้าหา

แล้วยิ่งถูกถามคนที่ร้องไห้งอแงอยู่แล้วก็ร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว

"อุ่ก..อื้อ"

เพราะเสียงดังมากจึงทำให้คนที่อยู่บริเวณแถวนี้เริ่มให้ความสนใจแต่ก็มิมีใครคิดจะเดินเข้ามาดูใกล้ๆ ทำเพียงเลี่ยงหลบไปอยู่ที่อื่นแทน และเพราะกลัวว่าเสียงร้องงอแงของไอ้บ้านี่จะสร้างความรำคาญให้แก่ผู้อื่น จึงตัดสินใจจับล็อคคอปิดปากเสียเลย จะได้เงียบเสียงเสียที

คนที่โดนกระทำอุกอาจพยายามดิ้นรนเพื่อหวังจะให้หลุดจากพันธนาการแต่เพราะเรี่ยวแรงที่น้อยเพราะยังเด็กอยู่ เลยจึงสู้อีกคนไม่ได้

"ชู่ว หยุดร้องเสียเถิด สัญญานะ แล้วจะปล่อยเจ้าเป็นอิสระ" พอรู้ว่าพูดจีนได้คล่องแคล่วก็ขอพูดยาวๆสักหน่อยแล้วกัน ไม่เคยรู้สึกภูมิใจในตัวเองขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆ

"อื้อๆ" เด็กขี้แยพยักหน้าระรัวเป็นอันเข้าใจข้อตกลงระหว่างเรา ผมจึงปล่อยให้เขาเป็นอิสระ

"ร้องไห้ทำไม บอกได้หรือเปล่า" เพราะยังไม่คลายความสงสัยเลยเอ่ยถามเอาคำตอบ แต่คนถูกถามก็เหมือนจะน้ำตาคลอจวนจะร้องไห้อีกแล้ว

ทำไมมันขี้แยนักวะ

"ฮึบเลย ถ้าร้องอีกจะตีให้" ยกมือขึ้นชี้หน้าดุเด็กที่เอะอะก็ร้องไห้ลูกเดียว แต่ก็ยังดีที่รู้จักกลัวอยู่บ้าง เพราะเด็กนั้นฮึบจริงๆพร้อมกับพยักหน้าเข้าใจ

"งั้นก็ตอบมา"

"อึก..ก็คุณชายจำข้ามิได้นี่ขอรับ"

"ไม่ใช่แค่เจ้า ข้าจำอะไรไม่ได้เลย ช่วยเล่าเรื่องที่เจ้าพอจะรู้ให้ฟังทีสิ"

เด็กนั้นมีท่าทีตกใจอยู่ไม่น้อยแล้วก็คล้ายจะร้องไห้อีกแล้ว แต่ก็ฮึบไว้คงเพราะกลัวโดนตีแน่ๆ

"ข้าจะเรียนนายท่านเรื่องอาการของคุณชาย นายท่านคงจะมิใจจืดใจดำกับคุณชายอีกเป็นแน่"

"ตามใจเจ้าเถอะ แต่ต้องเล่าทุกอย่างที่เจ้ารู้มาให้หมดเสียก่อน ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่ให้เจ้าไปไหนเด็ดขาด"

"ขอรับๆ แต่คุณชายกลับเข้าไปในเรือนก่อนเถอะขอรับ ออกมารับลมด้านนอกนานๆเช่นนี้ เดี๋ยวไข้จะกลับ"

เราทั้งสองย้ายเข้ามานั่งจับเข่าคุยกันภายในเรือนอยู่นานสองนาน จนตะวันด้านนอกลอยเด่นกลางศีรษะเสียแล้ว แต่ก็ทำให้ผมได้รับรู้ข้อมูลไปไม่น้อยเลย

เดิมทีเจ้าของร่างก็ไม่ได้เป็นที่ต้องการเสียเท่าไหร่อยู่แล้ว แถมยังมีข่าวลือมากมายที่ไม่เป็นความจริงเลยสักนิดแพร่สะพัดไปทั่วทั้งแคว้น ยามที่ก้าวขาออกไปนอกจวนก็มักจะโดนคนหมายจะเอาชีวิตอยู่เป็นประจำ เพราะในสายตาคนอื่นมองเจ้าของร่างนี้เป็นตัวร้าย

และเหมือนกับว่าครั้งนี้สิ่งที่คนพวกนั้นต้องการจะสำเร็จแล้ว เพราะเจ้าของร่างผู้น่าสงสารได้ลาโลกไปแล้ว และผมก็ต้องมารับชะตาแทนอย่างนั้นเหรอ แม่เจ้า ชีวิตเดิมของตัวเองก็เส็งเคร็งจะตายอยู่แล้ว นี่ยังจะให้มาจัดการชีวิตของคนอื่นอีกเหรอ ไม่ไหว บอกเลยว่าไม่ไหว

แต่โอดครวญไปก็ไม่ได้อะไรเพราะในเมื่อผมมาอยู่ในร่างของเขาแล้ว ก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามชะตาลิขิต แต่อยากจะบ้า คนที่อยู่ในยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอย่างผมจะมีชีวิตรอดในโลกยุคโบราณแบบนี้ไปได้สักกี่วันกันล่ะ

"คุณชาย มื้อเช้าได้แล้วขอรับ" เสี่ยวโถว ยกสำรับเล็กๆเข้ามาวางไว้ใกล้ๆ เพราะอาการป่วยจึงไม่ต้องไปนั่งทานที่อื่น ยกมาประเคนให้ถึงตั่งนอนกันเลยทีเดียว ถ้าทำหยดคงได้โดนมดกัดยามนอนหลับใหลแน่ๆ

"ขอบใจ" ถึงแม้ว่าจะรับรู้มาคร่าวๆแล้วว่าชีวิตการเป็นอยู่ของเจ้าของร่างนี้เป็นเช่นไร แต่ก็ไม่คิดว่าจะลำเค็ญขนาดนี้ ข้าวต้มก็มีแต่น้ำ กับข้าวก็ยิ่งกว่าอาหารหมู โธ่ชีวิต อุตส่าห์ได้มาอยู่ในร่างคุณชายแท้ๆ แต่ไม่ได้ต่างอะไรกับขอทานเลยแม้แต่น้อย

ปึง!

"ข้าไร้ความสามารถ คุณชายโปรดให้อภัยข้าด้วย!" เสียงโขกศีรษะดังปึงเรียกความสนใจไปจากสำรับอาหารจนหมดสิ้น จึงต้องทุ่มเทความสนใจทั้งหมดไปที่เด็กรับใช้คนสนิทที่กำลังลงโทษตนเองอยู่

"หยุดโขกหัวแบบนั้นเสียที เดี๋ยวก็โง่หรอก" วางมือของตนเองลงรองศีรษะที่กำลังกระทบพื้นแล้วเอ่ยดุไม่จริงจัง แต่เป็นผลให้เด็กบ่อน้ำตาตื้นร้องไห้ออกมาอีกรอบจนได้

"ขี้แยจริงเชียว แล้วก็อย่าได้ทำร้ายตัวเองเช่นนี้อีก" เด็กนั้นพยักหน้าหงึกๆเป็นอันรับรู้อย่างเชื่อฟัง

"ส่วนอาหารพวกนี้ข้าทานได้ ทานเช่นนี้มาทุกวัน ข้าชินเสียแล้ว" เอ่ยพูดให้อีกคนใจชื่นแต่จริงๆแล้วแทบจะกระเดือกไม่ลง ตอนยังอยู่ร่างเดิมอาจจะไม่ได้กินหรูอะไรขนาดนั้น แต่ก็ไม่เคยต้องมานั่งกินข้าวที่ไม่ต่างจากอาหารหมูเช่นนี้เหมือนกัน

เห็นทีว่าข้าต้องทำอะไรสักอย่างเสียแล้ว

...***...

คุยกับนักเขียน

เราเปลี่ยนชื่อเรื่องจาก ปล่อยกูไปเถอะไอ้พระเอก เป็น 三公子 แทนนะคะ

และจะมาอัพให้อ่านบ่อยๆ แต่ยังไม่มีวันที่กำหนดอัพประจำนะคะ แต่จะพยายามมาต่อเรื่อยๆค่ะ เอ็นจอยนะคะ

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!