...เมื่อมีคนให้ของก็ต้องตอบแทนด้วยสิ่งนั้น...
...เมื่อมีคนให้ความรักก็ต้องตอบแทนด้วยความรัก...
...เมื่อมีคนให้ความสุขก็ตอบแทนด้วยความสุข...
...เมื่อมีคนมอบความตายก็ต้องตอบแทนด้วยความตาย...
...เมื่อมีคนทำร้ายก็ต้องตอบแทนด้วยความแค้น...
นี้คือคติของฉันหลีหยุนซี นักฆ่าสาวอันดับหนึ่งในตอนนี้ฉันกำลังสู้กับคนในองค์กรเพื่อให้เขาหนีไปกับผู้หญิงอีกคน แต่ถึงจะเป็นนักฆ่าอันดับหนึ่งก็ต้องมีวันที่พลาดฉันถูกยิ่งในระหว่างที่ยิ่งสกัดพวกเขา ก่อนตายฉันเห็นคนที่ฉันแอบรักกำลังจะเข้ามาหาฉันแต่ก็โดนผู้หญ่งคนนั้นรังไว้และขึ้นรถขับออกไป
ฉันเคยไดยิ่นว่าคนที่กำลังจะตายมักนึกถึงความทรงจำเก่าๆแล้วมันก็เป็นอย่างนัันจริงๆตอนนี้ฉันกำลังเห็นภาพในวันที่เจอเขาครั้งแรก
เขาเข้ามาในชีวิตฉันตั้งแต่อายุ10ตอนนั้นคนที่เลี้ยงฉันเขาจัดงานวันเกิดให้ฉันและในวันนั้นฉันกับเข้าก็เป็นเพื่อนคนเดียวและเป็นรักแรก ของฉัน
ฉันจึงเก็บความรู้สึกนี้ไว้เก็บไว้ในสวนลึกที่สุด
แต่แล้วมันก็เกิดเรื่องขึ้นกับเขาเพราะเขาหลงรักเป้าหมายจนทำให้เขาพาเธอหนีแต่พวกเขาก็ถูกคนในองค์กรตามล่า
คิดจนถึงตรงนี้สติของฉันก็ดับวูบลง ร่ายกายรู้สึกเหมือนกับลังรอยอยู่ในอากาส ทุกอย่างดำมืดไปหมด แต่แล้วก็แสงสว่างจุดเล็กๆแล้วเลิมใหญ่ขึ้นจนในที่สุดก็รู้สึกถึงแรงดึงดูดมหาสาร
ร่างบางในชุดเสื้อสีดำสายเดวกางเก่งสั่นสีดำโปร่งแสงเห็นคนวิ่งวุ้นออกมาจากห้องหนึ่งและวิณณาญนั้นก็ถูดดูดเข้าไปอยู่ในห้องนั้นมีร่างของเด็กสาวอายุ15ปีนอนหมดสติอยู่ แล้ววิณณาญก็ถูกดึงเข้าไปอยู่ในร่างนั้น
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นแค่ฝันแต่พอใช้เล็บหยิกไปที่แขนก็ทำให้รู้สึกเจ็บทำไหมฉันถึงต้องคิดว่าเป็นนะเหลอหลังจากที่ฉันตายก็เข้ามาอยู่ในร่างนี้ได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว ทุกอย่างมันเหมือนฝันมากมีทุกอย่างที่ฉันในร่างเดิมได้แต่ฝัน
นั้นคือครอบครัวถึงจะไม่สมบูรแต่ก็รักกันมากกว่าหลายครอบครัวที่สมบูรณ์ เจ้าของร่างเดิมเป็นบุตรสาวคนสุดท้องมีพ่อพี่ชายสองคนคอนตามใจทุกอย่างเพราะเธอไม่มีแม่คอยดูแล่พวกเขากลัวเธอขาดความรักจึงทุ่มเทให้ทุกอย่างทั้งตามใจ คอยแก่ปัญหาที่เธอก่อ หรือแม้กระทังไปขอหมั้นกับรัชทายาทให้เธอพวกเขาก่อทำและอะไรหลายอย่างที่ทำให้เธอเสียคนและไม่รู้จักประมาณตน
จนเกิดเรื่องขึ้นในวันที่อากาสสดใสเธอได้ไปเดินเล่นในตลาดแต่กลับเจอเข้ากับโมเหยาเหยาทที่ได้รับความรักจารัชทายาท จนทำให้เขาขอถอนหมั้นกับเธอแต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตจาก ฝ่าบาท ถึงจะยังไม่โดนถอนหมั้นแต่ก็ทำให้เธอแค้นที่โมเหยาเหยาได้รับความรักจากรัชทายาทและได้รับความสนใจจากทุกคน
เธอจึงเดินเข้าไปหาเรื่องและโมเหยาเหยากับสาวใช้ของเธอแต่แล้วก็โดนคลื่นพลังสีทองสัดเข้าที่กลากอกอย่างแรงด้วยฝีมือของคนที่นางรักจนกระเด็นออกไปไกลและสำลักเลือดออกมาคำโตมองไปทางมงกุฎราชกุมารที่ยืนกอดผู้หญิงคนนั้นไว้อย่างหวงแหนแล้วสายตาก็ค่อยๆมืดลง
พอคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นของเจ้าของร่างเดิมก็ทำให้จะสงสารก็สงสาร จะเห็นใจก็เห็นใจ จะว่าโง่ก็โง่เพราะทำตามแผนทุกอย่างของผู้หญิงคนนั้นด้วยไม่คิดเลยว่าโดนหลอกใช้อยู่จนทำให้ถึงแก่ความตาย ส่วนคนที่ทำรายเจ้าของร่างจนตายไม่เห็นมาเยี่ยมเลย เธอไปหลงรักคนแบบนี้ได้ยังไงกันนะ ช่างเถอะในเมื่อฉันเข้สมาอยู่ในร่างเธอแล้วฉันจะแก้แค้นให้ก็แล้วกัน
เช้าวันใหม่อันสดใสกลับต้องเดินทางมาเข้าเฝ้าองค์ราชา รถม้าวิ่งผ่านประตูของวังวิ่งตามทางจนมาหยุดจอดอยู่หน้าวังคริสตัลซึ้งเป็นวังกลางที่ใช้สำหลับว่าราชการ มีข้าหลวงคนสนิดยื่นรอเพื่อนำทางตามคำสังขององค์ราชาโจน่า
"ยินดีที่ได้พบท่านราสค่ะ"ฉันเอ่ยออกมาพร้อมยอตัวอย่างคนชั้นสูง หวังว่าจะถูกนะเพราะหลังจากที่ฝืนขึ้นมาฉันก็บอกกับทุกคนว่าความจำเสียมจำอะไรไม่ได้แม้กระทังชื่อของตัวเอง เลยต้องเลิมต้นใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ต้น
"ยินดีที่ได้พบเช่นกันครับเรดี้คลาโนรา ฝ่าบาทกำลังรอท่านอยู่เชิญตามข้ามาทางนี้ครับ"ราสริน ราโน เป็นคนรูปร่างสูงผิวขาวอย่างคนเหนือเขาเป็นชายวัยใกล้เกษียณอยู่ในชุดประจำตำแหน่งข้าหลวง เขาเดินนำทางฉันเข้ายังวังคริสตัล
ด้านหน้าของฉันมีคนสนิดขององค์ราชาโจน่าตามที่เขาเเนะนำก่อนหน้านี้เขาเดินนำฉันเข้าไปยังวังกาเร็ตที่องราชาอาศัยอยู่ ซึ่งวังกาเร็นนี้ไม่ใช้ว่าใครจะเข้าไปได้คนที่จะเข้าไปได้ต้องได้รับอนุญาตจากองค์ราชาเท่านััน
ในที่สุดก็เดินมาถึงวังกาเร็ตด้านหน้าของฉันคือวังที่องค์ราชารุ่นก่อนจนตอนนี้กลายเป็นรุ่นของราชาโจน่าเป็นเจ้าของวังและเมื่อรัชทายาทได้ขึ้นครองราชก็ต้องเป็นวังของเขาคนนั้น เดินไปสำรวจไปด้วยจนมาถึงทางเข้าสวนราสก็หยุดเดินและหันมากล่าวกับฉัน
"ข้าส่งท่านได้เท่านี้ ต่อจากนี้ท่านต้องเดินเข้าไปเอง ข้าขอรออยู่ตรงนี้เชิญครับ"ราสกล่าวอย่างสุภาพและฝายมือเชิญให้ฉันเดินเข้าไป
"ขอบคุณท่านมากราสต่อจากตรงนี้ข้าเดินไปเองได้ค่ะ"ฉันตอบกลับไปแบบสุภาพเช่นกันก่อนเดินเข้าไปในสวนด้วยที่ไม่รู้ว่าคนที่ยืนรออยู่หน้าสวนจะทำสีหน้าอย่างไร เขามองตามร่างบางที่เดินเข้าไปในสวนแล้วคิดว่าเธอ คงจะเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
ในสวนนั้นมีผู้สูงศักดิ์นั่งอยู่ทั้งสองพระองค์แต่งกายด้วยชุดสีม่วงออนคู่กัน นั่งยอกรอกันอย่างสนุกสนานจนไม่เห็นคนที่ตนให้ไปเชินมา มาถึงแล้วจนกระทั้งได้ยินเสียงทักทาย
"ถวายบังคมราชา ราชินีเพคะ"ฉันเอ่ยพร้อมถวายบังคมทั้งสองพระองค์ ทั้งสองเมื่อไดยินก็หันไปหาต้นเสียงทันที
"ขออภัยที่หม่อมฉันทำให้รอนานเพคะ"ฉันกล่าวขอโทษที่ทำให้ทั้งสองรอนาน เพราะก่อนที่จะออกมานั้นทั้งพ่อและพี่ๆถามฉันสารพัดว่าหายดีหรือยังบางละเธอต้องการพบหมอไหมบางละและก็เลยๆกว่าจะได้ออกมาก็สายแล้วทั้งสองพระองค์เห็นดังนั้นจึงรีบกล่าวออกมา
"เจ้ารู้ใช้ไหมว่าพวกข้าเรียกมาทำไม"องค์ราชินีกล่าวออกมาอย่างรู้สึกผิดแทนลูกชายของตัวเอง
"รู้เพค่ะเรื่องที่องค์มงกุฎราชกุมารทำร้ายข้าต่อหน้าผู้คนทำให้ทั้งสองพระองค์เสียหน้าและทำให้ข้าได้รับบาดเจ็บสาหัด"ฉันตอบออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง เมื่อทั้งสองพระองค์ได้ยอนคำตอบก็อึงไปนิดก่อนจะนึกถึงข่าวลือที่บอกว่าบุตรตรีคนสุดท้องของดยุคคลาโนราได้เปลี่ยนไปแล้ว
"เรื่องนั้นแหละที่ข้าทั้งสองเรียกเจ้ามาเพื่อจะบอกกับเจ้าว่าเราสองคนลงโทษรัชทายาทและได้ให้เขาไปขอโทษเจ้าตั้งแต่เจ้าฝืนได้วันแรกแต่เจ้าลูกคนนั้นไม่ยอมไปขอโทษเจ้า พวกเราเลยอยากขอโทษแทนลูกของเรา"ราชินีที่รักและตามใจลูกชายคนเดียวจนเกินไปทำให้เธอต้องทุกใจเพราะลูกชายคนนี้
"หม่อมฉันรับคำขอโทษจากทั้งสองพระองค์ไม่ได้หลอกเพคะ"ฉันเอ่ยออกมาตามจริงคนที่ผิดไม่ขอโทษแต่กลับให้คนที่ไม่ผิดมาขอโทษแทนคนแบบนี้ไม่ควรที่จะเป็นกษัตริย์คนต่อไป
"คนที่ทำผิดคือองค์มงกุฎราชกุมาร เขาก็ต้องมาขอโทษเองเพค่ะ"ฉันพรางมองทั้งสองพระองค์ที่นั่งอยู่ข้างหน้า ตอนนี้ฉันนั่งลงแล้ว
"หม่อมฉันว่าที่ทั้งสองพระองค์เรียกหม่อมฉันมาพบคงไม่ได้มีแค่เรื่องเดียวหลอกใช้ไม่เพค่ะ"ฉันเอ่ยถามออกมาเพราะที่ทั้งสองเรียกฉันมาคงไม่ใช้แค่เรื่องนี้แน่
ทั้งสองพระองค์มองร่างบางอย่างพินิจพิเคราะห์ตั้งเธอฝืนขึ้นมาก็มีข่าวลือต่างๆมากมาย เกี่ยวกับเธอว่าบุตรสาวคนเล็กของดยุกเอ็ดเวิร์ด คลาโนราได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เปลี่ยนเป็นคนระคนอย่างไม่ใช้คนเดียวกัน ดู เย็นชา สุขุมขึ้น ฉลาด ต่างจากแต่กอรจนไม่น่าเชื่อ
"ใช้ที่ข้าเลือกเจ้ามานั้นเพื่อที่จะถามเจ้าว่าเป็นอย่างไรบ้าง"ราชินีอาเรียกล่าวอย่างเป็นกันเอง
"หม่อมฉันดีขึ้นมากแล้วเพค่ะ"ฉันกล่าวอย่างสุขุม
หลังจากนั้นฉันก็นั่งพูดคุยกับราชินีอาเรียสองคนเพราะราชาโจน่าได้ไปทรงงานต่อ คุยกันได้สักพักฉันก็ขอตัวกลับคฤหาสน์ดยุกทันที
พอรถม้าจอดลงที่หน้าคฤหาสน์ก็มีพ่อบ้านมาเปิดประตูรถม้า ชายวัยกลางคนอยู่ในชุดของพ่อบ้านประจำตระกูลดยุกเข้ามาเปิดประตูรถม้าให้บุตรตรีคนเล็กของดยุก ร่างบางก้าวลวมาจากรถม้าอย่างสงางาม เธอเปลี่ยนไปมากหลังจากฝืนขึ้นมาเธอทำตัวดีไม่ทำร้ายใครหรือก่อปัญหาให้กับตระกูลดยุก
"ท่านพ่อท่านพี่ทั้งสองกลับมาหรือยังไอมอล"เมื่อฉันเดินเข้ามาแต่ในบ้านกลับเงียบอย่างไม่มีใครอยู่จึงเอ่ยถามพ่อบ้านไอมอล โมริงแบร เป็นพ่อของบ้านตระกูลดยุกมารุ่นสูรุ่นเป็นตระกูลพ่อบ้านที่ให้ความจงรักภักดีกับตระกูลดยุกมาตั้งแต่อดีต
"ยังไม่กลับครับ คุณหนูต้องการอะไรไหมครับ"ไอมอลถามหลังจากเห็นคุณหนูกำลังเดินไปที่ห้อง
"ข้าไม่ต้องการอะไร มีอะไรก็ไปทำเถอะ"ฉันบอกก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง
พอเข้ามาในห้องก็ลมตัวลงนอนบนเตียงอย่างเหนื่อยหนาย เสียงประตูดังขึ้นขณะที่ฉันกำลังจะค่อยหลับไปจนทำให้ฉันต้องลุกขึ้นนั่ง
"ใคร"ฉันเอ่ยถามหลังจากไปนั่งที่ดืมน้ำชา พอ ได้รับอนุญาตประตูก็เปิดออก คนที่เข้ามานั้นคือหญิงรับใช้ประจำตัวเจ้าของร่างเดิมเธอชื่อว่าเอริ อันเบิก
"ข้าเองค่ะคุณหนู"เอริตอบคุณหนูหลังจากเข้ามาในห้อง
"มีอะไร"ฉันเอ่ยถามอย่างเย็นชา
"ข้าแค่จะเข้ามาถามว่าคุณหนูต้องการอะไรไหมค่ะ"เอริตอบคำถามอย่างกล้าๆกลัวๆหลังจากฝืนขึันมาถ้าเธอ เข้ามารบกวนคุณหนูก็จะ ดุด่าและควงปาข้าวของและอาละวาดเวลา ไม่พอใจ แต่ตอนนี้กลับนั่งสงบไม่ดุด่า
"ข้าไม่ต้องการอะไรเจ้าไปไหนก็ไปเถอะข้าพักผ่อนอยู่เงียบๆคนเดียว"ฉันเน่นยำคำว่าคนเดียวเป็นพิเศษ เอริได้ยินดังนั้นจึงรีบขออนุญาตออกไปอย่างรวดเร็ว
"ถ้าคุณหนูต้องการอะไรเรียกใช้ข้าได้เลยนะเจ้าค่ะ"เอริเอ่ยขึ้นมาอีกครั้งก้อนตะรีบออกไปจากห้องเพราะมองสีหน้าเย็นชาของคุณหนูแล้วความรู้สึกเหมือนกับอยู่ในวันที่หิมะตกอย่างไรอย่างนั้น
หลังจากประตูปิดลงฉันก็เดินไปทางที่นอนและลมตัวลงนอนหลับไปในที่สุด
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!