เด็กน้อยวัย8ขวบ 'ซิกค์' ได้ถูกคุณอาพามาที่บ้านหลังหนึ่ง ด้วยสถานการณ์ที่วุ่นวายทางฝั่งครอบครัวอาจึงจำเป็นจะต้องทิ้งน้องเอาไว้เพื่อความปลอดภัย โดยหวังว่าเจ้าบ้านจะใจดีและรับเลี้ยงด้วยความเอ็นดู เด็กน้อยที่รู้ว่าอาทิ้งไปแล้วจึงร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจจนเสียงนั้นทำให้เจ้าบ้าน 'เซต' นั้นตื่นและลงมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น พอเห็นเด็กน้อยผู้น่าสงสารถูกทิ้งไว้จึงพาเข้าบ้านและปลอบใจ แต่ด้วยความที่เค้าไม่เคยปลอบเด็กมาก่อนนั่นเลยทำให้เค้าคิดหนัก เค้าเลยตัดสินใจโทรหาเพื่อนสนิท(??)ที่ชื่อ 'ยิ้ม' ให้มาช่วยและมันก็ได้ผลเด็กน้อยได้หยุดร้อง พอได้โอกาสจึงถามน้องถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เลยได้ความมาว่า ครอบครัวของน้องเป็นนักธุรกิจใหญ่ที่ตอนนี้ถูกคู่อริเล่นไม่ซื่อจนเกือบล้มละลาย และตอนนี้พวกนั้นก็ได้รู้ว่ามีทายาทอยู่เลยออกตามล่า นั่นเป็นสาเหตุที่อาทิ้งน้องเอาไว้ที่นี่ ทั้งสองได้นั่งฟังอย่างละเอียดและได้ปรึกษากันสักครู่ ก็ได้ผลออกมาว่าจะรับเลี้ยงน้องเอาไว้ และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นที่น้องจะได้เริ่มใช้ชีวิตใหม่ และตรอบครัวใหม่ ติดตามต่อได้เลยนะคะ
ยังไม่ได้แก้คำผิดนะคะ บางคำอาจจะเขียนไม่ถูกต้องขออภัยด้วยนะคะ
เรื่องนี้เป็นแนวอบอุ่น ทุกคนสามารถอ่านได้ค่ะ
สถานที่ในนิยายบางที่ไม่มีอยู่จริงนะคะ
เอาหละทั้งนี้ก็ขอให้ทุกคนมีความสุขกับนิยายนะคะ ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
เช้าวันจันทร์
07.30น.
อรุณสวัสดิ์ยามเช้าน้องซิกค์เองนะ วันนี้น้องตื่นเช้ามากๆเลยตอนนี้น้องก็กำลังปลุกป๋าอยู่ เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่ป๋าจะต้องไปเรียนอีกอย่างตอนนี้น้องก็หิวแล้วด้วย น้องได้เขย่าตัวป๋าที่นอนอยู่สองสามครั้ง และป๋าก็ตื่นและกล่าวทักทายก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำ ตัวน้องก็ได้ตามไป เรากำลังจะแปลงฟันกันแต่ด้วยความที่น้องนั้นเตี้ยเกินไป น้องเลยต้องใช้เก้าอี้ในการปีนขึ้นไปส่องกระจก เราสองคนได้แปลงฟันและคุยกันอย่างสนุก ไม่นานมากหลังจากที่ทำธุระเสร็จก็ได้มีเสรียงออดดังขึ้นนั่นเป็นสัญญาณว่ามัมมาถึงแล้ว เราเลยรีบเปิดประตูให้และช่วยขนของเข้าบ้านวันนี้มัมจะเป็นคนทำอาหารให้เรากินนั่นเอง มัมได้เตรียมของเอาไว้เรียบร้อยเลย วันนี้มีข้าวผัดกุ้ง น้องชอบกินกุ้ง เพราะอะไรน่ะหรอเพราะว่าน้องกับคุณอามักจะไปกินล็บเตอร์กันในช่วงวันหยุดยังไงล่ะ เรื่องของคุณอาน่ะน้องเข้าใจนะถึงน้องจะเสียใจมากๆก็เถอะ เอาหล่ะอย่าเสียเวลาเลย โอ๊ะ!วันนี้น้องได้ไปด้วยนะดีใจจัง พอทานกันอิ่มแล้วก็ได้เวลาแต่งตัวแล้วล่ะ ผ่านไปประมาณเกือบ15นาทีทุกอย่างดูเรียบร้อยดีได้เวลาขึ้นรถ รถของเราเป็นรถเก๋งมิสซูสีแดงเล็กไปหน่อยแต่มันก็ไม่ได้อึดอัดอะไร ระหว่างที่รถเคลื่อนตัวออกไปป๋าได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูช่วงติดไฟแดง น้องสงสัยเลยถามออกไป
"ป๋า ป๋าดูอะไรหรอ"
"หุ้นน่ะ วันนี้เป็นวันที่ดีเลยนะราคาขึ้นมาตั้ง3เท่า"ถึงน้องจะไม่เข้าใจว่าหุ้นคืออะไร แต่ป๋าบอกว่ามันดีน้องก็เชื่อว่ามันดี ขับมาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว มหาลัยของป๋าเป็นมหาลัยเอกขนที่ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว และแน่นอนว่าค่าเทอมมันจะต้องแพงมากๆแน่นอน เร่สามคนลงจากรถและเข้าห้องกัน แต่ในระหว่างทางทุกคนที่เราเดินผ่านก็ได้มองมาที่น้อง บางคนก็หันไปเมาท์กับเพื่อนบางคนก็หยิงมือถือขึ้นมาถ่าย อาจจะด้วยที่หน้าตาน้องที่ไม่เหมือนคนไทย ใช่ น้องไม่ใช่คนไทยน้องเกิดที่LA พ่อของน้องคือคนอเมริกาส่วนแม่ของน้องเป็นคนฝรั่งเศส หน้องน้องก็ออกไปทางแม่อยู่แล้ว เราเดินมาไม่นานก็ถึงห้องแล้ว พอเปิดเข้าไปทุกคนต่างจับจ้องมาที่น้อง น้องทำตัวไม่ถูกก็เลยหลบที่ข้างหลังป๋า และมีคนนึงได้เข้าทางเรา เป็นผู้หญิงผมยาวมัดรวบหน้าอกประมาณคัพEตัวค่อนข้างสูง
"ไงมึง วันนี้มีเด็กมาด้วยอ่อวะ น่ารักอ่ะ"
"เออ เด็กที่กูให้ดูในแชทเมื่อคืนอ่ะ"สายตาเธอได้มองมาที่น้องพร้อมรอยยิ้มอันสดใส พอคุยกันไมสักพักก็ได้รู้ว่าเธอชื่อโยฮิเมะ เป็นคนญี่ปุ่นที่ย้ายมาเรียนที่ไทยแบบถาวร ทุกอย่างเป็นไปได้สวยแล้วก็ถึงเวลาเข้าเรียน ในตอนนี้น้องได้แต่นั่งบนตักป๋าและมองพวกเค้าจดในสิ่งที่ครูพูด โดยที่น้องก็ไม่เข้าใจเลยว่ามันคืออะไร และใช่น้องก็นั่งแบบนั้นจนหมดคาบ
12.00น.
ตอนนี้ก้เที่ยงแล้วเราก็ได้พากันมาที่ตลาดข้างเซเว่นโดยที่นี่ก็มีทั้งของกินของใช้และเสื้อผ้ามากมาย น้องยอมรับเลยว่าน้องไม่เคยมาตลาดมาก่อนนั่นทำให้น้องนั้นตื่นเต้น พวกเราได้เข้าไปและซื้อของที่จะกินกันและเสื้อผ้าน้องอีกนิดหน่อย ไม่สิ เยอะอยู่นะ เราได้ซื้อปลาหมึกอย่าง กุ้งเผา ลูกชิ้นมาด้วย ในระหว่าที่เดินด้วยความที่คนเริ่มเยอะมันก็เลยทำให้ตัวน้องหลงกับป๋าและมัม น้องพยายามเดินไปเรื่อยแต่ก็ไม่มีวี่แววจะเจอเลย น้องว่าคงไม่เจอแล้วล่ะน้องเลยร้องไห้ออกมาอย่างหนัก แต่ว่าไม่มีใครมาช่วยน้องเลยผู้คนต่างเดินผ่านไปเหมือนว่านี่เป็นเรื่องปกติ แต่ก็ใช่ว่าทุกคนที่จะไม่สนใจบางคนก็เห็นใจแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรและในตอนนั้นได้มีคนเข้ามาหา เค้านั่งย่ิลงตรงหน้านาองพร้อมกับถามน้องว่าร้องไห้ทำไม เค้าเป็นผู้ชายที่สูงมาหน้าฝรั่งจ๋าเลยใส่ชุดคลายๆหมอ ไม่สิเค้าอาจจะเป็นหมอเลยก็ได้
"ไหนร้องไห้ทำไมครับ"
"น้องหลงกับป๋า น้องหาป๋าไม่เจอ"
"เดี๋ยวป๋าก็มาหา ไม่ต้องร้องนะดูสิขี้มูกโป่งแล้ว"จริงสิน่าอายจังขี้มูกโป่งในที่แบบนี้ พอเป็นแบบนั้นเค้าจึงล้วงกระเป๋าเสื้อและหยิบกระดาษทิชชุ่มาเช็ดน้ำมูกให้ สัมพัสแรกที่น้องรู้สึกมือเค้านุ่มมากๆ มันทำให้น้องรู้สึกถึงความอบอุ่น พอเช็ดเสร็จเค้าก็ได้พาน้องมาที่ม้านั่งที่อยู่บริเวณหน้าตลาดพร้อมชวนคุยต่างๆนาๆเพื่อให้น้องสบายใจขึ้น เราได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน เค้ามีชื่อว่าเนเมซิตอายุ24เป็นคนรัสเซียที่ได้มาเรียนที่ไทยและตอนนี้เค้าฝึกงานเป็นผู้ช่วยหมอและในอีก2เดือนเค้าก็เรียนจบและจะเปิดคลีนิกเล็กแถวนี้ น้ำเสียงที่น้องได้ยินจากเค้าทำให้น้องนั้นคิดถึงพ่อมากๆ เสียงนุ่มๆทุ้มต่ำอย่างมีเสนห์และรอยยิ้มที่แทบจะกรีดเข้าไปใจหัวใจ ใช่น้องใจสั่น น้องไม่รู้หรอกว่าอาการนี้เค้าเรียกว่าอะไร น้องเลยถามไปตรงๆเลยและได้คำตอบมาว่าตอนนี้น้องกำลังเขินอยู่ เขินหรอ? น้องไม่เข้าใจเค้าเลยบอกว่าเดี๋ยวโตขึ้นก็จะเข้าใจเอง ในไม่นานที่เราได้คุยกันป๋ากับมัมก็ได้มาพอดี
"ไม่เป็นไรใช่มั้ยน้อง ตามหาแทบแย่ทีหลังอย่าปล่อยมือป๋าเข้าใจมั้ย"น้องก็พยักหน้าเข้าใจและป๋าก็ได้อุ้มน้องขึ้นแล้วหันไปขอบคุณพี่ซิตที่อยู่เป็นเพื่อนน้อง และแล้วก็ถึงเวลาที่น้องต้องไป น้องไม่รู้ว่าน้องจะได้เจอพี่เค้าอีกมั้ย แค่ถ้าเป็นไปได้น้องก็อยากเจออีก น้องได้โบกมือลาแล้วพี่เค้าก็โบกกลับ มันเป็นช่วง้วลาที่ดี แม้จะเป็นเพียงเวลาสั้นๆก็ตาม
--------------------------------
ที่ทุกคนอ่านอยู่มันเป็นภาษาพูดนะคะบางทีอาจจะมีผิดพาดไปของอภัยด้วยนะคะ ตัวยุยเองก็ไม่ได้เขียนแบบจริงจังนานแล้วเลยเขียนไม่ถูก ถ้าชอบเรื่องนี้ก็กดไลท์กดตดตามให้กำลังใจกันด้วยนะคะ อย่าลืมคอมเม้นมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วยล่ะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!