NovelToon NovelToon

{Moraของท่านเทพยาจก}

EP1

{Moraของเทพยาจก}

เรื่องนี้เขียนขึ้นเพราะความจิ้นของนักเขียน

เรื่องนี้แต่งขึ้นจากเกมGenshin

Impact ของค่ายMIHOYO(นักเขียนติดมาก)ซึ่งเพื่อไม่ให้เกิดการที่ชื่อตัวละครจะเหมือนกัน

จึงขอย่อเชื่อตัวละครเพื่อความเข้าใจจะยกตัวอย่างให้ *งดเบียดเรือนะ*(อาจจะมีเสียดสีการเมือง

เพราะนักเขียนอดใจไม่ได้ที่จะเล่นแน่นอนนักเขียนสายเผือกไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง)

ตัวอย่างชื่อย่อของตัวละคร

ดีลุค=ลุค

จงหลี่=จง

เคยะ=เค

*ตัวละครไหนที่มีชื่อตัวเดียวก็เรียกแบบนั้นแหละอย่างเช่น ไชลด์ ก็เรียกแบบนั้นแหละ*

-

-

-

ในช่วงเย็นของวันหนึ่ง....แสงสีส้มที่ส่องผ่านหน้าต่างของห้องสมุดกระทบกับพื้นผิวต่างๆรวมถึง...ใบหน้าที่หวานคมสะดุดตาของผม

มันทำให้หัวใจที่ผมคิดว่ามันตายด้านไปแล้ว...กลับมาเต้นเป็นจังหวะอีกครั้ง มันเป็นความรู้สึกที่ผมแอบโหยหามานาน

ความรู้สึกรักใครสักคน ในที่สุดผมก็ได้เจอคนนั้น

ดวงตาสีเหลืองคู่คมคู่นั้นกับผมสีดำมีส้มปลายๆ อ่า....ผมละสายตาจากคนนั้นไม่ได้เลย

เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วไม่รู้ที่ผมได้เจอกับผู้ชายคนนี้ ผมทำได้แค่แอบมองเขาจากชั้นหนังสือไม่ก็นั่งมองเขาจากโต๊ะด้านหลัง

ได้เห็นแผ่นหลังที่เล็กกับผมที่ปิดท้ายทอยของเขานิดหน่อย เป็นท้ายทอยที่สวยดี หึ

ผมแอบคิดในใจพรางยิ้ม ผมจะดูโรคจิตไหมเนี้ย บ...บ้าไปแล้วนี่เราหุบยิ้มไม่ได้

เราคงชอบเขาเข้าให้แล้วสินะ จะบอกเขาดีไหมนะ.....

-

-

-

-

16.00 น.

“เค....กูควรบอกชอบเขาดีไหม” ผมนั่งเท้าคางพรางหันหน้ามองออกไปข้างนอกหน้าต่าง

หางตาของผมก็เหลือบไปเห็นชายคนนั้น เขากำลังเดินถือหนังสือไปที่ห้องสมุด

รอยยิ้มมุมปากของผมก็ยกสูงขึ้น

“ก็แล้วแต่มึงสิ มึงจะบอกเขายังไง มึงจะเขียนจดหมายส่ง100บรรทัด?”

“มึง...กูไปก่อนนะ วันนี้เขามาเร็วกว่าปกติ

กูจะรีบไปหาเขา” ผมพูดจบก็รีบตรงดิ่งไปยังห้องสมุดโดยไม่สนว่าเพื่อนจะเป็นยังไง

ส่วนใหญ่มันมากกว่าที่ไม่ค่อยสนผมเท่าไร

พอผมมาถึงห้องสมุดผมก็เดินไปจุดประจำของคนที่ผมแอบชอบ ผมมาที่ห้องสมุดนี้บ่อยเพราะได้เจอกับคนที่ใช่แต่ผมก็ได้แค่เฝ้ามองจากด้านหลังหรือตรงชั้นหนังสือบ้าง

อยากจะเริ่มบทสนทนาจากการเป็นเพื่อน

แต่เท่าที่ผมสังเกตเขาไม่ค่อยมีเพื่อนส่วนมากชอบอยู่คนเดียวอ่านหนังสือเงียบๆ

ผมไม่ค่อยเจอเขาบ่อยให้มหาลัยเพราะผมติดเรียนและไม่ค่อยได้เดินตามหาเขาเท่าไร

ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะลองคุยกับเขาดู คิดแต่ไม่ได้ทำชาตินี้กูจะได้เขาเป้นแฟนไหม

ผมคิดอยู่นานว่าจะเข้าไปทักดีไหมแต่...

“ขอโทษนะครับ คุณช่วยขยับหน่อยได้ไหม

ผมหยิบหนังสือไม่ได้คุณบังอยู่”

“เอ๊ะ! ข...ขอโทษครับ” เสียงที่เข้มๆที่ฟังแล้วชวนให้ความรู้สึกอบอุ่น

ดวงตาสีเหลืองคม ผมสีดำปลายมีสีส้มปนอยู่

มันทำให้ผมใจเต้นแรงและรีบขยับตามคำขอของอีกคน ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะทักเรา

(อันที่จริง เขามองว่าเกะกะ จะหยิบหนังสือแต่หยิบไม่ได้)ทันทีที่ผมหลบทางให้

ร่างเล็กก็ก้มลงไปหยิบหนังสือเล่มหนึ่ง “อ่า...ขอโทษนะครับ

นั้นใช่หนังสือเรื่อ’Moraของเทพยาจก’ใช่ไหมครับ?”

“……ครับ”ร่างเล็กตอบเสียงทุ้มนิดๆพรางมองมาที่ผม

“คุณสนใจเรื่องนี้เหรอครับ?”ผมยิ้มเจื่อนๆ

ร่างเล็กก้มหน้ามองหนังสือสักพักแล้วเงยหน้ามาสบตากับผมพรางพยักหน้าเบาๆ แก้มจากที่เป็นสีผิวคนปกติก็เริ่มแดงผาดเหมือนลูกตำลึกท่าทางเขินอายนิดๆ

มันทำให้ผมกล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า น่ารักโว้ยยยยยยย! ว่าซั่น “เพิ่งเคยอ่านสินะครับ

เรื่องนี้ค่อยข้า-”ผมที่ไม่ทันจะพูดจบมือที่แสนอ่อนนุ่มนิ่มบางเรียวมาปิดที่ปากของผมโดนไม่ทันตั้งตัว

“ชู่ว อย่าสปอยครับ ไว้ถ้าผมไม่เข้าใจจะถามคุณละกัน

ดูคุณน่าจะรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะ”ร่างเล็กมองด้วยสายตาที่ข่มขู่อย่างเห็นได้จัดเจนบ่งบอกให้รู้ว่าไม่ต้องการให้ใครมา

ส ป อ ย !!! ทันทีที่ร่างเล็กพูดจบก็ค่อยลดระดับมาลงมาหยิบของในกระเป๋ากางเกง

“งั้นแอดวีแชทกับผมไม่ครับ

เผื่อคุณ...ไม่เข้าใจเนื้อเรื่องจะได้ถามผม”ผมยิ้มอ่อนๆแล้วเปิดแอปวีแชทเตรียมพร้อมที่จะแอด งานนี้กูไม่ได้หลับแน่!!

ร่างเล็กมองการกระทำของผม“ก็ได้ครับ”ร่างเล็กเปิดคิวอาร์โค้ด

ผมไม่รอช้าที่จะสแกนแอดเพื่อนในทันที หลังจากที่แอดเพิ่มเพื่อนกันเสร็จร่างเล็กก็มองดูเวลาในมือถือของตน “ขอโทษนะครับ ผมต้องรีบไปแล้ว”ผมยังไม่ทันตอบร่างเล็กก็รีบไปทำเรื่องยืมหนังสือแล้วออกไป

แต่แค่ได้แอดวีแชทก็ดีแล้วอย่างน้อยก็ได้ทักหาเขาละนะ แต่....เขาชื่อไรว๊ะ เชี้ย!!นี่กูลืมถามชื่อเขาเหรอเนี้ย ไม่จริง

โอมายก๊อดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!! อร๊ากกกกก

เอ๊ะ...แต่เราก็มีวีแชทแล้วนิค่อยถามในนั้นก็ได้  ผมกำลังจะกลับบ้านจู่ๆก็มีสายของเพื่อนสนิทของผมเข้ามา….

[incoming

call]

{โหล

มึงมีอะไรวะเค}

{มึง...กูกับสเลฟ

เลิกกันแล้ว ฮือ}

{ได้ไง เมื่อวานยังเห็นดีกันอยู่เลย}

{กูไม่รู้

มันทิ้งกูไปแล้ว 7ปีที่มันอยู่กับกูมามันเพิ่งมาออกก็ตอนนี้}

{เดี๋ยวอีเหี้ย

เข้าการเมืองทำเหี้ยไร}

{ไม่รู้ๆๆๆๆๆ

มาหากูที่บาร์ที ฮือๆ}

ร้านผับเถ้าแก่หมา

กรุงกริ๊ง

เสียงระฆังตรงประตูดังขึ้นเป็นสัญญาณว่ามีลูกค้าใหม่เข้ามา

บริกรที่ยื่นชงเหล้าไม่รอช้าที่จะเงยหน้าแสนสวยดวงตาสีแดงสดพร้อมกับเส้นผมที่ถูกมัดเป็นทรงหางม้า

เส้นผมที่มีสีแดงของดวงอาทิตย์มีสีส้มปนอยู่รีบเงยหน้ามองลูกค้าที่เดินเข้ามา

สีผิวแทนเข้มดวงตาสีฟ้าคู่คม สีตาเหมือนสีผมของชายผิวแทน

ดูสง่าและน่าดึงดูดทำให้ดวงตาสีแดงสดไม่สามารถละสายตาได้แม้แต่น้อย

หนุ่มผิวแท้เริ่มเดินมาหาบริกรหนุ่มเพื่อนจะสั่งเครื่องดื่มปลอบใจที่โดนแฟนที่รักกันมา7ปีทิ้งไป

“ผมขอเหล้าที่แรงที่สุดทีครับ”

“ได้ครับ...”

บริกรชงเหล้าตามสูตรที่ตัวเองเคยเรียนมา

ความรู้ที่มีที่ตนฝึกมานาน

ครอบครัวของเขาเป็นนักชงเหล้าหมักไวน์ชั้นยอดเพื่อส่งออกไปขาย

ไม่ต้องถามถึงฐานะที่ร่ำรวยของบริกรผู้นี้เลย

เขาคือคุณชายของตระกูลที่ขึ้นชื่อเรื่องไวน์พ่อแม่มีชื่อเสียงฐานะร่ำรวย

เป็นบริกรหล่อหน้าสวย(แต่ไม่ยิ้ม)ประจำร้าน ใครได้เป็นแฟนว่าดวงดี

หมอดูยังไม่แม่นเท่านี้เลย(คนเขียนแม่นกว่า)

“นี่ครับเหล้าที่สั่งไว้”

“ขอบคุณครับ”

บริกรหนุ่มยื่นแก้วเหล้าสุดหรูให้ชายผิวแทน

มือเรียวยาวรับแก้วสุดหรูที่มีเหล้าสุดแรงมา

ริมฝีปากที่เข้มกระทบกับขอบแก้วที่โปร่งใส

ภายในมีเหล้าที่ค่อยๆผ่านแก้วไปยังริมฝีปากที่เข้ม

บริกรหนุ่มที่ยืนมองพรางคิดอะไรในใจ

“คุณ...”

“ครับ”

“อึ๊บกับผมหน่อยไหม”

ร่างผิวแทนที่กำลังเมาพูดออกมาอย่างขวานผ่าซาก

ทัก ไม่ทัก (มีคนตายฮะเเจ้งตำรวจด้วย)

{Moraของท่านเทพยาจก}

Ep2

“คุณว่าไงนะ”

บริกรหนุ่มชะงักไปสักพักหนึ่งก่อนที่มือสีน้ำตาลคล้ำจะค่อยๆ ยื่นมาลูบแก้มของบริกรหนุ่ม ตาสีฟ้าน้ำเงินที่ดึงดูดให้บริกรหลงใหล ใบหน้าขาวแพรวพราวค่อยๆ เข้าใกล้หนุ่มผิวแทนปากของทั้งคู่เกือบที่จะประกบกันแต่บริกรหนุ่มกลับเอามือมาบังเอาไว้

“คุณเมาแล้วครับ เดี๋ยวผมพาไปพัก”

บริกรหนุ่มเดินมาพยุงหนุ่มผิวแทน พาไปยังห้องพักของพนักงานในร้าน ทุกสายตาของคนในร้านหันมามองแล้วก็พากันซุบซิบ เสียงซุบซิบเริ่มดังขึ้นหลังจากที่บริกรหนุ่มพาชายผิวแทนเข้าไปในห้อง หลังจากที่บริกรหนุ่มวางชายผิวแท้วางบนโซฟา

“คุณจะไม่มีอะไรกับผมจริงเหรอ”

“ผมว่าคุณเมาแล้ว เลิกพูดเรื่องมีอะไรกันสักทีเถอะครับ”

“ผมเพิ่งโดนแฟนบอกเลิกไป แล้วคุณยังจะทิ้งผมอีกเหรอ”

ชายผิวแทนพูดออกมาอย่างตัดพ้อ ใต้ตาของชายผิวแทนบวมมีน้ำใสๆ อยู่ที่เบ้าตา ใต้ตาเริ่มแดงระรื่นน้ำหยดใสๆ เริ่มไหลออกมา บริกรหนุ่มเลิ่กลั่กหนักมาก ไม่รู้จะทำยังไง

“เอ่อ...คุณ อ..อย่าร้องไห้สิครับ”

-

-

-

หน้าร้านผับเถ้าแก่หมา

ชายสูงโปร่งที่ดูอารมณ์ดีจากบางสิ่งบางอย่าง (ไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้)

ภายในร้านที่มีเสียงซุบซิบ พอร่างสูงเดินเข้ามาก็ทำให้เสียงเงียบลง ทุกสายตาจ้องมอง ความหล่อเท่เกินบรรยา แพรวพราวอย่างกับรากมะพร้าว ทั้งสาวและหนุ่มต่างหมายปอง

“เถ้าแก่ครับ ไอเคอยู่ไหนเหรอครับ”

“ห้องพักพนักงาน”

“ขอบคุณครับ งั้นผมเข้าไปเลยนะ^^”

ร่างสุงเปิดประตูห้องพักเข้าไป ร่างสูงโปร่งก็ชะงักและตกใจกับสิ่งที่เห็น บริกรหนุ่มกำลังนั่งกอดเพื่อนของตัวอยู่แต่ที่น่าตกใจมากกว่าคือสีหน้าของบริกรหนุ่มที่ดูสงบนิ่ง ไม่เป็นเดือดเป็นร้อนเลย มันทำให้ร่างสูงถึงกับงง ไม่ค่อยอยากดชื่อสายตาเท่าไร

“เพื่อนคุณสินะ เขาร้องไห้ไม่หยุด ผมเลยกอดปลอบเขา”

“อ่า...ต้องขอโทษที่รบกวนคุณและต้องขอบคุณที่ช่วยดูแลด้วยนะครับ” ร่างูงรีบเดินไปพยุงเพื่อนของตนที่กำลังกอดบริกรหนุ่มแน่น

“ไม่เป็นไร ผมขอตัวก่อนนะครับ” ทันทีที่บริกรหนุ่มพูดจบก็ออกจากห้องพักไปทำงานต่อ ร่างสูงที่รู้ว่าบริกรหนุ่มออกไปแล้วแต่ก็ยังอึ้ง (ช็อคหนักมาก) สักพักร่างสูงก็ได้สติแล้วรีบนำศพเพื่อนของตนที่เมาค้างพากลับห้องให้เร็วที่สุด แต่โชคร้ายหน่อยที่...

“ไอเค!!! มึงจะอ้วกทำไมไม่บอกก่อนวะ เชี้ย รถก็เหม็นหมด”

“ปุมายหาว (กูไม่ไหว) แหวะสึ”

“ไอเค! กลับห้องมึงเจอพระลงแน่”

ตามฉากในการ์ตูนหรือเรื่องต่างๆ ใช่อ้วก อ้วกจริง

*******************************ถือว่าไม่มีไรเกิดขึ้น**************************************

แง่นๆ (เสียงมอไซต์ม่ะ) เสียงรถที่เร่งความเร็วเริ่มชะลอความเร็ว จอดที่ลานจอดรถหน้าบ้านสไตล์โมเดิร์น ประตูรถฝั่งคนขับค่อยๆ เปิดออกอย่างระวัง ร่างสูงค่อยๆ ก้าวเท้าออกมาจากรถ ร่างสูงลงมาจากรถเสร็จก็ไม่รอช้าที่จะเก็ยศพเพื่อนที่นอนตายบนรถ

“นี่รถหรือป่าช้าเคลื่อนที่ได้วะ มีคนตายด้วย สงสัยได้เป็นข่าวแน่”

ร่างสูงบ่นกับศพเพื่อนที่นอนตายคารถเสร็จก็แบกร่างของเพื่อนตนเข้าบ้าน ทันทีที่ร่างสูงก้าวเข้ามาในบ้านก็วาง (อยากจะโยนมาก) ร่างของเพื่อนไว้บนโซฟา ไม่รู้ว่าเพื่อนทำบุญมากี่ชาติ ท่านอนที่แสนจะหล่อเท่นี่ขนาดตอนเมายังหล่อ ตอนมีสติจะหล่อขนาดไหน ภายในบ้านที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีต้นไม้ค่อยระดับทำให้สะดุดตาอย่างน่าหลงใหล ภายในบ้านสีขาวสวยมีสีดำค่อยตัดกับสีเขียวธรรมชาติที่ทำให้สบายตา วิวภาพเมืองในตอนค่ำที่มีแสงสีส้มขาวประดับตามท้องถนนและตึก มองดูแล้วคือภาพที่หาได้ง่ายของทุกวัน แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ออกไปไหนคงจะเป็นภาพที่สวยงามที่สุดเท่าที่หาได้

ร่างสูงโปร่ง (เสาไฟฟ้าNo.1) ถอนหายใจออกมาพลางหยิบมือถือของตนขึ้นมากดเข้าแอปวีแชทอย่างรีบเร่ง รูปโปรไฟล์ของคนเมื่อตอนเย็นขึ้นปักหมุด ร่างสูงรีบเดินเข้าไปในห้องนอนส่วนตัวของตน

ผมไม่รู้ว่าคนที่ผมแอบชอบทำอะไรอยู่ ผมควรทักเขาไปดีไหม หรือว่ายังไงดี ไม่กล้าโว้ย นี่เรากลายเป็นคนคลั่งรักตั้งแต่เมื่อไรนี่ก็0:45แล้ว เขาจะนอนยังวะ หรือว่าไงดี อยากทักโว้ยย ตอนแรกว่าจะเดินจงกรมแต่ว่าตอนนี้มากกว่าจงกรมแล้ว ทำไงดีๆ ทักดีไหม ทัก ไม่ทัก ทัก ไม่ทัก ทัก ไม่ทัก ทัก ไม่ทัก ทัก ไม่ทัก ทัก ไม่ทัก ทัก ไม่ทัก ทัก ไม่ทัก ทัก ไม่ทัก ทัก ไม่ทัก ทัก ไม่ทัก ทัก ไม่ทัก ทัก ไม่ทัก ทัก ไม่ทัก ทัก ไม่ทัก ทัก ไม่ทัก ทัก ไม่ทัก ทัก ไม่ทัก ทัก ไม่ทัก ทัก ไม่ทัก ทัก ไม่ทัก ทัก!!!อย่างงี้มันต้องทัก คิด (แต่ไม่) ถึง!!

-

-

-

**แจ้ง**

คือที่ลงงานช้าเพราะ

1.งานเยอะ

2.ขี้เกียจฮะ

3.ปั่นเกม

4.นอน

5.กิน

6.เล่นเกมเพลิน

7.หมองตัน

ใช่ค่ะ หมองตันหนักสุด ทางไรท์ก็ต้องขอโทษเเละขอบคุณที่คอยอ่าน หวังว่าจะทำให้ปวดตับเเละหมองมากที่สุด เนื้อเรื่องอาจจะไม่สอดคล้องแต่เอาฮา+จริงจุงนิดนุง ภาษาไหนไม่เข้าใจนั่นแหละค่ะ มุกหรือเปลือกหอยก็ไม่รู้

 

 

คำนี้ตัดทิ้งได้เลย จะพยายามให้ถึงที่สุดนะคะ หากมีคำไหนที่พิมพ์ผิดหรือไม่เข้าใจก็ต้องขอโทษด้วย

นอนดึก+น้อยหมองม่ายทำงาน;-;

ขอบคุณค่ะ

ep3 กักขังนุงเหนียง

{Moraของท่านเทพยาจก}

Ep3 กักขังนุงเหนียง

แสงแดดที่ร้อนแรงส่องผ่านลงมากระทบใบหน้าที่น้ำตาลเข้ม เจ้าของใบหน้ารีบเอามือมาบังแสงแดด สักพักหนุ่มผิวเข้มก็ลุกขึ้นมานั่งพลางลืมตามองรอบๆ ห้องของตน ห้องสีขาวสะอาดตาตัดกับใบไม้สีเขียวของต้นไม้ทำให้รอบข้างดูสบายตา กระจกบานใหญ่สองบานใสสะท้อนวิวรอบบ้านของตน ร่างใหญ่ลุกออกจากโซฟา ตอนนี้ร่างใหญ่สร่างเมาแล้ว พยายามนึกเรื่องเมื่อคืนที่เกิดขึ้น เพราะหลังจากที่โดนแฟนของตนที่คบมาด้วย7ปีบอกเลิก ร่างใหญ่ได้เพียงแค่คาดเดาเพราะแฟนเก่า (เลิกกันแล้ว) ตนอยู่ต่างประเทศ (โกอินเตอร์) ถ้าให้เดาไม่ผิดก็น่าจะมีแฟนใหม่ที่นั่น คงจะมีเมียใหม่อย่างแน่นอน! ขณะที่ร่างใหญ่กำลังคิดเรื่องที่อยู่ในหัวเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นจากห้องของร่างสูง ร่างใหญ่มองคนที่ออกมาจากห้องด้วยสภาพที่อดหลับอดนอน ขอบตาดำในมือถือโทรศัพท์ไว้ ร่างสูงเดินไปที่ครัวเปิดตู้เย็นหยิบ กล่องนมออกมากิน

“ทำไมสภาพมึงเป็นแบบนั้นวะ” ผมถามอีกคนอย่างสงสัย ถึงผมจะเมาจนจำอะไรไม่ได้แต่ก็พอรู้ว่าคนอย่างมันคงไม่ดูแลผมทั้งคืนหรอก เพราะชุดที่ใส่เมื่อวานยังไม่ได้ถอดเลย!! อีกสักพักผมจะเป็นปลาเน่าเอาไปหิ้วขายได้อย่างแน่นอน

“มึงจำคนนั้นได้ไหมล่ะ เมื่อวานกูไปขอวีแชทมา” ร่างสูงยังคนกินต่อไปพลางหยิบของในตู้เย็นมาทำอาหารเช้าจานด่วน

“ถ้าให้กูเดา มึงคงคุยกับเขาทั้งคืน” ผมยืนมองมันอย่างสงสัยเช่นเคยเพราะคนอย่างมันทำอาหารจานด่วนแต่...อาหารจานด่วนบ้าไรวะใส่ปลาหมึก สมองมันเพี้ยนหรือยังไงวะ (สมองคนเขียนก็เช่นกัน)

“มึงเป็นแม่กูรึไงวะ มีหูทิพย์ตาทิพย์” ร่างสูงยังคงทำอาหารต่อไปพลางยิ้มเล็กยิ้มน้อยอย่างมีความสุข

“ผีปอบมึงดิ กูก็บอกอยู่ว่าเดา แล้วมึงจะใส่ปลาหมึกกับกุ้งทำไมวะ อีกอย่างคนอย่างมึงแทบจะนับครั้งได้เลยที่มึงเข้าครัว”

“เรื่องของกู” ร่างสูงทำอาหารเสร็จก็จัดใส่กล่องอย่างสวยงามมีครีมซอสมะเขือเทศและมายองเนสวางอย่างสวยงาม

“มึงจะเอาไปให้ใครกินวะ” ผมยืนมองร่างสูงที่หยิบมือถือขึ้นมาสั่งอาหาร แล้วมันจะทำอาหารทำเพื่อ!! ผมถึงกลับยืนกุมขมับอย่างแร๊ง เครียดกับเพื่อนที่มีเงินและบริษัทที่ใหญ่โต แต่สิ่งที่มันทำคือ??!!

“ให้คนสวยกินดิ เอาให้หมาข้างบ้านมั้ง กูไปอาบน้ำละ” ร่างสูงเดินเข้าห้องน้ำไป ผมได้แต่ยืนมองพลางหยิบมือถือขึ้นมาตรวจเวลาเรียน วันนี้วันจันทร์ มีเรียนช่วงบ่าย-เย็น ดีนะที่ไม่มีช่วงเช้า

-

-

-

08:30 น. ณ ห้องสมุด

*แชท*

คุณ:อยู่ไหนเหรอครับ?

อ่านแล้ว

หลงจง:ริมสุด ชั้น2

คุณ:คุณกินข้าวมายังครับ?

หลงจง:ยังครับ

หลงจง:แล้วคุณนัดผมมาทำไม

คุณ:เดี๋ยวคุณก็รู้เอง

ชั้น2ของห้องสมุด

หลังจากที่ไชลด์พิมพ์แชทเสร็จก็รีบตรงดิ่งไปหา ทันทีที่เห็นขึ้นมาถึงก็เจอ’ จง’ คนที่ตนแอบชอบนั่งอยู่ตรงมุมอับสายตาไม่ค่อยมีใครเห็นเพราะมีตู้หนังสือคอยบัง สมกับเป็นคนที่ผมชอบ คงไม่อยากให้ใครมายุ่งกับตนละมั้งเลยหาที่เงียบๆ แล้วไม่ค่อยมีใครหาเจอ

“เอ่อ...ขอโทษครับ คุณรอนานรึเปล่า” ผมเดินไปทักคนตรงหน้าที่นั่งกับพื้นแล้วเอาหลังชนกำแพงอยู่ แต่สิ่งที่ได้กลับมาเป็นอาการ อาการตกใจ!! นี่ผมทำเขาตกใจเหรอเนี้ย แต่...ตกใจแบบนี้ก็น่ารักดี ผมแอบเห็นเขาหูเเดงหลังจากที่สะดุ้งตอนผมเข้าไปทัก เขาคงเพลินกับการอ่านหนังสือเรื่องนั้นแน่เลย อ่า....ดีใจจัง

“คุณมาก็ดีแล้ว ผมมีเรื่องจะถามคุณพอดี”

“เรื่องอะไรเหรอครับ” ผมตอบอย่างยิ้มระรื่นออกไปแล้วรีบไปนั่งข้างๆ แบบเว้นระยะห่างไว้ให้

“เรื่องคายะกับดีลุค เขาเป็นอะไรกันเหรอ” อ่าตอบไงดีเนี้ย

“ตอนแรกพ่อของดีลุคเจอคายะเข้าเลยรับเลี้ยงมา ทั้งคู่เลยเป็นพี่น้องกัน จน...” ผมที่กำลังจะพูดต่อก็เหลือบไปมองอีกฝ่ายว่าอนุญาตให้พูดไหม แต่อีกฝ่ายดูไม่มีทีท่าที่จะบอกให้หยุด (ตั้งใจฟังมั๊ก) ผมก็เล่าต่อจนจบเรื่องราวของสองตัวละคร หลังจากที่เล่าจบอีกฝ่ายก็ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ผมล่ะสงสัยจริงๆ ว่าเป็นเรื่องอะไร แต่ผมก็เกือบลืมเรื่องของอาหารที่ทำวันนี้เลยชวนเขาไปกินข้าวด้วยกัน อีกฝ่ายตอบตกลงแต่ด้วยความที่ผมอดใจรอไม่ได้จึงชวนกินในห้องสมุด ผมโดนคนตรงหน้าผมดุด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย อ่าาานี่มันมาถึงขั้นที่ผมต้องยอมแล้วสินะ ผมจึงยอมออกไปกินข้างนอก ผมกับคุณจงเดินหาที่นั่งที่สงบและไม่ค่อยมีคนแบบพื้นที่ส่วนตัวได้ ผมหยิบกล่องข้าวขึ้นมาแล้วนำเสนอเมนู แซนวิชไส้ปลาหมึกและกุ้ง เป็นเมนูที่เพิ่งคิดได้แต่สีหน้าของจงบ่งบอกชัดเจนว่าไม่ชอบ

“เอ่อ....คุณไม่ชอบเหรอ”

“ผมเกลียดอาหารทะเล มันน่าขนลุก” สีหน้าของจงมันเป็นสีหน้าที่พิลึกกึกกือมากๆ ผมเห็นแล้วอดขำไม่ได้ อยากแกล้งจังพอเห็นแบบนี้แล้ว ถ้ากินเข้าไปแล้วจะทำสีหน้ายังไงกันนะ คิดแล้วก็น่าทำ

“คุณจะไม่ลองหน่อยเหรอ ผมตื่นแต่เช้ามาทำเลยนะ” ผมส่งสายตาอ้อนวอน (ลูกหมา) สิ่งหน้าของคุณจงบอกเลยว่าตลกมาก ทำให้ผมแทบจะอดกลั้นขำไม่อยู่

“ผมกินไปคุณและผมก็ไม่ได้อะไรทั้งคู่นิ” อีกฝ่ายมองผมด้วยสายตาที่บ่งบอกชัดเจนและคิ้วที่ผูกกันจนจะเป็นโบ

“ก็...ถือว่าเป็นค่าตอบแทนที่ผมบอกความสัมพันธ์ของคายะและดีลุค” ผมยิ้มออกไปอย่างไม่เคร่งกลัว

“นั้นสิ งั้นฉันจะกินอันนี้” อีกฝ่ายยื่นมือเรียวออกมาหยิบแซนด์วิชที่มีกุ้งแต่ยังไม่ทันที่นิ้วเรียวจะหยิบขึ้นมาก็ถูกห้ามไว้เสียก่อน

“ทำไมคุณไม่กินปลาหมึกละ”

“....”

“ผมตั้งใจทำเลยนะ คุณจะไม่ลองไส้ปลาหมึกหน่อยเหรอ” และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่หมาส้มแสดงสายตานี่ อีกฝ่ายนิ่งเงียบได้แต่ครุ่มคิดสักพักแล้วค่อยไปหยิบไส้ปลาหมึกแทน แต่อีกฝ่ายหยิบขึ้นมาแล้วได้แต่มองแซนด์วิชสับกับมองหมาส้มด้วยสายตาที่จริงๆ และอ้อนวอนนิดๆ

“ผมไม่ถูกกับปลาหมึกจริงๆ”

“คุณกินแค่1คำก็พอ แล้วค่อยไปกินอาหารที่คุณชอบ”

“....”

“ผมสัญญา”

“ได้ตกลง!!”

จงกัดแซนด์วิชเข้าไปเต็มปาก แน่นอนมันมีนวดปลาหมึกที่ถูกหั่นเป็นชิ้นๆ พอดีคำไว้ข้างในทำให้จงกินง่ายขึ้นแต่ก็ไม่ได้ทำให้สีหน้าของจงดีขึ้นเลย ไชลด์แอบรู้สึกผิดที่แกล้งแรงไปเลยเสนอตัวเลี้ยงข้าวเอง จงเองก็ไม่ได้ทักแต่อย่างใด ไชลด์เลยถามว่าอยากกินร้านไหนจงเองก็เดินนำไปโดยไม่พูดจาตลอดทาง ตอนนี้ไชลด์ได้แต่เดินตามหลังเป็นหมาซึมๆ จงที่เดินนำหน้าก็ย่อมรู้อาการดีเพราะตนนั้นแอบโกรธบวกกับยังคลื่นไส้เรื่องแซนด์วิชปลาหมึกไม่หาย พอทั้งคู่เดินไปถึงร้านอาหารออกแนวจีนจงก็ไม่รอช้าที่จะเข้าไปทักทายเจ้าของร้านอย่างเป็นมิตร เพราะจงชอบมากินที่ร้านนี้บ่อยๆ บรรยากาศของที่นี่ออกจีนสมัยก่อนให้บรรยากาศและวิวที่ดีแถมอาหารของที่นี่ยังขึ้นชื่อด้วยหากใครจะมากินข้าวเฉยๆ ก็จะได้รับบรรยากาศที่ดีกลับไปด้วย เจ้าของร้านเป็นคนใจดีมากจะมานั่งทำงานหรืออะไรก็ได้แต่ซื้อของจากร้าน1อย่างเพื่อเป็นการรีวิว แน่นอนว่าทำให้ร้านนี้มีเชื่อเสียงอย่างมากในโลกออนไลน์และเหล่านักเรียนมหาลัยกันหนุ่มสาววัยทำงานที่เสร็จจากการทำงานในช่วงเช้าแล้วต้องการมาผ่อนคลาย กับอาหารแสนอร่อยที่ขึ้นชื่อ มีเมนูตามฤดูกาลต่างๆ อย่างเช่นอาหารของเดือนธันวาก็จะเป็นฤดูหนาวให้เข้ากับอากาศ พอนึกถึงเดือนธันวาก็ต้องมีซานตาคลอส เจ๊แกก็ทำออกมาได้ ทำให้ลูกค้าที่มาถึงกับอึ้งเพราะไม่คิดว่าร้านนี้จะมีอีเว้นท์อย่างงี้ในทุกเดือน พอถึงวันที่1เมษาทีไรทางร้านก็จะชอบแกล้งหรือโกหกลูกค้าเช่น สั่งข้าวผัดแต่ก็โกหกว่าหมด พอข้าวมาส่งจริงๆ ดันเป็นข้าวผัดที่ตกแต่งได้น่ากวนกล้วยมาก เลยทำให้ลูกค้าบางคนถึงกับขำที่เจอแบบนี้ พอหมดช่วงวันที่1เมษาก็จะเป็นฤดูของอาหารและวัตถุดิบตามฤดูที่หาได้ ร้านนี้ไม่ได้ดีแค่อาหารของคาวอย่างเดียว แต่เรื่องขนมหรือของหวานที่นี่ก็ขึ้นชื่อ พอมีตามฤดูหรืออีเว้นของหวานก็จะเปลี่ยนตามทำให้ลูกค้าหน้าใหม่หรือเจ้าเก่าก็ไม่เบื่อ อยากมาบ่อยๆ คอยอุดหนุนอย่างหนาแน่น และมาไม่ขาดสาย ซึ่งจงคือลูกค้าประจำและเป็นเพื่อนกับลูกสาวเจ้าของร้านเลยทำให้เจ้าของร้านลดราคาและแถมอาหารให้ ดูเหมือนคนพิเศษของร้านอย่างแท้จริง

“คุณจะกินร้านนี้เหรอ”

“อืม”

ไชลด์ทำหน้าหวาดกลัวเพราะเดือนนี้เป็นเดือนตุลาเดือนของฮาโลวีนทางร้านเลยตกแต่งให้น่ากลัวแบบที่ใครเจอก็ขนลุก

“เจ๊ครับ เดือนนี้มีเมนูแนะนำอะไรบ้างครับ”

“ทริค ออ ทรีทจ๊ะหนุ่มน้อย แน่นอนวันนี้มาในแนวแม่มด เดี๋ยวให้พนักงานนำเมนูไปให้นะ ไปนั่งรอก่อนเลยจงน้อย”

พรีด—ไชลด์ที่ยืนฟังอยู่ถึงกับกลั้นขำไม่อยู่ จงน้อยนี่มันอะไรเนี้ย5555555 แต่ไชลด์ก็ต้องหยุดขำเพราะสายตาอันดุร้ายของจงที่หันมามองอย่างไม่เป็นมิตร

“ไปรอผมที่ชั้น2”

“ผมเพิ่งมาครั้งแรก”

“ตรงไปเลี้ยวขวา”

“โอเครครับบบ”

ระหว่างที่ผมรอผมก็หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายบรรยากาศรอบๆ ภายในร้านไปเรื่อยๆ ผมก็เจอจุดที่ดี โต๊ะนี้ใกล้กับกระจกชั้น2ของร้าน มีแสงแดดส่องผ่านลงมา ถึงทางร้านจะให้น่ากลัวแต่เวลานั่งตรงจุดนั้นคือสวยมาก ผมรีบสับขาก้าวไปที่โต๊ะนั้นแล้วนั่งลงพลางโพสต์รูปลงสตอรี่ ผมลงไปได้สักพักคุณจงก็เดินขึ้นมาพร้อมน้ำสีเขียวและม่วง

“น้ำอะไรครับนั้น”

“ไม่รู้สิ ลองชิมดูเดี๋ยวก็รู้”

“ห๊ะ จ..จะให้กินไอน้ำเขียวๆ นี่นะ?”

“ถึงเวลาหิวน้ำอย่ามาบ่น”

ผมได้แต่คิดอยู่ในใจ’ คุณตั้งหากมั้งที่จะได้กินน้ำผม’ ประโยคแบบนี้คงจะได้ตอนอยู่บนเตียงแน่นอน และจะให้แน่นอนเข้าไปอีกคือต้องได้เป็นพ่อของลูกคุณจงในอนคต!!

“ทำหน้าโรคจิตทำไม นี่กล้าคิดเรื่องลามกในร้านอาหารเลยเหรอ”

“เอ่อ...บักนุดๆๆๆๆๆ บักเอี้ยงนะนะนุดโน๊ยยย งุบงับ”

“55555555555555555555555555555555555555”

“รู้จัก ‘วังมังกรอยู่ทางนั้นไงกระพรุนๆๆๆๆๆ ’ ด้วยเหรอ??”

“เพื่อนมันส่งมีมนี่มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ขำท้องแข็งเลย55555”

ผมแอบหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายอีกคน ภาพของคนตรงหน้ามันสดกว่าภาพในกล้อง รอยยิ้มที่ไม่ได้เสแสร้งแต่อย่างใดบวกกับภาพในตอนเช้าๆ ที่กำลังเที่ยงแสงแดดที่ส่องเข้ามา สวย...สวยเกินผู้ชายไปแล้ว น..นี่มันกักขังนุงเหนียงหัวใจเรา โอมายยยยย~ นี่สิแม่ของลูก ชาติยอมไม่มีกิ๊กเพื่อเขาคนเดียวเลย รูปนี้อย่าหวังว่าจะได้เห็นเก็บไว้คนเดียวใส่กรอบทองด้วยเลย ถ้าพูดให้ใครฟังบรรยายสัก7ปีก็ไม่จบ พูดแค่นี้ก็กินเวลาไป3ปีแล้ว~

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!