NovelToon NovelToon

คุณพระเอกครับ อย่าบอกใครนะว่าผมเป็นหนุ่มวาย

เนื้อเรื่องที่ดำเนินไปอย่างเรียบง่ายตรงไหน!!

'แบรนด์ 'ชายหนุ่มผมสีดำตาตี๋กำลังมองเพื่อนสาวที่กำลังยืนเลือกนิยายอย่างเคร่งเครียด ในขณะที่ตัวเขาเองก็ถือนิยายที่เลือกไว้ในมือ

"พริมมึงซื้อสองเล่มเลย"แบรนด์เสนอทางเลือกให้เพื่อนสาวหลังผ่านไปเกือบห้านาที

'พริม'หญิงสาวผมสีน้ำตาลมองแบรนด์ตาขวาง"จะบ้าหรอ กูมีงบแค่ห้าร้อย"

"โทษๆ แต่เราต้องเผื่อเวลาไปหาข้าวกินอีกนะเว้ย"แบรนด์กล่าวขอโทษ พลางยื่นหน้าจอโทรศัพท์ที่ขึ้นภาพเวลาให้พริมดู

"ตายจริง นานขนาดนี้เลย"พริมปิดปากตัวเอง "ว่าแต่แกซื้อเรื่องอะไรมาอ่ะ"เธอที่สังเกตเห็นหนังสือในมือเพื่อนชาย จึงเอ่ยขอดู

แบรนด์ยื่นนิยายให้เธอดู

"เฮ้ย! คำโปรยเรื่องนี้เริ่ดอ่ะ งั้นฉันซื้อด้วยแล้วกัน"พริมพูดจบก็กวาดสายตามองหานิยายๆ

แบรนด์ที่เห็นว่าเพื่อนยังหาหนังสือไม่เจอสักทีก็หยิบหนังสือนิยายเรื่องเดียวกันยัดใส่มือพริม "ไปจ่ายตังกัน"

"อุ้ย ขอบใจน้า"พริมเดินตามแแบรนด์ไปจ่ายตัง

หลังจากทานข้าวกันเสร็จ ทั้งสองก็แยกย้ายกันกลับหอ

"บายๆ เจอกันพรุ่งนี้"พริมโบกมือลาเพื่อน

"เจอกัน"แบรนด์โบกมือกลับ ก่อนจะนั่งรถแท็กซี่กลับ

เมื่อถึงหอแบรนด์ก็รีบอาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะกระโดดนอนบนเตียง ในมือก็ถือหนังสือนิยายที่พึ่งแกะออกมาอ่าน

"ไหนดูสิ ว่าเป็นยังไง"แบรนด์พึมพำเสร็จก็เริ่มลงมืออ่านนิยาย

เนื้อเรื่องเริ่มขึ้นเมื่อ 'มิ้นต์' นายเอกของเรื่องดันข้อเท้าพลิกทำให้ 'เอส' เพื่อนของพระเอกเข้าไปช่วยก่อนจะพาไปส่งที่หอ เมื่อสอบถามเรื่องที่อยู่ก็พบว่า มิ้นต์อยู่หอเดียวกับ 'ทะเล' พระเอกของเรื่อง เอสจึงพามิ้นต์ไปส่งก็ได้พบกับทะเลที่กำลังจะเข้าหอจึงไหว้วานให้พามิ้นต์ไปส่งที่ห้อง พระนายจึงได้เริ่มพูดคุยกันจนกระทั่ง 'ผืนฟ้า' ปรากฎตัวเพื่อเข้ามาจีบมิ้นต์ ทำให้ทะเลที่พึ่งรู้ใจตัวเอง ลังเลที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับมิ้นต์ และด้วย 'อัคคี' พระรองของเรื่องเองก็ตามจีบมิ้นต์ด้วย ทำให้ทะเลไม่กล้าสารภาพความในใจให้มิ้นต์รู้ แต่เพราะเหตุการณ์ที่ชวนเข้าใจผิดของตัวร้ายและพระรอง ทำให้ทะเลได้สารภาพความในใจ ซึ่งทั้งสองที่ใจตรงกันจึงได้ตกลงคบกันในที่สุด ส่วนพระรองก็โดนตัวร้ายตามรังควาญจนคนอ่านอดสงสารไม่ได้

เมื่ออ่านจบแบรนด์ก็หัวเสียทันที "ไอ้ตัวร้ายนี่แม่งเป็นบ้าอะไรหนักหนาว่ะ ไปวุ่นวายกับพระรองอยู่นั้นแหละ เขายังไม่ได้ทำอะไรให้เลยโว้ย"

"แถมไม่มีตอนพิเศษที่เขาแต่งงานกัน เซ็งอ่า"แบรนด์นอนกลิ้งอยู่บนเตียง เมื่อนึกถึงเนื้อหานิยายฉากที่ตัวร้ายมักจะชอบเข้าใจผิดพระรองบ่อยๆว่าเป็นคนมาสร้างความวุ่นวายในร้าน ทั้งๆที่คนทำเป็นลูกน้องตัวร้าย ขนาดลูกน้องยอมรับ มันยังไม่เชื่อเลย แถมยังทำตัวผีบ้าผีบอใส่พระเอกบ่อยๆ เพราะต้องการนายเอกมาเป็นคนรักของตนทั้งๆที่นายเอกก็พูดชัดเจนแล้วว่าไม่อยากได้ตัวร้ายเป็นแฟน แต่มันก็ไม่ฟัง สมกับเป็นตัวร้ายที่ทุกคนเกลียดจริงๆ

ว่าแล้วแบรนด์ก็ทักไปถามพริมว่าอ่านนิยายจบหรือยัง ซึ่งเธอก็ตอบเลยทันทีว่าอ่านจบแล้ว และแน่นอนว่าเราก็ต้องคุยเรื่องโมเมนท์พระนายที่ฟินจิกหมอนกันก่อน แต่เพราะว่าง่วง+นอนดึก+พรุ่งนี้ก็ไม่มีธุระที่จะต้องไปไหน แบรนด์ที่ไม่มีอะไรกังวลจึงหลับคาโทรศัพท์ พร้อมกับพิมพ์ประโยคสุดท้ายที่คุยกับเพื่อนกดส่งไป

'ตัวร้ายแม่งโครตงี่เง่า'

...----------------...

ภายในห้องนอนปกคลุมไปด้วยความมืดบ่งบอกว่าเวลานี่เป็นเวลากลางคืน 'ผืนฟ้า'คือชื่อของชายหนุ่มเจ้าของห้องที่ใช้ชีวิตไปอย่างเรียบง่าย ไม่มีอะไรหวือหวา แต่ตอนนี้กลับกลายชายหนุ่มที่พึ่งด่าตัวละครในนิยายเมื่อสักครู่อย่างแบรนด์ที่เป็นเจ้าของร่างนี้แทน

แบรนด์ตื่นมาด้วยความมึนงง มองไปรอบๆห้องที่ไม่คุ้นตา "ที่ไหนว่ะเนี่ย"

ในขณะที่มึนงงอยู่นั้นเสียงการแจ้งเตือนโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

ทำให้แบรนด์ต้องหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นการแจ้งเตือนแอพพลิเคชั่นเกมจึงละความสนใจ

แบรนด์มองสมุดบนโต๊ะก็นึกสนใจ เขาจึงเดินไปหยิบสมุดนั้นมาอ่าน แต่มารู้ตัวว่าตัวเองคือตัวละครในนิยายก็ตอนที่เห็นคำที่ลอยอยู่บนหัวในกระจก เขาจึงลองส่องกระจกเพื่อดูให้ชัดว่าว่าตัวเองจะมีคำว่าอะไร

'ตัวร้าย'

คำนั้นนั้นจึงทำให้เขารู้ว่าตัวเองนั้นเป็นตัวร้ายในนิยายที่พึ่งด่าไป

"โธ่ นี่ฉันต้องมาเป็นไอ้โง่นั้นเองหรอ"แบรนด์ที่มาเป็นผืนฟ้าในตอนนี้รู้สึกหงุดหงิดจนแทบบ้า

หลังจากที่ปะติดปะต่อเรื่องทุกอย่างได้ เขาเองก็มีความคิดเหมือนกับพวกตัวละครในนิยายที่ทะลุมิติตัวอื่นๆว่าจะหลีกเลี่ยงเหล่าพวกตัวเอกทั้งหลายเพราะไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่อลมานของพวกเขา

แต่เพราะรู้ว่าเป็นตัวเอก เขาจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้ แต่ก็โชคดีที่ว่าเขาอ่านสมุดที่เหมือนไดอารี่ของผืนฟ้าแล้วพบว่าเขาเข้ามาตอนที่เรื่องราวความรักพระนายยังไม่เริ่ม

ช่างโชคดีเสียจริง

เช้าที่แสนสดใสแต่แบรนด์กลับไม่สดใส เขาที่อยู่ในร่างผืนฟ้านั่งมองกระจกที่มีคำว่า 'ตัวร้าย' ลอยเด่นอยู่ไม่ได้หายไปไหน

ก๊อก ก๊อก

"ขอเข้าไปหน่อย"เสียงหญิงสาวเอ่ยถามเสียงดัง

"เข้ามา" แม้จะมีความสงสัยว่าเจ้าของร่างมีความเกี่ยวข้องกับคนที่อยู่หน้าประตูยังไง แต่เขาก็ให้อีกฝ่ายเข้ามากันโป๊ะแตก

ทันทีที่ประตูเปิดออก ร่างของ 'พราวดาว' หญิงสาวผู้เป็นฝาแฝดของผืนฟ้าก็เดินเข้ามาในห้อง เธอกวาดสายตามองผืนฟ้าด้วยแววตาไม่ชอบใจ

"ทำไมมองแบบนั้น"แบรนด์เอ่ยถามหญิงสาวที่พบหน้ากันครั้งแรกอย่างสงสัย

ไม่ใช่ว่าไอ้โง่นี้ไปทำอะไรให้เธอโกรธหรอกนะ

"เปล่า ไม่มีอะไร"พราวดาวตอบแต่สีหน้าและน้ำเสียงของเธอกลับไม่ได้เป็นไปตามคำพูดเลย

แบรนด์ที่มองไปยังบนหัวของพราวดาว ก็มีคำว่าน้องสาวฝาแฝดตัวร้ายลอยอยู่ ทำเอาเขางงไปเลย เพราะพึ่งรู้ว่าตัวร้ายก็มีฝาแฝด

"แล้วเธอมีอะไรกับฉัน"แบรนด์ถาม

หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยปาก จู่ๆร่างของเธอก็ล้มลง

"เฮ้ย! เธอเป็นไรไป"แบรนด์ตะโกนถามด้วยความตกใจ ก่อนจะประคองร่างของเธอนั่งลงบนโซฟาในห้อง

พราวดาวเงยหน้ามองแบรนด์ครู่หนึ่ง "อย่าไปยุ่งกับอัคคีไอ้โง่" เธอพูดจบก็สลบไป

"ห้ะ!"แบรนด์งุนงงอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างออก ฝาแฝดของไอ้โง่นี่อาจจะมีคนเข้ามาอยู่ในร่างของเธอก็เป็นได้

แบรนด์นั่งรอจนกระทั่งพราวดาวฟื้นจึงรีบเอ่ยปากถาม "คุณทะลุเข้ามาอยู่ในนิยายเหมือนกันใช่ไหม"

"ห้ะ!"พราวดาวทำหน้าราวกับวิเคราะห์บางอย่างอยู่ "หรือว่าคุณก็ทะลุเข้ามาอยู่ในนิยาย" เธอชี้มือไปที่แบรนด์

"ใช่แล้วครับ"แบรนด์พยักหน้าอย่างดีใจ

"ดีใจจัง งั้นพระนายเราก็ไม่ต้องโดนไอ้โง่นั้นไปก่อกวนแล้วสินะคะ"พราวดาวทำท่าโล่งอก

"ใช่ครับ ว่าแต่คุณชื่ออะไร มาจากไหนหรอครับ"แบรนด์ถามไถ่ประวัติคร่าวๆของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ

"ฉันชื่อพริมค่ะ เป็นนักศึกษาเภสัชปีสองจากมหาวิทยาลัยXXค่ะ"พราวดาว หรือก็คือพริมที่เข้ามาสวมร่างเอ่ยแนะนำตัว

คงจะไม่ใช่ยัยเพื่อนตัวดีของเขาใช่ไหมนะ

แบรนด์ชะงักพลางคิดในใจหลังจากอีกฝ่ายแนะนำตัว

"ผมชื่อแบรนด์ เป็นนักศึกษาวิศวะปีสองจากมหาวิทยาลัยXXเหมือนกันครับ"แบรนด์กล่าวแนเะนำตัวในขณะที่ตัวเขาก็ยังสงสัยในตัวอีกฝ่าย

พริมเองก็ชะงักเมื่อแบรนด์แนะนำตัวเสร็จ พวกเขาทั้งสองจ้องหน้ากันสักพัก ก่อนจะตะโกนพร้อมกันว่า

"มึงเองหรอ!"

พวกเขาจับมือเขย่ากันไปมาอย่างดีใจ

"ตอนกูตื่นขึ้นมาแล้วมาอยู่ร่างนี้กูตกใจมากไม่คิดว่าจะมาเป็นฝาแฝดกับตัวร้าย"พริมเอามือออกจากแบรนด์แล้วกลับไปนั่งที่เดิม

"กูก็งงเหมือนกันตอนเจอมึง"แบรนด์เดินไปนั่งที่เตียง

"ว่าแต่มึงรู้ได้ไงว่าเจ้าของร่างกูเป็นฝาแฝดตัวร้าย"พริมมองเพื่อนสนิทที่กลายเป็นพี่น้องกันไปแล้ว

"คือกูมองเห็นคำที่ลอยอยู่บนหัวอ่ะ"แบรนด์ตอบพลางชี้ไปบนหัว

"ห้ะ มันมีด้วยหรอว่ะ"พริมพูดจบก็วิ่งไปส่องกระจก "ไม่เห็นมีเลย"

"สงสัยคงมีแค่กูที่เห็น"แบรนด์ยิ้ม

"โครตเจ๋ง"พริมมาทำท่าตื่นเต้น

แบรนด์ขำเพื่อนสนิท ไม่สิ น้องสาวฝาแฝดที่ทำท่าทางตลกแต่ก็อดถามบางอย่างที่สงสัย"หึหึ ว่าแต่มึงมาห้องไอ้ตัวร้ายนี่ทำไมอ่ะ"

"คือตอนกูตื่นมาก็งงๆอยู่ พอรู้ว่าตัวเองเป็นฝาแฝดไอ้งี่เง่านี่ฉันก็เลยว่าจะมาด่าให้มันสำนึก แต่ก็ดันปวดหัวหมดสติไปซะก่อน"พริมเล่าพลางทำท่าเซ็ง

"แล้วนี่มายังไงเนี่ย ไม่เห็นได้ยินเสียงรถ"แบรนด์ถามต่อ

"ห้องเจ้าของร่างกูก็อยู่ข้างๆห้องไอ้ตัวร้ายนี่แหละ"พริมตอบ

"อ้อ"แบรนด์พยักหน้า "หิวยังมึงเดี๋ยวกูจะไปทำอาหารให้"

พริมารีบพยักหน้า"หิวแล้วๆ ฝากด้วยนะ นี่ยังไม่ได้อาบน้ำเลยไปอาบน้ำก่อน"

"อี๋ สกปรก ไปเถอะ"แบรนด์ส่ายหน้าและเดินลงมาทำกับข้าวกินเองและเผื่อพริมด้วย

...----------------...

ระหว่างนี้แบรนด์ก็เปิดโทรศัพท์ของตัวร้ายดู โชคดีที่ตัวร้ายใช้ระบบสแกนนิ้วเปิด เขาจะเปิดโทรศัพท์ดูได้ เขารีบเข้าไปหาตารางเรียนของตัวร้ายก็รู้ว่าตอนสิบโมงมีเรียน โชคดีที่เรียนคณะเดียวกัน ไม่งั้นแบรนด์คงปวดหัวตาย

"มาแล้วๆ"พริมาที่ใส่ชุดนักศึกษาวิ่งลงมาจากบันไดอบ่างรวดเร็ว

"อย่าวิ่งดิ"แบรนด์เอ่ยเสียงดุ

"โทษๆ นี่แกมีเรียนป่ะ"พริมเริ่มทานข้าว

แบรนด์พึ่งที่ทานข้าวเสร็จแล้วเดินเอาจานไปล้าง "มีตอนสิบโมง แล้วแกอ่ะ"

"เก้าโมงอ่ะ แกจะออกเลยป่ะ"พริมรีบกินข้าวอย่างรวดเร็ว

"ออกพร้อมแกก็ได้จะได้เดินสำรวจมอ"แบรนด์ที่ล้างจานเสร็จก็ว่าจะเดินไปเปลี่ยนเสื้อ

พริมพยักหน้าก่อนจะทานอาหารต่อ

...----------------...

แบรนด์รีบขึ้นห้องไปเปลี่ยนเสื้อ เมื่อเดินลงมาพริมก็ล้างจานเสร็จแล้ว

"ว่าแต่แกได้เรียนคณะเดิมไหมเนี่ย"แบรนด์ถาม

"ไม่อ่ะ ร่างนี่เรียนสาธา"พริมส่ายหน้า

"สู้ๆนะมึง ไปกันเถอะ"แบรนด์ตบบ่าพริมเป็นกำลังใจ ก่อนจะเดินออกจากบ้านเมื่อเห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาแปดโมงกว่าๆ

"มึงจะขึ้นรถไฟฟ้ากับกูป่ะ"พริมมองแบรนด์ล็อกประตูบ้าน

แบรนด์ที่ล็อกประตูเสร็จปพอดีหันไปตอบ "ไปดิ"

...----------------...

แบรนด์เดินไปส่งพริมถึงหน้าคณะ แต่ก็แอบแวะส่องหนุ่มๆสาวๆในคณะสักหน่อย

"มีแต่คนหน้าตาดีทั้งหน้า นิยายเรื่องนี้แม่งเริ่ดเกิน แต่แบบนี้ก็หาแฟนหน้าดี นิสัยดีๆได้ง่ายๆนะสิ"แบรนด์พึมพำพลางยกมือขึ้นราวกับกำลังประกาศความดีใจอันท่วมล้น "โครตเจ๋ง"

ดีใจได้ไม่นานแบรนด์ก็รู้ตัวว่ากำลังทำเรื่องขายหน้าก็รีบมองซ้ายขวาทันทีว่ามีคนมองไหม ก่อนจะโล่งอกเมื่อไม่มีใครมองมาทางตน "ต้องรีบไปหาห้องเรียนแล้วสิ"

แบรนด์รีบเดินไปที่คณะตัวเองตามแผนที่ที่ถ่ายไว้ตอนเดินเข้ามาในมหาวิทยาลัย

...----------------...

ชายหนุ่มสวมแว่นที่กำลังนั่งอ่านหนังสือตรงโต๊ะหินอ่อน เงยหน้าเพื่อพักสายตา เขาเหลือบไปเห็นชายหนุ่มตัวขาวที่สวมเสื้อช็อปกำลังยืนยิ้มอยู่คนเดียวโดยที่ยกมือทั้งสองข้างขึ้นด้วย

กระต่าย?

จู่ๆภาพกระต่ายยกมือขออาหารก็ซ้อนทับกับภาพชายหนุ่มตรงหน้าทำเอาทะเลอดไม่ได้ที่จะยิ้ม

"มีอะไรหรอทะเล"ชายหนึ่งที่นั่งร่วมโต๊ะเอ่ยถาม เมื่อเพื่อนของเขามองไปยังที่เดิมไม่ขยับไปไหนมาสักพักแล้ว

"แค่เห็นก้อนกระต่ายนะเอส"ทะเลพูดสิ่งที่คิดไป

"ห้ะ!?"เอสทำหน้าหวอเมื่อได้ยินคำตอบ

"ไปเข้าคลาสก่อนนะ จะสายแล้ว"ทะเลไม่ตอบคำถาม แต่ลุกเดินออกไปจากโต๊ะ ปล่อยเอสนั่งงงอยู่คนเดียว

"อะไรของมันว่ะ"เอสบ่น

...----------------...

แบรนด์ที่เลิกเรียนเสร็จกำลังเดินเล่นอยู่ตรงสวนหน้าตึกเรียนระหว่างรอพริมก็หยุดชะงักเมื่อเห็นอัคคีกำลังถือช่อดอกไม้รอใครสักคนซึ่งให้เขาเดาก็คงเป็นมิ้นต์ เขามองตัวอักษรบนหัวของอัคคีที่เขียนคำว่าพระรองเด่นหรา ก่อนจะมองไปที่คนรอบๆที่มีคำว่าตัวประกอบเต็มไปหมด แต่สายตาดันไปสะดุดคำว่าเพื่อนพระรอง นั้นทำให้ตัวเขาที่ว่าจะรอพริม เปลี่ยนมานั่งม้านั่งแถวๆพระรองแทน

"ทำไมอัคมายืนอยู่ตรงนี่ไม่ได้ไปกับมิ้นต์หรอ แต่สนพึ่งเห็นมิ้นต์ขึ้นรถไปกับไอ้เพรชเมื่อกี้เลย คิดว่าอัคจะไปด้วย" 'ต้นสน' เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของอัคคีเอ่ยถาม พลางเล่าเหตุการณ์ที่ตนได้เจอนายเอกและเพื่อนพระเอกโดยบังเอิญ

นี่คงจะเป็นตอนที่พระนายจะได้เจอกันครั้งแรกสินะ ว่าแต่ในนิยายไม่เห็นเขียนเลยว่ามิ้นต์มีนัดกับอัคคี

แบรนด์คิดในใจ ในขณะที่มองอัคคีที่ส่ายหน้าแทนการตอบ เริ่มทำหน้าหงอย

"งั้นก็ไปกัน เดี๋ยวสนพาไป"ต้นสนจับข้อมือของเพื่อนอย่างถะนุถนอมแต่อีกฝ่ายกับยืนนิ่งราวกับรูปปั้น

ต้นสนมองหน้าอัคคีด้วยความสงสัย"ไปเร็ว เดี๋ยวไม่ทันเอานะ"

อัคคีไม่ยอมขยับ เขาก้มหน้าราวกับยอมแพ้"ไม่ล่ะ ถ้าไปตอนนี้แล้วยังไง"

"แต่มิ้นต์นัดกับอัคไว้แล้วนะว่าจะไปกินข้าวกับอัคอ่ะ"ต้นสนรู้สึกโมโหมิ้นต์ที่ทิ้งเพื่อนเขาแล้วไปกับชายคนอื่น

"ไม่เป็นไรหรอกสน เขาอาจจะลืม อัคไม่ได้สำคัญกับเขาขนาดนั้นหรอก"อัคคียิ้มแห้ง เขาลูบแขนต้นสนให้ใจเย็นลง

"อัค อย่าพูดแบบนั้น"ต้นสนลูบหัวอัคคีอย่างแผ่วเบา เขารู้สึกสงสารเพื่อนรักอย่างสุดหัวใจ"อัคสำคัญสำหรับสนมากนะ"

'อัคสำคัญสำหรับสนมากนะ'

'อัคสำคัญสำหรับสนมากนะ'

ประโยคเดียวของต้นสนที่วนเวียนดังก้องอยู่ในหัวของแบรนด์ ทำเอาสมองน้อยๆของเขาไหลตามประโยคดังกล่าว

แบรนด์นั่งบิดไปมา ในขณะที่หูก็ยังคอยฟังบทสนทนาของทั้งสอง

"อื้อ คงมีแต่สนนี่แหละที่เห็นอัคในสายตา"อัคคีจ้องหน้าเพื่อนสนิท นัยน์ตาของเขาคลอไปด้วยน้ำตา"แต่ถึงจะรู้แต่อัคก็อดไม่ได้ที่จะเสียใจ ชอบเขามาตั้งนานกว่าจะตัดสินใจตามจีบสุดท้ายก็ไม่มีหวัง"

ต้นสนคว้าตัวอัคคีมากอดพลางลูบหลังอีกฝ่ายเพื้อปลอบประโลม "ร้องออกมาเถอะ สนอยู่ข้างๆอัคเอง"

แบรนด์ที่ฟังบทสนทนาก็อดสงสารอัคคีไม่ได้อีกใจหนึ่งก็ฟินกับโมเมนท์น่ารักๆของทั้งสองคนไม่ได้ อีกเห็นภาพที่ต้นสนเอาหน้าอัคคีมาซบที่อก นี่มันฟินประหนึ่งดูละคร

"อัคอยากกลับแล้ว"อัคคีเงยหน้ามองเพื่อนสนิทด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตา

ต้นสนใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาบนหน้าอัคคีด้วยความอ่อนโยน "ได้ งั้นกลับกัน" แล้วต้นสนจูงมืออัคคีเดินไปจนลับตาของแบรนด์

"ทำไมมานั่งตรงนี้ย่ะ หาตั้งนาน"พริมเอ่ยทักแบรนด์

แบรนด์ขำในลำคอ "แกพลาดฉากเด็ดแล้วว่ะเพื่อน"

"อะไรว่ะไหนเล่า" พริมหย่อนก้นนั่งลงข้างๆแบรนด์

"คืองี้...."แบรนด์เริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น

หลังจากเล่าเรื่องโมเม้นท์ของต้นสนอัคคีเสร็จ พริมก็ทำท่าเสียดายออกมาเพราะเลิกเรียนช้า"โห้! ไรว่ะ ถ้าไม่ติดเรียนคงได้เสพโมเมนท์ฟินๆ"

"เอาเถอะมึง จริงสิ ดูเหมือนว่าวันนี้พระนายจะได้เจอกันครั้งแรกแล้วแหละ"แบรนด์บอก

"จะจริงหรอว่ะแก ฉันว่าเนื้อเรื่องน่าจะเปลี่ยนแล้วนะ"พริมทำหน้าราวกับไปทำความผิดอะไรมา

"ทำไมว่ะ"แบรนด์เลิกคิ้วถาม

"คือกูเลิกช้าเพราะกูดันซุ่มซามเผลอทำชุดพระเอกเปียกกาแฟ"พริมพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่เนื้อเรื่องมันเปลี่ยนว่ะ"แบรนด์ก็ยังคงงงกับสิ่งที่พริมเล่า

"กูเลยพาพระเอกไปร้านซัก-รีด แล้วจ่ายค่าซักเสื้อให้พระเอกเลยกลับหอเร็วกว่าปกติไง"พริมเล่า

"ไม่หรอกมึงแค่เปลี่ยนชุดเอง ยังไงเพื่อนพระเอกก็ต้องโทรตามพระเอกให้ช่วยอยู่แล้วแหละ"แบรนด์เอ่ยบอก

"ก็จริง"พริมคิดตามที่แบรนด์พูดก็พยักหน้าเห็นด้วย

"ช่างมันๆ ไปซื้อนิยายแล้วค่อยกินข้าวป่ะ"แบรนด์ถามเมื่อตัดสินใจไปห้างหน้ามอเพื่อซื้อนิยายมาอ่าน สานต่อความฟินจากโมเมนต์ที่ได้เจอ

"ดีล"พริมรีบลุกขึ้นแล้วลากแบรนด์ไปเดินห้าง

หนึ่งวันของตัวร้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดี

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!