เจ็ดวันต่อมา
"เร็วๆ พวกมันตามมาอีกแล้ว"
"จินเซียงพวกข้าพึ่งหายจากอาการบาดเจ็บน่ะ"
"อย่าบ่นอี้หลันพวกเราขี่ม้าไม่ได้วิ่ง"
"ย่ะ!"
ทั้งสามต่างแรงความเร็วม้าขึ้นอีกเพื่อหวังที่จะสลัดพวกคนที่ตามล่าให้หลุด
"ทำไมพวกมันจมูกไวแบบนี้" อิงอิงหันไปมองพวกนักฆ่าที่ไล่ตามมา
"พวกแม่งเผาบ้านหลังน้อยของข้า อ้ากกกก โมโหโว้ยยยย ขอหน่อยเถอะ"
"จินเซียงเดี๋ยวเจ้าจะไปไหนกลับมาก่อน" อี้หลันพยายามเรียกเพื่อนแต่ไม่ทันแล้ว
"ตายยยย" จินเซียงควบม้าเข้าหาพวกนักฆ่าพร้อมดาบใหญ่
"ไม่กลัวตายก็เข้ามา!"
"ไอพวกลูกหมา!"
เคร้ง ฟัง ฉึกๆๆๆๆ
เพียงแค่การลงดาบครั้งแรกก็คร่าชีวิตพวกนักฆ่าไปหลายสิบคน
"เงามายา" พรึบๆ
ตามชื่อของท่า พวกนักฆ่ามองเห็นแต่เงาของหญิงสาวที่พาดผ่านไปมาอย่างรวดเร็วและแม่นยำ พวกมันค่อยๆ ตกตายลงไปทีล่ะคน จนในที่สุดนักฆ่ากว่า 30 คนก็ตายลงไป
"เห้อ~ ถุ้ย! ไอพวกชั่วไอพวกเลว บังอาจเผาบ้านคนอื่นฝีมือแค่ขี้เล็บถุ้ย!" จินเซียงด่าใสร่างพวกนักฆ่า แล้วรีบกลับขึ้นม้าเพื่อเดินทางต่อ
"ทำไมไม่สู้แต่แรกหนีทำไม" อี้หลันถาม
"คนนอนอยู่แล้วบ้านไฟไหม้กับใครไม่รู้ยิงธนูใส่ เป็นเจ้าจะอยู่ให้พวกมันเชือดหรอ"
"ก็จริง เรารีบไปต่อเถอะอีกไกลกว่าจะถึงเมือง"
"อืม พวกเรารีบไปกันเถอะ"
ตกเย็นก็เดินทางมาถึงเมืองใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อของแม่น้ำสายใหญ่แต่ทั้งชื่อเมืองและแม่น้ำนั้นดันจำไม่ได้เพราะเจ้าของร่างไม่เคยออกจากหมู่บ้านกลางป่าเลย แม้แต่ภาษาก็ยังพูดไม่คล่อง อ่านเขียนพอได้
"จินเซียงถามจริงเหอะ"
"ว่าไงคุณหนูอี้หลัน"
"เจ้าอ่านกับเขียนไม่คล่องหรอ"
"พอได้แต่ไม่ดีมาก ข้ามาจากเปอร์เซียน่ะพูดได้บ้างก็ดีแล้ว"
"แล้วบัตรประจำตัวเจ้าล่ะอยู่ไหน"
"อาอิงมันหายไปกับกองไฟแล้ว มีเงินติดตัวบ้างก็ดีนักหนาแล้วคืนนี้จ่ายค่าที่พักให้ด้วยน่ะ"
"เอ่อ คือว่าพวกเราเหลือแค่ 20 ตำลึง"
"ตำลึงทองหรอ"
"ฮึ ตำลึงเงิน" อี้หลันตอบแบบไม่เต็มเสียง
"....." หมดคำพูด
พวกเราเอาเงินมานับรวมกัน ผลที่ออกมาคือพักได้แค่โรงเตี๊ยมธรรมดากับจ่ายค่าอาหารอีกเล็กน้อย แต่ค่าที่พักไม่ถูกเลย
"ห่ะ เถ้าแก่พวกเราสามคนจองห้องพักหนึ่งห้องพร้อมอาหารทำไมถึงแพงแบบนี้ ตั้ง 15 ตำลึง ท่านจะเก็บไปสร้างตึกรึไง"
"ฮัยย้า ลื้อจายเย็นๆ ก่อน อั้วไม่ได้โกงน่า พวกลื้อดูรอบๆ ดี ตอนนี้บ้านเมืองไม่สงบข้าวยากหมากแพง อะไรๆ ก็ขึ้น ราคานี้ถูกสุดเลี้ยว"
"เถ้าแก่ มันถูกตรงไหน!"
"ลื้อจะเสียงดังเรียกเตี่ยหรอ ฮั้วให้ทั้งอาหารเย็ง ที่พักม้า ห้องนอนใหญ่สำหรับ 3-4 คน และอาหารเช้า ราคานี้ดีสุดเลี้ยว"
"ได้ตกลง" สรุปได้บริการเพิ่มเติมมาอีก 2 อย่าง นั่นคือน้ำสำหรับอาบและขนมว่างพร้อมน้ำชา
"จินเซียงไหนว่าเจ้าพูดไม่เก่งไงทำไมถึงต่อรองได้ดีขนาดนี้"
"อี้หลัน อย่าถามเยอะข้าอยากอาบน้ำแล้ว ง่วงด้วย"
"อาเซียงเจ้านี่มัน"
"พวกเจ้ากินก่อนเลยข้าอาบน้ำก่อน"
"อ่าวนางเดินไปอาบน้ำจริงๆ หรอเนี่ย"
"คุณหนูท่านอาหารเถอะเจ้าค่ะ"
"อืม"
เช้าวันต่อมาหลังจากทานอาหารแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางต่อทันที เป้าหมายของเราคือเซียโจวที่อยู่ปากแม่น้ำ รอยต่อระหว่าทะเลและแม่น้ำ เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของแคว้น
"อีกนานไหมกว่าจะถึงบ้านเจ้า"
"บ้านตระกูลถังของข้าใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในเมืองเซียโจว ข้าคิดว่าคงจะอีกประมาณ 2-3 วัน แต่หลังจากนี้อาจต้องนอนป่า"
"คุณหนูท่านว่า บิดาท่านจะส่งคนตามหาพวกเราไหมเจ้าค่ะ"
"ถ้าท่านอาจารย์รู้อาจจะส่งข่าวให้บิดาข้า"
"อืม ข้าหวังว่าบ้านเจ้าจะไม่ส่งนักฆ่ามาเพิ่มน่ะ"
"รีบไปกันเถอะถึงบ้านแล้วจะรู้เอง"
"อาเซียงแล้วเจ้าจะไปทำอะไรต่อ"
"ข้าคงเกาะเจ้าไปก่อน"
"ข้าเลี้ยงเจ้าได้สบายอยู่แล้ว"
"ฮ่าฮ่าฮ่า อิงอิงนายเจ้ารับปากข้าแล้วน่ะ"
"ไปๆ เดี๋ยวจะหาที่พักคืนนี้ไม่ได้อีก"
"ได้ๆ"
ทั้งสามมาถึงจุดพักม้าตอนหัวค่ำ และได้เข้าพักที่โรงเตี๊ยมเล็กๆ ในคืนนั้น เช้าวันต่อมาหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จทั้งสามก็ขึ้นมาและออกเดินทางต่อ
วิวธรรมชาติที่ไม่สามารถหาได้ในโลกก่อนทำให้จินเซียงไม่ค่อยอยากเดินทางรีบเร่งนักแต่เพราะเกรงว่าจะมีพวกนักฆ่าตามมาอีก
"เห็นเมืองแล้ว!" อี้หลันชี้ไปที่เมืองที่อยู่ไม่ไกล
"ว้าว มีท่าเรือด้วยหรอ แบบนี้ก็ต้องมีพวกโพ้นทะเลด้วยซิ"
"ก็มีน่ะแต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเจ้าใกล้ท่าเรือเพราะพูดภาษาไม่ได้" จินเซียงหันมองคุณหนูบรหลังม้า
"อย่ามองข้าแบบนั้น"
"คุณหนูนั่นใช่ธงของตระกูลรึเปล่าเจ้าค่ะ" อี้หลันมองไปด้านหน้าก็เห็นเป็นจริงดังว่า
กองทหารม้าวิ่งตรงมาทางทั้งสามคน ชายวัยกลางคนผู้เป็นผู้นำสั่งให้กองทหารหนุดทันทีที่ได้พบคนที่ตามหา
"นายกองหลี่"
"คุณหนู! ขอบคุณสวรรค์ที่ท่านยังปลอดภัย"
"พวกท่านกำลังไปไหนกัน"
"พวกเราพึ่งได้รับจดหมายจากอาจารย์ของท่าน ว่าท่านได้หายตัวไปหลังจากเดินทางกลับจากสำนักศึกษาขอรับ"
"10 วันเนี่ยน่ะ เอาเถอะรีบกลับจวนกันก่อน สหายข้าคงหิวแล้ว"
"ข้าน้อยนามว่าจินเซียง คารวะผู้อาวุโสเจ้าค่ะ"
"ดีๆ รู้จักเคารพผู้ใหญ่ ต่อไปตามคุณหนูเจ้าจะโชคคีฝีเอง"
"เจ้าค่ะ" ประสานมือคารวะทำให้นายกองหลี่นิ้มออกมาอย่างพอใจ
"คุณหนู พวกเราตะคุ้มกันที่งานกลับจวนน่ะขอรับ"
"ขอบคุณท่านมาก"
ไม่นานก็มาถึงเมือง ทหารหน้าประตูเมืองเมื่อเห็นป้ายหยกก็รีบเปิดทางให้ทันที เมืองเซียโจวเป็นเมืองที่มีกำแพงสูงและแข็งแกร่ง ภายในเมืองมีหลายหลายวัฒนธรรมปะปนกันไปดูแปลกตาสำหรับคนที่ดูหนังจีนบ่อยอย่างนาง
"อ่าวๆ มีหนุ่มมารอรับด้วย"
"อย่ามาเยอะจินเซียง นั่นคู่หมั้นข้าแต่ข้าไม่ค่อยชอบเลยข้ายกให้เจ้าดีไหม"
"อะ ฮึม คุณหนูถ้าคนอื่นได้ยินจะไม่ดีน่ะขอรับ"
"เหอะ! ข้าเกือบตายมาหลายรอบเพราะชายคนนั้น ท่านจะให้ข้าชอบได้เช่นไร" อี้หลันเถียงกลับ
"หยุดเลย อย่ามาทำให้เสียบรรยากาศ รีบเข้าจวนเถอะข้าอยากอาบน้ำแล้ว"
"แม่นางเพียงเลี้ยวหัวมุมถนนก็ถึงแล้ว ป่านนี้บ่าวคงจะรายงานให้นายท่านทราบแล้ว"
"ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะ"
แต่เมื่อมาถึงหน้าจวนชายคนนั้นก็เดินเข้ามาหาอี้หลันพร้อมทั้งพูดจาต่างๆ นาๆ มีทั้งคำหวานและของขวัญมันจึงง่ายที่อี้หลันจะยอมใจอ่อน
"อย่าเกะกะทาง ถ้าไม่เข้าก็หลยไปคุยกันตรงนู้น"
"จินเซียงเบาๆ หน่อยเดี๋ยวจะเดือดร้อนน่ะ"
"อิงอิง นี่ก็เย็นแล้วน่ะ ข้าหิวแล้ว"
"ฮ่าฮ่าฮ่า คุณหนูขอรับดูท่าท่านคงต้องรีบแล้วก่อนที่สหายของท่านจะเชือดคู่หมั้นท่านทิ้ง" พูดไม่ผิดหรอกข้าสัมผัสได้ ดูจากหน้านางก็รู้
อี้หลันทำหน้าเหมือนนึกขึ้นได้ "ห่ะ อ้อๆ มาๆ เข้าจวนกันเถอะป่านนี้ท่านพ่อคงรอแล้ว"
"อะไรกันหลันเอ้อ เจ้าเห็นนางสำคัญกว่าขอข้าหรอ" คนอื่นๆ ที่ฟังได้แต่กรอกตาไปมา
"พี่จางหมิง นางเป็นสหายข้า นางช่วยข้ามาเยอะเหตุใดจะให้ความสำคัญมิได้เล่า"
"หึ ดูการแต่งตัวแล้วคงเป็นพวกนอกด่านกระมั้ง กล้าดีอย่างไรมาตีสนิทกับคู่หมั้นข้า"
"เห้อ~ น่าเบื่อ"
"เจ้า เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร"
"ถ้าเจ้าไม่เลอะเลือนถึงขนาดจำไม่ได้ข้าคงช่วยไม่ได้แล้ว อิงอิงมาเถอะปล่อยนายเจ้าไว้กับคนบ้าแล้วเรารีบไปพักกันเถอะ" จินเซียงขี่ม้าผ่านจางหมิงที่ยืนค้างเป็นรูปปั้นเข้าไปในจวน
"รอข้าด้วยอาเซียง!" อี้หลันรีบจูงม้าเข้าจวน ทิ้งชายคนนั้นไว้ที่นอกจวนอย่างไม่ใยดีหรืออาจลืม
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments