ครั้งนึง
..."กายาทอดจมธรนี...
...ดวงชีวีหลุดลอยดับสิ้น...
...ดั่งผืนฟ้าร่ำไห้ดุจเสียงพิณ...
...ดุจกรพินธุ์อันไร้ค่า**...
...ดังกรวดทราย***"...
เสียงทุ่มต่ำดังก้องกังวาลอยู่ภายในห้องที่มืดทึบ มีเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาทางระเบียงที่เปิดทิ้งไว้รับลมเท่านั้น ที่พอทำให้มองเห็นทุกสิ่งได้อย่างลางเลือนในความมืดนี้
นัยน์เนตรแดงก่ำดุจหยาดโลหิตของผู้คนนับพัน เหม่อมองดวงจันทร์สีเงินที่ทอแสงอย่างอ่อนโยนอยู่บนผืนฟ้าสีหมึก โดยมีดวงดาราล้อมกรอบอยู่รอบข้าง เส้นผมสีดำดุจขนกาที่ถูกปล่อยให้ยาวสลายไร้การมัดหรือตกแต่งใดๆพริ้วไหวไปตามแรงลมที่พัดผ่าน
"มากกว่าพันราตรีแล้วที่เจ้าจากไปเทเรซ บุตรของข้า.. องค์ชายแห่งเรา ข้ายังมิอาจทำใจได้เลยในหนทางที่เจ้าเลือก.." ริมฝีปากหยักลึกเอื้อนเอ่ยอย่างเลื่อนลอยกับความว่างเปล่าตรงหน้า ราวกับว่าตรงนั้นมีคนผู้ที่ต้องการเอ่ยด้วยอยู่
เปลือกตาบางปิดปรื่อลงอย่างเชื่องช้า บดบังดวงตาอันเป็นเอกลักษณ์ของเผ่าปีศาจ เขาควรจะเห็นเพียงความมืดมิด แต่ในห้วงมโนนึกกลับเห็นเป็นเพียงฉากของบุตรชายอันเป็นที่รัก ที่ร่างกายสูงใหญ่นั้นอาบไปด้วยของเหลวสีแดงฉานและเต็มไปด้วยร่องรอยบาดแผลน้อยใหญ่ แต่ริมฝีปากและดวงตากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มอยู่ในอ้อมแขนของเขา
"ท่านพ่อ เหตุใดท่านจึงทำหน้าแบบนั้นเล่า" อีกฝ่ายว่าด้วยน้ำเสียงแหบแห้งและอ่อนแรง ริมฝีปากที่เอื้อนเอ่ยอาบย้อมด้วยหยาดโลหิตที่เจ้าตัวกระอักไอออกมาจนมันแกงก่ำ เป็นดุจสีสันบนผิวขาวซีดของชายหนุ่มตรงหน้า
"มันเป็นหนทางที่ข้าเลือกเอง..ท่านอย่าได้โทษตัวเองเลย ท่านเพียงแค่..ทำตามความปรารถนา..ของข้าเท่านั้น" ชายหนุ่มยังคงเอ่ยต่อไปแม้ลมหายใจและเสียงจะเริ่มติดขัด ดวงตาสีแดงโกเมนที่ได้รับมาจากผู้เป็นบิดาเริ่มพร่ามัวลงทุกขณะ เรี่ยวแรงเริ่มหดหายอ่อนแรงจนแม้กระทั่งเปร่งเสียงออกมาสักคำก็ยังยาก
"มาร์ม่อน.. ขอบคุณที่ตอนนั้น.. รับผมเป็นลูกนะ ขอบคุณนะครับ.. ท่านพ่อ.." อีกฝ่ายเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม รอยยิ้มที่งดงามจับตา แต่เป็นรอยยิ้มสุดท้าย ก่อนจะจากไปตลอดกาล
"เจ้าเด็กนี่.. ทำไมถึง..ทำไมถึงได้ มาพูดอะไรแบบนี้ในตอนนี้กัน.." มาร์ม่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ทั้งเจ็บปวดและอ่อนแรง
ราวกับทุกๆสิ่งพึ่งเกิดมาได้ไม่นานนัก ทั้งๆที่ผ่านมาแล้วหลายปี แต่มันยังคงติดตรึงในความทรงจำไม่ลบเลือนไป..
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments